อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต 105.4 โฮมุระคุงโต๊ะข้างๆ 3

ตอนที่ 105.4 โฮมุระคุงโต๊ะข้างๆ 3

 

ฉันเกลียดฤดูร้อน

 

เพราะอากาศมันร้อนสุดๆ

 

จะออกไปข้างนอกก็ไม่ไหวเพราะความรุนแรงของแดดที่ส่องเหนือหัวและศัตรูของผิวพรรณ

 

ก็จริงว่ามันเป็นช่วงที่เหมาะสมสำหรับการไปเที่ยวทะเลด้วย แต่ถ้าฉันไปได้ง่ายขนาดนั้นคงไม่ต้องมานั่งหนักใจหรอก ด้วยพลังกระเป๋าเงินของเด็กมอปลายแล้วเป็นไปไม่ได้เลยจริงๆ

 

 

LINE คาโอริน

           

ไฮรุ : สรุปแล้ว ฤดูร้อนนี้ก็คงได้นั่งหมกอยู่ในห้องแอร์พร้อมกับกินไอติมเท่านั้นแหละมั้ง

 

 

คาโอริ : นี่หล่อนกำลังหาเรื่องฉันที่ต้องทำกิจกรรมชมรมกรีฑาเหรอ? 

(#^ω^)

 

 

วันหยุดฤดูร้อนได้เริ่มต้นขึ้น

 

ในขณะที่ทุกคนกำลังวางแผนทำตามความฝันในวันหยุดยาว ฉันกลายเป็นคนที่ต้องมานั่งตากแอร์ในห้องระหว่างนั้นก็คุยไลน์กับคาโอริเพื่อนของฉัน

 

 

LINE คาโอริน 

 

ไฮรุ : ว่าแต่เธออยู่ไหนแล้วเหรอ

 

คาโอริ : กำลังนั่งรถไฟกลับน่ะ

 

 

จริงสินี่ก็เที่ยงแล้ว กิจกรรมชมรมช่วงเช้าก็น่าจะจบพอดี

 

พวกอยู่ชมรมกีฬานี่แข็งแกร่งกันจังเลยน้อ ฉันคิดระหว่างพิมตอบกลับเธอ ทว่า

 

 

 

LINE คาโอริน 

 

 

คาโอริ : งานเข้าแล้ว สัตว์ประหลาดโผล่มา

 

 

 

 

「ห๊า!?」

 

 

อาการหนาวสั่นเข้าโจมตีฉันทันทีเมื่อเห็นคำว่าสัตว์ประหลาด

 

จากนั้นฉันก็พยายามติดต่อคาโอริทันที ทว่าก็ไม่มีการตอบกลับจากเธอ

 

โทรไปก็ไม่รับ แถมอยู่ดีๆสัญญาณก็หายไปอีก

 

 

 

「หมายความว่าเรื่องใหญ่เลยนี่นา……?」

 

 

หากมีการใช้สัญญาณโทรศัพท์พร้อมกันเป็นจำนวนมากในพื้นที่ จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็ไม่แปลก

 

ว่าแล้วฉันก็รีบลุกออกจากห้องไปยังทีวีที่ห้องนั่งเล่นชั้น 1 

 

พอลงไปก็พบว่าแม่ของฉันได้นั่งดูทีวีอยู่ก่อนแล้ว โดยมีข้อความว่าสัตว์ประหลาดปรากฏตัวเลื่อนอยู่ด้านล่างของจอ

 

 

แจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน สัตว์ประหลาดปรากฏตัว วันนี้เวล 13.18น . สัตว์ประหลาดปรากฏตัวที่ XXXX โตเกียว

 

 

「แม่ของเปลี่ยนช่องหน่อยนะ!」

 

「อะ อื้อ…ได้สิ ว่าแต่สัตว์ประหลาดอีกแล้วเหรอ น่ากลัวจริงๆ」

 

 

หลังแม่อนุญาตฉันก็เปลี่ยนช่องไปเป็นช่องข่าวที่นำเสนอสัตว์ประหลาดจริงจัง ซึ่งมันปรากฏตัวไม่ไกลจากที่ฉันอยู่นัก

 

 

 

『อยู่ดีๆก็มีสัตว์ประหลาดปรากฏตัวขึ้นค่ะ!! โดยตอนนี้มันกำลังลอยอยู่เหนือสถานี xxx และทำการปล่อยคลื่นปริศนาออกมาจากข้างบนนั้น!!』

 

 

ดูเหมือนว่าสัตว์ประหลาดมันกำลังจะทำอะไรสักอย่างอยู่ พวกนักข่าวที่อยู่ข้างล่างก็พยายามนำเสนอกันสุดๆ

 

ร่างของมันอยู่ไกลจากกล้องที่พวกเขาถ่ายก็เลยเห็นไม่ชัดนัก แต่เหมือนว่าส่วนบนของร่างมันจะเป็นสีทอง

 

 

 

「นี่ ไฮรุ ที่นี่มัน….」

 

「ค่ะ สถานีรภไฟฟ้าที่หนูใช้ประจำ….」

 

 

สถานีที่ฉันขึ้นไปโรงเรียน

 

สัตว์ประหลาดมันอยู่ข้างบนนั้นแล้วปล่อยสัญญาณแปลกๆออกมา หากสังเกตให้ดีๆก็จะเห็นว่ามีคนติดอยู่ข้างในนั้นและออกมาไม่ได้เพราะบาเรียล่องหนกันเอาไว้

 

 

『ดูเหมือนว่าประชาชนข้างในสถานีจะติดอยู่ในเขตพลังลึกลับค่ะเลยทำให้ไม่สามารถอพยพออกมาได้!!』

 

「อึก」

 

 

ไม่จริงน่า คาโอริก็ติดอยู่ข้างในเหรอ?!

 

เพื่อนของฉันกำลังติดอยู่ในนั้น

 

แค่คิดถึงความเป็นไปได้นี้ฉันก็กลัวจนขนลุกไปหมด

 

 

「ขอร้องล่ะ!! รับโทรศัพท์ที……!!」

 

 

เครื่องหมายอ่านแล้วในLINEก็ไม่ขึ้น โทรศัพท์ก็ไม่รับ

 

ติดต่อเธอไม่ได้เลย

 

จะทำยังไงดี———

 

 

 

 

『———อ๊ะ อัศวินดำค่ะ! ตอนนี้อัศวินดำได้ตรงเข้าไปยังจุดเกิดเหตุแล้ว!!』

 

「!」

 

 

นักข่าวสาวพูดด้วยความตกใจ

 

น้ำเสียงที่ดูเหมือนเป็นกังวลในตอนแรกเริ่มเปลี่ยนไปเป็นความเชื่อมั่นเพราะคนที่พวกเรารอปรากฏตัวแล้ว อัศวินดำกระโดดลงมายังจุดที่นักข่าวสาวอยู่

 

เขามองดูสัตว์ประหลาดที่อยู่ข้างบนสถานีนั้นก่อนจะถอนหายใจออกมา

 

 

 

 

『เอ่อ อัศวินดำ!!』

 

『หา!?』

 

 

จะชวนเขาคุยจริงดิ?!

 

พอเขาหันกลับมาหานักข่าวสาว เหมือนตากล้องจะถอยกลับออกไปนิดหน่อยเลยแฮะ

 

 

『……แล้ว?』

 

『คือว่าตอนนี้มีคนจำนวนมากกำลังติดอยู่ในสถานีค่ะ!』

 

『……?』

 

 

เขาเอียงหัวสงสัยกับคำอธิบายของนักข่าวสาว

 

 

『คือว่าสัตว์ประหลาดเหมือนจะยังไม่เคลื่อนไหวอะไรเป็นพิเศษนอกเหนือจากการปล่อยคลื่นปริศนา…คือ….』

 

 

แบบนี้นี่เอง เธอแค่ตั้งใจจะบอกสถานการณ์คร่าวๆให้กับอัศวินดำที่กำลังมาถึง

 

จากนั้นอัศวินดำก็เกาหัวนิดหน่อย เหมือนไม่รู้จะต้องตอบยังไงดี

 

ไม่นานนักเขาก็พูดกับนักข่าวสาวสั้นๆเพียงว่า….

 

 

『……、……เข้าใจแล้ว』

 

『ค่ะ』

 

 

ถึงจะเป็นเสียงอันแผ่วเบา แต่ก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ จากนั้นเขาก็พุ่งหายไปในทันที

 

วินาทีต่อมาหลังเขาหายไปจากหน้ากล้อง นักข่าวสาวก็ส่งเสียงดังขึ้นทันที

 

 

『! ทางนั้นๆ!!』

 

 

กล้องรีบเบนไปตามที่นักข่าวสาวชี้

 

ภาพที่แสดงออกมาให้เห็นคือภาพของอัศวินดำกำลังปะทะกับบาเรียที่มองไม่เห็นซึ่งกั้นระหว่างเขากับสัตว์ประหลาด

 

อัศวินดำกระเด็นออกมา ก่อนจะมองหมัดของตัวเองที่ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้

 

『อัศวินดำ』

 

 

 

……!?สัตว์ประหลาดพูดอยู่เหรอ!?

 

สัตว์ประหลาดที่ลอยอยู่สามารถป้องกันการโจมตีของอัศวินดำเอาไว้ได้และพูดขึ้น

 

น้ำเสียงของมันช่างดูน่าขนลุกเพราะมันเหมือนการผสมโทนเสียงของทั้งชายและหญิงเข้าด้วยกันอย่างแปลกประหลาด แม้มันจะอยู่ไกลจากกล้องทีวีแต่น่าแปลกที่เสียงของมันกลับส่งเข้ามาได้

 

 

『นักรบผู้โดดเดี่ยวที่น่าสมเพชเอ๋ย』

 

 

 

『จิตใจของแกมันช่างว่างเปล่า』

 

 

 

『ไร้ซึ่งสิ่งใด』

 

 

 

『ทำไมถึงต้องสังหารพวกพ้องของข้าด้วย』

 

 

สัตว์ประหลาดมองไปยังอัศวินดำและกางมือออก

 

ทางอัศวินดำก็เหมือนจะตะโกนพูดอะไรสักอย่างกลับไป

 

แต่เสียงของเขากลับส่งมาไม่ถึงกล้อง ทว่าสัตว์ประหลาดที่ได้ยินก็แสดงท่าทางตกใจไม่น้อย

 

『นั่นคือคำตอบของแกสินะ』

 

 

 

『งั้นก็ไม่เป็นไร』

 

 

 

『เพราะฉันจะเป็นคนฆ่าแก———』

 

 

ว่าแล้วอัศวินดำก็พุ่งเข้าปะทะกับสัตว์ประหลาดอีกครั้ง

 

เขาใช้หมัดประเคนใส่อีกฝ่ายเหมือนคราวก่อนส่วนผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ต่างจากเดิม

 

 

『เปล่าประโยชน์』

 

 

 

『บาเรียที่ข้าสร้างขึ้นสามารถจิตสังหารที่จะเข้ามาได้ทั้งหมด』

 

 

 

『สุดท้ายแกที่ถูกผูกมัดเอาไว้ด้วยกฎของโลกใบนี้ไม่มีทางจะฝ่าบาเรียของข้ามาได้หรอก』

 

 

 

ทว่าบางอย่างกลับแปลกไป

 

ภาพที่กล้องจับได้คือการที่เริ่มมีรอบแตกปรากฏขึ้นระหว่างสัตว์ประหลาดกับอัศวินดำ

 

จากนั้นเสียงของกระจกที่แตกกระจายก็ดังขึ้น แขนของอัศวินดำได้คว้าเข้าไปที่คอของสัตว์ประหลาด

 

 

 

『อั๊ค』

 

『ฉันจะพูดอีกทีแล้วกัน』

 

 

ตอนนี้เสียงของอัศวินดำ ได้ดังเข้ามาถึงกล้องแล้ว ท่าทางในเขตบาเรียนั่นน่าจะเป็นตัวขยายเสียง

 

 

『แกพล่ามหมดแล้วหรือยัง?』

 

อัศวินดำทำการกระชากร่างของสัตว์ประหลาดออกมาจากเขตบาเรีย

 

 

『อุ อั๊ค!』

 

เมื่อร่างของสัตว์ประหลาดหลุดออกมา อัศวินดำก็ทำการรัวหมัดที่เร็วเกินกว่าตาฉันจะมองทันใส่สัตว์ประหลาด จากนั้นร่างของฉันก็ยับเยินจนไม่เหมือนเก่า

 

ถึงจะไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่ท่าทางการต่อสู้น่าจะใกล้จบแล้ว

 

 

 

『อ๊ากกก ได้ยังไง!!!?』

 

『อย่าคิดว่าแกเป็นคนเดียวที่ทำอะไรก็ได้ตามใจยากสิวะ』

 

 

อัศวินดำปิดท้ายสัตว์ประหลาดที่กำลังพยายามหนีด้วยหมัดขวา

 

 

 

「……ข้า…ผู้นี้…พ่ายแพ้……」

 

 

ร่างของสัตว์ประหลาดจมลงไปในดินก่อนจะแน่นิ่ง จากนั้นอัศวินดำก็กระโดดหายไป

 

ถึงจะไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่แค่เห็นผ่านจอก็อดตื่นเต้นไม่ไหวแล้ว

 

ในระหว่างที่กำลังโล่งใจ โทรศัพท์ของฉันก็สั่น

 

ฉันรีบกดรับสายทันที เพราะรู้ว่าปลายสายคือใคร

 

 

「คาโอริ!!เป็นอะไรหรือเปล่า!?」

 

『ไม่เป็นไร ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะ』

 

「อื้อ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว!!」

 

 

ฉันไม่คิดเลยจริงๆว่าเพื่อนของฉันจะต้องมาเผชิญอะไรแบบนี้

 

จากนั้นคาโอริก็หัวเราะออกมาเหมือนจะเป็นฝ่ายปลอบฉันแทน

 

 

『อันที่จริงสัตว์ประหลาดมันปรากฏตัวอยู่อีกสองสถานีถัดไปจากฉันน่ะ ฉันตอนนี้ติดอยู่ในรถไฟแล้วผู้คนวุ่นวายกันเต็มไปหมด ก็เลยตอบกลับไปไม่ได้』

 

「เรื่องนั้นช่างมันเถอะ……」

 

 

ขอแค่เธอปลอดภัยดีเท่านั้นฉันก็สบายใจแล้ว

 

 

『ว่าแต่ อัศวินดำปรากฏตัวขึ้นสินะ? เหมือนพอมีเรื่องร้ายทีไรเขาก็มาช่วยตลอดเลย』

 

「อื้อ เขามาช่วยพวกเราไว้น่ะ……」

 

 

เหนื่อยชะมัด

 

พอหมดห่วงเรี่ยวแรงอะไรมันก็หายไปเสียหมด ฉันจึงล้มตัวลงนอนบนโซฟาในห้องนั่งเล่นซะเลย

 

***

 

หลังช่วงบ่าย ตัวฉันในสภาพที่เหนื่อยใจสุดๆก็เลยออกไปซื้อไอศกรีมกินเป็นการให้รางวัลกับตัวเอง

 

ถึงแม้การมากินอะไรแบบนี้ก่อนจะไปทานมื้อเย็นต่ออีก จะโดดแม่ดุ แต่ฉันก็ไม่คิดจะหยุดยั้งความอยากของหวานของตัวเองหรอก

 

ว่าแล้วฉันก็ตรงไปยังร้านสะดวกซื้อที่ไม่ไกลจากบ้านของฉันเท่าไหร่นัก

 

 

 

「แค่นี้น่าจะพออยู่ได้สัก 3 วัน」

 

 

ฉันเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อพร้อมกับรอยยิ้มเต็มใบหน้า

 

อาจจะเป็นเพราะฤดูร้อนไหมนะ ถึงจะเป็นหลัง 6 โมงแล้วพระอาทิตย์ก็ยังไม่ตก

 

 

「……หือ?」

 

 

ระหว่างทางกลับฉันได้เห็นบางอย่างที่สวนสาธารณะ

 

มีคนคนหนึ่งกำลังนอนอยู่ตรงม้านั่งในสวนนั้น ร่างของเขาถูกอาบด้วยแสงอาทิตย์ที่ใกล้ลับฟ้า

 

ปกติฉันก็คงไม่สนใจคนแบบนี้หรอก แต่เพราะผมสีดำที่แสนคุ้นเคยนั้นมันสะกิดใจฉันเหลือเกินก็เลยเลือกเข้าไปดูใกล้ๆ

 

 

「……อ่ะ? เอ๋!?」

 

 

ชายหนุ่มที่อายุใกล้เคียงกับฉันกำลังนอนหลับอยู่ในสภาพสวมเสื้อเชิ้ตสำหรับหน้าร้อน

 

 

 

「โฮมุระคุง!?」

 

 

คัตสึมิ โฮมุระ ชายหนุ่มโต๊ะข้างๆที่ดึงดูดความสนใจของฉันในช่วงนี้

 

ตกใจชะมัด ทำไมเขาถึงมานอนอยู่ที่ม้านั่งในสวนเวลานี้ล่ะ?

 

ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน แต่ตัวฉันที่เห็นแบบนั้นจึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วถ่ายรูปใบหน้าตอนนอนของเขาเอาไว้

 

 

 

「เอาเป็นว่า ถ่ายไว้เรียบร้อย!!」

 

 

 

———เดี๋ยวสิ ฉันทำแบบนี้ทำไมกัน ก่อนอื่นต้องคิดก่อนไม่ใช่เหรอว่าเขามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง?!

 

เขาเป็นอะไรหรือเปล่านะ!?

 

ระ หรือว่าจะเป็นลมแดด?!?!

 

 

「นะ นี่ โฮมุระคุง! นายจะมานอนอยู่ในที่แบบนี้ไม่ได้นะ」

 

「หือ……?……โคโนฮานะ……?」

 

 

เขาตื่นขึ้นมาง่ายๆเลยซะงั้น จากนั้นก็ลุกขึ้นมานั่งแล้วมองมาที่ฉัน

 

ราวกับว่าเริ่มเข้าใจสถานการณ์ เขาเลยพูดขึ้น

 

 

 

「เฮ้อ ฉันเผลอหลับไปสินะ」

 

「ว่าแต่ทำไมถึงมานอนในที่แบบนี้ได้ล่ะ……?」

 

 

จากนั้นฉันก็ลงไปนั่งคุยกับเขาข้างๆ

 

น่าแปลกจริงๆ ทั้งที่ต้องกลัวว่าหากไม่รีบกลับไอศกรีมจะละลายแท้ๆ

 

 

「พอดีช่วงกลางวันยุ่งนิดหน่อยน่ะ แถมเห็นว่าแถวนี้มันร่มดีก็เลยกะมาหาที่นอนคลายร้อนสักหน่อย พอรู้ตัวอีกทีก็ป่านนี้แล้ว」

 

「นี่เผลอนอนจนเกือบค่ำเลยเหรอ……?」

 

「นั่นสินะ ขอโทษทีละกันที่ก่อปัญหาให้」

 

 

ว่าแต่คนปกติที่ไหนเจอเรื่องยุ่งแล้วต้องมานอนในที่แบบนี้กันเล่า?

 

ก็จริงอยู่ว่าแถวนี้ค่อนข้างเย็น แต่กลับไปนอนที่ห้องไม่ดีกว่าเหรอ?

 

……。

 

พอคิดได้แบบนั้นฉันก็นึกถึงเรื่องที่เคยคุยกับเขาขึ้นมาได้

 

 

「หรือว่าที่ห้องของโฮมุระคุงไม่มีแอร์?!」

 

 

สำหรับคนที่ไม่มีแม้กระทั่งโทรศัพท์หรือคอม ฉันเลยเดาเอาไว้ว่าที่บ้านของเขาก็ไม่น่าจะมีแอร์อะไรทำนองนั้นอยู่

 

พอเห็นฉันถามแบบนั้น เขาก็ส่ายหัวแล้วยิ้มออกมา

 

 

「ก็…หากเป็นปีที่แล้วมันก็ไม่มีหรอก แต่ตอนนี้…เหมือนจะโดนแอบยัดเข้ามาโดยไม่ถามกันก่อนน่ะ」

 

「แอบยัดเข้ามา……?ใครทำเหรอ?」

 

「……ผู้บุกรุกห้อง……ไม่สิ นะ น้องสาวฉันน่ะ」

 

「นายมีน้องสาวด้วยเหรอ!?」

 

「……ก็ประมาณน้องสาวปลอมๆ」

 

「น้องสาวปลอม!?」

 

 

ก็แปลว่าไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆงั้นเหรอ?!

 

หรือจะไม่สนิทกันเฉยๆนะ

 

ไม่สิ แต่ถ้าไม่สนิทกันระดับหนึ่ง จะติดแอร์ให้มันก็แปลกๆไหม ชวนให้สับสนชะมัด

 

 

 

「เอาเป็นว่าต้องรีบกลับไปทำอาหารเย็นขอตัวก่อน」

 

「เอ๋」

 

 

ว่าแล้วเขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินจากไป

 

ต้องรีบกลับไปทำอาหารเย็นเหรอ

 

หมายความว่ายังไงกัน

 

จะไปทำอาหารให้คนที่บ้านกินเหรอ

 

หรือเขาจะเป็นเพียงคนเดียวในบ้านที่ทำอาหารได้กันนะ

 

 

「เอ่อ……คือ」

 

「หือ?」

 

「พ่อแม่ของโฮมุระคุงไม่อยู่ที่บ้านเหรอ?」

 

「……」

 

 

เขาแสดงสีหน้าปั้นยากออกมาทันทีหลังฉันถาม

 

หลังเงียบไปสักพักเขาก็มองมาที่ฉันแล้วยิ้มออกมาก่อนพูด

 

 

 

「พ่อกับแม่ฉันยุ่งกับงานน่ะ  ก็เลยกลับบ้านดึก ฉันเลยต้องทำอาหารเย็นกินเอง」

 

「……บะ แบบนี้นี่เอง」

 

「ขอโทษที่ทำให้รู้สึกแปลกๆนะ」

 

 

ฉันรู้ได้ทันทีว่าเขาโกหก

 

เขาแค่ไม่อยากให้ฉันต้องมากังวล

 

บางทีเอาอาจจะถูกพ่อแม่ละเลยก็ได้

 

หรือไม่ก็เขาเสียพ่อกับแม่ไปแล้ว

 

บางที———สิ่งที่เข้ามาในหัวของฉันมีแต่เรื่องร้ายๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้

 

 

 

「โฮมุระคุง!!」

 

「หะ หือ?อยู่ดีก็พูดเสียงดังทำไมกัน?」

 

 

ฉันคิดว่าปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้แล้วก็เลยเรียกชื่อของเขาขึ้นมา

 

แม้เขาจะแสดงท่าทีตกใจออกมา แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจแล้วพูดต่อ

 

 

 

「นายกำลังหิวอยู่ใช่ไหม!?」

 

「เอ๋!?อ้า ก็ใช่หรอก…เพราะงั้นก็เลยจะกลับบ้านไปทำอะไรกินไง」

 

「ถ้างั้นละก็」

 

 

เอาเลย ไฮรุ โคโนฮานะ จังหวะนี้แหละ!!

 

ฉะ ฉันจะต้องพูดมันออกไป!!

 

 

「นายจะมาทานข้าวเย็นที่บ้านฉันใช่ไหม!?」

 

「!!?」

 

 

เดี๋ยวววววว?! ฉันพลาดไปหมดแล้ว ทำไมต้องขึ้นเสียงซะดังขนาดนั้นด้วยเล่านี่มันการเชิญไปกินข้าวเย็นที่เลวร้ายสุดๆ แถมนี่มันประโยคบังคับไม่ใช่หรือไง?!

 

มันจบแล้ว ชีวิตฉัน อยากตายชะมัด

 

ในหัวของโฮมุระคุงตอนนี้ฉันคงเป็นเด็กสาวประหลาดที่อยู่ดีๆก็มาลากผู้ชายเข้าบ้านเพื่อไปกินข้าว ฉันได้กลายเป็นผู้หญิงแบบนั้นในความทรงจำเขาแหง

 

 

 

「อ่ะ คือ……」

 

「เอ่อ……」

 

「……ฮ่ะๆ」

 

 

โฮมุระคุงแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา ใบหน้าของฉันร้อนไปหมดแล้ว

 

แย่สุดๆ

 

แต่มันก็เป็นสิ่งที่ฉันพูดออกมาเองจะทำอะไรกับมันก็———

 

 

 

 

「ก็ได้」

 

「เอ๋」

 

「จะเลี้ยงข้าวเย็นฉันใช่ไหมล่ะ?」

 

 

เขายิ้มแห้งๆออกมาระหว่างตอบรับคำชวนของฉัน

 

แย่แล้ว แบบนี้มันแย่สุดๆ

 

เอาจริงดิ

 

จะบอกว่าเข้าใจผิดก็ไม่ได้แล้วด้วย

 

พอตระหนักได้ถึงข้อเสนอสุดเลวร้ายที่ตัวเองเผลอพูดออกมา ฉันก็แทบอยากจะนอนกลิ้งไปมากับพื้นด้วยความอับอาย

 

***

สัตว์ประหลาดบาเรีย

สัตว์ประหลาดที่ใช้บาเรียล่องหนสุดแกร่ง มันสามารถป้องกันการโจมตีที่มีเจตนาฆ่าที่เข้ามาได้ทั้งหมด

ตอนแรกมันก็ตั้งใจจะจับคนในสถานีเป็นตัวประกันไว้เล่นกับอัศวินดำ แต่เพราะพูดคุยกันไม่รู้เรื่องสักทีแถมโดนฆ่าเร็วเกินไปเลยอดใช้ของที่เตรียมมา ส่วนสาเหตุที่อัศวินดำทะลวงบาเรียมาได้ก็คงจะเหมือนกับการที่เราเดินไปเหยียบมดตัวหนึ่ง

ไฮรุคือคนที่ชวนคัตสึมิมาที่บ้านของตัวเองได้สำคัญก่อนพวกตัวละครหลักเป็นปีๆ

ส่วนอัลฟ่าก็กำลังนั่งตากแอร์อย่างมีความสุขภายในห้องระหว่างรอคัตสึมิกลับมาทำข้าวเย็นให้

 

–จบ– 

 

ปักธงซะชัดขนาดนี้ว่าโดนลบความจำแน่ๆ ส่วนสาเหตุคงต้องรออ่านกันต่อ….อัลฟ่าทนหิวไปก่อนละกันนะ
 

มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ  และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

Score 10
Status: Completed
คัตสึมิ โฮมุระ วายร้ายที่รู้จักกันในนาม อัศวินดำ ชายผู้คิดว่าตัวเองคือวายร้ายแสนโฉดชั่ว เมื่อพ่ายแพ้ให้กับฝั่งฮีโร่เขาก็ถูกจับตัวไป ทว่าสิ่งที่รอเขาอยู่กลับไม่ใช่คุกหรือพวกตำรวจ แต่กลับเป็นขุมนรกที่ตัวเขาเกินจะคาดฝันแทนซะอย่างงั้น โลกที่ขบวนการเซ็นไตมีอยู่จริง เรื่องราวของอัศวินดำจอมวายร้ายที่มีสามัญสำนึกผิดแปกและถูกคนธรรมดาเข้าใจผิดมาโดยเสมอ บัดนี้เขากำลังจะถูกลากเข้าขบวนการเซ็นไตเสียแล้ว ※ผลงานชิ้นนี้กาวล้วนๆไม่มีเกลือผสม

Options

not work with dark mode
Reset