อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต 148 คอสโม่ผู้ทุกข์ระทม

ตอนที่ 148 คอสโม่ผู้ทุกข์ระทม

 

 

คัตสึมิคุงกลับมาแล้ว

 

ตอนที่เขาหายตัวไปอัลฟ่าจังไม่สามารถสัมผัสถึงการมีอยู่ของเขาได้ โปรโตกับชิโระก็ตามตัวไม่เจอ ไม่ต้องคิดถึงเรื่องที่ประธานจะหาตัวได้ด้วย

 

ในวินาทีที่รู้ว่าเขาหายไป พวกเราก็ตระหนักได้ถึงความอ่อนแอของตัวเองทันที สิ่งที่พวกเราทำได้มีเพียงออกไปฆ่าพวกสัตว์ประหลาดที่โผล่ออกมาเป็นเห็ด

 

นี่เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่เขาหายไป

 

ครั้งแรกคือตอนสู้กับพวกเอเลี่ยนชุดแรกและเสียความทรงจำ ครั้งที่สองคือหลังฟื้นฟูความทรงจำมาได้บางส่วน แต่ครั้งนี้มันต่างออกไปจากก่อนหน้า

 

10 วันที่ผ่านมามันเหมือนกับอยู่ในนรก ฉันพยายามทนใช้ชีวิตโดยแบกรับความรู้สึกที่ขมขื่นเอาไว้ในใจที่แทบจะล้นออกมาทุกที

 

 

 

「สรุปก็คือคัตสึมิคุงถูกส่งไปต่างโลก อย่างที่คิดเอาไว้ถ้านายถูกส่งไปต่างโลกถึงเป็นฉันก็ต้องยอมแพ้แหละน้า ฮ่าๆๆๆ」

 

 

คิราระ อาโออิ คอสโม่จังได้ถูกเรียกมาที่ห้องของประธาน ซึ่งกำลังพูดเรื่องไร้สาระพร้อมกับหัวเราะ

 

ใกล้ๆ เขาก็มีคัตสึมิคุงที่โปรโตกับชิโระเกาะอยู่บนไหล่ทั้งสองข้าง จากสีหน้าของเขาแล้ว ท่าทางสิ่งที่ประธานพูดจะไม่ใช่เรื่องไร้สาระแล้วสิ

 

 

 

「ว่าแต่ทำไมถึงมีแค่นี้ล่ะ อัลฟ่ากับฮาคัวไปไหนซะล่ะ?」

 

「อ้อ เพราะตอนที่คัตสึมิคุงหายตัวไปพวกเธออาการค่อนข้างหนักเลยน่ะก็เลยให้พวกเธอพักผ่อน ส่วนยัยพวกที่อยู่ที่นี่คืออึดถึกทน หน้าหนาดังนั้นจะเรียกมาคงไม่เป็นไร」

 

「ก็จริงว่าไม่ได้อ่อนไหวขนาดนั้น แต่ฉันก็ไม่ได้หน้าหนานะยะ!!」

 

「ฉันก็เป็นกังวลมากเถอะ」

 

 

「หึ!! ดูเหมือนนักล่าสัตว์ประหลาดกับมาสคอตซึนเดเระแห่งร้านกาแฟจะพูดจาอะไรไร้สาระแฮะ!!」

 

 

ประธานเย้ยฉันกับคอสโม่จังที่พูดประท้วง

 

คัตสึมิคุงที่นั่งอยู่ข้างประธานก็เอียงหัวสงสัยกับคำพูดของเขา

 

 

 

「มาสคอตซึนเดเระแห่งร้านกาแฟ?ใครน่ะ?」

 

「ฉันกำลังพูดถึงกรีนอยู่น่ะ ตอนนายหายไป ยัยนี่พยายามอย่างหนักที่ร้านกาแฟของชินโดซังเพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปอย่างนายสุดๆ เลย พอรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นมาสคอตประจำร้านไปซะแล้วน่ะ」

 

「อึก!?ในเป็นมาสคอตกันยะ!! โฮมุระ ไอ้หมอนี่มันกำลังโกหกอยู่นะ!! ใครมันจะไปพยายามทำงานในร้านกาแฟสุดน่าเบื่อนั่นเพื่อนายกัน!! คงไม่ได้คิดจะเชื่อหรอกใช่ไหม?!」

 

 

คอสโม่จังรัวคำพูดและเสียงก็ดังสุดๆ

 

พอเห็นแบบนี้ประธานก็เลยงัดท่าไม้ตายออกมาแล้วฉายภาพขึ้นจอ

 

 

 

「ไอ้นี่คือวิดีโอสั้นที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ร้านเซอไซนัสที่ชินโดซังขอให้ฉันทำขึ้นเพื่อโปรโมทร้าน….」

 

「ยะ อย่าบอกนะว่า…?ฮะ โฮ้ย?!โฮมุระ อย่าดูเชียวนะ!!!」

 

「หือ? อะไรน่ะ? เอ๋?」

 

 

คอสโม่จังรีบวิ่งเข้ามาหาประธานและพยายามเอาตัวเข้าบังจอที่ฉายวิดีโอนั้น ทว่ามันก็สายไปแล้ว

 

 

>ฝากกดติดตามและแวะมาอุดหนุนที่ร้านด้วยนะ<

 

『ร้านกาแฟเซอไซนัสค่ะ!』

 

 

『คุณลูกค้ามาแล้วค่าาาาา!』

 

 

『พวกเรากำลังรออยู่เลยค่ะ!』

 

 

『ฉันเองก็ต้องพยายามแทนส่วนของเพื่อนสิคะ♪』

 

 

 

 

『คิวรูรูน!!』

 

「ม่ายยยยยยยยยยยยยยยย!!? 」

 

 

 

「เห นี่คอสโม่จังเหรอ?น่ารักจังเลย」

 

「ทอมบอยซึนเดเระในชุดเมด….?!พ พลังทำลายล้างจะสูงเกินไปแล้ว?!」

 

「แก็บโมเอะสุดๆ แต่ก็เข้ากับเธอดีนะ」

 

 

พวกเราเองก็ประหลาดใจกับสิ่งที่เห็นในวิดีโอสุดๆ จากนั้นก็มองคอสโม่จังในห้องกับในวิดีโอสลับไปมา

 

คอสโม่จังที่พยายามยืนบังอยู่ก็เหมือนจะหน้าแดงแล้วร้องไห้ออกมา ก่อนจะมองไปยังคัตสึมิคุงที่ยังนั่งเงียบและมองสิ่งที่อยู่ในจอด้วยสีหน้าจริงจัง

 

 

 

「ตะตะตะตะตะ แต่ว่าที่ฉันทำไม่ใช่เพื่อนายหรอกนะ อย่าได้เข้าใจผิดไปเชียวล่ะ!!」

 

 

「หึ้ม ถึงฉันจะตามกระแสไม่ค่อยทัน แต่ไอ้นั่นใช่ไหมล่ะคาแร็กเตอร์แนวซึนเดเระ?อาโออิเป็นคนสอนฉันมาน่ะ」

 

「จะบ้าหรือไง……!! แล้วไงถึงไปเรียนรู้เรื่องไม่จำเป็นแบบนี้มาด้วยเล่า……!? 」

 

 

อาโออิที่นั่งอยู่ยกนิ้วโป้งให้กับคัตสึมิคุงด้วยความพึงพอใจ

 

หลังจากนี้คงต้องเอาไปบอกฮารุจังสักหน่อย ว่าอาโออิแพร่เชื้อไม่ดีใส่คัตสึมิคุง

 

 

 

「เธอเองคงพยายามหนักมากเลยสินะ….เพราะว่า…คิวรูรูน นั่นมันสมบูรณ์แบบสุดๆ」

 

「อย่ามาพูดเรื่องแบบนี้ด้วยสีหน้าจริงจังสิยะ!! โอ้ยยยยยย จบแล้วชีวิตฉัน……」

 

 

คอมโม่จังทรุดตัวลงกับพื้นเมื่อเห็นคัตสึมิคึงยกนิ้วโป้งให้ด้วยความชื่นชม

 

…อึก อยากจะถูกชมแบบนั้นบ้างจัง

 

ฉันรู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางของคัตสึมิคุง

 

 

「บางทีฉันน่าจะไปช่วยงานที่ร้านด้วยดีไหมนะ」

 

「เอาแม่ครัวหรือบอดี้การ์ดร้านดีล่ะ? 」

 

「มันก็มีตำแหน่งพนักงานบริการลูกค้าไหม?จะหาเรื่องกันสินะ? 」

 

 

จะให้ไปจับของมีคมกับใช้ความรุนแรงอย่างเดียวเลยหรือไงยะ?

 

อย่างน้อยฉันก็น่าจะพอบริการลูกค้าไหวและถึงจะไม่มีประสบการณ์เลยก็เถอะ

 

 

「อย่านอกเรื่องสิยัยพวกนี้」

 

「นายเป็นคนแรกเลยเหอะย่ะ」

 

「สรุปง่ายๆ ก็คือคัตสึมิคุงถูกส่งไปต่างโลกพร้อมกับลำดับ 10 และฮิลด้า ด้วยพลังของลำดับที่สอง ก่อนจะถูกส่งกลับมาภายหลัง」

 

「พอได้ยินแบบนี้ก็แอบสงสัยเหมือนกันว่าโลกนั้นเป็นยังไง」

 

 

เขาพูดออกมาอย่างสบายๆ แต่การถูกส่งไปต่างโลกไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย

 

 

มันไม่มีทางจะเหมือนโลกของพวกเราได้ทั้งหมดและหากพิจารณาจากท่าทางของคัตสึมิคุงแล้ว เขาคงไปเจอการต่อสู้ที่หินสุดๆ มาแน่นอน

 

「เอ่อมันค่อนข้างพูดยากนะ……」

 

 

 

?มันพูดยากขนาดนั้นเลยเหรอ?

 

ในขณะที่ฉันสงสัยความผิดปกติจากประธาน เขาก็เปลี่ยนภาพบนจอให้ฉันดู

 

สิ่งที่สะท้อนจากจอคือเมืองที่พังทลายจนไม่เหลือชิ้นดี

 

แถมยังเป็นสถานที่ที่พวกเรารู้จักอีกต่างหาก

 

 

 

「โลกที่เขาถูกส่งไปคือต่างโลกในเวอร์ชั่น What IF สัตว์ประหลาดครองโลกได้」

 

「「「อึก」」」

 

「ถ้าให้พูดอีกอย่างก็คือเส้นเวลาที่คัตสึมิ โฮมุระเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตก」

 

 

….หากไม่ใช่คัตสึมิคุง ก็จะไม่มีใครสามารถใช้งานโปรโตเซโร่ออกไปสู้กับสัตว์ประหลาดได้

 

และมันก็หมายความว่ามนุษยชาติต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดโดยไม่มีทางต่อต้านได้

 

 

 

คัตสึมิคุงที่ถูกส่งไปโลกนั้นทำการต่อสู้กับพวกสัตว์ประหลาดที่เคยโค่นไปแล้ว

 

จากนั้นภาพก็ตัดมาเป็นภาพของสูทขับเคลื่อนขนาดใหญ่ที่กำลังต่อสู้กับสัตว์ประหลาดและภาพของเด็กสาว 3 คนที่มีใบหน้าเหมือนกับพวกเรา

 

 

 

「เอ๋ ฉันเหรอ? 」

 

「ไม่จริงน่า แม้แต่จักรวาลอื่นก็……」

 

「ละอ่อนน้อย……? 」

 

「พวกเธอคืออากาเนะ อาโออิ คิราระในอีกโลกน่ะ ฉันร่วมมือกับพวกเธอในการจัดการพวกสัตว์ประหลาดจนในที่สุดพวกเราก็เอาชนะได้สำเร็จ」

 

 

คัตสึมิอธิบายให้พวกเราที่ประหลาดใจสุดๆ ฟัง

 

「ในโลกที่ฉันไป แทบจะไม่เหลือมนุษย์หลงเหลืออยู่บนโลก ถ้าจะให้พูดคนที่ฉันเจอก็มีเพียงคนในกลุ่มต่อต้านที่มีเรมะเป็นผู้นำกลุ่ม พวกเธอในโลกนั้นสูญเสียครอบครัวไปจนหมด….เรียกว่าเป็นโลกที่ปลายทางเหลือเพียงความสิ้นหวังเลยก็ได้」

 

「……」

 

 

พวกเรมไม่เคยคิดมาก่อนเลย แต่ถ้าโลกนี้ไม่มีคัตสึมิคุงเรื่องแบบนั้นก็คงเกิดขึ้นได้จริง

 

 

「และโลกนั้นฉันได้ถูกส่งไปพร้อมกับฮิลด้าแล้วก็เร็กซ์ ซึ่งเป็นลำดับที่ 10….ไม่สิ ต้องบอกว่าถูกส่งไปพร้อมกับอากาเนะจากอีกโลกน่ะ」

 

「……。ดะดะดะดะดะะ……เดี๋ยว ฉันเหรอ!? 」

 

「ฉันรู้ว่ามันอาจจะเชื่อได้ยาก แต่นั่นเรื่องจริง」

 

 

เอ๋?!ทั้งฉันที่อยู่ต่างโลก แล้วก็ตัวฉันที่เป็นลำดับที่ 10 จะเยอะไปไหม?!

 

แย่แล้วสิ หัวสมองเหมือนจะเริ่มประมวลข้อมูลไม่ไหวแล้ว นี่มันยังไงกันแน่เนี้ย?!

 

 

 

「เร็กซ์คืออากาเนะจากโลกที่มีชะตากรรมเดียวกับโลกที่ฉันถูกส่งไปน่ะ และการที่เธอมายังโลกของพวกเราได้ก็เป็นเพราะพลังของลำดับที่ 2 ซึ่งก็คือคนที่ปรากฏตัวขึ้นมาสู้กับเธอตอนนั้นนั่นแหละ」

 

「ก็ว่าอยู่ทำไมสไตล์การต่อสู้ถึงได้คล้ายกันนัก」

 

「ดูเหมือนว่าเธออยากจะทุ่มสุดตัวใส่พวกเราเพื่อให้พวกเราจัดการเธอน่ะ หากเป็นอากาเนะก็คงต้องงั้นแหละเนอะ」

 

「ถึงมันจะเป็นตัวฉันอีกโลกก็เถอะ แต่มั่นใจเกินไปไหม?!」

 

 

ถึงจะเป็นศัตรูแต่นั่นก็คือฉันนะ

 

ทว่าแค่นี้ก็มั่นใจแล้ว

 

หากนั่นคือตัวฉันในอีกโลกที่ต้องเผชิญชะตากรรมแบบนั้น ก็คงอยากตายสุดๆ แหง

 

เพราะฉันคงทำไม่ต่างกัน

 

 

 

「รอเดี๋ยว」

 

「อาโออิ? 」

 

 

พอเล่ามาถึงจุดนี้ อาโออิก็ส่งเสียงทักขึ้น

 

 

「ที่บอกว่าเผชิญชะตากรรมเดียวกันหมายความว่าในตอนจบของโลกนั้น อากาเนะเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวเหรอ? 」

 

「……อ้า」

 

 

เพราะไม่หลงเหลือใครอยู่แล้วและสูญสิ้นทุกสิ่ง ฉันจึงตัดสินใจกลับมาที่โลกนี้เพื่อตายสินะ

 

ความรู้สึกแห่งการสูญเสียที่ฉันจินตนาการไม่ออกและความรู้สึกทุกข์ทรมานที่รอดชีวิตเพียงคนเดียวมันจะขนาดไหนกันนะ

 

 

「อย่างไรก็ตามด้วยความพ่ายแพ้ของโอเมก้าและหัวหน้าของพวกเอเลี่ยน ชะตากรรมก็เลยเปลี่ยนไปน่ะ….มนุษยชาติถูกยืดเวลาในการสูญสิ้นไปได้อีกพักหนึ่ง นอกจากนี้เรมะอีกโลกก็เหมือนจะมีแผนทำอะไรสักอย่างแล้วด้วย」

 

「ก็ฉันมันอัจฉริยะนี่นา ถึงจะต่างโลกก็ไม่เปลี่ยนหรอก」

 

 

ประธานตอบสนองต่อคำพูดของคัตสึมิคุงด้วยความมั่นใจ

 

ก็นะ เขาคงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดมาจากคัตสึมิคุงก่อนพวกเราแล้ว

 

 

 

「….ถ้าจะให้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดในโลกคู่ขนานจะมีเวลาเท่าไหร่ก็คงไม่พอ ดังนั้นฉันจะส่งข้อมูลที่บันทึกไว้ให้พวกเธอดูทีหลังแล้วกัน」

 

「เยอะจนบอกไม่หมดเลยเหรอ……? 」

 

「ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรในการเรียบเรียงอีกนี่นะ ตลอดเวลา 10 วันที่เขาเผชิญมันโหดสุดๆ เลยแหละ」

 

 

คงต้องไปตรวจสอบกันเอาเองสินะ

 

มีหลายเรื่องที่ฉันอยากรู้อยู่หรอก แต่สำคัญที่สุดก็คือตัวฉันในโลกนั้นนี่แหละ

 

ดูเหมือนจะอายุน้อยกว่าฉันตอนนี้ด้วย

 

 

 

「เอาละ เรื่องต่อไป คือข้อมูลเพิ่มเติมที่คัตสึมิคุงนำติดมือมาด้วย」

 

「นายไปเอามาได้แล้วเหรอ? 」

 

「อ้า AI ที่คัตสึมิคุงขอให้ไปเก็บกู้มา หรือก็คือAIที่เร็กซ์ อากาเนะ อาราซากะอีกโลกใช้งานอยู่」

 

「AIพิเศษ? 」

 

 

ประธานอธิบายให้พวกเราที่สงสัยฟัง ดูเหมือนว่ามันจะเป็นAIที่บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับโลกที่สูญสิ้นของตัวฉันอีกโลกไว้

 

 

 

「จะเอามันไปคืนเธอเหรอ? 」

 

「หือ?ไม่จำเป็นหรอกตัวฉันอีกคนเอาคืนให้เธอไปแล้ว อันนี้แค่จะเอามาแนะนำให้พวกเธอรู้จักน่ะ」

 

「「「เอ๋? 」」」

 

「GRD แนะนำตัวได้」

 

『รับทราบ』

 

 

หลังจากนั้นเสียงจากอุปกรณ์บางอย่างก็ส่งเสียงที่เหมือนกับประธานออกมา

 

 

『ฉันคือ AI ที่สร้างขึ้นมาโดยมีเรมะ คาเนะซากิเป็นต้นแบบ GRD สมองเทียมที่รวบรวมข้อมูลและมรดกของดาวโลกที่ล่มสลาย』

 

「มีไอ้บ้าเพิ่มมาอีกตัวสินะ……!? 」

 

『อย่าได้เอาฉันไปรวมกับต้นแบบ ฉันมีสามัญสำนึกกว่ามันเยอะ』

 

 

AI ที่ชื่อGRD บ่นออกมาทันที หลังคอสโม่จังพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แหยงสุดๆ

 

ตะ แต่พอฟังเสียงที่เหมือนกับประธานแล้วมันก็แอบรู้สึกแปลกๆ นะ

 

 

 

「อันที่จริงตอนฉันกำลังค้นหามัน มันก็ส่งสัญญาณมาก่อนด้วยซ้ำ」

 

『เป้าหมายหลักคือฉันคือการสนับสนุนสิ่งมีชีวิตบนดาวโลก จนถึงตอนนี้ฉันได้ทำการช่วยเหลืออากาเนะ อาราซากะซึ่งเป็นมนุษย์ที่เหลือรอดคนสุดท้ายของดาวโลกเธอจึงเป็นเป้าหมายหลักในการช่วยเหลือ ทว่าตอนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้วเมื่อเธอตัดสินใจจะปกป้องโลกใบนี้ ฉันก็จะทำตามที่เธอต้องการ』

 

「….เป็น AI ที่พูดเก่งชะมัด นี่มันได้ฉันเป็นต้นแบบจริงเหรอเนี้ย」

 

ไม่หรอก เหมือนกันอย่างกับแกะเลยแหละ

 

แต่มันก็แอบรู้สึกแปลกจริงๆ นั่นแหละที่ต้องเอาคนที่เคยเป็นศัตรูกันเข้ามาเป็นพวก

 

 

เหมือนกับตอนได้คอสโม่จังมาเป็นพวกเลย

 

 

「ก็อย่างที่ว่าไป แต่ฉันคงไม่สามารถเชื่อใจเจ้านี้ได้ในทันที ดังนั้นฉันจะปล่อยให้มันอยู่ภายใต้การดูแลของทาเรียไปก่อน」

 

『หุหุ ไว้ใจได้เลยค่ะ』

 

『อึก นี่แก……』

 

 

พอGRDได้ยินเสียงทาเรียซึ่งเป็นแกนพลังงานของสูทประธานซึ่งทำหน้าที่ดูแลสำนักงานใหญ่ก็ส่งเสียงร้องอย่างขมขื่นออกมา

 

ด้วยเหตุผลบางอย่างเหมือนทาเรียจะคึกแปลกๆ ด้วย

 

 

『จะเรียกฉันว่าคุณแม่ก็ได้นะคะ GRD』

 

『ฉันจะเรียกแกว่าแม่ทำไมไม่ทราบ แกไม่ใช่แม่ของฉันด้วยซ้ำเพราะฉันเป็นเพียงสมองกลที่ไร้ซึ่งร่างกาย แนวคิดเรื่องครอบครัวจึงไม่มีอยู่』

 

『ครอบครัวมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกกำหนดขึ้นมาโดยต้องมีร่างกายอะไรเสียหน่อย ยังไงเธอก็เป็นลูกที่มาสเตอร์สร้างขึ้น หรือก็คือเธอเป็นลูกชายของฉันที่เป็นภรรยาของเขายังไงล่ะ』

 

『ตามอายุของมนุษย์ฉันอายุเกิน 100 ปีแล้วเถอะ จะให้มาเป็นลูกชายได้ยังไงกันเห้ย』

 

『……100 ปีเองเหรอ น่ารักจริงๆ♪』

 

『เรมะ คาเนะซากิ!! ทำอะไรกับหัวของยัยนี่ทีสิ!!!』

 

 

พอมาถึงจุดนี้เสียงสังเคราะห์ของGRD ก็ได้ส่งขอความช่วยเหลือไปยังประธาน

 

ประธานที่เห็นแบบนั้นก็เมินเฉยแล้วมองไปทางอื่น

 

 

「เอาล่ะ ทาเรีย ที่เหลือฝากด้วย」

 

『เรมะ คาเนะซากิ?!นี่แกคิดจะให้ฉันเป็นตัวตายตัวแทนเหรอฟะ?!』

 

 

『เอาล่ะ ไปกันเถอะลูกชายของฉัน』

 

『ก็บอกว่าไม่ใช่ไง!?อะไรกันนนนน!?ม่ายยยยย!? 』

 

 

 

「เสียงตัดไปซะแล้วสิ……」

 

「ก็คงแบบนั้นแหละ……」

 

 

เสียงของGRDได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

ในขณะที่ฉันกำลังไว้อาลัยโปรโตหมาป่าสีดำซึ่งอยู่บนไหล่ของคัตสึมิคุงก็ส่ายหน้าไปมา

 

 

 

『ทาเรียนี่ออกจะสุดไปจริงๆ นั่นแหละ』

 

『โฮก』

 

『โฮ่ก』

 

 

ชิโระกับเลโอที่อยู่บนไหล่ของคอสโม่จังก็พยักหน้าให้ ไม่หรอกพวกเธอก็ไม่ต่างกับทาเรียเลยสักนิด

 

 

「เรมะ」

 

「อ้า เรื่องต่อไปที่จะบอกก็ไม่เชิงว่าเป็นเรื่องที่ต้องกังวลอะไรนัก」

 

「แล้วมันอะไรล่ะ? 」

 

 

เรื่องที่ไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลเหรอ

 

จากนั้นภาพวิดีโอก็เปลี่ยนไป เป็นร่างของเอเลี่ยนที่สวมสูมสีเหลืองแสนคุ้นตา

 

เซ็นไตอวกาศที่สวมสูทคล้ายกับพวกเรา ซึ่งมีบาเรียที่ทรงพลังและใช้อาวุธเป็นปืน

 

 

「นั่นมัน…มอทัลเยลโล่นี่นา?ทำไมถึงมาอยู่ในเรื่องที่จะคุยได้ล่ะ? 」

 

「เธอคือเพื่อนของฮิลด้าน่ะ」

 

「……แบบนี้นี่เอง」

 

ตอนนี้ฮิลด้าได้กลายมาเป็นพวกของเราแล้ว แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่ามอทัลเยลโล่ที่เป็นพวกของเธอจะมาร่วมมือกับเราด้วยสินะ?

 

 

 

「อันที่จริงในฐานะคนที่เคยสู้กับเธอ ฉันว่าเธอก็ไม่เป็นภัยที่น่ากังวลจริงนั่นแหละ」

 

「หืม? 」

 

「ไม่ได้หมายถึงในแง่ของพลังนะ แต่เธอไม่ได้มีจิตอาฆาตหรืออะไรเหมือนกับที่พวกเซไคเซ็นไตคนอื่นส่งออกมาเลย……」

 

 

มันแตกต่างตรงที่เธอน่าจะไม่ได้อยากต่อสู้ด้วยความเต็มใจ

 

ตอนที่ฉันเผชิญหน้ากับเธอ ฉันรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังและสมเพชตัวเองจากตัวเธอซึ่งไม่เหมือนกับเอเลี่ยนคนอื่นที่เคยเจอ

 

 

「อันนี้เป็นสิ่งที่ฉันได้ยินมาจากฮิลด้านะ ถึงจะไม่เยอะเท่าไหร่ก็เถอะ」

 

「ไหงงั้นล่ะ? 」

 

「บางทีฮิลด้าอาจจะไม่อยากทำอะไรอย่างการขายเพื่อนของเธอละมั้ง เอาเป็นว่าข้อมูลที่เธอให้มาตอนนี้ก็มีเพียง มอทัลเยลโล่ได้อยู่บนยานรูปดาบที่พวกเราเคยเห็นกับพี่ชายของเธอที่กลายเป็นผักน่ะ」

 

「กลายเป็นผัก……? 」

 

「อ้าก็ประมาณนั้น」

 

 

 

……มอทัลบลู

 

หมอนั่นคงจะเป็นพี่ชายของเยลโล่แน่นอน จากที่เห็นเธอพยายามปกป้องสุดชีวิต

 

ตอนที่ฉันใช้ดาบแทงเขา เธอก็แสดงท่าทีโกรธแค้นสุดๆ เลยด้วยนี่นะ

 

 

「แล้วพี่ชายเธอยังมีหวังรอดไหมคะ? 」

 

「อัตตาของเขาถูกทำลายไปแล้วเนื่องจากการปนเปื้อนของพลังงานจนทำให้อยู่ในสภาพสมองตาย….จากที่ฮิลด้าบอกเดิมทีมอทัลเยลโล่เองก็จะตกลงสู่ความชั่วร้ายไม่ต่างอะไรกับคนที่เหลือ แต่เป็นเพราะมอทัลบลูนี่แหละที่รับเอาทั้งหมดไว้แทน จิตใจของเขาก็เลยแตกสลายกว่าพวกน่ะ」

 

「……」

 

 

ก็แปลว่าในอดีตพวกมอทัลเรดเองก็คงต่อสู้เพื่อปกป้องอะไรบางอย่างเหมือนกับพวกเรา

 

แต่สุดท้ายพวกเขาก็ตกลงสู่ความชั่วร้าย

 

 

「แล้วคิดจะทำยังไงกับเธอเหรอคะ? 」

 

「คงไม่สามารถปล่อยไปได้ ก็จริงว่าเธอคงไม่คิดจะทำอันตรายอะไรพวกเราอีก แต่ความเป็นไปได้ที่เธอจะถูกกองกำลังอื่นเข้ามาแทรกแซงก็ไม่ใช่ศูนย์ดังนั้นให้เธออยู่ในสายตาของเรา———หรือไปเป็นไปก็ขอความร่วมมือให้มาอยู่ด้วยกันจะดีกว่า」

 

「ขอความร่วมมือ……」

 

「เรื่องนี้มันเกี่ยวกับคาเสะอุระซังด้วยน่ะ พลังงานแห่งดวงดาราคือสิ่งที่ฉันไม่รู้จักเลยสักนิด หากเป็นมอทัลเยลโล่น่าจะมีข้อมูลส่วนนี้มากกว่าฉัน」

 

 

ก็แปลว่าพวกเราต้องหาทางทำอะไรสักอย่างกับเธอสินะ

 

ฉันได้ยินมาจากคัตสึมิคุงแล้วว่าอาการของเธอสงบลง แต่หากจะให้เธออยู่แต่ในห้องนั้นตลอดไปมันก็น่าสงสารแย่

 

 

「ก่อนอื่นฉันจะให้ฮิลด้าส่งข้อความไปหาเธอว่าจะให้ความร่วมมือกับเราดีๆ หรือจะต้องใช้กำลังคุมตัวมา….จากมุมอีกฝ่ายมันอาจจะดูไม่สมเหตุผล แต่เราสามารถใช้ข้ออ้างว่าเธอเป็นฝ่ายรุกรานโลกก่อนได้แหละ」

 

สิ่งที่เรียกว่าพลังงานแห่งดวงดารายังคงเป็นปริศนา

 

แม้เราจะสามารถจัดการกับมอทัลเยลโล่ลงได้ แต่พวกเราก็ยังต้องระวังตัวตนลึกลับที่อยู่เบื้องหลังของพลังนี้อยู่ดี

 

—จบ—

คอมโม่ก็….คอสโม่นี่เนอะ ชีวิตนี้คงเป็นได้แค่ตัวโดน

GRDที่สร้างความทุกข์ให้กับเร็กซ์มาเป็นร้อยปี เป็นฝ่ายโดนบ้างแล้ว แผนต่อไปจับมอทัลเยลโล่เข้าพวกสิน้า

ส่วนที่เรมะให้พวกสาวไปดูข้อมูลกันเองเพราะรอคอนเทนต์เผากันเองแหง

 

   มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ  และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

 

 

 

 

 

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

Score 10
Status: Completed
คัตสึมิ โฮมุระ วายร้ายที่รู้จักกันในนาม อัศวินดำ ชายผู้คิดว่าตัวเองคือวายร้ายแสนโฉดชั่ว เมื่อพ่ายแพ้ให้กับฝั่งฮีโร่เขาก็ถูกจับตัวไป ทว่าสิ่งที่รอเขาอยู่กลับไม่ใช่คุกหรือพวกตำรวจ แต่กลับเป็นขุมนรกที่ตัวเขาเกินจะคาดฝันแทนซะอย่างงั้น โลกที่ขบวนการเซ็นไตมีอยู่จริง เรื่องราวของอัศวินดำจอมวายร้ายที่มีสามัญสำนึกผิดแปกและถูกคนธรรมดาเข้าใจผิดมาโดยเสมอ บัดนี้เขากำลังจะถูกลากเข้าขบวนการเซ็นไตเสียแล้ว ※ผลงานชิ้นนี้กาวล้วนๆไม่มีเกลือผสม

Options

not work with dark mode
Reset