**แก้ชื่อ ฮารุ เป็น ไฮรุ นะครับผมหลอน**
ผ่านมาได้ครึ่งปีแล้วตั้งแต่เหตุการณ์สัตว์ประหลาดแมงมุม ตอนนี้ตัวฉันไฮรุ โคโนฮานะได้กลายเป็นเด็กมอปลายเรียบร้อย
ชีวิตของฉันที่ผ่านมาก็เรียกได้ว่าเจออะไรมาหลายๆอย่าง
ถึงจะรู้สึกสยองไม่หายเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ชีวิตนักเรียนมอปลายของฉันก็มาถึงแล้ว
ส่วนตัวรู้สึกโชคดีพอสมควรที่ไม่ต้องเจอเรื่องร้ายอะไรหลังจากนั้นอีก
เพราะเห็นว่าบางที่ต้องยกเลิกการสอบเพราะพวกสัตว์ประหลาดโจมตี
นับตั้งแต่ที่สัตว์ประหลาดแมงมุมปรากฏตัวออกมา ก็มีสัตว์ประหลาดโผล่มาเต็มไปหมด แต่ส่วนใหญ่หรืออาจจะทั้งหมดเลยมั้งก็ถูกจัดการไปโดยสิ่งมีชีวิตปริศนาหมายเลข 2 หรือที่รู้จักกันในชื่อของอัศวินดำ
『อัศวินดำ? นั่นมันตัวปัญหาเลยนะ』
『เราจะสามารถนอนหลับอย่างสงบได้จริงหรือหากมีตัวแบบนั้นวิ่งไปมาทุกคืน』
『ใครจะยืนยันได้กันว่าสุดท้ายสิ่งนั้นจะอยู่เคียงข้างพวกเรา』
พวกนักวิจารณ์ในทีวีหลายคนต่างก็บอกว่าเขาเป็นตัวอันตราย แต่ฉันไม่คิดแบบนั้น
ถึงคำพูดคำจาของเขาจะดูร้ายไปหน่อย แต่จากการกระทำที่แสดงออกมาเขาไม่ใช่คนไม่ดีเลยสักนิด
อีกทั้งเขายังเป็นคนที่ช่วยชีวิตของฉันเอาไว้ มีเหรอฉันจะมองเขาในแง่ร้าย
「อรุณสวัสดิ์!」
「อรุณสวัสดิ์! ไฮรุ」
ระหว่างที่กำลังคิดเรื่องพวกนี้อยู่ฉันก็เดินทางมาถึงห้องเรียน
นี่ก็ผ่านมาได้เดือนหนึ่งแล้วตั้งแต่เปิดภาคเรียน
ฉันทักทายพวกเพื่อนร่วมชั้นแล้วตรงไปยังที่นั่งของตัวเองซึ่งอยู่ด้านหลังสุดห่างจากหน้าต่างไปหนึ่งแถว
แอบรู้สึกเสียดายเหมือนกันที่ตัวเองได้มานั่งอยู่ในตำแหน่งโชคร้ายเช่นนี้ แต่ก็เริ่มจะชินแล้ว ส่วนถ้าถามว่าเพราะอะไรก็คงจะเป็น….
「อรุณสวัสดิ์ โฮมุระคุง」
ในขณะที่ฉันดึงเก้าอี้ออกฉันก็ทักทายเพื่อนร่วมชั้นซึ่งกำลังเอามือท้าวคางแล้วมองออกไปนอนหน้าต่าง
ดวงตาที่ดูเหนื่อยล้าจากการอดนอน เส้นผมก็ดูรุงรังเหมือนไม่ได้หวีมาให้ดี
เขาเป็นคนที่เข้าถึงได้ยากแปลกๆ แต่พอได้ยินเสียงทักทายของฉันเขาก็หันมาหา
「อื้อ อรุณสวัสดิ์」
เขาตอบกลับมาอย่างสุภาพ
———ชื่อจริงของเขาคือ คัตสึมิ โฮมุระ
ชายหนุ่มโต๊ะข้างๆที่แสนลึกลับ
***
「หืม ว่าแต่ไฮรุนี่ชอบโฮมุระคุงอยู่เหรอ?」
「เอ๋?」
ระหว่างพักเที่ยง ฉันกินข้าวกับพวกเพื่อนโดยการเอาโต๊ะมาติดกัน เอโกะเพื่อนสาวผมถักเปียสีดำก็ถามขึ้น
「จะบ้าเหรอ แต่ก็คิดว่าเขาเป็นคนดีนะ」
「ตอบเหมือนเด็กอนุบาลเลยน้า ไฮรุเนี้ย」
「ก็พอได้นั่งข้างกันมันก็ต้องได้พูดคุยอะไรกันบ้างไหม?」
อีกคนที่พูดขึ้นคือคาโอริ อยู่ชมรมกรีฑามีลักษณะเด่นตรงผมบ็อบสั้นสวมแว่นตา
เหมือนเธอเองก็อยากจะรู้เหมือนกันสินะ
「แต่ถ้าถามว่าจะเซเยสหรือโนกับเขา…ก็คงเยสแหละ」
「เอ๋ เอโกะน่ะเหรอ? น่าแปลกๆ….」
「ฉันว่าเขารู้สึกลึกลับดีน่ะ เหมือนตัวละครที่ออกมาจากเกมเลย น่าสนุกออก」
เอ่อ แต่เขาไม่ใช่ตัวจากเกมนะ
สมองของเธอแปลกๆไปหน่อยไหม
「แต่คนแบบนั้นจะมีอยู่จริงเร้อ」
คาโอริแทรกเอโกะที่พูดขึ้น
จากนั้นเอโกะก็ลุกเข้าไปคุยกับคาโอริใกล้ๆ
「มันก็ต้องมีบ้างแหละน่า! เขาอาจจะเป็นชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังโดยแบกอดีตอันมืดมิดเอาไว้ก็ได้ใช่ไหมล่ะ?! ด้วยคาแร็กเตอร์แบบนั้นโฮมุระคุงนี่สมบูรณ์แบบสุดๆเลยนะ」
「เพ้อไปเรื่อยแบบนี้จะหาแฟนกับเขาได้เหรอเธอน่ะ?」
「นั่นมันใช่คำพูดที่จากคนเป็นเพื่อนเหรอ?」
การพูดคุยในเรื่องแปลกๆของพวกเธอก็ยังดำเนินไปเหมือนปกติ
เอาเป็นว่าก็ไปร่วมด้วยโดยการเล่าเรื่องของโฮมุระคุงสักหน่อยละกัน
「อันที่จริงมีครั้งหนึ่งที่ฉันลืมพวกเครื่องเขียนมาโรงเรียนด้วยแหละ」
「แล้วเธอทำยังไงล่ะ?」
ตอนนั้นฉันกังวลสุดๆ
กว่าจะรู้ตัวก็ก่อนชั้นเรียนจะเริ่มแล้ว
ทว่าโฮมุระคุงก็เป็นคนที่เอาพวกเครื่องเขียนมาให้ฉันยืม ก่อนที่ฉันจะไปขอความช่วยเหลือจากพวกเพื่อนๆเสียอีก จะบอกว่าเขาสังเกตเห็นสีหน้าของฉันก็ได้มั้ง
「ตอนนั้น โฮมุระคุงให้ฉันยืนดินสอกับยางลบน่ะ」
「「ยืมดินสอ!?」」
พวกเธอตกใจขนาดนั้นเลยสินะ
อันที่จริงฉันก็ตกใจเหมือนกันแหละที่เขายื่นดินสอHB มาให้
「ดินสอเหรอ? ไม่ใช่แบบดินสอกดอะไรงี้ใช่ไหม?」
「อื้อ เห็นเขาบอกว่าแบบนี้มันถูกกว่าน่ะ」
「……ดะ เดี๋ยวสิ เรื่องแบบนี้เราควรจะคุยกันต่อดีเหรอ? รู้สึกเหมือนหัวใจมันเจ็บปวดแปลกๆ」
ทั้งสองคนเหมือนจะกังวลที่ฉันเอาเรื่องพวกนี้มาเล่า
「แค่คุยกับพวกเธอสองคนคงไม่หลุดไปไหนหรอกเนอะ」
「แล้วทำไมถึงส่งออร่าสยองออกมาด้วยยะ….」
「ตาของเธอมันไม่ยิ้มเหมือนหน้าเลยนะ……」
พูดกันตามตรงยิ่งฉันรู้จักเขามากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนทิ้งเขาไว้ตามลำพังไม่ได้
นั่นสินะเล่าถึงเรื่องนั้นต่อดีกว่า
「ตอนที่ฉันคุยกับโฮมุระคุงเขาก็ตอบกลับมาตามปกตินะ ดังนั้นเขาไม่ใช่พวกคุยไม่เก่งอะไรหรอก」
「อ้าวเหรอ? ฉันก็นึกว่าเขาเป็นหนุ่มพูดน้อยที่เห็นโลกใบนี้เต็มไปด้วยเรื่องน่าเบื่อ」
「ฉันว่าเธอต้องเอาฟิวเตอร์เกมจีบหนุ่มออกไปก่อนนะ」
ฉันรู้สึกว่าถ้าเอโกะยังเป็นแบบนี้อยู่จะเดือดร้อนเอาได้ในอนาคตนะ
「จากนั้นฉันเลยว่าจะลองคุยกับเขาให้มากขึ้นน่ะ ก็เลยเอาเรื่องในทีวีไปเปิดประเด็น」
「โห ก็ใช้ได้นะ แล้วผลเป็นยังไงบ้าง?」
「โฮมุระคุงบอกว่าบ้านเขาไม่มีทีวีน่ะ ก็เลยไม่ได้ดู」
「「……」」
ทั้งสองคนสัมผัสได้ถึงเรื่องแปลกๆ จากจุดนี้
ซึ่งก็ใช่แหละ
「หะ หาอยากนะเนี่ย」
「ถะ ถ้างั้นเขาคงจะมีPCสินะ? หากมีPCอยู่ก็ไม่จำเป็นต้องมีทีวีนี่เนอะ」
「เขาบอกว่าที่บ้านไม่มีคอมน่ะ」
「อึก…งั้นก็..ใช่แล้ว เธอได้แลกเมลหรือเบอร์โทรอะไรกันหรือยัง?!」
เหมือนเอโกะจังจะพยายามเปลี่ยนหัวข้อแต่ฉันก็ส่ายหัวให้กับคำถามของเธอ
「ไม่อ่ะ ฉันไม่ได้ทำแบบนั้น」
「งั้นก็ไปขอมันเดี๋ยวนี้เลยสิ!」
「คงไม่ได้หรอก…」
ฉันก้มหน้าลงแล้วหัวเราะให้กับตัวเอง
ฉันไม่มีทางลืมสีหน้าอันสุดตกใจของตัวเองเมื่อ 3 วันก่อนได้เลย
เรื่องราวมันคงจะดีกว่านี้ไปแล้วหากว่าฉันได้เบอร์โทรศัพท์ของเขามาจริงๆ
「โฮมุระคุงไม่มีโทรศัพท์น่ะ……」
「「……」」
「พวกเธอบอกฉันทีสิว่าควรจะไปยังไงต่อ……」
สรุปง่ายๆก็คือ บ้านของเขาไม่มีทีวี ไม่มีคอม ไม่มีโทรศัพท์
เขาก็เลยคุยกับฉันไม่รู้เรื่องเลยสักนิด
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว คาโอริก็ถอนหายใจออกมาแล้วปิดฝาข้าวกล่องที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่งก่อนวางศอกไว้บนโต๊ะแล้วเอามือท้าวคาง
「ถ้าเป็นแบบนี้สิ่งที่ฉันคิดต้องเป็นเรื่องจริงๆแน่ๆ เขาต้องอาศัยอยู่ตามลำพังและแบกรับอดีตอันดำมืดเอาไว้แน่ๆ」
「เอโกะหยุดหลอนเถอะ」
「อยากจะเข้ารูทเขาจัง……」
「ไม่ช้าเกินไปหน่อยเหรอ……?」
บางครั้งอาโกะก็พูดอะไรแปลกๆออกมา
เพราะเป็นโอตาคุคลั่งเกมจีบหนุ่ม วิธีในการอยู่กับเธอก็คือการอย่าไปใส่ใจเรื่องที่เธอพูดให้มากนัก
「แต่มันจะมีจริงๆเหรอคนที่มีพื้นเพแบบนั้น?」
「นั่นสิเจอแบบนั้นเข้าไปจะกลายเป็นคนดีกับเขาได้เหรอ?」
「เรื่องนั้นมันก็ใช่อยู่หรอก แต่มันก็น่าสงสัยออกนะว่าเขามาจากครอบครัวแบบไหน คิดดูสิคนที่ขาดปัจจัย 3 สุดสำคัญบนโลกยุคนี้อย่าง ทีวี คอม กับโทรศัพท์มันเป็นไปได้ด้วยเหรอ」
「เกิดมาก็เพิ่งเคยได้ยินปัจจัย 3 ที่เธอว่านี่แหละ」
ในมุมของพวกฉันเองก็คิดว่าแปลกอยู่หรอก
ฉันกับคาโอริมองดูเอโกะเพ้ออะไรไปเรื่อย
「โคโนฮานะ」
「คะ!?」
「「!?」」
ทันใดนั้นเอง คนเป็นที่หัวข้อในการพูดคุยของพวกเราก็ส่งเสียงขึ้น จนทำให้ฉันสะดุ้งจนแทบกระโดดออกจากเก้าอี้
สะ เสียง นี้มัน
「เอ่อ โฮมุระคุง」
「ขอโทษที ไปขัดพวกเธอคุยกันสินะ? (……? พูดอะไรของเธอน่ะอัลฟ่า?)」
(เห็นสาวๆคุยกันแล้วน่าสนุกดีน่ะ)
ฉันตอบกลับโฮมุระคุงที่อยู่ดีๆก็พูดชื่อของฉันขึ้นมา
「เอ่อ แล้วมีอะไรเหรอ โฮมุระคุง?」
「เอ่อ…นั่นสิ คือ ฉันจะคืนสิ่งนี้ให้น่ะ」
สิ่งที่เขายื่นมาให้คือโน๊ตที่ฉันให้เขายืมเมื่อเช้านี้
เมื่อวันก่อนเขากลับมาจากการขาดเรียนไป 3 วัน ฉันก็เลยให้เขายืมโน๊ตที่ฉันจดเอาไว้
แถมช่วงที่เขาขาดไปก็เกิดแผ่นดินไหวจนผิดปกติหลายครั้งด้วยสิ ตอนนั้นฉันกังวลพอสมควรว่าเขาจะเป็นอะไรไหม
อันที่จริงก็แปลกใจเหมือนกันนะที่เขาคืนมาให้เร็วขนาดนี้
「ขอบคุณมาก ช่วยฉันได้เยอะเลย」
「อื้อ ด้วยความยินดี」
「แล้วก็นี่」
ต่อจากโน๊ตเขาได้ยืนกล่องน้ำผลไม้มาให้ฉัน
เป็นอันที่ฉันชอบซื้อมาจากตู้กดน้ำซะด้วยสิ
เขาจำได้ยังไงกันนะ?
แต่เดี๋ยว…คนที่ประหยัดถึงกระทั่งไม่ซื้อดินสอกดมาใช้ ซื้อน้ำผลไม้มาให้ฉันเนี่ยนะ?
คงไม่ใช่ว่าเขาคิดอะไรแบบนั้นกับฉันใช่ไหม?!?!?
「….เอ่อ นี่คือทั้งหมดที่ฉันพอจะตอบแทนเธอได้ แต่ถ้ามันเป็นการกวนใจ———」
「ยะ ยินดีรับไว้เลยค่ะ!!」
「ทำไมต้องสุภาพขนาดนั้น? เอาเถอะ นี่」
จากนั้นฉันก็รับน้ำผลไม้มา
หลังจากนั้นฉันก็เบนสายตาไปหาเอโกะและคาโอริที่นั่งตัวแข็งขณะจ้องมองฉัน
「ขอโทษที่มากวนตอนคุยกันนะ」
「เอ่อ เดี๋ยวสิ คัตสึมิคุง」
เขากลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเองตามเดิมเหมือนธุระจบลงแล้ว
หลังจากยืนยันว่าเขากลับไปแล้ว เราก็กลับมารวมหัวกันต่อ
「เดี๋ยวสิ นี่มันแปลกๆนะ」
「นั่นสิแปลกสุดๆ」
「หรือว่าเขาจะเป็นคนที่มีสองด้าน และจะแสดงด้านที่อ่อนโยนให้กับคนที่ตัวเองชอบได้เห็นเท่านั้นกันนะ?!」
เอโกะเป็นคนเดียวที่พูดอะไรแปลกๆออกมา แต่ฉันเห็นด้วยกับคาโอริเลย
คัตสึมิ โฮมุระเป็นคนแปลกๆสุดๆ
ชอบปล่อยบรรยากาศแปลกๆออกมา แต่สิ่งที่แปลกสุดของเขาก็คือการกระทำที่คาดไม่ถึงนี่แหละ
****
จากไทม์ไลน์แล้วเป็นช่วงที่คัตสึมิกำลังออกไปต่อสู้กับสัตว์ประหลาดแม็กม่า เขาจึงจำเป็นต้องขาดเรียนไปถึง 3 วัน
–จบ–
โฮมุระคุงโต๊ะข้างๆ เอาน้ำผลไม้มาให้ซะหัวใจจะวาย
มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code