อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต 151 การตัดสินใจของมอทัลเยลโล่ 1

ตอนที่ 151 การตัดสินใจของมอทัลเยลโล่ 1

 

ยัยสารเลวฮิลด้าย้ายไปอยู่กับศัตรูแล้ว!!

 

หลังจากยัยนั่นหายหน้าหายตาไป 10 วันพร้อมกับอัศวินดำและลำดับที่ 10 ในที่สุดเธอก็กลับมาได้สำเร็จ

 

ทว่าสิ่งที่ฉันเห็นผ่านวิดีโอมันทำให้ฉันอึ้งสุดๆ

 

 

 

 

「เฮ้อ ยัยระเบิดเวลาที่อยากจะตายให้ได้มันหายไปไหนหมดยะ?!」

 

 

ฉันอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา แต่มันก็พอจะเข้าใจได้จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

 

เมื่อ 10 วันก่อน หลังเธอหายตัวไปแล้วกลับมา สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือพลังของเธอหายไปแถมยังเข้าไปสู่ด้านสว่างแทนซะแล้ว

 

ถึงจะไม่รู้ว่าไปทำอิท่าไหนให้เป็นแบบนั้นก็เถอะ ทว่าสุดท้ายฮิลด้าก็เลือกจะไปอยู่กับทางนั้น

 

สถานการณ์ทางฉันแอบแย่พอสมควร

 

ก็ไม่คิดหรอกว่ายัยนั่นจะขายฉัน แต่ถ้ามันมีอะไรผิดพลาดไปฉันก็คงบ่นอะไรไม่ได้

 

จะหนีเหรอ?เรื่องนั้นตัดออกไปได้เลยยานที่ใช้อยู่ตอนนี้สภาพก็ไม่ต่างกับซากยานที่ลอยไปมาบริเวณวงโครจรของโลก หากคิดทำอะไรแปลกๆ โกลดี้รู้ตัวทันทีแหง

 

จะออกไปลุย?ไอ้นี่ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ อย่างฉันแค่โผล่หน้าไปคงถูกจัสติสครูเซเดอร์ ไม่ก็อัศวินดำเก็บแหง นอกจากนี้ก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องออกไปทำแบบนั้นด้วย

 

หรือจะปลอมตัวแล้วไปใช้ชีวิตบนโลกนี้ซะเลย

 

ถึงระดับอารยธรรมจะต่ำ แต่โลกก็ต่างจากดาวดื่น มันเป็นดาวเคราะห์ที่ค่อนข้างเป็นมิตรกับสิ่งมีชีวิตพอสมควร

 

ก็จริงว่ายังมีเรื่องสัตว์ประหลาดและเอเลี่ยนตัวอื่นที่โผล่มาเต็มไปหมด แต่ฉันก็ใช่จะอ่อนแอจนป้องกันตัวเองไม่ได้เลย

 

 

 

「ขนมอร่อยด้วยสิ……」

 

 

ฉันตกใจสุดๆ ตอนได้ชิมสิ่งที่เรียกว่าช็อกโกแลต วัตถุสีดำชวนให้ไม่น่ากิน

 

ทุกอย่างเริ่มต้นจากที่ฮิลด้าหายตัวไป อาหารที่ยัยนั่นซื้อมาขึ้นยานก็หมดลงไปด้วย ฉันจึงไม่มีทางเลือกนอกจากไปที่โลกแล้วตรงเข้าไปยังสถานที่ที่เรียกว่า ร้านสะดวกซื้อ

 

สิ่งที่สะดุดตาของฉันคือสสารสีดำที่เรียกว่า ช็อกโกแลต

 

 

แม้แต่โลกนี้ก็ยังมีอาหารอัดแท่งที่แสนจืดชืดไม่ต่างอะไรกับดาวดวงอื่นสินะ ว่าแล้วฉันก็เลยซื้อมาจำนวนหนึ่ง

 

พอกลับมาถึงยาน ฉันก็เกาะซองช็อกโกแลตแท่ง สัมผัสของมันแข็งเหมือนกับหิน แต่ฉันก็ไม่สนใจหรอกขอแค่มีชีวิตต่อได้ฉันจึงโยนมันเข้าปากทันที

 

 

 

———ภาพของการกำเนิดจักรวาลปะทุขึ้นในหัวฉัน

 

 

รสชาติที่ลิ้นของฉันไม่เคยสัมผัส

 

รสชาติที่ละลายเข้าไปในปากนี้มันสร้างภาพลวงตาให้กับสมองฉันได้ขนานนี้เลยเหรอ

 

ฉันตกใจมากเพราะคาดไม่ถึงว่าอาหารอัดแท่งที่เหมือนหินนี้จะทำให้ฉันมีความสุขสุดๆ

 

หัวใจของฉันเหมือนกับหยุดเต้น….ไม่สิ จริงๆ มันก็หยุดไปพักหนึ่งเลยแหละ

 

ความตกตะลึงนี้ทำให้ฉันอึ้งไปเกือบชั่วโมง

 

 

พอได้สติฉันก็กลับมาคิดใหม่ สสารสีดำที่เรียกว่าช็อกโกแลตนั้นมีราคาที่ถูกเพียงไม่กี่เครดิต แถมจำนวนหมุนเวียนในตลาดยังสูง หาซื้อง่าย จนฉันแปลกใจว่าของแบบนี้มันจะไม่เป็นอันตรายกับชาวโลกหรือไงกัน

 

 

 

「……นอกจากนี้」

 

 

เป็นไปไม่ได้เลยที่จะย้ายพี่ชายของฉันออกจากที่แห่งนี้ สุดท้ายการอยู่นี่ต่อคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

 

ฉันเองก็ไม่อยากจะต่อสู้อีกแล้วด้วย หากโลกใบนี้ต้องมาถึงจุดจบเพราะรูอิน ฉันก็พร้อมจะยอมรับมันอย่างเต็มใจ

 

การที่ฉันไม่สามารถตายพร้อมกับพวกเรดได้เป็นเรื่องน่าเสียดาย

 

แต่อย่างน้อยได้ตายพร้อมกับพี่คงไม่แย่นัก

 

จากนั้นฉันก็หยิบช็อกโกแลตเข้าปากต่อ

 

———ทว่าสิ่งเลวร้ายที่สุดที่ฉันคิดไว้ก็เป็นจริง หลังผ่านไปประมาณ 3 วันตั้งแต่ยัยบ้าฮิลด้ากลับมา ภาพของเรมะ คาเนะซากิก็ถูกส่งมายังที่ซ่อนตัวของฉัน ทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่าชีวิตของฉันมันจบลงแล้ว

 

 

『ว่าไงมอทัลเยลโล่ ฉันมีชื่อว่าเรมะ คาเนะซากิ อย่างที่เธอรู้ฉันคือยอดอัจฉริยะ ที่ฉันติดต่อเธอมาก็เพื่อบอกทางเลือกกับเธอซึ่งเป็นผู้รุนรานโลกมันมีอยู่สองทาง』

 

ฉันยืนฟังสิ่งที่เขาพูดพร้อมกับความหงุดหงิดภายในใจ

 

 

『อย่างแรก หากเธอคิดจะหนี ฉันจะทุ่มกองกำลังทั้งหมดเพื่อจับกุมเธอ』

 

「……」

 

『อย่างที่สอง ยอมจำนนแล้วมาเข้ากับพวกฉัน หากเลือกทางนี้ฉันจะปกป้องเธอและรับประกันความปลอดภัยของเธอด้วย』

 

 

มันดีจนคิดว่าเป็นเรื่องโกหก

 

ไม่สิ หากเป็นนิสัยของคนพวกนี้อาจจะจริงก็ได้

 

 

 

『จริงสิ ฮิลด้าไม่ได้เปิดเผยข้อมูลของเธอให้ฉันได้รู้เลยแม้แต่น้อย การที่ฉันสามารถหาที่ซ่อนตัวของเธอได้ก็เป็นเพราะฝีมือของฉันเอง ก็อัจฉริยะนี่นา』

 

「……อะไรของมัน」

 

 

รู้อยู่แล้วว่าหมอนี่ฉลาด แต่จำเป็นต้องย้ำไหม

 

ทว่าพอได้ยินแบบนี้ฉันก็แอบโล่งใจนิดหน่อยที่ยัยระเบิดเวลานั่นสบายดี

 

 

 

「……พี่คะ」

 

 

จากนั้นก็มีการระบุถึงวัน เวลา สถานที่ที่จะนัดเจอกัน

 

ตัวเลือกหนีมันเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

 

ฉันวางมือเอาไว้บนแคปซูลของพี่ชายแล้วถอนหายใจออกมา

 

เรมะ คาเนะซากิหาฉันเจอแล้ว

 

หากคิดหนีก็จะถูกจับตัวได้ทันทีและถูกกักขังอย่างไม่ต้องสงสัย

 

แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายของฉันต่อล่ะ….

 

 

 

「ไม่ได้มีตัวเลือกแต่แรกแล้ว」

 

 

ชีวิตของฉันมันไม่ได้สำคัญอะไรหรอก

 

เพราะฉันเป็นพวกขี้ขลาดที่ไม่สามารถหยุดพวกเรดได้ และก็ไม่สามารถตายไปพร้อมกับพวกเขาได้

 

แต่พี่ไม่ใช่แบบนั้น

 

พี่พยายามปกป้องฉันสุดชีวิต แม้จิตใจจะแตกสลายไปแล้ว

 

ดังนั้นหากสามารถทำอะไรเพื่อพี่ได้ฉันก็จะทำ

 

 

 

 

 

 

 

「……นี่สินะ จุดที่นัดกันไว้」

 

 

สถานที่คือตรอกแห่งหนึ่ง

 

เป็นสถานที่ที่ไม่มีใครเดินผ่าน การจะมาพบกันแบบลับๆ ในที่นี้ก็เหมาะสม

 

 

「ว่าแต่พวก……」

 

 

ในขณะที่ฉันกำลังจะเดินไปมาเพื่อตรวจสอบรอบๆ ก็มีบางอย่างที่เย็นยะเยือกมาแตะที่คอของฉันโดยไม่บอกกล่าว

 

ฉันรู้ได้ทันทีว่ามันเป็นของมีคม ตัวตนลึกลับได้โผล่มาอยู่ข้างหลังของฉันก่อนที่ฉันจะรู้สึกตัวเสียอีก

 

 

「อย่าขยับ」

 

「อึก!?」

 

 

ระระระระระเรดกำลังจะฆ่าฉันแล้วเหรอ?!

 

ฉันไม่มีวันลืมเจตนาฆ่าระดับนี้ได้

 

เพราะเธอคือคนเดียวที่ทำให้ฉันสัมผัสได้ถึงความสยองของเจตนาฆ่าที่เป็นเหมือนคมมีดพร้อมทิ่งแทงร่าง

 

 

「มอทัลเยลโล่สินะ?」

 

「ชะชะชะใช่แล้วค่ะ……」

 

 

มนุษย์โลกสามารถทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ?

 

เสียงของฉันที่พูดออกไปจะทำให้อีกฝ่ายหัวเสียไหมนะ?!ในขณะที่ฉันค่อยๆ ยกมือขึ้นเพื่อแสดงเจตนาว่ายอมแพ้ ฉันก็ได้ยินเสียงสแกนอะไรบางอย่าง

 

 

 

「ไม่พบอุปกรณ์น่าสงสัยค่ะ ประธาน」

 

『อะ-เอ่อ…เรด ถึงฉันจะจ้างเธอมาทำงานที่บริษัทหลังจากนี้ แต่รู้ใช่ไหมว่าบริษัทฉันมันไม่มีแผนกนักฆ่า ว่ากันตามตรงฉันชักจะหลอนหน่อยๆ แล้วสิ ทำไมเธอถึงได้ดูเชี่ยวชาญเรื่องทำนองนี้จังฟะ…..?』

 

「อย่าคิดมากค่ะ ฉันจะอยู่ฝ่ายบอดี้การ์ดของคัตสึมิคุงเอง」

 

『บอกความในใจออกมาเยอะไปไหม?เอาเถอะ ถ้าเป็นเธอคงไม่มีปัญหาแหละ』

 

 

หลังได้ยินการพูดคุยของพวกเขา นี่ฉันจะโดนฆ่าปาดคอตรงนี้เลยไหมนะ?!

 

ไอ้ที่เราตกลงกันไว้แค่มารับตัวฉันเฉยๆ ไม่ใช่เหรอ?!อย่างน้อยช่วยบอกอะไรกับฉันหน่อยสิอย่ามัวแต่คุยกันเองได้ไหม?!

 

ชักอยากจะร้องไห้ออกมาแล้วสิ จากนั้นเรดก็เอาบางอย่างที่คล้ายกับถุงมาคลุมหัวของฉันเอาไว้ ก่อนที่จะรู้ตัวมือของฉันก็ถูกมัดด้วยเชือกแล้ว

 

 

 

「อย่าได้คิดขัดขืน ฉันจะพาเธอย้ายที่คุยสักหน่อย」

 

『โฮ่ย เรดทำไมถึงได้ดูช่ำชองขนาดนั้นฟะ?ไอ้เรื่องที่บอกว่าน่าจะฝากฝังการคุ้มกันคัตสึมิคุงไว้กับเธอฉันขอยกเลิกได้ไหม?』

 

 

การมองเห็นถูกปิดกั้นและฉันก็ถูกย้ายร่างไปยังที่ไหนสักแห่ง

 

แม้ว่าจะไม่ได้ถูกผลักหรือซ้อมจนหมดสภาพระหว่างทาง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าตวเองปลอดภัยเลยสักนิด ถ้าถามว่าเพราะอะไรก็คงเป็นเรดที่เดินอยู่ข้างๆ พร้อมกับของมีคมในมือนั่นแหละ

 

 

***

 

 

หลังผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงในที่สุดฉันก็มาถึงยังปลายทาง เธอให้ฉันนั่งลงบนเก้าอี้ ก่อนจะดึงถุงคลุมหัวออกโดยไม่บอกกล่าว

 

แสงสว่างแทงเข้ามาในตาทันที จนฉันต้องหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะพบว่าตรงข้ามฉันมีชายผมสีบลอนด์นั่งอยู่

 

 

 

「นี่คงเป็นครั้งที่สองที่เราได้เจอกันสินะมอทัลเยลโล่…หรือฉันควรจะเรียกว่ารีไลฟ์เยลโล่ดีล่ะ」

 

「เดี๋ยว ทำไมชื่อนั้นถึง……」

 

 

รีไลฟ์เยลโล่

 

มันคือชื่อของฉันในตอนที่เป็นผู้ผดุงความยุติธรรมอยู่

 

ตัวฉันในตอนนี้ไม่มีสิทธิ์ใช้มันหรอก

 

 

 

「ฉันไม่สมควรถูกเรียกด้วยชื่อนั้นหรอก….โกลดี้ ก็อย่างที่ได้คุยกัน ฉันขอยอมแพ้」

 

「อ้า เรื่องนั้นฉันก็พอจะมั่นใจแล้วแหละ ก่อนอื่นต้องขอโทษสำหรับการต้อนรับที่ดูหยาบคายไปหน่อยละกัน」

 

 

ฉันเองก็เข้าใจดีแหละ

 

ถึงจะบอกว่ายอมแพ้ แต่ฉันก็เคยเป็นศัตรูของเขา

 

เรื่องที่น่าแปลกกว่าคงจะเป็นเรื่องที่ฉันถูกเสนอให้เข้าพวกแทนที่จะฆ่าฉันทิ้งหลังเจอตัวต่างหาก

 

 

 

「ฉันเข้าใจ แต่คราวหน้าขอเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เรดเถอะ」

 

「……ฉันก็ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะออกมาหน้านี้เหมือนกัน ขอโทษที」

 

 

เรดเป็นมนุษย์โลกจริงๆ เหรอ เรื่องนี้โกลดี้เองก็น่าจะคิดเหมือนกับฉัน

 

หากอัศวินดำถูกสงสัยเพราะพลังการต่อสู้ที่สูงจนผิดปกติ เรดก็คงถูกสงสัยเพราะความสามารถในการปล่อยเจตนาฆ่าที่สยองสุดๆ นี่แหละ

 

 

 

「จากนี้ฉันจะเป็นยังไงต่อ? 」

 

「ก็อย่างที่บอกเข้ามาเป็นพวก」

 

「……อ่า」

 

 

ที่ฉันกังวลจริงๆ ก็คงเป็นเรื่องของพี่ชายฉัน ทางนั้นก็คงมีข้อมูลนี้อยู่แล้วแหง

 

 

「ไม่ต้องระวังตัวขนาดนั้น อย่างที่ฉันบอกไป เธอมาเข้าพวกกับฉัน ฉันจะรับประกันความปลอดภัยของเธอและพี่ชายเธอให้เอง」

 

「แล้วฉันต้องทำอะไรบ้างล่ะ? 」

 

 

「ก็จริงว่าการให้มาเข้าเป็นพวกเฉยๆ เลยคงจะแปลก สิ่งที่ฉันต้องการจากเธอก็คืออยากได้ความร่วมมือในการวิเคราะห์พลังแห่งดวงดารา」

 

「พลังแห่งดวงดารา……? 」

 

 

หมอนี่กำลังพยายามวิเคราะห์พลังงานที่ลึกลับนั่นอยู่เหรอ?

 

มันเป็นพลังงานที่มีต้นกำเนิดเป็นปริศนา แตกต่างจากพลังงานปกติที่อยู่ในจักรวาลนี้หรือจากแกนพลังงานทั่วไป

 

แม้ว่าจะได้พลังจากฉันไปก็ไม่น่าจะได้ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้นะ

 

 

「ฉันไม่ได้คิดจะเอาพลังดังกล่าวไปใช้ทำอะไรแปลกๆ หรอก….แต่คนที่เรากำลังดูแลอยู่ตอนนี้ดันไปเกี่ยวข้องกับพลังแห่งดวงดาราเข้า ฉันเลยต้องการพลังของเธอในการช่วยแก้ไขปัญหา」

 

「…..ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะช่วยอะไรได้ไหม แต่ถ้าสามารถรับประกันความปลอดภัยของพี่ฉันได้ละก็….……」

 

「ถ้างั้นก็เป็นอันตกลงสินะ….นอกจากนี้จะสะดวกไหมถ้าฉันจะขอความร่วมมือจากพี่ชายเธอด้วย? 」

 

 

เขาถามออกมาอย่างสบายๆ แต่ฉันแอบรู้สึกไม่พอใจนิดหน่อย นอกจากนี้พี่ชายของฉันก็ยังไม่ได้สติ

 

ไม่สิ บางทีเขาคงอยากจะสื่อว่าฉันอนุญาตให้เขาทดลองทำอะไรบางอย่างกับพี่ของฉันไหมแน่นอน

 

 

 

「ก็ได้ แต่ถ้าเกิดนายทำให้พี่ของฉันเป็นอะไรไปขึ้นมาละก็ฉันไม่มีวันให้อภัยแน่」

 

「เหมือนจะเข้าใจอะไรผิดไปหน่อย ที่จะถามก็คือหากฉันจะลองหาทางรักษาพี่ชายเธอในแบบที่ต่างออกไปหน่อยจะโอเคไหม」

 

「……เอ๋」

 

 

ฉันตกใจกับสิ่งที่คาดไม่ถึง

 

 

「แม้ว่าจิตใจของเขาจะแตกสลายไปเพราะบางสิ่ง ทว่าในอดีตเขาก็เป็นนักรบที่มีหัวใจแห่งความยุติธรรมอยู่ ลีไลฟ์บลูเป็นคนที่จิตใจดีไม่ยอมแพ้ต่อความชั่วร้ายเพื่อปกป้องเธอ แค่นั้นก็เป็นเหตุผลมากพอที่ทำให้ฉันพยายามหาทางช่วยชีวิตเขาแล้ว」

 

「……อึก」

 

「ก่อนอื่นเลยหากฉันทำอะไรที่ชั่วร้ายขนาดนั้น ฉัน…ไม่สิพวกเราคงไม่สามารถเรียกตัวเองว่าจัสติสครูเซเดอร์ได้หรอก พวกเราเป็นฮีโร่และมันจะเป็นแบบนั้นตลอดไป」

 

 

แค่นี้ฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมจัสติสครูเซเดอร์ถึงได้รับการสนุบสนุนจากพวกมนุษย์โลกมากมาย

 

ผู้ผดุงความยุติธรรม

 

ตามที่เขาพูด คนพวกนี้ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องมาโดยตลอด

 

 

 

「ขอบคุณนะโกลดี้」

 

「อ้า แต่อย่ามาตกหลุมรักฉันเชียวล่ะเข้าใจไหม? 」

 

「ไม่หรอก เป็นไปไม่ได้เลยสักนิดแม้กระทั่งในทางสรีรวิทยา」

 

「เธอหยาบคายไปหน่อยไหม? 」

 

 

เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่ฉันจะตกหลุมรักเขา แต่ฉันก็รู้สึกขอบคุณเขาจริงๆ

 

โกลดี้ถึงกับไหล่ตกเมื่อเห็นฉันปฏิเสธอย่างชัดเจน ไม่นานนักพอเขาสงบสติได้เขาก็เดินไปเปิดประตูแล้วหันหน้ามา

 

 

「งะ งั้นก็ตามฉันมาสิ」

 

「จะพาฉันไปไหน? 」

 

「ที่ที่พี่ชายเธอพักรักษาตัว」

 

 

ฉันเดินตามโกลดี้ไปตามทางเดิน ก่อนจะพบว่าตัวเองอยู่ในสถานที่ที่แตกต่างออกไปจากตอนที่เจอเรด

 

ฐานใหม่ของจัสติสครูเซเดอร์เหรอ?

 

ในขณะที่ฉันกำลังประหลาดใจ พวกเราก็เดินมาถึงหน้าประตูบานหนึ่ง

 

 

「พี่ชายของเธอซึ่งถูกพาตัวออกมาจากฐานลับอยู่ที่นี่แล้ว」

 

「ทะ ที่นี่!? 」

 

「อ่าว ฉันไม่ได้บอกแล้วหรอกเหรอ? 」

 

 

จะทำงานกันเร็วเกินไปหน่อยไหม

 

พอฉันเปิดประตูเข้าไป ก็พบกับพี่ชายที่นอนหลับอยู่ พร้อมกับอัศวินดำ คัตสึมิ โฮมุระ และหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ เขา กับเด็กสาวตัวเล็กที่ทำอะไรสักอย่างกับอุปกรณ์ที่ดูแลพี่ของฉัน

 

 

「ฮิลด้า……? 」

 

 

ฉันเบิกตากว้างเมื่อเห็นฮิลด้า หญิงสาวผมยาวประบ่าที่แสดงท่าทางประหลาดใจเมื่อเห็นฉัน ตอนนี้เธอหลงอัศวินดำเข้าเต็มๆ แล้วก็จริง แต่ในอดีตก็เคยทำงานร่วมกันกับฉันมาไม่น้อย

 

 

「อะ เอ่อ คือ ฉันไม่ใช่ฮิลด้าหรอก….」

 

「อย่ามาล้อกันเล่นสิ ถึงจะมีหลายเรื่องที่อยากพูด แต่ตอนนี้ฉันขอบ่น———」

 

「โอ้ เยลโล่นี่นา! นี่ฉันเอง ฮิลด้า」

 

「……เอ๋? 」

 

 

ในขณะที่ฉันกำลังจะบ่นใส่ฮิลด้า เด็กสาวตัวสีน้ำตาลผมสีชมพูที่อยู่ใกล้ๆ ก็เดินมาหาฉันพร้อมกับรอยยิ้มที่แสนคุ้นเคย

 

 

「ธะ เธอน่ะเหรอ ฮิลด้า? 」

 

「ใช่แล้วจ้า ขอโทษทีนะเยลโล่ที่อยู่ดีๆ ก็หายไป…เอ่อ…เธออาจจะแปลกใจกับร่างจริงของฉันไปบ้าง แต่ฉันน่ารักมากเลยใช่ไหมล่ะ?!คงไม่มีใครสามารถต้านความน่าอ้ายยยยยยยยยยย?!」

 

 

เพราะยัยนี่ทำตัวน่ารำคาญ ฉันก็เลยดึงแก้มของเธอไปหนึ่งดอก

 

อย่างที่คิดเอาไว้จริงด้วย

 

เหตุผลที่ยัยนี่ทำตัวอวดดีไม่เหมือนผู้ใหญ่ ก็เพราะยังเป็นเด็กน้อยจริงๆ ด้วย

 

 

 

「ปล่อยเธอเถอะ」

 

 

โกลดี้ที่เห็นฮิลด้ากำลังร้องออกมาก็เหมือนจะทนไม่ไหวเลยเข้ามาแยกฉันกับเธอ

 

ก็แปลว่าฮิลด้าคือคนที่คอยจัดการดูแลพี่ของฉันก่อนหน้านี้สินะ

 

 

「ว่าแต่ทำไมคัตสึมิคึงกับคาเสะอุระซังมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?ส่วนนี้ฮิลด้าเป็นคนรับผิดชอบไม่ใช่เหรอ」

 

「ตอนที่ฉันกำลังอยู่คุยกับคาเสะอุระซัง เธอบอกว่าได้ยินเสียงใครบางคนน่ะ」

 

「……เสียงเหรอ? 」

 

 

โกลดี้มองไปยังหญิงสาวที่เหมือนกับฮิลด้า…ไม่สิ ต้องบอกว่าฮิลด้าเคยใช้ใบหน้าของเธอมากกว่า

 

ไม่รู้ทำไมสำหรับฉัน หญิงสาวที่ชื่อคาเสะอุระถึงได้น่าดึงดูดแปลกๆ

 

 

 

「ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ แต่เหมือนจะเป็นเสียงของผู้ชาย」

 

「……ตอนนี้ก็ยังได้ยินเหรอ? 」

 

「ตอนนี้ไม่ได้ยินแล้วค่ะ เสียงสุดท้ายที่ได้ยินก็คือ โปรดวางฝ่ามือเอาไว้เหนือร่างของเขา」

 

「เขา? ……แล้วเขาที่ว่ามัน…」

 

 

โกลดี้หันไปหาพี่ชายของฉัน แล้วอีกฝ่ายก็พยักหน้าให้เหมือนกับเป็นการยืนยัน

 

 

 

「ถ้างั้น คาเสะอุระซัง เธอช่วยวางฝ่ามือไว้บนแคปซูลนี้ทีสิ」

 

「ดะ ได้ค่ะ」

 

「คัตสึมิคุง เตรียมตัวรับมือกับสิ่งผิดปกติด้วยล่ะ」

 

「เข้าใจแล้ว」

 

『พร้อมแปลงร่างทุกเมื่อ』

 

『โฮก!!』

 

 

อุปกรณ์แปลงร่างที่อยู่บนไหล่ของคัตสึมิ โฮมุระพูดขึ้น

 

จากนั้นคาเสะอุระก็หันฝ่ามือไปทางแคปซูล จากนั้นแสง 5 สีก็ส่องออกมาจากมือของเธอ

 

 

「พลังแห่งดวงดารา?!ฮิลด้านี่มันหมายความว่ายังไง?!」

 

「เอ่อ คือ โมโมกะ เหมือนจะสามารถสร้างพลังแห่งดวงดาราได้หลังโดนฉันสิงร่างน่ะ」

 

「หาาาาา!? 」

 

เป็นไปได้ด้วยเหรอ?!

 

พลังงานแห่งดวงดาราสามารถสร้างขึ้นมาได้จากแกนพลังงานแห่งดวงดาราเท่านั้น

 

มันไม่ใช่สิ่งที่จะกำเนิดขึ้นมาได้ด้วยวิธีอื่นและมันก็ไม่ใช่ของกระจอกๆ ที่สิ่งมีชีวิตปกติจะสร้างขึ้นมาได้ด้วย

 

ฉันเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ จากนั้นร่างของพี่ชายฉันก็ส่องแสงออกมา

 

 

 

「พะ พี่คะ!? 」

 

 

ในขณะที่ฉันตะโกนเรียกพี่ บางสิ่งก็ได้โผล่ออกมาจากร่างของพี่ฉัน

 

มันตรงเข้าไปหาคาเสะอุระด้วยพลังขับเคลื่อนอันรุนแรง จนคัตสึมิ โฮมุระที่แปลงร่างแล้วต้องเข้ามาขวางแล้วคว้ามันเอาไว้ในมือ

 

 

 

「แกเป็นตัวอะไรกันแน่? 」

 

『ต้องขออภัย เนื่องจากข้าไม่ได้ออกมานานจึงไม่สามารถหยุดพลังเอาไว้ได้ ขอบคุณที่ช่วย』

 

 

 

สิ่งที่เขาคว้าเอาไว้คือสิ่งมีชีวิตที่มีลวดลายเป็นดาวสีดำประกับบนร่าง

 

รูปร่างของมันคล้ายกับมนุษย์ที่มีวงแหวนสีขาวโค้งวนไปมารอบร่าง หลังจากที่หลุดจากมือของอัศวินดำ มันก็ลอยอยู่ในอากาศ

 

ฉันรู้ได้ทันทีว่าสิ่งนี้คืออะไร แม้มันจะแตกต่างไปจากร่างเดิมที่ฉันเคยเห็น แต่บรรยากาศและเสียงนี้ ไม่ผิดแน่นอน

 

 

『ข้าคือเซกัล ยักษาทมิฬผู้ปกป้องดวงดาว』

 

 

สิ่งที่มองพลังแห่งดวงดาราให้กับพวกเราจนพวกเรากลายเป็นเซไคเซ็นไต

 

ตัวตนที่ปล่อยให้พวกเราตกลงไปสู่ความชั่วร้าย

 

—จบ—

 

เอเจนเรดได้ทำการเอสคอตเป้าหมายมายังฐานเสร็จสิ้น

 

 มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ  และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

 

 

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

Score 10
Status: Completed
คัตสึมิ โฮมุระ วายร้ายที่รู้จักกันในนาม อัศวินดำ ชายผู้คิดว่าตัวเองคือวายร้ายแสนโฉดชั่ว เมื่อพ่ายแพ้ให้กับฝั่งฮีโร่เขาก็ถูกจับตัวไป ทว่าสิ่งที่รอเขาอยู่กลับไม่ใช่คุกหรือพวกตำรวจ แต่กลับเป็นขุมนรกที่ตัวเขาเกินจะคาดฝันแทนซะอย่างงั้น โลกที่ขบวนการเซ็นไตมีอยู่จริง เรื่องราวของอัศวินดำจอมวายร้ายที่มีสามัญสำนึกผิดแปกและถูกคนธรรมดาเข้าใจผิดมาโดยเสมอ บัดนี้เขากำลังจะถูกลากเข้าขบวนการเซ็นไตเสียแล้ว ※ผลงานชิ้นนี้กาวล้วนๆไม่มีเกลือผสม

Options

not work with dark mode
Reset