ตอนที่ 633 เรามันน่าสงสาร ตอนที่ 634 พี่ชายมีหวานใจ
ตอนที่ 633 เรามันน่าสงสาร
หลังจากมู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนแยกกับเหลยจื่อก็ไปที่บ้านครอบครัวเจียง
ครอบครัวเจียงสามบ้านมารวมตัวกันหมด ยกเว้นเจียงเหวินกับภรรยาที่พาเจียงลั่วไฉ่เข้าเมืองไปฝังเข็ม
หร่วนเหวินก็มาถึงแล้ว
“เสี่ยวเยาเยาดูผอมลงนะ” ดูเปลี่ยนไปมากเลย
ตี้อู๋เปียน “…” นี่กำลังตำหนิเขาว่าดูแลซาลาเปาน้อยไม่ดีหรือเปล่า
มู่เถาเยา “…พี่หร่วนเหวินคะ ฉันไม่ได้ผอมลงค่ะ”
“ผอมลงนะ หน้าเธอไม่มีแก้มแบบเมื่อก่อนแล้ว”
“…น่าจะโตขึ้นมั้งคะ ไขมันหน้าเด็กก็เลยไม่ชัดแล้ว”
ตี้อู๋เปียนพยักหน้า ซาลาเปาน้อยผอมลงหรือเปล่าเขารู้ดีที่สุด!
มู่เถาเยากลัวถูกคาดคั้นเรื่องนี้จึงเปลี่ยนเรื่องคุย “คนในครอบครัวสบายดีนะคะพี่หร่วนเหวิน”
“สบายดีจ้ะ ก็แค่พวกเธอออกมาเที่ยวกันนานมาก ทุกคนเลยคิดถึง”
“ค่ะ เดี๋ยววันนี้ก็กลับแล้วค่ะ”
“จ้ะ คนแก่กับเด็กๆ ไปรออยู่ที่เมืองเย่ว์ตูแล้ว หัวหน้าเผ่ากับคุณผู้ชาย คุณนาย คุณไป๋ ก็มาถึงล่วงหน้าแล้ว รอแค่พวกเธอกลับไปเจอกัน”
“ไปถึงเมืองเย่ว์ตูกันหมดแล้วเหรอคะ ทำไมเมื่อเช้าไม่เห็นบอก”
หร่วนเหวินยิ้มพลางตีปากตัวเอง “ทุกคนอยากเซอร์ไพรส์เธอ ดูพี่สิ เผลอพูดออกไปจนได้”
มู่เถาเยายิ้มมุมปาก ดวงตาโค้งมน “อาจารย์สามเป็นยังไงบ้างคะ”
“วางใจเถอะ แข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูก ไม่มีอาการอะไรเลยตั้งแต่ตั้งท้อง เหมือนหัวหน้าเผ่าตอนท้องไม่มีผิด ตอนนี้ผู้เฒ่าทั้งสองของตระกูลตี้อู่มารอเสี่ยวลู่ลู่เกิดที่เมืองเย่ว์ตูแล้ว คุณนายใหญ่เซี่ยที่อยู่เมืองหลวงก็มาเยี่ยมบ่อย หลายวันนี้พวกเขาอยู่เมืองเย่ว์ตูกันหมดเลยจ้ะ”
“ค่ะ” ตี้อู่หลันฉือส่งข้อความบอกเธอตลอด
คนตระกูลตี้อู่พึ่งพาได้ เธอดีใจแทนอาจารย์สาม
ทั้งสองคนคุยกันพอประมาณ จากนั้นมู่เถาเยาก็จูงเจียงเหอมาเล่าเรื่องเหลยจื่อกับสามีให้ฟัง
เจียงเหอขอเบอร์โทรศัพท์ทันที ที่ทำงานของเธออยู่ใกล้โรงพยาบาล หลังเลิกงานไปเยี่ยมได้
เวลานี้ครอบครัวเจียงจัดวางอาหารเสร็จแล้ว เจียงคั่วมาเชิญมู่เถาเยา ตี้อู๋เปียน และหร่วนเหวินไปนั่ง
บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารที่เพียบพร้อมด้วยรูป กลิ่น รส ช่วยเพิ่มความอยากอาหารมากยิ่งขึ้น
หลังจากกินกันจนอิ่มหนำสำราญแล้ว มู่เถาเยาก็โทรบอกลาเหลยจื่อ อีกทั้งยังเอาช่องทางติดต่อของเจียงเหอให้ มีอะไรก็ให้ติดต่อเจียงเหอแทน
อยู่ต่างบ้านต่างเมืองรู้จักคนท้องถิ่นไว้ก็สะดวกขึ้นมาก
ต่อมาพวกมู่เถาเยาสามคนก็บอกลาครอบครัวเจียงที่มีสายตาอาลัยอาวรณ์แล้วขึ้นเฮลิคอปเตอร์
อยากกลับบ้านจะแย่แล้ว
ก่อนหน้านี้ไม่รู้สึกอะไรมาก แต่ตอนนี้ยิ่งใกล้ถึงบ้านก็ยิ่งคิดถึง
ทั้งสองคนล้างใบหน้าพลางคุยกันเรื่องคนกับเมืองเย่ว์ตู
ตี้อู๋เปียนมองมู่เถาเยาที่มีสีหน้าตื่นเต้น เขาแอบปวดใจ
พอกลับไปเขาก็จะกอดจูบตามอำเภอใจไม่ได้แล้ว ตอนเย็นก็ยิ่งทำ…ไม่ได้
เฮ้อ…คนที่ทุกข์ทรมานก็มีแต่เขา
แต่จะไม่พอใจแค่ไหนเฮลิคอปเตอร์ก็ลงจอดที่เมืองเย่ว์ตูแล้ว
พวกเด็กๆ วิ่งกรูกันเข้ามากอดขามู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนพูดเจื้อยแจ้วบอกคิดถึง แต่ละคนมีความสุขกันเหลือเกิน
โดยเฉพาะอวิ๋นเยี่ยนหัง เย่ว์อู๋ซวง เยี่ยจั๋ว
มู่เถาเยากอดหอมพวกเด็กๆ อยู่สักพักก็ไปพูดคุยกับพวกผู้ใหญ่
หยวนเหยี่ยกับซย่าโหวโซ่วมองลูกศิษย์คนเล็กด้วยสายตาเอ็นดู ดีใจยิ้มแก้มปริแทบมองไม่เห็นตาแล้ว
ย่าเย่ว์กับยายหลานจับมือมู่เถาเยาไว้ไม่ยอมปล่อย “เสี่ยวเยาเยาผอมลงไปนะ อยู่ข้างนอกกินอยู่ไม่ดีแน่เลย ตอนนี้กลับมาแล้วต้องบำรุงหน่อย”
ทุกคนพยักหน้าพร้อมกัน
มู่เถาเยา “…” เธออยากบอกว่าไม่ได้ผอมลง แต่ไม่มีคนฟังแน่ ๆ
ตี้อู๋เปียน “…” ทำไมไม่มีใครเป็นห่วงบ้างว่าเขาผอมลงหรืออ้วนขึ้น เขาตัวโตขนาดนี้ถึงขั้นมองข้ามกันเลยเหรอ
คุยกับบรรดาผู้อาวุโสสักพัก มู่เถาเยาก็เปลี่ยนไปคุยกับพวกแม่ๆ และสาวๆ
วันนี้วันเสาร์ ไม่ต้องทำงานไม่ต้องเรียน คนที่อยู่เมืองเย่ว์ตูอยู่แล้วจึงมากันหมด แม้แต่ครอบครัวอ้ายโยวทั้งสามคนก็อยู่ด้วย
เป่ยซีคล้องแขนลูกสาวพลางยิ้มพูด “พวกเรากลับบ้านก่อนค่อยคุยกัน อาจารย์สามชะเง้อคอมองหาจนคอจะเคล็ดแล้ว”
มู่เถาเยา “อาจารย์สามก็มาที่ตำหนักพระจันทร์เหรอคะ”
“ใช่จ้ะ พอพวกผู้ใหญ่พาเด็กๆ มาจากหมู่บ้านเถาหยวน อาจารย์สามของลูกก็มาอยู่พูดคุยกับทุกคนรอลูกกลับมาจ้ะ”
“ค่ะ งั้นรีบกลับกัน หนูอยากดูเสี่ยวลู่ลู่”
คุณนายใหญ่เซี่ยตี้อู่ลู่น่ายิ้มกว้างพลางพูด “เสี่ยวลู่ลู่เป็นเด็กดีมาก ไม่ดื้อกับแม่เลยสักนิด ย่าเขาบอกว่าเหมือนพ่อตอนเด็กๆ ไม่มีผิด”
ช่วงแรก ๆ พวกเขากังวลกันมาก อย่างไรเสียก็ท้องตอนอายุห้าสิบกว่าแล้ว ต่อมาพอเห็นว่าไม่มีอาการแพ้ท้องเลยสักนิด พวกเขาก็โล่งอก
“งั้นก็ดีค่ะ คุณป้าใหญ่คะ พี่อู๋เสียก็ท้องอยู่ คุณป้าใหญ่กับคุณลุงไม่ต้องห่วงทางนี้นะคะ พวกเราอยู่กันเยอะช่วยดูแลอาจารย์สามกับเสี่ยวลู่ลู่ได้ค่ะ”
“จ้ะ รู้ว่าพวกเธอจะกลับมาวันนี้พวกเราเลยอยากเจอหน้าก่อนค่อยกลับไป”
ตี้อู๋เปียน “อีกสองวันฉันจะกลับเมืองหลวงพร้อมลุงใหญ่ป้าใหญ่”
“เอาสิ”
ทุกคนขึ้นรถ
เย่ว์หลั่ง เป่ยซี มู่เถาเยา อวิ๋นเยี่ยนหัง เย่ว์อู๋ซวง ขึ้นรถคันเดียวกัน ตี้อู๋เปียนก็อยากตามไปด้วย ปรากฏว่าถูกจ้องด้วยสายตาอาฆาต
เพื่อไม่ให้ว่าที่พ่อตาโมโห ตี้อู๋เปียนเลยต้องลูบจมูก ชักเท้าที่กำลังจะก้าวขึ้นรถออก
อวิ๋นไป๋ตบบ่าหลานชายด้วยความสงสาร ลากไปขึ้นรถด้วยกัน
เย่ว์เลี่ยงพูดด้วยความรู้สึกขำ “อู๋เปียน เสี่ยวเยาเยายังเด็ก ตระกูลเย่ว์ไม่ปล่อยเร็วขนาดนั้นหรอก รอไปอย่างอดทนนะ”
อวิ๋นไป๋ขำอย่างไม่ไว้หน้า
ตี้อู๋เปียน “…”
เพิ่งกลับมาก็ถูกแทงใจดำ! เรามันน่าสงสารจริงๆ!
ตอนที่ 634 พี่ชายมีหวานใจ
ตี้อู๋เปียนอยู่เมืองเย่ว์ตูสองวันก็กลับเมืองหลวงพร้อมสองสามีภรรยาตระกูลเซี่ยและเซี่ยอวี่ฮว่า
เย่ว์เลี่ยงกับอวิ๋นไป๋ก็กลับเผ่าหมาป่าพระจันทร์
เดิมทีอยากพาลูกทั้งสองคนกลับไปอยู่ด้วยสักหน่อย แต่เด็กทั้งสองติดหนึบมู่เถาเยา ไม่อยากกลับ ก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลย
เย่ว์หลั่งกับเป่ยซีอยู่กับมู่เถาเยาที่เมืองเย่ว์ตูหนึ่งสัปดาห์ถึงกลับไป เปลี่ยนให้เย่ว์จือเหิงกับเย่ว์จือกวงมาบ้าง รวมถึงปาเฝ่ย
คนที่สนิทกับมู่เถาเยาอย่างมู่หว่าน เจียงเฟิงเหมียน อวิ๋นสุ่ยเหยา น่าหลานอวิ๋นไค กู้หาน จั่วอีเหิง เซี่ยซิงเฉิน โจวซือหย่วน ฟางฝ่าง ต่างก็มาที่เมืองเย่ว์ตูด้วยตอนสุดสัปดาห์
ต่อมามู่เถาเยาก็พบว่าความสัมพันธ์ระหว่างเย่ว์จือเหิง เย่ว์จือกวงกับกู้หาน ตี้อู่หลันฉือดูแปลกๆ
เธอกับตี้อู๋เปียนออกไปเที่ยวครึ่งปี ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาที่เปลี่ยนไป แม้แต่คนในครอบครัวก็…มีคู่กันครบแล้ว!
เรื่องนี้ทำให้ตี้อู๋เปียนมีความสุขเสียจนเกือบควบคุมการระเบิดเสียงหัวเราะไม่ไหว
ตกดึกยังอยากแอบออกจากคฤหาสน์อวิ๋นย่องมาขึ้นเตียงที่บ้านครอบครัวหยวน แต่ก็ไม่กล้า เพราะวรยุทธ์ของซย่าโหวโซ่วไม่ใช่แค่ราคาคุย เขาเลยทำได้แค่ส่งข้อความหามู่เถาเยาถึงข้อสังเกตที่เขาพบเจอและความดีใจ
มู่เถาเยาแอบประหลาดใจที่เขาละเอียดอ่อนแบบนี้
เธอยังคิดอยู่ว่าพรุ่งนี้จะไปขอคำยืนยันจากกู้หานกับตี้อู่หลันฉือ
ใครจะไปคาดคิดว่าเช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากกินอาหารเช้าเสร็จลู่จือฉินก็ปรึกษาทุกคนว่าอยากผ่าคลอดเด็กออกมา
เสี่ยวลู่ลู่ครบเวลาตั้งครรภ์แล้ว ทุกคนย่อมไม่ว่าอะไร จึงพาไปส่งโรงพยาบาล
วันที่สามสิบมีนาคมเวลาสิบโมงสิบนาที ชื่อเล่นเสี่ยวลู่ลู่ ชื่อจริงตี้อู่หลันหลิน ออกจากท้องแม่ลืมตามาดูโลกที่มีแต่ความรักแห่งนี้ได้สำเร็จ แข็งแรงปลอดภัยทั้งแม่และลูก
มู่เถาเยากับเยี่ยนหังจับมือลู่จือฉินไว้ รู้สึกอยากร้องไห้
ในที่สุดชาตินี้พวกเขาก็สมบูรณ์แล้ว
นับแต่นี้ไปเรื่องในชาติที่แล้วจะหายไปดุจหมอกควัน ต่อไปจะไม่นึกถึงมันอีก
ลู่จือฉินยิ้มให้สองพี่น้อง ทุกอย่างไม่ต้องการคำพูดใดๆ
คุณนายผู้เฒ่าตี้อู่ประทับใจจนหลั่งน้ำตา
ผู้หญิงวัยห้าสิบกว่ายังยินยอมเสี่ยงอันตรายมีลูกให้ลูกชายของเธอ แบบนี้ต้องมีความกล้าหาญถึงขั้นไหน! ในฐานะที่เธอเป็นผู้หญิงย่อมเข้าใจ เธอปล่อยวางเรื่องลูกชายคนโตได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว
อธิการบดีเจียงที่เป็นพี่ชายแท้ๆ เริ่มไล่คน “เอาล่ะ ทุกคนได้เห็นจือฉินกับลูกแล้ว ใครควรกลับบ้านก็กลับไปก่อน ห้องผู้ป่วยอยู่กันเยอะขนาดนี้ไม่ได้”
ทุกคนเข้าใจ ครั้นแล้วตี้อู่เหลียนจิงที่เป็นสามีกับมู่เถาเยาที่เป็นลูกศิษย์ รวมถึงตี้อู่หลันฉือที่เป็นลูกสาวก็อยู่ต่อที่โรงพยาบาล คนอื่นๆ กลับไปก่อน
ตี้อู่เหลียนจิงดูแลลู่จือฉิน มู่เถาเยากับตี้อู่หลันฉือไปดูเสี่ยวลู่ลู่ที่เพิ่งเกิดแบบสดๆ ร้อนๆ
“เสี่ยวเยาเยา เสี่ยวลู่ลู่น่ารักจังเลย!” ตี้อู่หลันฉือพี่สาวที่โตกว่ามากมองน้องชายที่กำมืออยู่
“นั่นสิคะ น่ารักจังเลย! หัวใจฉันจะละลายแล้วค่ะ!”
แม้เด็กทารกจะเพิ่งเกิด แต่ลู่จือฉินกินของดีเข้าไปมากมาย เด็กจึงไม่ตัวยับและสกปรกเหมือนเด็กทารกส่วนใหญ่ แต่รูปร่างขาวอวบอมชมพู น่ารักดูดีมาก
เครื่องหน้ายังไม่ชัด มองไม่ออกว่าเหมือนใคร แต่ดั้งโด่งพอสมควร เหมือนคนตระกูลตี้อู่ มู่เถาเยากับตี้อู่หลันฉือมั่นใจว่าโตขึ้นเขาจะต้องเป็นผู้ชายรูปหล่อแน่นอน
“เสี่ยวเยาเยา วันหน้าถ้าพ่อแม่พี่อายุเยอะ พี่จะเลี้ยงเสี่ยวลู่ลู่เป็นลูกชาย ซื้อบ้านซื้อรถแต่งเมียให้เขา”
มู่เถาเยาอดขำไม่ได้
“พี่ไม่ต้องเลี้ยงเสี่ยวลู่ลู่เป็นลูกหรอกค่ะ ฉันจะช่วยคงความอ่อนเยาว์ให้อาจารย์สามกับคุณลุงตี้อู่เอง ต่อให้พวกเขาอายุร้อยปีก็ยังจะเหมือนห้าหกสิบ ให้พวกเขากังวลเรื่องของลูกชายเอง”
ตี้อู่หลันฉือพยักหน้าหงึก ๆ เธอเชื่อว่ามู่เถาเยามีความสามารถนั้น อาจารย์ใหญ่กับอาจารย์รองก็เป็นตัวอย่างให้เห็นแล้วไม่ใช่เหรอ
ผู้อาวุโสทั้งสองดูอ่อนเยาว์ได้ด้วยความพยายามของตัวเอง แต่มู่เถาเยาก็มีส่วนอยู่ไม่น้อย
มู่เถาเยาเห็นข้างๆ ไม่มีใครอื่นจึงใช้โอกาสนี้ถามขึ้น “พี่หลันฉือคะ พี่กับพี่รองมันยังไงกันคะ คบกันอยู่เหรอ”
พอได้ยินแบบนั้นใบหน้าที่งดงามของตี้อู่หลันฉือก็แดงขึ้นทันที
มู่เถาเยาเห็นแล้วจะยังไม่เข้าใจอีกเหรอ จึงแสร้งทำเป็นงอน “พวกพี่ไปคบกันตั้งแต่เมื่อไร ส่งข้อความหาฉันทุกวันไม่เห็นบอกบ้างเลย ปิดเงียบเชียวนะคะ!”
“…ก่อนหน้านี้พวกเราสาวๆ หยุดเจ็ดวันช่วงวันชาติเลยไปเที่ยวที่เผ่าหาเยี่ยนหังกับอู๋ซวงใช่ไหมล่ะ…ตอนนั้นพี่ถูกคลื่นซัดไปไกลมาก พี่รองของเธอมาช่วยไว้…ต่อมาเขาก็สอนพี่ว่ายน้ำด้วย…” ตี้อู่หลันฉือมองนิ้วชี้พลางเล่าให้มู่เถาเยาฟังอย่างละเอียด
“อ้อ~” มู่เถาเยาจงใจลากเสียงยาว
ตี้อู่หลันฉือหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม
“แล้วพี่ใหญ่ของฉันกับพี่กู้หานล่ะคะ”
“ฮิ ๆ เรื่องนี้พี่รู้! พี่กู้หานกับพี่อีเหิงใกล้เรียนจบแล้วใช่ไหมล่ะ สองคนนี้เลยไปหมู่บ้านเถาหยวนบ่อย…พี่ใหญ่ของเธอสนใจเรื่องชิปเป็นพิเศษ…” บลา ๆ ๆ
มู่เถาเยายิ้มอย่างมีความสุข “พวกพี่เหมาะสมกันมากค่ะ หวังว่าจะได้แต่งกันเร็วๆ” พี่ใหญ่ของเธออายุตั้งสามสิบแล้ว!
เวลานี้เธอชักเข้าใจความรู้สึกของปาอินที่เมื่อก่อนกลุ้มเรื่องปาเฝ่ยแล้ว
“พี่กู้หานใกล้เรียนจบแล้ว พวกเขาน่าจะใกล้แล้วหรือเปล่า จริงสิ ถังถังกับปาเฝ่ยคุยเรื่องแต่งงานกันแล้วนะ เห็นว่าเรียนจบปริญญาโทก็จะแต่งงาน จากนั้นจะไปเรียนดอกเตอร์ที่สถาบันแพทยศาสตร์ปาซื่อ”
“ค่ะ พี่ถังถังกับเสี่ยวอินบอกฉันแล้ว”
ยิ่งคนประเทศเหยียนหวงกับเผ่าหมาป่าพระจันทร์แต่งงานกันเยอะ ความสัมพันธ์ก็จะยิ่งแน่นแฟ้น
นี่เป็นสิ่งที่เธอกับตี้อู๋เปียน ตระกูลเย่ว์กับตระกูลตี้ยินดีที่จะให้เป็น
“เสี่ยวเยาเยา เธอล่ะ ออกไปเที่ยวกับคุณชายเล็กตั้งครึ่งปี เกิด…อะไรขึ้นบ้างไหม” ตี้อู่หลันฉือขยิบตาให้อย่างมีเลศนัย
“เอ่อ…” ใบหน้าขาวนวลของมู่เถาเยาเริ่มแดงขึ้นทีละนิด