อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต 105.1 โฮมุระคุงโต๊ะข้างๆ 1

ตอนที่ 105.1 โฮมุระคุงโต๊ะข้างๆ 1

 

**แก้ชื่อ ฮารุ เป็น ไฮรุ นะครับผมหลอน**

 

ผ่านมาได้ครึ่งปีแล้วตั้งแต่เหตุการณ์สัตว์ประหลาดแมงมุม ตอนนี้ตัวฉันไฮรุ โคโนฮานะได้กลายเป็นเด็กมอปลายเรียบร้อย

 

 

ชีวิตของฉันที่ผ่านมาก็เรียกได้ว่าเจออะไรมาหลายๆอย่าง

 

ถึงจะรู้สึกสยองไม่หายเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ชีวิตนักเรียนมอปลายของฉันก็มาถึงแล้ว

 

ส่วนตัวรู้สึกโชคดีพอสมควรที่ไม่ต้องเจอเรื่องร้ายอะไรหลังจากนั้นอีก

 

เพราะเห็นว่าบางที่ต้องยกเลิกการสอบเพราะพวกสัตว์ประหลาดโจมตี

 

นับตั้งแต่ที่สัตว์ประหลาดแมงมุมปรากฏตัวออกมา ก็มีสัตว์ประหลาดโผล่มาเต็มไปหมด แต่ส่วนใหญ่หรืออาจจะทั้งหมดเลยมั้งก็ถูกจัดการไปโดยสิ่งมีชีวิตปริศนาหมายเลข 2 หรือที่รู้จักกันในชื่อของอัศวินดำ

 

 

 

『อัศวินดำ? นั่นมันตัวปัญหาเลยนะ』

 

 

 

『เราจะสามารถนอนหลับอย่างสงบได้จริงหรือหากมีตัวแบบนั้นวิ่งไปมาทุกคืน』

 

 

 

『ใครจะยืนยันได้กันว่าสุดท้ายสิ่งนั้นจะอยู่เคียงข้างพวกเรา』

 

 

พวกนักวิจารณ์ในทีวีหลายคนต่างก็บอกว่าเขาเป็นตัวอันตราย แต่ฉันไม่คิดแบบนั้น

 

ถึงคำพูดคำจาของเขาจะดูร้ายไปหน่อย แต่จากการกระทำที่แสดงออกมาเขาไม่ใช่คนไม่ดีเลยสักนิด

 

อีกทั้งเขายังเป็นคนที่ช่วยชีวิตของฉันเอาไว้ มีเหรอฉันจะมองเขาในแง่ร้าย

 

 

 

「อรุณสวัสดิ์!」

 

「อรุณสวัสดิ์! ไฮรุ」

 

 

ระหว่างที่กำลังคิดเรื่องพวกนี้อยู่ฉันก็เดินทางมาถึงห้องเรียน

 

นี่ก็ผ่านมาได้เดือนหนึ่งแล้วตั้งแต่เปิดภาคเรียน

 

ฉันทักทายพวกเพื่อนร่วมชั้นแล้วตรงไปยังที่นั่งของตัวเองซึ่งอยู่ด้านหลังสุดห่างจากหน้าต่างไปหนึ่งแถว

 

แอบรู้สึกเสียดายเหมือนกันที่ตัวเองได้มานั่งอยู่ในตำแหน่งโชคร้ายเช่นนี้ แต่ก็เริ่มจะชินแล้ว ส่วนถ้าถามว่าเพราะอะไรก็คงจะเป็น….

 

「อรุณสวัสดิ์ โฮมุระคุง」

 

 

ในขณะที่ฉันดึงเก้าอี้ออกฉันก็ทักทายเพื่อนร่วมชั้นซึ่งกำลังเอามือท้าวคางแล้วมองออกไปนอนหน้าต่าง

 

ดวงตาที่ดูเหนื่อยล้าจากการอดนอน เส้นผมก็ดูรุงรังเหมือนไม่ได้หวีมาให้ดี

 

เขาเป็นคนที่เข้าถึงได้ยากแปลกๆ แต่พอได้ยินเสียงทักทายของฉันเขาก็หันมาหา

 

 

 

「อื้อ อรุณสวัสดิ์」

 

 

เขาตอบกลับมาอย่างสุภาพ

 

 

 ———ชื่อจริงของเขาคือ คัตสึมิ โฮมุระ

 

ชายหนุ่มโต๊ะข้างๆที่แสนลึกลับ 

 

 

***

 

「หืม ว่าแต่ไฮรุนี่ชอบโฮมุระคุงอยู่เหรอ?」

 

「เอ๋?」

 

 

ระหว่างพักเที่ยง ฉันกินข้าวกับพวกเพื่อนโดยการเอาโต๊ะมาติดกัน เอโกะเพื่อนสาวผมถักเปียสีดำก็ถามขึ้น

 

 

 

「จะบ้าเหรอ แต่ก็คิดว่าเขาเป็นคนดีนะ」

 

「ตอบเหมือนเด็กอนุบาลเลยน้า ไฮรุเนี้ย」

 

「ก็พอได้นั่งข้างกันมันก็ต้องได้พูดคุยอะไรกันบ้างไหม?」

 

 

อีกคนที่พูดขึ้นคือคาโอริ อยู่ชมรมกรีฑามีลักษณะเด่นตรงผมบ็อบสั้นสวมแว่นตา

 

เหมือนเธอเองก็อยากจะรู้เหมือนกันสินะ

 

 

「แต่ถ้าถามว่าจะเซเยสหรือโนกับเขา…ก็คงเยสแหละ」

 

「เอ๋ เอโกะน่ะเหรอ? น่าแปลกๆ….」

 

「ฉันว่าเขารู้สึกลึกลับดีน่ะ เหมือนตัวละครที่ออกมาจากเกมเลย น่าสนุกออก」

 

 

เอ่อ แต่เขาไม่ใช่ตัวจากเกมนะ

 

สมองของเธอแปลกๆไปหน่อยไหม

 

 

 

「แต่คนแบบนั้นจะมีอยู่จริงเร้อ」

 

 

คาโอริแทรกเอโกะที่พูดขึ้น

 

จากนั้นเอโกะก็ลุกเข้าไปคุยกับคาโอริใกล้ๆ

 

 

「มันก็ต้องมีบ้างแหละน่า! เขาอาจจะเป็นชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังโดยแบกอดีตอันมืดมิดเอาไว้ก็ได้ใช่ไหมล่ะ?! ด้วยคาแร็กเตอร์แบบนั้นโฮมุระคุงนี่สมบูรณ์แบบสุดๆเลยนะ」

 

「เพ้อไปเรื่อยแบบนี้จะหาแฟนกับเขาได้เหรอเธอน่ะ?」

 

「นั่นมันใช่คำพูดที่จากคนเป็นเพื่อนเหรอ?」

 

 

 

การพูดคุยในเรื่องแปลกๆของพวกเธอก็ยังดำเนินไปเหมือนปกติ

 

เอาเป็นว่าก็ไปร่วมด้วยโดยการเล่าเรื่องของโฮมุระคุงสักหน่อยละกัน

 

 

 

「อันที่จริงมีครั้งหนึ่งที่ฉันลืมพวกเครื่องเขียนมาโรงเรียนด้วยแหละ」

 

「แล้วเธอทำยังไงล่ะ?」

 

 

ตอนนั้นฉันกังวลสุดๆ

 

กว่าจะรู้ตัวก็ก่อนชั้นเรียนจะเริ่มแล้ว

 

ทว่าโฮมุระคุงก็เป็นคนที่เอาพวกเครื่องเขียนมาให้ฉันยืม ก่อนที่ฉันจะไปขอความช่วยเหลือจากพวกเพื่อนๆเสียอีก จะบอกว่าเขาสังเกตเห็นสีหน้าของฉันก็ได้มั้ง

 

 

 

「ตอนนั้น โฮมุระคุงให้ฉันยืนดินสอกับยางลบน่ะ」

 

「「ยืมดินสอ!?」」

 

 

พวกเธอตกใจขนาดนั้นเลยสินะ

 

อันที่จริงฉันก็ตกใจเหมือนกันแหละที่เขายื่นดินสอHB มาให้

 

 

 

「ดินสอเหรอ? ไม่ใช่แบบดินสอกดอะไรงี้ใช่ไหม?」

 

「อื้อ เห็นเขาบอกว่าแบบนี้มันถูกกว่าน่ะ」

 

「……ดะ เดี๋ยวสิ เรื่องแบบนี้เราควรจะคุยกันต่อดีเหรอ? รู้สึกเหมือนหัวใจมันเจ็บปวดแปลกๆ」

 

ทั้งสองคนเหมือนจะกังวลที่ฉันเอาเรื่องพวกนี้มาเล่า

 

 

「แค่คุยกับพวกเธอสองคนคงไม่หลุดไปไหนหรอกเนอะ」

 

「แล้วทำไมถึงส่งออร่าสยองออกมาด้วยยะ….」

 

「ตาของเธอมันไม่ยิ้มเหมือนหน้าเลยนะ……」

 

 

พูดกันตามตรงยิ่งฉันรู้จักเขามากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนทิ้งเขาไว้ตามลำพังไม่ได้

 

นั่นสินะเล่าถึงเรื่องนั้นต่อดีกว่า

 

 

「ตอนที่ฉันคุยกับโฮมุระคุงเขาก็ตอบกลับมาตามปกตินะ ดังนั้นเขาไม่ใช่พวกคุยไม่เก่งอะไรหรอก」

 

「อ้าวเหรอ? ฉันก็นึกว่าเขาเป็นหนุ่มพูดน้อยที่เห็นโลกใบนี้เต็มไปด้วยเรื่องน่าเบื่อ」

 

「ฉันว่าเธอต้องเอาฟิวเตอร์เกมจีบหนุ่มออกไปก่อนนะ」

 

 

ฉันรู้สึกว่าถ้าเอโกะยังเป็นแบบนี้อยู่จะเดือดร้อนเอาได้ในอนาคตนะ

 

 

「จากนั้นฉันเลยว่าจะลองคุยกับเขาให้มากขึ้นน่ะ ก็เลยเอาเรื่องในทีวีไปเปิดประเด็น」

 

「โห ก็ใช้ได้นะ แล้วผลเป็นยังไงบ้าง?」

 

「โฮมุระคุงบอกว่าบ้านเขาไม่มีทีวีน่ะ ก็เลยไม่ได้ดู」

 

「「……」」

 

ทั้งสองคนสัมผัสได้ถึงเรื่องแปลกๆ จากจุดนี้

 

ซึ่งก็ใช่แหละ

 

 

「หะ หาอยากนะเนี่ย」

 

 

「ถะ ถ้างั้นเขาคงจะมีPCสินะ? หากมีPCอยู่ก็ไม่จำเป็นต้องมีทีวีนี่เนอะ」

 

「เขาบอกว่าที่บ้านไม่มีคอมน่ะ」

 

「อึก…งั้นก็..ใช่แล้ว เธอได้แลกเมลหรือเบอร์โทรอะไรกันหรือยัง?!」

 

 

เหมือนเอโกะจังจะพยายามเปลี่ยนหัวข้อแต่ฉันก็ส่ายหัวให้กับคำถามของเธอ

 

 

 

「ไม่อ่ะ ฉันไม่ได้ทำแบบนั้น」

 

「งั้นก็ไปขอมันเดี๋ยวนี้เลยสิ!」

 

「คงไม่ได้หรอก…」

 

 

ฉันก้มหน้าลงแล้วหัวเราะให้กับตัวเอง

 

ฉันไม่มีทางลืมสีหน้าอันสุดตกใจของตัวเองเมื่อ 3 วันก่อนได้เลย

 

เรื่องราวมันคงจะดีกว่านี้ไปแล้วหากว่าฉันได้เบอร์โทรศัพท์ของเขามาจริงๆ

 

 

 

「โฮมุระคุงไม่มีโทรศัพท์น่ะ……」

 

「「……」」

 

「พวกเธอบอกฉันทีสิว่าควรจะไปยังไงต่อ……」

 

 

สรุปง่ายๆก็คือ บ้านของเขาไม่มีทีวี ไม่มีคอม ไม่มีโทรศัพท์

 

เขาก็เลยคุยกับฉันไม่รู้เรื่องเลยสักนิด

 

เมื่อรู้แบบนี้แล้ว คาโอริก็ถอนหายใจออกมาแล้วปิดฝาข้าวกล่องที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่งก่อนวางศอกไว้บนโต๊ะแล้วเอามือท้าวคาง

 

「ถ้าเป็นแบบนี้สิ่งที่ฉันคิดต้องเป็นเรื่องจริงๆแน่ๆ เขาต้องอาศัยอยู่ตามลำพังและแบกรับอดีตอันดำมืดเอาไว้แน่ๆ」

 

 

「เอโกะหยุดหลอนเถอะ」

 

「อยากจะเข้ารูทเขาจัง……」

 

「ไม่ช้าเกินไปหน่อยเหรอ……?」

 

 

บางครั้งอาโกะก็พูดอะไรแปลกๆออกมา

 

เพราะเป็นโอตาคุคลั่งเกมจีบหนุ่ม วิธีในการอยู่กับเธอก็คือการอย่าไปใส่ใจเรื่องที่เธอพูดให้มากนัก

 

 

 

「แต่มันจะมีจริงๆเหรอคนที่มีพื้นเพแบบนั้น?」

 

「นั่นสิเจอแบบนั้นเข้าไปจะกลายเป็นคนดีกับเขาได้เหรอ?」

 

「เรื่องนั้นมันก็ใช่อยู่หรอก แต่มันก็น่าสงสัยออกนะว่าเขามาจากครอบครัวแบบไหน คิดดูสิคนที่ขาดปัจจัย 3 สุดสำคัญบนโลกยุคนี้อย่าง ทีวี คอม กับโทรศัพท์มันเป็นไปได้ด้วยเหรอ」

 

「เกิดมาก็เพิ่งเคยได้ยินปัจจัย 3 ที่เธอว่านี่แหละ」

 

 

ในมุมของพวกฉันเองก็คิดว่าแปลกอยู่หรอก

 

ฉันกับคาโอริมองดูเอโกะเพ้ออะไรไปเรื่อย

 

 

「โคโนฮานะ」

 

「คะ!?」

 

「「!?」」

 

 

ทันใดนั้นเอง คนเป็นที่หัวข้อในการพูดคุยของพวกเราก็ส่งเสียงขึ้น จนทำให้ฉันสะดุ้งจนแทบกระโดดออกจากเก้าอี้

 

สะ เสียง นี้มัน

 

 

「เอ่อ โฮมุระคุง」

 

「ขอโทษที ไปขัดพวกเธอคุยกันสินะ? (……? พูดอะไรของเธอน่ะอัลฟ่า?)」

 

(เห็นสาวๆคุยกันแล้วน่าสนุกดีน่ะ)

 

 

ฉันตอบกลับโฮมุระคุงที่อยู่ดีๆก็พูดชื่อของฉันขึ้นมา

 

 

 

「เอ่อ แล้วมีอะไรเหรอ โฮมุระคุง?」

 

「เอ่อ…นั่นสิ คือ ฉันจะคืนสิ่งนี้ให้น่ะ」

 

สิ่งที่เขายื่นมาให้คือโน๊ตที่ฉันให้เขายืมเมื่อเช้านี้

 

เมื่อวันก่อนเขากลับมาจากการขาดเรียนไป 3 วัน ฉันก็เลยให้เขายืมโน๊ตที่ฉันจดเอาไว้

 

แถมช่วงที่เขาขาดไปก็เกิดแผ่นดินไหวจนผิดปกติหลายครั้งด้วยสิ ตอนนั้นฉันกังวลพอสมควรว่าเขาจะเป็นอะไรไหม

 

อันที่จริงก็แปลกใจเหมือนกันนะที่เขาคืนมาให้เร็วขนาดนี้

 

 

 

「ขอบคุณมาก ช่วยฉันได้เยอะเลย」

 

「อื้อ ด้วยความยินดี」

 

「แล้วก็นี่」

 

 

ต่อจากโน๊ตเขาได้ยืนกล่องน้ำผลไม้มาให้ฉัน

 

เป็นอันที่ฉันชอบซื้อมาจากตู้กดน้ำซะด้วยสิ

 

เขาจำได้ยังไงกันนะ?

 

แต่เดี๋ยว…คนที่ประหยัดถึงกระทั่งไม่ซื้อดินสอกดมาใช้ ซื้อน้ำผลไม้มาให้ฉันเนี่ยนะ?

 

คงไม่ใช่ว่าเขาคิดอะไรแบบนั้นกับฉันใช่ไหม?!?!?

 

 

 

「….เอ่อ นี่คือทั้งหมดที่ฉันพอจะตอบแทนเธอได้ แต่ถ้ามันเป็นการกวนใจ———」

 

「ยะ ยินดีรับไว้เลยค่ะ!!」

 

「ทำไมต้องสุภาพขนาดนั้น? เอาเถอะ นี่」

 

 

จากนั้นฉันก็รับน้ำผลไม้มา

 

หลังจากนั้นฉันก็เบนสายตาไปหาเอโกะและคาโอริที่นั่งตัวแข็งขณะจ้องมองฉัน

 

 

 

「ขอโทษที่มากวนตอนคุยกันนะ」

 

「เอ่อ เดี๋ยวสิ คัตสึมิคุง」

 

 

เขากลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเองตามเดิมเหมือนธุระจบลงแล้ว

 

หลังจากยืนยันว่าเขากลับไปแล้ว เราก็กลับมารวมหัวกันต่อ

 

 

「เดี๋ยวสิ นี่มันแปลกๆนะ」

 

「นั่นสิแปลกสุดๆ」

 

「หรือว่าเขาจะเป็นคนที่มีสองด้าน และจะแสดงด้านที่อ่อนโยนให้กับคนที่ตัวเองชอบได้เห็นเท่านั้นกันนะ?!」

 

 

เอโกะเป็นคนเดียวที่พูดอะไรแปลกๆออกมา แต่ฉันเห็นด้วยกับคาโอริเลย

 

คัตสึมิ โฮมุระเป็นคนแปลกๆสุดๆ

 

ชอบปล่อยบรรยากาศแปลกๆออกมา แต่สิ่งที่แปลกสุดของเขาก็คือการกระทำที่คาดไม่ถึงนี่แหละ

 

 

****

จากไทม์ไลน์แล้วเป็นช่วงที่คัตสึมิกำลังออกไปต่อสู้กับสัตว์ประหลาดแม็กม่า เขาจึงจำเป็นต้องขาดเรียนไปถึง 3 วัน

 

 

 

–จบ–

โฮมุระคุงโต๊ะข้างๆ เอาน้ำผลไม้มาให้ซะหัวใจจะวาย

 

มาเม้ามอยหลังอ่านกันได้ที่เพจนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ช่วยหารค่าไฟ  และสามารถช่วยค่าไฟคนแปลได้ที่ กสิกร 2092612913 หรือ QR Code

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

Score 10
Status: Completed
คัตสึมิ โฮมุระ วายร้ายที่รู้จักกันในนาม อัศวินดำ ชายผู้คิดว่าตัวเองคือวายร้ายแสนโฉดชั่ว เมื่อพ่ายแพ้ให้กับฝั่งฮีโร่เขาก็ถูกจับตัวไป ทว่าสิ่งที่รอเขาอยู่กลับไม่ใช่คุกหรือพวกตำรวจ แต่กลับเป็นขุมนรกที่ตัวเขาเกินจะคาดฝันแทนซะอย่างงั้น โลกที่ขบวนการเซ็นไตมีอยู่จริง เรื่องราวของอัศวินดำจอมวายร้ายที่มีสามัญสำนึกผิดแปกและถูกคนธรรมดาเข้าใจผิดมาโดยเสมอ บัดนี้เขากำลังจะถูกลากเข้าขบวนการเซ็นไตเสียแล้ว ※ผลงานชิ้นนี้กาวล้วนๆไม่มีเกลือผสม

Options

not work with dark mode
Reset