อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต 153 สัญชาตญาณกับเหตุผล

ตอนที่ 153 สัญชาตญาณกับเหตุผล

 

พอได้มาดูบันทึกของต่างโลกนี่มันน่าสนใจสุดๆ

 

ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากที่มนุษย์เราสามารถมีเทคโนโลยีในการบันทึกข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายครอบครัว ภาพถ่ายกับเพื่อน วิดีโอความทรงจำในอดีต

 

สำหรับคนธรรมดาอย่างตัวฉัน อากาเนะ อาราซากะเองก็มักจะหยิบเอาความทรงจำเก่าๆ ในอดีตกลับมาย้อนดูอยู่บ่อยครั้งยามคิดถึง

 

แต่ว่า

มันก็มีบางสิ่งที่ไม่ควรจะหลงเหลือเอาไว้

 

อธิบายให้ชัดมันก็คือประวัติศาสตร์ดำมืด

 

ก็จริงอยู่ว่าตัวฉันในอดีตก็ไม่เคยทำอะไรที่ทำให้ตัวเองต้องมาบิดตัวด้วยความละอายใจมาก่อน ทว่าตัวฉันอีกโลกหนึ่งกลับทำเรื่องงามหน้าลงไปเสียแล้ว

 

 

「ฟะ ฟังที่ฉันพูดกันหน่อยได้ไหม?!」

 

 

ภายในห้องประชุมของสำนักงานใหญ่

 

ฉันถูกมัดเอาไว้ติดกับเก้าอี้และไม่สามารถขยับไปไหนได้ ห้องที่พวกเรามักจะใช้พูดคุยหรือประชุมกันเป็นประจำ

 

 

「ท่านผู้พิพากษา ขอเชิญประกาศคำพิพากษา」

 

 

คิราระยืนกอดอกพร้อมกับแสดงสีหน้าน่ากลัวคล้ายกับรูปปั้นนิโอะออกมาก่อนจะพูดกับ อาโออิที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ซึ่งปกติประธานใช้นั่ง

 

เธอในตอนนี้ได้สวมแว่นตาก่อนจะทุบโต๊ะด้วยของที่เหมือนกับค้อนซึ่งใช้กันในศาลถึงจะไม่รู้ว่าไปหามาจากไหนก็เถอะ

 

 

 

「คำพิพากษา อากาเนะ โทษประหาร」

 

「หนักไปไหมยะ!?」

 

 

โทษประหารถูกประกาศขึ้นโดยที่ฉันไม่มีสิทธิ์แย้งเลยหรือไง?!

 

ยัยพวกเผด็จการ!! ใครมันจะไปยอมรับได้กัน!!

 

 

「ดูเหมือนผู้ต้องหาเรดที่แสนชั่วร้ายจะยังไม่ยอมรับ ดังนั้นจะแสดงหลักฐานมัดตัวให้ดู」

 

「ยะ หยุดเถอะ———」

 

 

อาโออิเปิดการทำงานของอุปกรณ์ แล้วภาพก็ถูกฉายขึ้นจากโปรเจ็กเตอร์

 

ภายในนั้นคือตัวฉันในโลกคู่ขนาน ซึ่งอายุน้อยกว่าตัวฉันในตอนนี้ เธอกำลังพยายามทำอะไรแปลกๆ ต่อหน้าคัตสึมิคุงอยู่

 

 

『ฉันขอเรียกว่าพี่ชายได้ไหมคะ?』

 

 

 

『คัตสึมิซัง….เอ่อ..ไม่สิ อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมคะพี่ชาย?』

 

 

 

「เธอไม่สามารถใช้คำว่าน้องสาวได้หรอก คิดดูสิถึงจะอ่อนกว่าเขาแต่เธอก็มีน้องสาวที่เด็กกว่านะ ส่วนตัวฉันคือน้องเล็กสุดของบ้าน ดังนั้นสารตั้งต้นของคำว่าน้องสาวจริงๆ ต้องเป็นฉันต่างหาก มีแค่ฉันที่สามารถเรียกเขาว่าพี่ชายได้อย่างเต็มปาก ใช่ไหมคะพี่?」

 

 

วิดีโอที่ตัวฉันในต่างโลกเรียกคัตสึมิคุงว่าพี่ชาย

 

 

 

「ตะ แต่ว่าก็ไม่เห็นจะเป็นไรนี่ คัตสึมิคุงก็ยอมรับฉันคนนั้นเป็นพี่ชายไม่ใช่เหรอ?」

 

 

「หา?!นี่เธอเสียสติจนถึงขั้นยอมรับแล้วเหรอว่าตัวเองอีกโลกพยายามจะยัดเยียดความเป็นน้องสาวให้คัตสึมิคุงมันถูกต้องน่ะ!!」

 

「เรด ร้ายกาจ……」

 

 

สติฉันครบถ้วนเถอะย่ะ

 

พวกเราอายุเอากันนะเออ

 

 

「ลองคิดดูสิ การที่คัตสึมิคุงอนุญาตให้ฉันในอีกโลกเรียกเขาว่าพี่ชาย ก็แปลว่าตัวฉันใลกนี้สามารถใช้ได้เหมือนกัน แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าเท่าเทียม พวกเธอไม่คิดแบบนั้นหรือไง?」

 

「ยัยนี่ฝืนธรรมชาติสุดๆ」

 

 

พูดตามตรง ตัวฉันที่เป็นน้องเล็กสุดในบ้านและมีพี่สาวถึงสองคน ส่วนตัวแล้วก็อยากจะมีพี่ชายกับเขาบ้างเหมือนกัน

 

ที่สำคัญยัยพี่สาวตัวดีสองคนนั้นก็ดันเป็นพวกไม่ได้เรื่อง ทำตัวไร้สาระชวนให้ปวดหัวอยู่เสมอ การมีพี่ชายแสนดีแบบคัตสึมิคุงคงดีกว่าเป็นไหนๆ

 

 

 

「หากเธอพูดแบบนั้นจริงตัวฉันที่เป็นรุ่นน้องของเขาจะเหมาะสมกว่าไหม?」

 

「เธอไม่มีสิทธิ์ อย่าลืมสิว่าถ้าเธอยกเรื่องนั้นขึ้นมา ฮารุจังยังเหมาะสมกว่าอีก」

 

「จะละเมอก็เอาแค่ตอนนอน」

 

「อึก ทีแบบนี้ร่วมมือกันซะงั้น ถ้าตัดสินกันไม่ได้ก็หยิบเด็คเธอออกมาซะ」

 

ในขณะที่ฉันกำลังจะพูดต่อโดยไม่สนใจอาโออิที่หยิบเอาโปเกเด็คออกมา ประตูห้องประชุมก็เปิดออกพร้อมกับร่างของคัตสึมิคุงที่ปรากฏขึ้น

 

 

 

「ดะดะดะเดี๋ยว?!คัตสึมิคุง มาทำอะไรที่นี่กัน?!」

 

「หือ?ก็นี่มันเที่ยงแล้วน่ะ เลยมาดูว่ามีใครอยู่ที่นี่ไหม ว่าแต่พวกเธอมาทำอะไรที่นี่กันก่อนเถอะ?」

 

 

พอดูเวลามันก็เที่ยงแล้วจริงๆ

 

ไม่สิ จริงด้วย

 

ไหนๆ เขาก็โผล่มาแล้ว ลองถามเรื่องนั้นเลยดีไหมนะ?

 

 

 

「คัตสึมิคุง!」

 

「หือ?」

 

「อะ เอ่อออออ……」

 

「ว่า?」

ตัวฉันในอีกโลกยังทำได้

 

แล้วทำไมฉันจะทำไม่ได้กันล่ะ!!

 

ฉันรวบรวมความกล้าแล้วพูดออกไปพร้อมกับใบหน้าที่แดงฉาน

 

 

 

「ฉันขอเรียกนายว่าพี่ชายได้ไหม!?」

 

「ก็แย่แล้ว เราอายุเท่ากันเหอะ」

 

 

ความหวังของฉันพัดปลิวไปโดยข้อโต้แย้งที่ยากจะเถียง

 

ฉันถึงกับพูดอะไรไม่ได้

 

 

 

「แถมการที่มาพูดเรื่องพี่ชายอะไรนี่เป็นเพราะเธอเห็นตัวเองอีกโลกเรียกฉันแบบนั้นเหรอ?」

 

「อะ เอ่อ คือ」

 

「คือ ฉันก็เข้าใจหรอกนะว่าเธอเป็นน้องเล็กสุดในบ้านแถมมีแต่พี่สาว หากจะอยากได้พี่ชายบ้างก็คงไม่แปลก」

 

「……อึก……」

 

「แต่ขอโทษ ฉันคงเป็นพี่ชายให้เธอไม่ได้หรอก」

 

「……」

 

 

 

「ฝันสลายไปด้วยความจริงอันแสนโหดร้าย」

 

「นะ น่าอายชะมัด….ฉันทนดูสภาพเธอต่อไปไม่ไหวแล้ว….」

 

 

เขาเข้าใจถึงความปรารถนาของฉันและปฏิเสธมันอย่างจริงจัง

 

เอ่อ…ขอตายตรงนี้เลยได้ไหม?

 

ฉันอายเสียสนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว

 

คัตสึมิคุงที่เห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดต่อ

 

 

「นอกจากนี้พวกเราก็เป็นเพื่อนกันก่อนจะมีความสัมพันธ์อะไรทำนองนั้นด้วย ดังนั้นอย่าไปหาเรียกกันแปลกๆ เลย เธอกับฉัน พวกเราเท่าเทียมกัน….หากไม่ใช่แบบนั้นฉันคงเสียใจแย่」

 

「คะ คัตสึมิคุง……」

 

 

เขาพยายามปลอบใจฉันสุดๆ

 

ในขณะที่ฉันกำลังซาบซึ้งอยู่ เขาก็เอามือมาจับไหล่ของฉันแล้วพูดราวกับกำลังเข้าใจถึงหัวอกของฉัน

 

 

 

「นี่ก็คงเป็นความผิดของฉันเหมือนกัน」

 

「เอ๋ อะไรของนายน่ะ?」

 

「เพราะการที่ฉันหายไปตัวคงจะทำให้จิตใจของเธออ่อนล้ามากแน่ๆ พวกเราไปหาฮาคัวกันเถอะ……」

 

「มะ ไม่สิ เดี๋ยวก่อน ไม่ใช่แล้ว!!」

 

 

ทำไมสีหน้าของเขาถึงดูจริงจังสุดๆ กัน?!

 

ในขณะที่ฉันกำลังสงสัยเขาก็จับมือของฉันเอาไว้

 

 

「ไม่ต้องห่วงนะ ฮาคัวเองก็เคยก่อเรื่องแล้วลากฉันไปเป็นน้องชายตอนความจำเสื่อมมาแล้ว ฉันมั่นใจว่าฮาคัวจะต้องเข้าใจปัญหาของเธอแน่นอน」

 

「ทำไมรู้สึกเหมือนชิราคาวะจังกำลังโดนตบหน้าไปด้วยอีกคนเลยล่ะ?!」

 

 

ห หากปล่อยไว้แบบนี้ฉันคงถูกลากไปคุยกับชิราคาวะจังในสภาพน่าอึดอัดใจสุดๆ แหง

 

ว่าแล้วฉันก็หันหน้าไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนทั้งสองของฉัน แต่ทั้งคู่ก็หายหัวไปหมดแล้ว

 

ยัยพวกคนทรยศ!

 

และแล้วฉันก็ถูกลากมาถึงห้องพยาบาลที่มีชิราคาวะจังอยู่

 

 

「ฮาคัว! ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอที่เคยเนียนเป็นพี่ฉันตอนเสียวคามทรงจำหน่อยน่ะ!」

 

「เอ๋!?」

 

 

อ้า ไม่จบแล้วสินะชีวิตของฉัน?!

 

 

***

 

 

แม้จะเป็นเพียงแค่ชั่วครู่ แต่สัญชาตณาณของฉันก็สัมผัสได้ถึงสิ่งนั้น

 

ร่างใหม่ที่คัตสึมิ โฮมุระใช้หลังกลับมาถึงโลก———หรือก็คือร่างที่พัฒนาไปถึงขีดสุดของเขา

 

มรดกที่ได้รับมาจากอีกจักรวาลหนึ่ง การผสานกันของอัลฟ่าแห่งโชคชะตาและอัลฟ่าแห่งวิวัฒนาการ

 

อัลฟ่าทั้งสองที่ดำรงอยู่ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีโอเมก้า

 

หลังเอาชนะอัลฟ่าบรรพกาลที่จับมือกับพวกสตับเบอร์ที่หมายจะกลืนกินจักรวาลก่อนหน้าลงได้สำเร็จ พวกเธอก็กลายมาเป็นแกนพลังงานและล่องลอยมายังจักรวาลแห่งนี้ ก่อนจะจบลงที่ถูกถือครองโดยคัตสึมิ โฮมุระ

 

การผสานกันของอัลฟ่าแฝดที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ส่งผลให้เกิดขุมพลังแห่งใหม่ที่รุนแรงมากพอจะสั่นสะเทือนและทำลายสมดุลของจักรวาลลงได้

 

 

「คึก……!!」

 

 

วินาทีที่ฉันสัมผัสถึงพลังนั้นได้ ความรู้สึกที่ยากจะอธิบายก็พรั่งพรูออกมาจากภายในจิตใจ

 

ความสุข ความริษยา อารมณ์เหล่านั้นมันได้เอ่อล้นออกมาเมื่อรู้ว่าเขาไปถึงจุดสูงสุดได้

 

ทั้งที่ฉันตั้งใจจะเป็นคนปลุกเขาขึ้นมา แต่เขาก็ก้าวนำหน้าฉันไปอีกครั้ง!!

 

ยกโทษให้ไม่ได้ ยกโทษให้ไม่ได้เด็ดขาด

 

ทั้งที่มันควรจะเป็นหน้าที่ของฉันแท้ๆ!!

 

คัตสึมิ โฮมุระเป็นของฉัน…ฉันคือคนที่เจอเขาก่อน….

 

 

 

 

「……เฮ้อ」

 

 

เส้นผมสีดำของฉันที่ปรกลงมายังใบหน้าได้ถูกเปลี่ยนเป็นสีฟ้า พร้อมกับส่องแสงจางๆ ผ่านนิ้วมือที่สางมัน

 

แย่แล้วสิ พอสติหลุดทีไรก็เป็นแบบนี้ตลอด

 

 

「ใจเย็นๆ ไว้ก่อนตัวฉัน……」

 

 

ฉันไม่ใช่รูอิน

 

ฉันไม่ใช่สิ่งนั้น ฉันมันก็แค่ความล้มเหลวที่ไม่สามารถสมบูรณ์แบบได้

 

ฉันพยายามระงับอารมณ์ที่ก่อตัวในจิตใจเอาไว้ ค่อยๆ หายใจเข้าออก จากนั้นเส้นผมสีฟ้าของฉันก็กลับไปเป็นสีดำเหมือนเดิม พอเห็นฉันก็โล่งใจขึ้นมานิดหน่อย

 

 

 

「พลังในการฆ่ารูอิน……」

 

 

ไม่สิ แค่นี้ยังไม่พอ

 

ตัวเขาตอนนี้แค่ได้รับคุณสมบัติที่เพียงพอในการต่อกรกับรูอิน

 

แม้จะสู้อย่างสุดกำลังก็ยังไม่มีอะไรรับประกันว่าเขาจะเอาชนะเธอได้

 

 

「ยังไงฉันก็ไม่มีวันยอมรับการมีอยู่ของตัวตนนั้น」

 

 

การปรากฏตัวของรูอินมันทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียนสุดๆ จนแทบคลั่ง

 

 

รูอินเองก็รู้ว่าฉันคิดยังไงกับเธอ แต่เธอก็ปล่อยฉันไว้ราวกับกำลังเล่นสนุก

 

 

ความผยองของเธอที่แสดงออกมามีแต่ทำให้ฉันยิ่งแค้นหนักกว่าเก่า

 

『———』

 

 

 

ในขณะที่ฉันพยายามตั้งสติขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ร่างโคลนของโอเมก้าดาวโลกอย่างนิวก็มาคว้าแขนเสื้อของฉันเอาไว้ พร้อมกับมองด้วยความกังวล

 

ดวงตาสีดำสนิทของเขาจ้องมองใบหน้าฉัน

 

แม้จะไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา แต่ฉันรู้ดีว่าเด็กคนนี้จดจำฉันในฐานะแม่ของเขา บางทีคงจะเป็นห่วงฉันอยู่ละมั้ง ฉันก็เลยระงับความโกรธแล้วลูบหัวนิว

 

 

 

「เฮ้อ ไม่ต้องกังวลหรอก ฉันสบายดี」

 

 

การเติบโตของคัตสึมิ โฮมุระถึงว่าค่อนข้างดี

 

ที่เหลือคงต้องไปคิดถึงการเติบโตของพวกจัสติสครูเซเดอร์ต่อ

 

 

 

「แต่เหมือนโกลดี้จะพยายามกันคัตสึมิ โฮมุระออกจากการต่อสู้แปลกๆ」

 

 

ท่าทางเขาน่าจะยังไม่ได้เผยเรื่องพลังใหม่ที่ได้มาให้พวกสาวๆ รู้ด้วย

 

ไม่สิถึงจะเผยให้รู้แล้ว คนที่รู้ก็น่าจะมีแค่ 3 สาว โกลดี้คนที่สร้างสูทและประกาศตัวว่าเป็นเพื่อนสนิทของเขา

 

แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นกันนะหากเขาจำเป็นต้องแปลงร่างเป็นร่างนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

 

「ถ้างั้นคงต้องมาวางแผนใช้สัตว์ประหลาดกันต่อ」

 

 

ยุคสมัยแห่งการต่อสู้ระหว่างจัสติสครูเซเดอร์กับสัตว์ประหลาดจะกลับมาอีกครั้ง

 

 

「พอได้แกนพลังงานแห่งดวงดารามาก็เลยมีอะไรให้ทำซะเยอะเลย ไหนจะพวกน่ารำคาญที่คงจะรอเฉยๆ ต่อไปไม่ไหวนั่นอีก ยุ่งยากเสียจริง」

 

การที่พวกแมลงต่างมิติมันโผล่มาเป็นเรื่องน่ารำคาญก็จริง

 

แต่การที่มันทำให้ฉันสามารถเสริมแกร่งพวกสัตว์ประหลาดด้วยพลังแห่งดวงดาราได้มันก็สะดวกไม่น้อย

 

 

「หลังจากนี้คงได้วุ่นกันอีกพักใหญ่ ทนหน่อยนะ」

 

『? ———!』

 

「จ้าๆ」

 

 

ฉันลูบหัวนิวเบาๆ ในขณะมองเขาที่ทำท่าสงสัยเหมือนอยากรู้ ก่อนที่เขาจะพยักหน้าเหมือนเข้าใจที่ฉันจะสื่อ

 

 

—จบ—

 

อากาเนะก็ฆ่าตัวตายทางสังคมไปอีกรอบโดยรอบนี้ลากฮาคัวลงหลุมไปด้วย

 

ส่วนอาสึ….กลิ่นแปลกๆแล้วสิ คงต้องรอดูต่อไป

 

จบไปแล้วกับบท 5 ครับ โดยปัจจุบันเว็บลงถึงเล่ม 6 ละยังไม่จบด้วย ก็แปลว่าอีกไม่นานจะชนละ คนแต่งไม่ได้ลงตอนใหม่มา เกือบ 2 เดือนแล้วด้วยสิ

 

 มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ  และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

Score 10
Status: Completed
คัตสึมิ โฮมุระ วายร้ายที่รู้จักกันในนาม อัศวินดำ ชายผู้คิดว่าตัวเองคือวายร้ายแสนโฉดชั่ว เมื่อพ่ายแพ้ให้กับฝั่งฮีโร่เขาก็ถูกจับตัวไป ทว่าสิ่งที่รอเขาอยู่กลับไม่ใช่คุกหรือพวกตำรวจ แต่กลับเป็นขุมนรกที่ตัวเขาเกินจะคาดฝันแทนซะอย่างงั้น โลกที่ขบวนการเซ็นไตมีอยู่จริง เรื่องราวของอัศวินดำจอมวายร้ายที่มีสามัญสำนึกผิดแปกและถูกคนธรรมดาเข้าใจผิดมาโดยเสมอ บัดนี้เขากำลังจะถูกลากเข้าขบวนการเซ็นไตเสียแล้ว ※ผลงานชิ้นนี้กาวล้วนๆไม่มีเกลือผสม

Options

not work with dark mode
Reset