ตอนพิเศษ 6 โฮมุระคุงโต๊ะข้างๆ 2
โฮมุระคุงมักจะอยู่ในสภาพง่วงนอนตลอด
ในระหว่างเรียนอยู่ฉันก็มังจะมองไปข้างๆแล้วเห็นสภาพของเขาที่ง่วงจนไม่รู้จะง่วงยังไง
แต่มันก็น่าแปลกที่ถึงสภาพเขาจะเป็นแบบนั้นเขาก็ยังตั้งใจเรียน
นึกไม่ออกเลยแฮะว่าเขาใช้ชีวิตแบบไหนอยู่
แต่พิจารณาสภาพของเขาแล้วคงไม่ใช่อะไรที่ดีนักหรอก เอาเถอะมันไม่ใช่เรื่องที่คนนอกแบบฉันจะยุ่ง
ทว่าความสอดรู้ของฉันมันก็ดันห้ามไว้ไม่อยู่ซะงั้นเลยเผลอถามออกไป
「นี่ๆ โฮมุระคุง」
「หือ? มีอะไรเหรอ?」
「นายได้นอนบ้างไหมเนี่ย?」
ตอนนี้เป็นช่วงพักคาบ
ฉันจึงหันไปถามโฮมุระคุงที่กำลังหยิบหนังสือเพื่อรอเรียนวิชาถัดไป
「ไม่นะ ฉันก็นอนตั้ง 6 ชั่วโมง」
「แล้วทำไมนายถึงทำหน้าง่วงตลอดเลยล่ะ?」
「ฉันทำหน้าแบบนั้นอยู่เหรอ……?」
……。
เอ๋? ไม่รู้ตัวหรอกเหรอ?
สภาพของเขาตอนนี้ดูแย่ๆสุดๆ แต่สรุปว่าไม่ได้ง่วงหรอกเหรอ?
「(เด็กคนนี้กำลังจับตามองคัตสึมิอยู่แน่ๆ)」
「เธอแค่ห่วงฉันเฉยๆหรอกน่า น่ามาพูดไปขำไปสิฟะ」
「หือ?」
「เปล่า ไม่มีอะไร」
ฉันถามเขาเพราะเหมือนเขาจะพึมพำอะไรสักอย่าง แต่น่าฟังหูฝาดไปเฉยๆ
「แต่ก็จริงว่ามีบางทีที่ฉันนอนไม่ค่อยหลับนะ」
「เอ๋ ทำไมล่ะ?」
「หือ? คือว่า……ความลับน่ะ」
「เด็กหนุ่มผู้มีความลับอยู่เบื้องหลัง!?」
เสียงของเพื่อนฉันที่กำลังแอบนั่งฟังห่างๆได้พูดขึ้น แต่ฉันพยายามไม่สนใจ
โฮมุระคุงก็หันไปมองต้นเสียงนั้นด้วยสีหน้าประหลาดใจเหมือนกัน ก่อนจะกลับมามองฉัน
「นี่…โคโนฮานะ」
「หือ อะไรเหรอ?」
「เธอจะทำยังไงเหรอถ้าเกิดมีแมวหรือหมาเข้ามาในบ้านของเธอ?」
มีน้องแมวน้องหมาโผล่มาที่บ้านเขาเหรอ……?
「(แง่ง!! ใครคือหมาแมวกันยะ!! แง่งงงงง!!)」
เป็นไปได้ไหมว่าการที่เขาถามแบบนี้คือการตรวจสอบว่าฉันเป็นสายน้องหมาน้องแมวไหม
แปลว่าต้องให้คำตอบที่ถูกต้องเพื่อไปต่อสินะ
「ก็คงรับมาเลี้ยงน่ะ」
「รับมาเลี้ยง……?」
「อื้อ」
โฮมุระคุงแสดงสีหน้าสับสนออกมานิดหน่อย
แต่ก็แอบแปลกใหม่ดีที่ได้เห็นสีหน้าท่าทางหลายๆอย่างของเขา
「……….เอาเป็นว่าฉันคงเทียบผิดไป เธอจะทำยังไงถ้ามีสิ่งมีชีวิตปริศนาเข้ามาในบ้าน?」
「(แล้วทำไมฉันถึงกลายเป็นสิ่งมีชีวิตปริศนายะ!?)」
แล้วไอ้นั่นมันคืออะไรกันล่ะ?
เขาถามประหลาดเสียจนฉันไปไม่ถูก
「หรือจะเป็นของอย่างพวกซาชิกิวาราชิอะไรทำนองนั้นเหรอ?」
「……ซาชิกิวาราชิ?」
「……」
คาโอริที่แอบฟังอยู่ถึงกับตกเก้าอี้ แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจ
โฮมุระคุง นี่นายเติบโตมาในที่แบบไหนถึงไม่รู้จักซาชิกิวาราชิกันนะ?
ไม่สิ หากเขาไม่รู้ฉันก็แค่บอกก็ได้นี่นา การพูดคุยจะได้ลื่นไหลด้วย
ว่าแล้วฉันก็อธิบายเกี่ยวกับซาชิกิวาราชิให้เขาฟัง
「งะ งั้น เดี๋ยวฉันจะอธิบายให้ฟังซาชิกิวาราชิน่ะ」
「อื้ม」
「เป็นเด็กสาวผมสีดำ」
「……อื้อ」
「แล้วคนปกติก็มองไม่เห็น」
「! ……อื้อ」
「หากมีเธอมาอยู่ด้วยเหมือนจะเป็นตัวนำโชคเข้ามาในบ้านน่ะ」
「งั้นไม่ใช่ยัยนั่นแหง」
「(พูดงี้หมายความว่าไงยะ!!?)」
ไม่ใช่เหรอ……?
ฉันไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่เขาพูดนัก
ก่อนจะถามโฮมุระคุงกลับไป
「เอ่อ อย่าบอกนะว่าที่บ้านของโฮมุระคุงตอนนี้มีเด็กสาวผมสีดำแปลกๆมาอาศัยอยู่ด้วย?」
「……ฮ่ะ ฮ่าๆๆ จะเป็นไปได้ยังไงกัน」
「เอาเถอะ แต่ถ้าไม่ใช่ซาชิกิวาราชิ ก็อาจจะเป็นผีตนอื่นหรืออะไรทำนองนั้นก็ได้」
「……!!」
「(ไม่อ่ะฉันไม่ใช่ผีสักหน่อย)」
อะไรประมาณนี้นอกจากซาชิกิวาราชิก็คงมีไม่เยอะมั้ง
ไม่สิการที่คิดว่าเป็นผีแต่แรกจะถูกจริงหรือเปล่าน้อ
「นี่ คัตสึมิ ฉันไม่ใช่ผีหรอก นายไม่ต้องกลัว โฮ่ย คัตสึมิ ทำไมถึงไม่หันมาสบตาฉันละ โฮ้ย!!?」
ส่วนตัวฉันก็ไม่ใช่คนที่เชื่อเรื่องผีสางจนกว่าจะเห็นด้วยตาตัวเองด้วยสิ
***
「ก็เลยสรุปได้ว่าสาเหตุที่โฮมุระคุงดูง่วงๆตลอดเพราะนั่นเป็นสีหน้าปกติของเขาอยู่แล้วน่ะ」
โรงเรียนอื่นก็ไม่รู้เป็นยังไงแต่ที่โรงเรียนฉัน คาบพละจะมีการแยกเรียนชายหญิง
ตอนนี้พวกผู้ชายก็เลยไปใช้สนามของโรงเรียน ส่วนพวกฉันก็อยู่กันในโรงยิม
หัวข้อที่คุยกันก็เรียบง่าย เพราะไม่ได้ไปเล่นอะไรกับเขาจึงนั่งดูคนอื่นเล่นบาสแล้วเม้ามอยตามประสาสาวๆแทน
「ก็จริงนะ เพราะดูจากสภาพโครงหน้าของเขาก็ไม่ได้บ่งบอกว่าสุขภาพย่ำแย่อะไร แค่หน้าดูง่วงเฉยๆ」
「ประมาณนั้น……」
ฉันพยักหน้าให้กับคำพูดของคาโอริ
ไม่มีรอยคล้ำใต้ตาแสดงออกมาให้เห็น ดังนั้นสีหน้านั้นจึงเป็นสีหน้าปกติของเขาแต่แรก
พอมาพูดแบบนี้แล้วมันก็เหมือนกับว่าฉันกังวลเรื่องของโฮมุระคุงเกินไปคนเดียวเลยไม่ใช่เหรอ?
แอบจะเขินๆหน่อยแล้วสิ นี่ฉันสนใจเขาจริงๆงั้นเหรอ ไม่หรอกน่า?!
「งั้นก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงละมั้ง」
「อันที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องมากังวลกันแต่แรกละมั้ง」
「นั่นสิ」
「แต่ปล่อยไว้จะดีเหรอ เพื่อนร่วมชั้นที่ต้องอยู่ตัวคนเดียว พวกเราไม่ควรปล่อยเขาไว้นะ」
คาโอริถึงกับผงะเมื่อเห็นเอโกะพูดอะไรแปลกๆออกมา
「จากประสบการณ์ของฉันแล้ว โฮมุระคุงกำลังซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้อยู่」
「ประสบการณ์แบบไหนของเธอกัน……?」
「มันคือตำราศักดิ์สิทธิ์ที่ฉันคอยอ่านอยู่เสมอน่ะ ประสบการณ์แห่งความโรแมนติกและความเป็นไปได้นับล้าน ผ่านการจำลองคัดสรรความเป็นไปได้เหล่านั้น」
「สรุปก็คือเอามาจากเกมจีบหนุ่มว่างั้น…?」
「จริงๆนะ โฮมุระคุงจะต้องซ่อนอะไรเอาไว้สักอย่างแหง!!」
เอโกะพูดออกมาอย่ากล้าหาญพร้อมกับดวงตาที่เป็นประกายผ่านแว่น
ถึงจะสายไปแล้วแต่แอบเสียใจนิดหน่อยที่กลายมาเป็นเพื่อนกับเธอคนนี้จริงๆ
「พวกเธอจะเรียกฉันว่าเทพแห่งการจีบก็ได้นะเออ」
「เทพแห้วที่น่าจะหาแฟนไม่ได้มากกว่าไหม?」
「โหดร้าย」
คาโอริก็เหมือนจะตบมุกกลับไปได้
ส่วนตัวแล้วฉันก็ประหลาดใจที่คาโอริยอมรับแล้วยอมเล่นด้วยเฉยเลย
หลังจากนั้นเอโกะก็เริ่มพูดต่อเหมือนอยู่ในโลกเกมจีบหนุ่ม
「นอกจากนี้เขามีคุณสมบัติเป็นน้องชายที่ดีด้วย」
「โผล่มาจากไหนยะ……」
「หากเป็นไปได้ฉันก็อยากจะให้เขามาเป็นน้องชายของฉันจังเลย」
「เอโกะ ไปคุกเข่าต่อหน้าโฮมุระคุงเดี๋ยวนี้」
เอโกะเหมือนจะเริ่มกู่ไม่กลับจนพูดอะไรน่าแหยงออกมาแทนแล้ว
ฉันละเหลือจะเชื่อ
ก็ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจเธอนะ แต่ถึงขั้นกล้าพูดออกมาตรงๆเลยเหรอ?!
「….ไม่ทำหรอกน่า จะให้ไปคุกเข่าแล้วร้องขอให้เป็นน้องชายของฉันเนี่ย….」
「ไม่ใช่แบบนั้นย่ะ นี่สมองเธอเข้าใจคำพูดของฉันไปเป็นแบบไหนกัน? หากทำแบบนั้นก็เข้าขั้นโรคจิตหมดทางเยียวยาแล้ว」
เอาเป็นว่าขืนตามน้ำเอโกะต่อไป ฉันคงได้รับอิทธิพลแย่ๆติดตัวมาด้วยก็เลยเลือกเมินเฉยแทน
จากนั้นสายตาของฉันก็จ้องไปยังเกมบาสตรงหน้า
『โย้ช! อากาเนะ! พาส!』
『เอ๋ ฉันเหรอ!?』
เพราะเป็นเพียงคาบในชั้นเรียนมันก็เลยไม่ได้แข่งอะไรกันจริงจังนัก
แต่สำหรับพวกชมรบกลับบ้านหรือพวกสายนั่งติดโต๊ะแล้ว นี่ก็เป็นโอกาสเพียงไม่กี่ครั้งในการมาออกกำลังกาย ก็เลยทำให้มีบางคนเกิดดีดขึ้นมาบ้าง ว่าแล้วฉันก็ส่งเสียงให้กำลังใจเพื่อนห้องข้างๆของฉันซึ่งมีผมสีน้ำตาลถักเปีย
「คิราระ พยายามเข้าล่ะ」
「คนรู้จักเหรอ?」
ฉันพยักหน้าให้คาโอริ
「อื้อ รู้จักกันได้ไม่นานนี้เอง เดี๋ยวไว้จะแนะนำให้รู้จัก」
「อ่ะเค」
จากนั้นพวกฉันก็มองคิราระที่กำลังเล่นบาสอยู่
「……ใหญ่ชะมัด」
「นั่นสิ เบิ้มสุดๆ」
「อย่าเผลอเอาไปพูดต่อหน้าเชียวล่ะ」
แต่มันก็ของจริงเลยแหละ
ไม่ใช่เพราะว่าเธออ้วนอะไรซะด้วย
คาดหวังกับการเติบโตในอนาคตของเธอเลย น่าจะสดใสสุดๆ แต่หากพูดออกไปตรงๆมันก็เหมือนจะกลายเป็นการล่วงละเมิดทางเพศแทนถึงจะเป็นผู้หญิงด้วยกันก็เถอะ
…เธอคนนั้นคือการรวมตัวของคำว่า มีเสน่ห์ล่อลวง ของจริง
『อ่ะ เดี๋ยว อ๊ะ…กรี๊ด!?』
『อากาเนะ!?』
ล้มลงไปซะแล้ว…เป็นอะไรไหมนะ?
เด็กสาวผมสีแดงมัดหางม้า ที่เหมือนจะเป็นเพื่อนของคิราระได้ล้มลงกับพื้นขณะรับลูก
แต่มันล้มแรงเกินไปไหมหว่ากับแค่ลูกบาส
「จากที่เห็นท่าทางเธอจะไม่เก่งพวกกีฬาสินะ?」
「ไม่ใช่หรอกหรอก เพราะคนเรามันก็ต้องมีกีฬาที่เล่นเก่งไม่เก่งต่างหาก ฉันเองก็เหมือนกันหรอก」
「……แบบนั้นหรอกเหรอ?」
「อื้อ」
ส่วนตัวฉันก็เห็นด้วยนะ ไม่ใช่ว่าเธอไม่เก่งกีฬาแต่แค่ยังหากีฬาที่เธอเก่งไม่ได้เท่านั้นเอง
「แถมยังมีบางคนที่ทรงไม่น่าจะเป็นพวกมีความสามารถด้านกีฬาแต่พอได้ลองจริงๆกลับมีพรสวรรค์สุดน่าเหลือเชื่อด้วยแหละ」
หลังได้ยินคำพูดของคาโอริ ฉันก็หันกลับไปมองหญิงสาวผมแดงที่ล้มลงใหม่
หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าอากาเนะพยายามลุกขึ้นยืนเหมือนทนกับความเจ็บปวดอยู่ ฉันละสงสัยจริงๆว่าเธอจะเก่งในเรื่องไหนกันนะ
***
ไฮรุได้เห็นสภาพของนักบุญดาบ(เรด)ที่ยังไม่ตื่นขึ้นในอดีต
–จบ–
คงไม่ต้องถามว่าอากาเนะเก่งเรื่องไหน ลองให้ดาบเธอไปสักเล่มดูสิ……ส่วนคิราระ เบิ้มๆคือลือน่ะ…
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code