ครอบครัวของฉันก็เป็นครอบครัวปกติ
พ่อทำงานเป็นหมอที่โรงพยาบาล แม่ก็เป็นแม่บ้าน
ฉันเป็นลูกคนเดียวไม่มีพี่น้อง
ก็จริงว่าการมีพ่อเป็นหมออาจจะดูพิเศษ แต่ตอนที่เขาอยู่บ้านเขาก็ไม่ต่างอะไรกับพ่อธรรมดาคนหนึ่งฉันจึงไม่ได้คิดอะไรมาก
ทว่าครอบครัวที่ธรรมดาของฉันกลับต้องมาเผชิญกับความวุ่นวายที่ฉันนำมาด้วยโดยไม่มีการบอกกล่าวกันก่อน
「ฮะ ไฮรุพาเด็กผู้ชายเข้าบ้าน!?」
「นะ นี่มันอะไรกัน!?」
「เดี๋ยวเถอะ! ไม่ว่าจะอะไรแต่ไม่ใช่แบบที่คิดแน่นอน!」
บ้านของฉันอยู่ในเขตย่านอาศัยทั่วไป
ฉันพาเขาเข้ามาทางประตูบ้านปกติ ก่อนจะต้องมาเผชิญกับเรื่องที่ชวนปวดหัว
พ่อแม่ของฉันที่กังวลว่าทำไมฉันถึงกลับมาบ้านช้านักทั้งที่แค่ออกไปซื้อของได้มานั่งรอฉันที่ห้องนั่งเล่น แล้วก็ต้องตกใจเพราะฉันได้พาโฮมุระคุงเข้ามาด้วย แน่นอนว่ามันไม่ใช่ภาพที่พวกเขาเคยเห็นมาก่อน
「……!!?」
สิ่งที่ติดตาฉันมากที่สุดก็คงจะเป็นภาพของโฮมุระคุงที่ตาเบิกกว้างทันทีที่เห็นพ่อของฉัน
หลังจากตกอกตกใจอะไรกันเสร็จ พ่อของฉัน โฮมุระคุงกับฉันก็ไปนั่งกันที่โต๊ะเพื่อรอข้าวเย็น
ส่วนที่นั่งเหมือนแม่ของฉันจะเป็นคนจัดการ โดยมีฉันนั่งข้างกับโฮมุระคุงส่วนพ่อของฉันนั่งตรงข้ามโฮมุระคุง ตามด้วยแม่ของฉันข้างๆ
「พ่อแม่ออกไปทำงานก็เลยต้องทำอาหารกินเองสินะ คงลำบากน่าดูเนอะ โฮมุระคุง」
「มะ ไม่หรอกครับ ผมเองก็ชินแล้วด้วย……」
「ว่าแต่เธอมีความสัมพันธ์ยังไงกับไฮรุเหรอ?」
「เขาเป็นคนที่นั่งข้างๆหนูเท่านั้นเอง!」
โฮมุระคุงเหมือนจะตอบแบบขวยเขินนิดหน่อยระหว่างที่แม่กำลังกวนแกงในหม้อแล้วพูดอย่างอารมณ์ดี
「โถ แค่เด็กผู้ชายที่นั่งข้างๆกันสิน้า? โฮมุระคุง ไฮรุบางทีก็เป็นแบบนี้แหละ จากนี้ไปก็ฝากด้วยล่ะ」
「เอ่อ ครับ……」
เดี๋ยวนะ ฉันก็อธิบายชัดแล้วไม่ใช่หรือไงว่าแค่คนนั่งข้างๆ?!
โฮมุระคุงบอกว่าพ่อแม่ไม่ว่างเขาเลยต้องทำข้าวกินเอง แล้วฉันก็ชวนเขามาทานข้าวเย็นด้วยเฉยๆ
ทำไมความตั้งใจของฉันมันผิดเพี้ยนไปหมดเลยล่ะ!
「ขะ ขอโทษด้วยนะ โฮมุระคุง」
「ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่คิดมาก ยังไงพวกท่านก็เป็นพ่อแม่ที่ดีนี่เนอะ」
「ก็ใช่อยู่หรอก……」
พวกเขาใจดีก็จริง แต่บางครั้งก็ใส่ใจกันมากเกินไปจนแอบรำคาญนิดหน่อย
ในระหว่างที่ฉันกำลังคิดนั่นนี่ พ่อที่นั่งเงียบมาจนถึงตอนนี้ก็พูดกับโฮมุระคุง
「โฮมุระคุง」
「ครับ?」
「ถ้าไม่รังเกียขอถามชื่อเต็มของเธออีกครั้งได้ไหม?」
ทำไมกันล่ะ?
ว่าเขาก็ตอบกลับพ่อของฉันไป
「คัตสึมิ โฮมุระ」
「คัตสึมิ โฮมุระ…โฮมุระคุง….」
พ่อดูจะแสดงสีหน้าแปลกๆออกมา
ฉันก็เลยส่งสายตาบอกไปว่าหากทำอะไรแปลกๆ ฉันจะไม่พูดกับเขาหนึ่งสัปดาห์
…แต่ก็น่าแปลก เพราะเป็นครั้งแรกเลยที่พ่อแสดงสีหน้าแบบนี้
จากนั้นโฮมุระคุงก็พูดกับพ่อของฉันต่อ
「……ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ คุณหมอ」
「! เป็นเธอจริงด้วยสินะ ยังไม่ลืมกันจริงๆด้วย」
「ครับ ขอบคุณที่คอยดูแลผมในตอนนั้นจริงๆ」
ไม่ได้เจอกันนาน? ยังไงกัน?
ทั้งแม่และฉันต่างก็เอียงหัวสงสัยกับคำพูดของพวกเขา
「คุณคะ?」
「พ่อรู้จักโฮมุระคุงด้วยเหรอ?」
อาจจะไม่แปลกก็ได้
บางทีโฮมุระคุงน่าจะเคยเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่พ่อทำงานอยู่
พอเห็นฉันกับแม่สงสัย เขาก็ยิ้มออกมาแล้วพูดต่อ
「พ่อเป็นหมอที่ดูแลเขาตอนเขาอยู่ที่โรงพยาบาลน่ะ」
「เอ๋ ตอนไหนเหรอ!? โฮมุระคุง!」
「ก็ประมาณ 8 ปีก่อนน่ะ ตอนนั้นฉันยังอยู่ชั้นประถม」
คะ ความจำดีชะมัด
ตัวฉันในตอนนั้นยังจำอะไรไม่ได้เลยสักนิด
「! คุณคะ ที่บอกว่า 8 ปีก่อน….นั่น….?」
「……อื้อ」
「….แบบนี้นี่เอง เธอคือโฮมุระคุงคนนั้นเองสินะ ได้ยินเรื่องมาจากเขาเยอะเลย」
เอ๋ แม่เองก็รู้เรื่องของโฮมุระคุงเหรอ?!
ทำไมกลายเป็นว่าพ่อกับแม่เหมือนจะรู้จักโฮมุระคุงมากกว่าฉันอีกล่ะ?!
กลายเป็นว่าตอนนี้ฉันเป็นเพียงคนเดียวที่ถูกทิ้งเอาไว้ซะงั้น
「พ่อกับแม่ทำงานกันหนักเลยสินะ」
「คุณหมอ เรื่องพ่อกับแม่ของผม…」
「ฉันรู้อยู่แล้วน่า เธอเป็นคนที่ใส่ใจคนอื่นมากเลยนี่นะ?」
จากนั้นสายตาของพ่อฉันก็หันมาหาฉันอยู่ครู่หนึ่ง
มองฉันทำไมกัน? ฉันถามพร้อมกับเอียงหัวสงสัย แต่เขาก็หันกลับไปพูดกับโฮมุระคุงต่อ
「ว่าแต่….หลังจากนั้นชีวิตเธอเป็นยังไงบ้างเหรอ?」
「……ตอนนี้ก็เรียกว่า มาใช้ชีวิตด้วยตัวเองแล้วมั้งครับ」
「งั้นเหรอ ขอโทษที่ถามอะไรแปลกๆนะ」
พ่อของฉันเงียบไปด้วยสีหน้าปั้นยาก จากนั้นก็เริ่มพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
「วันนี้ก็ตามสบายล่ะ แบบนั้นไฮรุคุงมีความสุขกว่าด้วย」
「เดี๋ยวเถอะคุณพ่อ พูดอะไรเนี่ย!」
ไม่ต้องมาทำท่าแสดงความใส่ใจอะไรเกินจำเป็นเลยสักนิด
แค่นี้ฉันก็อายโฮมุระคุงจะแย่อยู่แล้ว!!
เพราะอยู่ต่อหน้าคัตสึมิคุงฉันก็เลยไม่พยายามแสดงความโกรธอะไรออกมา ระหว่างนั้นแม่ของฉันก็ตักแกงไปให้กับคัตสึมิคุง แถมท่าทางตื่นเต้นของเธอก็เปลี่ยนไปเป็นอ่อนโยนและใจดีสุดๆแทน
「รับไปสิ โฮมุระคุง ฉันใส่ให้เยอะเป็นพิเศษเลยนะ!」
「อะ เอ่อ ขอบคุณครับ……」
「เอ๋ แล้วของหนูล่ะแม่?」
「มีมือก็ไปตักเองสิจ๊ะ」
「ความสองมาตรฐานนี่มันอะไรกัน!?」
ความเท่าเทียมอยู่แห่งหนใด?!
…แต่จะมาทวงอะไรกันเอาตอนนี้ก็ไม่ได้อีก ฉันจึงเดินไปตักเองแต่โดยดี
***
หลังทานอาหารเย็นกันเสร็จก็ได้คุยอะไรกันนิดหน่อย พอเห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้ว โฮมุระคุงก็เหมือนจะขอตัวกลับ
ทางฉันเลยตัดสินใจว่าจะไปส่งเขาประมาณครึ่งทางก่อนเดินกลับบ้านเอง
「เอาเป็นว่าก็ดีใจนะที่เห็นเธอยังสบายดี ว่าแต่พักอยู่แถวนี้เหมือนกันเหรอ?」
「ครับ」
「การที่เราได้เจอกันวันนี้คงเป็นโชคชะตาบางอย่างสินะ จากนี้หากเธอมีปัญหาอะไรก็บอกฉันได้ล่ะ」
「ครับ…ต้องขอขอบพระคุณมากจริงๆ」
จะว่ายังไงดีล่ะ แตกต่างจากที่ฉันคิดสุดๆ
ตอนแรกก็คิดว่าพวกเขาจะพูดหรือทำตัวแปลกๆออกมาเพราะฉันพาผู้ชายเข้าบ้านซะอีก แต่เอาไปเอามาโฮมุระคุงดันเป็นคนไข้ของพ่อฉันเมื่อ 8 ปีก่อน แถมยังจำหน้ากันได้อีกด้วย ก็เลยกลายเป็นคุยกันได้สบายใจกว่าเดิม
「ไฮรุ」
「คะ? เอ่อ โฮมุระคุง รอเดี๋ยวนะ」
ระหว่างที่ฉันกำลังจะออกจากบ้าน พ่อของฉันก็เรียกฉันเอาไว้ก่อน
โฮมุระคุงเดินไปรอหน้าประตูขณะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น พ่อก็พูดกับฉันทิ้งท้าย
「พ่อขอฝากเขาด้วยล่ะ」
「……หนูว่ามันแปลกๆนะ!? มันใช่สิ่งที่คนเป็นพ่อควรพูดกับลูกตัวเองเหรอ!?」
ทำไมฉันเหมือนเป็นแฟนสาวที่เข้ามาจีบเขาแทนแล้วโดนฝากฝังจากพ่อแม่เขาแทนล่ะ?!
มันชักแปลกๆ แต่ว่ากันตามตรงฉันก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรที่ต้องดูแลเขาหรอก
หลังจากพูดคุยเสร็จ ฉันก็เดินไปตามถนนยามค่ำคืนกับโฮมุระคุง
「บ้านของนายอยู่ใกล้ๆนี้เหรอ?」
「อ้า เดินไปประมาณ 20 นาทีก็เถอะ」
「แบบนี้นี่เอง……」
โฮมุระคุง ถือกล่องบรรจุข้าวแกงเอาไว้ข้างในซึ่งแม่ของฉันเป็นคนเตรียมไว้ให้
เพราะฉันบอกไปว่าเขามีน้องสาวอาศัยอยู่ด้วยแม่ฉันก็เลยเตรียมไว้ให้ ถึงแม้เขาจะบอกว่าไม่จำเป็นก็ตาม แอบสงสัยในความสัมพันธ์จริงๆ
เพราะโอกาสที่จะกลายเป็นน้องสะใภ้ฉันก็มีนี่เนอะ
……。
แย่แล้วสิ นี่ฉันติดเชื่อสมองไหลจากเพื่อนสาวคลั่งเกมจีบหนุ่มาแล้วเหรอเนี้ย
「ขอบคุณนะ」
「อะ! อื้อ」
ฉันตกใจนิดหน่อยที่อยู่ดีๆเขาก็พูดขึ้น
แถมจากที่เห็นจังหวะการเดินของเขาเหมือนจะปรับให้เข้ากับฉันด้วยสินะ ใส่ใจกันเสียจริง
「เป็นครอบครัวที่ดีนะ」
「อะ อื้อ ก็ไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้นหรอก คุณพ่อเองก็ทำตัวขี้เกียจตัวเป็นขนตอนอยู่ที่บ้าน แม่ก็ติดละครงอมแงมจะตาย」
「ฮ่าๆๆ」
โฮมุระคุงหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน
พอเห็นแบบนี้หน้าของฉันก็แดงโดยอัตโนมัติ วันนี้ฉันได้เห็นด้านใหม่ๆของเขามาแล้วกี่ครั้งกันนะ
ดีจริงๆที่ชวนเขามาทานข้าวเย็นด้วยกัน
「เอ่อ…ไว้คราวนี้นายจะมาอีกไหม」
「คราวหน้า?」
「ข้าวเย็นน่ะ……」
พอถามแบบนั้นไปเขาก็เกาแก้มก่อนตอบ
「……แบบนั้นมันจะเป็นการรบกวนเธอ…」
「ไม่เป็นไรหรอกน่า คุณพ่อกับแม่ของฉันก็ดูจะต้อนรับนายดีจะตาย」
การได้ใช้เวลาด้วยกันกับนายวันนี้เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ
「มาส่งแค่นี้แล้วกัน」
「เอ๋ แต่ว่า…」
「หากไกลกว่านี้เดี๋ยวขากลับเธออาจจะเป็นอันตรายเอาได้ด้วยสิ」
ฉันไม่คิดว่ามันจะอันตรายเท่าไหร่นะ
ถนนก็ยังมีคนเดินไปมา รถก็ยังวิ่งผ่าน…แต่ในเมือเขาว่างั้นฉันก็คงไม่ขัด
นอกจากนี้ พอคิดถึงเรื่องสัตว์ประหลาดแล้ว ลดความเสี่ยงได้ก็คงดีมั้ง
「งั้นก็ ไว้เจอกัน」
「อื้อ」
ฉันโบกมือให้โฮมุระคุง
จากนั้นก็หันกลับไปยังบ้านของตัวเอง
「……จะตั้งตาคอยรอบหน้านะ」
ถึงวันนี้จะสับสนจนทำตัวอะไรไม่ถูกนัก แต่คราวนี้จะต้องพูดกับโฮมุระคุงให้ดีกว่านี้ได้แน่นอน
หากเป็นไปได้ก็อยากจะรู้เรื่องที่เขาปิดบังฉันเอาไว้ด้วย ไม่รู้ว่าจะมากเกินไปไหมนะ?
ระหว่างทางที่เดินกลับนั้นเอง ฉันก็สัมผัสได้ถึงสายลมลึกลับ
「……หือ?」
มีบางอย่างปรากฏขึ้นตรงหน้าฉัน
บางสิ่งที่เหมือนกับแสงสีฟ้าอ่อนๆ
แสงที่แผ่ไอเย็นออกมา และวูบวาบเหมือนเปลวเพลิง
「นะ นั่นมัน……?」
ผะ ผีงั้นเหรอ?
วิญญาณคนตายทำไมถึงมาโผล่ตรงนี้ได้ล่ะ?
ฉันที่เห็นแบบนั้นก็พยายามจะวิ่งหนี แต่ขาดันไม่ขยับเลยสักนิด
ราวกับร่างถูกบางอย่างมัดเอาไว้ จากนั้นวิญญาณสีน้ำเงินก็หยุดตรงหน้าฉันแล้วจ้องมองร่างของฉันอย่างตั้งใจ
「อึก」
จากนั้นมันก็สลายไปเหมือนกับควัน แล้วปรากฏร่างใหม่ขึ้นมา ร่างที่เดินกะโผลกกะเผลก ร่างนั้นค่อยๆเดินเข้ามาหาฉันอย่างเชื่องช้า
「ยะ อย่าเข้ามานะ……」
「ไฮรุ」
เป็นเสียงของหญิงสาวที่ฉันคิดถึงที่สุด
เมื่อมองดูร่างนั้นให้ดีๆก็พบว่าเป็นใบหน้าที่ฉันคุ้นเคยสุดๆ
「คะ คุณยาย?」
「จ้า นี่ยายเอง ไฮรุ」
คุณยายของฉันตายไปแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน
คนที่คอยเอ็นดูฉันมาตั้งแต่ยังเด็ก คนที่ฉันคิดถึงสุดหัวใจ
ความกลัวได้หายไปทันที ก่อนถูกทดแทนด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย
「คุณยายคะ!!」
ฉันอดใจไม่ไหวแล้ววิ่งเข้าไปกอดคุณยายที่ยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยนไม่ต่างจากอดีต
จะผี วิญญาณอะไรก็ไม่สำคัญแล้ว
แม้ว่าเธอจะกลายเป็นอะไรก็ตาม แต่ในที่สุดคุณยายผู้ใจดีก็กลับมาหาฉันอีกครั้ง
「ทำไมถึงยังเป็นเด็กที่เอาแต่ใจแบบนี้น้า」
「คุณยายมาที่นี่ได้ยังไงกันคะ? ไม่สิ มันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว….」
「ยายน่ะได้ตายไปแล้วก็จริง แต่การที่มาในวันนี้ได้ก็เพราะมีเรื่องอยากจะขอให้ไฮรุจังช่วยน่ะ」
「ขอให้ช่วยเหรอคะ?」
ระ หรือว่าจะเป็นการปลดปล่อยให้ไปสู่สุขคติอะไรงี้หรือเปล่านะ
ถ้าช่วยได้ฉันก็อยากจะช่วยเหมือนกัน แต่ยังไงล่ะ?
「ละ แล้วหนูต้องทำยังไงเหรอคะ?」
「เรื่องมันก็ง่ายๆจ้า ไม่ต้องเป็นห่วงไปนะ หึ———」
คุณยายเริ่มกอดฉันแน่นขึ้น ทันทีที่ฉันรู้สึกอึดอัดแล้วพยายามผละออก มือบางๆของคุณยายก็คว้าคอของฉันเอาไว้
「อึก……อะ……!?」
「ไฮรุเป็นเด็กดีมากเลยนี่เนอะ ทั้งเข้ามาถูหลังให้ยายบ่อยๆ…จนถึงตอนนี้ก็ยังจำได้อยู่เลย」
「คะ คุณยาย……」
「เพราะฉะนั้น・・・・」
ริมฝีปากของคุณยายที่เคยยิ้มอย่างอ่อนโยนได้เปลี่ยนไปเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว
ดวงตาที่หรี่ของเธอก็เบิกกว้างขึ้นเต็มดวง
「ช่วยทำให้ยายมีชีวิตอยู่แทนไฮรุจังนับจากนี้ไปละกัน」
「อั๊คคคค!!?」
ดวงตาที่ขุ่นมัวเหมือนกับโคลน
ในขณะที่ฉันถูกบีบคอเอาไว้ ความกลัวก็แผ่เข้าไปทั่วร่างของฉัน
เหมือนหัวใจกำลังค่อยๆแหลกสลาย
「ยายอยากจะมีชีวิตอยู่ให้นานกว่านี้สักหน่อย หากไฮรุจังเป็นเด็กดี แค่นี้คงยกให้ยายได้ใช่ไหม?」
「อึก……」
นี่มันไม่ใช่ฝัน
ทั้งความกลัวและความเจ็บปวดนี้คือของจริง
มีบางอย่างผิดปกติเกินไปแล้ว
ฉันเริ่มสงสัยว่านี่ใช่ยายของฉันจริงๆหรือเปล่า
「ช่วย ด้ ว ย」
นิ้วที่เย็นเฉียบ เล็บที่จิกเข้ามาในลำคอของฉัน
หายใจไม่ออก ฉันพยายามส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือออกมา แต่มันก็ลำบากเหลือเกิน
คุณแม่
คุณพ่อ
ทั้งที่ควรจะนึกถึงท่านทั้งสองก่อนแท้ๆ แต่ชื่อแรกในหัวของฉันกลับเป็น
「โฮ มุ….ระคุง」
ในขณะที่ฉันกำลังจะหมดสติ วัตถุสีดำก็ได้พุ่งลงมาจากด้านบนก่อนจะพัดสัตว์ประหลาดที่สวมร่างของคุณยายฉันกระเด็นไป
เขาได้ปรากฏตัวออกมาเพื่อปกป้องฉันอีกครั้ง พอเห็นฉันกำลังจะล้มลงกับพื้น เขาก็รีบเข้ามาประคองฉันเอาไว้ทันที
「อัศ…วินดำ?」
「……ฉันขอโทษจริงๆที่มาช่วยเธอช้าไป」
นี่เป็นครั้งที่สองสินะ ที่ได้ยินเสียงของเขาตรงๆแบบนี้
ก็จริงว่าตอนกลางวันก็ได้ยินเสียงของเขาไปแล้ว แต่นั่นมันก็ผ่านจากทีวี….เสียงที่ได้ยินนี้ช่างคุ้ยเคยเหลือเกิน
ทว่าตอนนี้ฉันหมดแรงจนแทบจะพูดอะไรไม่ออกแล้ว
「……แฮกๆ」
「รอเดี๋ยวนะ ฉันจะจัดการมันเอง」
เขาพาฉันไปนั่งพิงอยู่ตรงกำแพงแล้วจ้องมองไปยังสัตว์ประหลาดข้างหลังเขา
แม้จะไม่เห็นใบหน้า แต่สัมผัสได้เลยว่าเขาโกรธสุดๆ
จากนั้นร่างของสัตว์ประหลาดก็เปลี่ยนไปจากร่างคุณย่าของฉันเป็นก้อนควัน
「!」
หมัดของอัศวินดำทะลุผ่านไปเหมือนต่อยความว่างเปล่า
「……การโจมตีไม่ได้ผลงั้นเหรอ?」
『———อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!!?』
「แค่กรีดร้องฉันไม่เข้าใจหรอกนะเว้ย」
ควันได้หมุนวนไปมาตรงหน้าของอัศวินดำ
มันกำลังจะเปลี่ยนร่างเหมือนที่ทำกับฉันหรือเปล่านะ ไม่สิ มันต่างออกไป….ฉันรู้สึกว่ามันยังไม่ได้เอาจริงกับฉันด้วยซ้ำ
จากนั้นควันก็เริ่มเปลี่ยนร่างไปกลายเป็นบางสิ่งที่กำลังนอนอยู่กับพื้น
ฉันได้ยินเสียงเหมือนอะไรกำลังไหลออกมาจากร่างนั้น จนนองมาถึงจุดที่ฉันอยู่ จากนั้นก็มีของเหลวบางอย่างกระเด็นเข้ามาโดนที่แก้มของฉันด้วย
ฉันค่อยๆใช้มือสัมผัสไปตรงแก้ม เพื่อดูว่าสิ่งนั้นคืออะไร ก่อนจะเผลอส่งเสียงร้องออกมา
「กรี๊ดดด」
เลือดสีแดงเข้ม
เลือดสดใหม่ จากร่างของล้มลงต่อหน้าอัศวินดำ
「เจ็บ……เจ็บเหลือเกิน……」
「อะ อึก……อุ」
ร่างของชายหญิงสองคนกำลังนอนจมกองเลือด
เมื่อฉันเห็นชายหญิงทั้งสองกำลังอาเจียนออกมาเป็นเลือด ท้องไส้ของฉันก็รู้สึกปั่นป่วน
ทว่าเมื่อสังเกตดูใบหน้าของพวกเขา มันช่างคล้ายกับชายคนหนึ่งที่ฉันได้พบไปเมื่อไม่นานมานี้สุดๆ
「เจ็บเหลือเกิน…ช่วยด้วย….」
「คัตสึมิ…อึก..นี่แก……」
「พ่อ……? แม่……?」
อัศวินดำพูดออกมาด้วยความสับสน
ชายหญิงทั้งสองส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับเลือดที่สาดกระเซ็น
「ที่พวกเราตายมันก็เป็นเพราะแก!!」
「เป็นเพราะแกพวกเราถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้!!」
「อย่างแกน่ะตายไปซะได้ก็ดี!!」
「ใช่แล้ว!! หากแกหายไปสักคนพวกเราคงจะรอดแล้วแท้ๆ!!」
นี่มันอะไรกัน….
ทางฉันได้เจอกับคุณย่าที่ตายไปแล้ว แต่ทำไมเขาถึงได้เจอกับพ่อแม่ของตัวเองกำลังตำหนิต่อว่าเขากันล่ะ
อัศวินดำเงียบและไม่ตอบอะไรกลับไปแม้จะถูกพูดจาเหยียดหยามใส่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เขายืนนิ่งๆมองร่างชายหญิงทั้งสองกำลังค่อยๆแสดงสีหน้าสุดรังเกียจออกมาเรื่อยๆ
「คำพูดที่ชวนอ้วกพวกนี้ฉันฟังจากพวกเขาในวันนั้นมาพอแล้วเว้ย」
『อะ อึก……』
อัศวินดำเหยียบร่างที่น่ารังเกียจพวกนั้นด้วยเท้าของเขาจนมิดดิน
สัตว์ประหลาดที่ถูกเหยียบไม่ได้หายกลายเป็นควันเหมือนคราวฉัน แต่กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
จบลงอย่างรวดเร็วก็จริง
แต่มันกลับทิ้งรสชาติสุดแย่ไว้ในปากของฉัน
「เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?」
อัศวินดำได้เข้ามาดูอาการของฉันที่นั่งอยู่ติดกำแพง
ทั้งชื่อที่สองร่างนั้นเรียก และน้ำเสียงของเขา…..
「โฮมุระคุง」
「……ขอโทษที่ทำให้เธอมาเห็นอะไรไม่น่าดูนะ โคโนฮานะ」
อัศวินดำ———ไม่สิ โฮมุระคุงได้เผยตัวตนที่แท้จริงของเขาอย่างง่ายดาย
เขาได้อุ้มร่างของฉันไว้ในสองอ้อมแขนก่อนจะพาฉันออกจากที่นี่ไปยังที่ไหนสักแห่ง
「พ่อแม่ของโฮมุระคุง….」
「พวกเขาจากไปแล้ว」
มีหลายสิ่งเหลือเกินที่ฉันอยากจะถามกับเขา
ทว่าพอเห็นท่าทางของเขาที่ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลยกับคำพูดของพ่อแม่แล้ว ฉันก็พูดอะไรไม่ออก
ปกติแล้วการได้เจอกับพ่อแม่ที่ตายจากไปควรจะมีความสุขสิ แต่จากท่าทางของเขาแล้วมัน…..
「พวกเราจะไปไหนกันเหรอ?」
「สถานที่ปลอดภัยน่ะ ไปถึงเดี๋ยวก็รู้」
หลังสิ้นเสียงนั้น เขาก็พาฉันตรงไปยังอพาร์ตเมนต์เก่าหลังหนึ่ง ก่อนจะพุ่งเข้าไปในหน้าต่างของห้องห้องหนึ่ง
「ทีนี่มัน……」
ห้องหนึ่งในอพาร์ตเมนต์เก่าๆ
นี่คือห้องที่เขาอยู่เหรอ?
มันไม่ใช่ห้องที่เหมาะสำหรับเด็กมอปลายคนหนึ่งอยู่เลยสักนิด
ในขณะที่มองไปรอบๆก็มีเสียงคนเปิดประตูมาจากอีกห้องหนึ่งข้างในนั้น
「นี่คัตสึมิ!! คิดยังไงถึงมาทิ้งฉันเอาไว้ที่บ้านคนเดียวแบบนี้ หายหัวไปไหนของนายมากัน?! ไม่รู้เลยหรือไงว่าคนเขาเป็นห่วงแค่ไหน!! เอ้า มารับไปสิ การกอดต้อนรับกลับบ้าน!!」
หญิงสาวที่สวยสุดๆจนแทบไม่อยากเชื่อสายตา
สาวผมสีดำที่ไม่เชื่อว่าจะมีอยู่บนโลกใบนี้ เธอรีบวิ่งเข้ามาหาโฮมุระคุงที่ปลดการแปลงร่างออก แล้วกางแขนทั้งสองข้างขึ้นทันที ทว่าพอเห็นฉันอยู่ในอ้อมแขนของเขาท่าทีของเธอก็เปลี่ยนไป
「อัลฟ่า」
「……คัตสึมิ เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้เหรอ?」
ฉันตกตะลึงกับความสวยของเธอจนทำอะไรไม่ถูก แต่อย่างน้อยก็ดึงสติให้พอทักทายเธอกลับไปได้
「สะ สวัสดีตอนเย็นนะ คุณน้องสาวละมั้ง…..」
「อ้อ คนที่เจอกันที่โรงเรียนนี่นา ว่าแต่ อะไรน่ะ คุณน้องสาวละมั้ง?」
เจอกันที่โรงเรียน?
นั่นเล่นมุกใช่ไหม เพราะฉันไม่คิดว่าตัวเองจะลืมใบหน้าของคนที่สวยขนาดนี้ได้ลงหรอกแม้จะตั้งใจลืมก็ตาม
「เด็กคนนี้ถูกสัตว์ประหลาดเล่นงานมาเหรอ ท่าทางอ่อนแรงสุดๆเลย?」
「สัตว์ประหลาดที่เหมือนวิญญาณน่ะ เธอช่วยทำอะไรหน่อยได้ไหม?」
「……หืม」
เด็กสาวที่ถูกเรียกว่าอัลฟ่าค่อยๆเข้ามาตรวจสอบอาการของฉัน
เธอวางมือบนคางของตัวเองก่อนจะหันไปหาโฮมุระคุง
「หากที่เห็นเหมือนจิตใจของเธอจะถูกเจ้านั่นวางยาเอาไว้นะ อธิบายไม่ถูกเหมือนกันแต่เอาเป็นไปพลังของมันน่าจะไปทำอะไรกับจิตใจของเป้าหมายแหง」
「เธอพอจะช่วยได้ไหม?」
「….บาดแผลทางจิตใจของเธอ หากปล่อยทิ้งเอาไว้เธออาจจะส่งผลแย่ต่อเธอในการใช้ชีวิตก็ได้ ….นั่นสินะ คงต้องลบความทรงจำของเธอที่มีในส่วนนี้ออก น่าจะช่วยได้」
ไม่เอานะ
นั่นคือสิ่งแรกที่โผล่มาในหัวของฉัน
ฉันรู้สึกกลัวก็จริง แต่ฉันไม่อยากจะลืมเลยว่าเขาคืออัศวินดำ…ชายที่ช่วยชีวิตของฉันเอาไว้
「งั้นเหรอ ก็ดี ช่วยลบความทรงจำของเธอเกี่ยวกับเรื่องสัตว์ประหลาดและเปลี่ยนเรื่องของฉันด้วยละกัน」
「หมายถึงความทรงจำของวันนี้ใช่ไหม?」
「ไม่ใช่」
โฮมุระคุงส่ายหน้าแล้ววางฉันลงกับพื้น
「ช่วยลบความทรงจำที่ฉันกับโคโนฮานะมีร่วมกันจนถึงวันนี้ออกให้หมด แน่นอนว่าคนรอบตัวเธอก็ด้วย」
「คัตสึมินั่นมัน……」
「อึก!!?」
นี่นายกำลังพูดอะไรออกมากัน?
ฉันมองไปที่โฮมุระคุง เขาเอามือก่ายหน้าผากตัวเองราวกับกำลังโทษตัวเองอยู่
ลบความทรงจำเหรอ…..
ฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม แต่ฉันไม่ต้องการเลยสักนิด
「……โฮมุระคุงนั่นมัน…」
ฉันพยายามจะขัดขืนแต่เขาก็จับมือของฉันเอาไว้
「เป็นความผิดของฉันเอง」
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
「เป้าหมายของมันคือฉันตั้งแต่แรก คาโนฮานะ เธอน่ะถูกลากเข้ามาเพราะเกี่ยวข้องกับฉัน」
ตัวตนที่แท้จริงของอัศวินดำคือโฮมุระคุง
ความจริงที่ฉันรู้เมื่อกี้นี้….และเพราะสิ่งนั้นเลยทำให้ฉันต้องถูกลบความทรงจำเหรอ
「พวกสัตว์ประหลาดมันไม่ได้ออกมาทำลายข้าวของตามอำเภอใจ…แต่มันมีเป้าหมายคือฉัน」
「……ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่? ยังไงพวกเราก็เป็นเพื่อนกันได้ไม่ใช่หรือไง?」
「ไม่ได้หรอก ฉันจะปล่อยให้เธอตกอยู่ในอันตรายเพราะฉันไม่ได้เด็ดขาด เธอยังมีครอบครัวรออยู่นะ ฉันไม่อยากให้พวกเขามาเกี่ยวข้องกับฉันด้วย」
พอพูดจบเขาก็ปล่อยมือของฉันลง
หญิงสาวได้เดินเข้ามาแทนแล้ววางมือเอาไว้บนหน้าผากของฉัน
「……ขอโทษนะ」
「อึก……ไม่เอานะ ฉันไม่อยากจะลืม……」
「ฉันเข้าใจนะว่าเธอรู้สึกยังไง ว่ากันตามตรง ฉันก็ไม่อยากจะทำแบบนี้หรอก แต่คัตสึมิคุงเสียใจน่าดูหากเกิดอะไรขึ้นกับเธอ」
ฉันไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อดี จะขัดขืนแบบไหน
หญิงสาวที่อยู่กับโฮมุระคุงได้โดยที่รู้ว่าเขาคืออัศวินดำต้องไม่ธรรมดาแน่
「แต่ไม่ต้องห่วงไปฉันไม่ลบความทรงจำเธอหรอก」
「……เอ๋」
ฉันตกใจกับคำพูดของเธอที่มากระซิบข้างหูฉัน
หญิงสาวยิ้มออกมาแล้วกระซิบที่ข้างหูของฉันเพื่อไม่ให้โฮมุระคุงได้ยิน
「ฉันจะผนึกความทรงจำของเธอเอาไว้ เพื่อสักวันหนึ่งหากสัตว์ประหลาดหายไปหมดโลกแล้วและทุกคนรู้ถึงตัวตนของคัตสึมิ…..หากความรู้สึกที่เธอมีอยู่ตอนนี้มันยังไม่เปลี่ยนไป ฉันจะทำให้เธอกลับมาจำเขาได้เอง」
「……」
「อย่าไปบอกคัตสึมิล่ะ」
เธอเอานิ้วชี้วางไว้ตรงริมฝีปากอย่างน่ารักแล้ววางมือเอาไว้บนหัวของฉันต่อ
การมองเห็นของฉันเริ่มพร่ามัว จิตสำนึกของฉันค่อยๆดำดิ่ง
ฉันพยายามอย่างสุดชีวิตโดยการนึกเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ซ้ำไปซ้ำมา
ทว่าจิตของฉันก็ลงไปสู่ห่วงนิทราโดยไม่อาจต้าน ตัวฉัน———
「หืม!?」
พอลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าเป็นห้องของฉันเอง
ดูนาฬิกาตอนนี้เกือบเที่ยงคืน
「เฮ้อ กินข้าวเย็นแล้วก็เผลอหลับไปสินะ?」
ทำตัวขี้เกียจเกินไปเพราะเป็นวันหยุดฤดูร้อนหรือเปล่านะ?
ฉันล้มตัวลงนอนอีกครั้งพร้อมกับถอนหายใจ….พอเห็นโทรศัพท์มันตกอยู่ใกล้ๆก็เลยหยิบมันขึ้นมาดู
「จะว่าไปวันนี้สัตว์ประหลาดก็โผล่มาด้วยนี่เนอะ」
ถึงอัศวินดำจะทำเอาชนะมันมาได้ แต่ความน่ากลัวของมันก็ยังทำให้ฉันสั่นอยู่ดี
ดีใจจริงๆที่คาโอริไม่เป็นอะไร
「…รู้สึกเวียนหัวชะมัด」
เพราะนอนเยอะไปหรือเปล่านะ
ว่าแล้วนิ้วของฉันก็ไปเปิดอัลบั้มรูปในโทรศัพท์ขึ้นมาซะงั้น
「รูปนี้มัน……? ได้ยังไงกัน?」
คนภายในรูปนั้นช่างเป็นชายหนุ่มที่คุ้นหน้าคุ้นตา
「โฮมุระคุง……?」
ฉันรู้สึกประหลาดใจที่นึกชื่อของเขาขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย
ถึงเราจะนั่งข้างกัน แต่พวกเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันนัก ฉันจึงสงสัยว่าทำไมถึงมีรูปของเขาในโทรศัพท์ฉันได้กันนะ
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นฉันกลับไม่ได้รู้สึกแย่อะไรเลยสักนิด
ระหว่างที่กำลังดูรูปของเขาที่นอนหลับอยู่โดยไม่คิดจะลบมันออกจากโทรศัพท์———อยู่ดีๆก็มีหยดน้ำตกลงมาบนหน้าจอโทรศัพท์ของฉัน
「———เอ๋? ทำไมฉันถึงร้องไห้กันล่ะ」
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ฉันรู้สึกเศร้าใจเหลือเกิน
น้ำตามันไหลออกมาไม่หยุด ถึงจะพยายามเช็ดมันสักเท่าไหร่ มันก็ไม่หยุดไหล
「อึก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันนะ…ทำไม..อึก…ทำไมฉันถึง…」
ความรู้สึกที่เหมือนกับว่าลืมบางสิ่งที่แสนสำคัญไป
ถึงแม้จะพยายามนึกก็นึกมันไม่ออก ความเจ็บปวดที่ไม่มีที่มาที่ไป สิ่งเดียวที่ฉันทำได้คือนอนร้องไห้บนเตียงไปทั้งคืน
***
【ผู้คุมผนึกวิญญาณ】
・เป็นอมตะ(ป้องกันการโจมตีทางกายภาพ)
・สามารถแปลงร่างเป็นคนที่ตาไปแล้วได้
・คนที่ถูกพลังของมันโจมตี จะทำให้จิตใจอ่อนแอเหมือนถูกสะกดจิต เพื่อล่อลวงมนุษย์และกลืนกินวิญญาณ
・ด้วยธรรมชาติของมัน การโจมตีทางจิตจะได้ผลที่สุด ในตอนที่มันสู้กับอัศวินดำเหมือนมันจะโดนอดีตของคัตสึมิ โฮมุระโจมตีเข้าจนเกือบสลายไปตั้งแต่แรกแล้ว
แม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้เป็นเพื่อนที่พูดคุยกันเหมือนเดิม แค่คัตสึมิก็คิดมาเสมอว่าไฮรุคือเพื่อนที่สำคัญคนหนึ่งของเขานับตั้งแต่นั้นมา
–จบ–
แปลว่าใกล้จะได้ความจำกลับมาแล้วสิ ตำแหน่งนางเอกน่ะ ฉันพร้อมจะเข้าแย่งชิงแล้ว!!!!
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code