ตอนที่ 574 จะจูบได้ดีกว่านี้ / ตอนที่ 575 ไม่อยากสนใจสายรุ้ง
ตอนที่ 574 จะจูบได้ดีกว่านี้
เนื่องจากมีพื้นฐานร่างกายดี ตี้อู๋เปียนกับมู่เถาเยาจึงไม่เป็นอะไรสักนิดแม้ไม่ได้นอนมาทั้งคืน
“ซาลาเปาน้อย ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้น พวกเรามาฝึกต่อสู้กันหน่อยเป็นไง” น้ำเสียงของตี้อู๋เปียนดูตื่นเต้นเล็กน้อย
ผลลัพธ์ที่ได้จากเรื่องไม่คาดฝันเมื่อคืนทำให้เขาตื่นเต้นมาก นอนไม่หลับตลอดคืน อยากทำอะไรหน่อยเพื่อแสดงให้เห็นว่าอารมณ์ดีมาก
มู่เถาเยาส่ายหน้า พูดปฏิเสธ “เดี๋ยวเหงื่อออก ไม่มีที่อาบน้ำค่ะ”
ทะเลทุ่งหญ้าไม่เหมือนในป่า ในป่าส่วนใหญ่จะมีแหล่งน้ำ อีกทั้งมีต้นไม้ให้ร่มเงา ร่มเย็นเป็นทุนเดิม แต่หญ้าของทะเลทุ่งหญ้าสูงไม่ถึงเข่า บังแดดไม่ได้ ระหว่างเดินมาก็เหงื่อออกเยอะแล้ว ถ้าออกกำลังอย่างหนักหน่วงอีกเหงื่อท่วมตัวแน่นอน…
“…ก็ได้” ตี้อู๋เปียนมองทิวเขา ก็ไม่เหมือนจะมีแหล่งน้ำ จำต้องล้มเลิกความคิด
ทั้งสองคนนั่งขัดสมาธิ ฝึกกำลังภายในเสร็จดวงอาทิตย์ก็ขึ้นพอดี
มู่เถาเยาไม่ได้ลุกขึ้น หันหน้านั่งไปทางดวงอาทิตย์ต่อ หลับตาเข้าสู่ห้วงสมาธิ
ตี้อู๋เปียนหยิบกล้องขึ้นมากดชัตเตอร์รัวๆ
พวกเขาพกแบตเตอรี่กับการ์ดหน่วยความจำมาเยอะ ถ่ายได้เต็มที่
เมื่อดวงอาทิตย์ยามเช้าขึ้นเหนือทิวเขาแล้ว ตี้อู๋เปียนถึงวางกล้องถ่ายรูป เริ่มเก็บเต็นท์และข้าวของต่างๆ
พอเก็บเสร็จมู่เถาเยาก็ออกจากสมาธิ
“ซาลาเปาน้อย รีบล้างหน้าแปรงฟันแล้วกินอะไรสิ”
ตี้อู๋เปียนบีบยาสีฟันให้แล้ว ยื่นให้มู่เถาเยาพร้อมน้ำ
มู่เถาเยามองตี้อู๋เปียนที่ดูตื่นเต้นตลอดเวลา เธอรับแปรงสีฟันมา รวมถึงน้ำดื่ม จากนั้นก็เริ่มแปรงฟัน
เธอครุ่นคิดขณะแปรงฟัน ดูท่าเรื่องไม่คาดคิดเมื่อคืนจะไม่ได้ส่งผลแค่กับเธอ…
แต่เธอคิดมาตลอดคืน จนถึงตอนนี้ก็ยังคิดไม่ออกว่าทำไมตัวเองถึงปล่อยเลยตามเลย เธอพลิกตัวไปพลิกตัวมาหลายรอบ หัวใจก็ยังเต้นรัว…
คู่รักหรือสามีภรรยาจูบกันก็แบบนี้หมดหรือเปล่า หรือไม่จำเป็นต้องรักกันก็ได้ เป็นความต้องการทางร่างกายอย่างเดียว
อะไรที่เป็นในทางทฤษฎีต้องอาศัยการทดลองเพื่อพิสูจน์ แม้เธอจะเป็นหมอ แต่ก็ไม่เคยทดลองด้วยตัวเอง ไม่ค่อยเข้าใจว่าอาการตื่นเต้นแบบนี้มีสาเหตุมาจากกลไกร่างกายหรือจิตใจ หรือทั้งสองอย่างรวมกัน
หรือว่าจะ…อึม ทดลองด้วยตัวเองดี
ตี้อู๋เปียนนั่งยองข้างมู่เถาเยา ทำเหมือนเรียกวิญญาณ “ซาลาเปาน้อย ซาลาเปาน้อย ซาลาเปาน้อย…”
มู่เถาเยาหันไปทั้งที่ในปากมีฟอง “?”
“เธอแปรงหลายนาทีแล้วนะ คิดอะไรอยู่ หรือว่าเรื่องเมื่อคืนทำเธอคิดมาก”
พอเกิดเรื่องไม่คาดฝันนั้นเขาก็ไปต่อ ซาลาเปาน้อยไม่ปฏิเสธ เขาเลยตื่นเต้นดีใจทั้งคืน!
มู่เถาเยาไม่ตอบ เอาน้ำกลั้วปาก ล้างแปรงสีฟันเสร็จก็เก็บเข้ากล่อง
ตี้อู๋เปียนหยิบน้ำมาอีกขวด เทใส่ผ้าเช็ดหน้าของเธอแล้วเช็ดหน้าให้เหมือนเช็ดเด็กน้อย
มู่เถาเยาเขินเล็กน้อย เอาผ้าเช็ดหน้าไปเช็ดเองจนสะอาด
“ซาลาเปาน้อย เมื่อคืน…”
“มันผ่านไปแล้วไม่ต้องพูดถึงหรอกค่ะ” ไม่รู้ว่าเพราะอายหรืออะไร เอาเป็นว่าเธอไม่อยากพูดถึงแล้ว
“…ฉันจะคลายความสงสัยให้เธอ” เขายังอารมณ์ค้างอยู่! ยังไม่ออกจากวังวนนั้น!
พอนึกถึงตรงนี้ สายตาของตี้อู๋เปียนก็อดมองริมฝีปากแดงอ่อนนุ่มของมู่เถาเยาไม่ได้
“ทำอย่างกับว่าตัวเองประสบการณ์สูง จริงๆ ก็โสดมายี่สิบเจ็ดปี!”
มู่เถาเยาแย้งเขาพลางก้มหน้าซักผ้าเช็ดหน้า ไม่ได้สังเกตเห็นว่าใครบางคนกำลังมาไม้เดียวกับเมื่อคืน
พอเธอได้ยินเสียงลมหายใจใกล้ๆ หันหน้าไปครึ่งหนึ่งแล้วหันกลับทันที จากนั้นก็ยืนขึ้น
ตี้อู๋เปียน “…”
ซาลาเปาน้อยฉลาดเกิน! เผลอไปแล้วครั้งหนึ่งอย่าคิดว่าจะมีครั้งสอง!
เสียดายจัง!
มู่เถาเยากลั้นขำ แสร้งทำเป็นไม่สังเกตเห็นอะไรแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าที่เปียกไปผึ่งบนกระเป๋าเต็นท์ จากนั้นก็หยิบเนื้อวัวอบแห้งออกมาจากถุง ฉีกกินพร้อมนม
ตี้อู๋เปียนถอนหายใจยอมแพ้ หันไปหยิบผ้าใบมาปูพื้น “ซาลาเปาน้อย นั่งกินสิ”
“อึม”
มู่เถาเยานั่งลง เอาถุงใส่เนื้ออบแห้งในมือยื่นให้เขาถือ
“ซาลาเปาน้อย เมื่อคืน…”
“หยุด! เอาแต่พูดเรื่องเมื่อคืนทำไม!”
“ซาลาเปาน้อย ฉันชอบจุ๊บจุ๊บ” แม้จะเพิ่งเคยสัมผัส ไม่มีลีลาเด็ดเท่าไรก็ตาม
มู่เถาเยา “…”
ถ้ายังหน้าหนากว่านี้อีกเธอจะต้านทานไม่อยู่แล้ว
“ซาลาเปาน้อย ถ้าให้โอกาสฉันได้ฝึกหลายครั้งหน่อย ฉันจะจูบได้ดีขึ้นแน่นอน” ตี้อู๋เปียนจ้องริมฝีปากแดงอวบอิ่มที่เขาโหยหา
ไม่ใช้โอกาสนี้จูบให้ได้เยอะๆ เดี๋ยวพอกลับไปคนเยอะ อยากแอบจูบก็ยากแล้ว จะแอบเข้าห้องสาวทุกวันก็ไม่ได้
ในบ้านมีแต่คนรู้ทัน เกิดคนตระกูลเย่ว์รู้เข้า เขาอยากแต่งงานกับซาลาเปาน้อยจะยากเสียยิ่งกว่ายาก
มู่เถาเยา “!”
“ซาลาเปาน้อย…”
มู่เถาเยาตะโกนใส่เขา “หุบปาก! รีบกิน เดี๋ยวต้องรีบเดินทาง!”
ถ้ายังพูดเรื่องนี้ต่อ เธอคงทนหน้าหนาฟังต่อไม่ได้จริงๆ!
ตี้อู๋เปียนหัวเราะ
ใบหน้าที่สุดแสนจะธรรมดาหลังแปลงโฉมเบิกบานเหลือเกิน สดใสเจิดจ้าเสียยิ่งกว่าดวงอาทิตย์แรกขึ้น
มู่เถาเยาหัวใจวูบไหวชั่วขณะ จากนั้นก็แสร้งทำเป็นนิ่งนั่งกินอาหารเช้าต่อ
แต่เห็นเขามีความสุขขนาดนี้ มุมปากของเธอก็ยกขึ้นอย่างอดไม่ได้
ตอนที่ 575 ไม่อยากสนใจสายรุ้ง
กินอาหารเช้าเสร็จก็ออกเดินทางต่อ
วันนี้ท้องฟ้าสีครามมาก แต่ไม่เหมือนเมื่อวาน เพราะมีเมฆลอยอยู่เยอะพอสมควร แถมยังเรียงกันเป็นรูปทรงที่น่ารัก สร้างบรรยากาศที่โรแมนติก
แม้เวลานี้จะไม่มีแสงสวยๆ ฉาบท้องฟ้าเหมือนตอนดวงอาทิตย์ขึ้นและตก แต่บรรยากาศที่เหมือนอยู่ในการ์ตูนแบบนี้ก็ชวนให้อารมณ์พาไปไม่แพ้ดวงอาทิตย์ขึ้นและตกเช่นกัน
ฤดูใบไม้ร่วงงดงามที่สุดในบรรดาความงามทั้งหลาย
ฤดูใบไม้ร่วงน่าจะเป็นฤดูที่โรแมนติกที่สุดแล้วของทั้งปี มันผ่านความเจริญงอกงามของฤดูใบไม้ผลิ ความร้อนแรงของฤดูร้อน จนมีความงามที่เย้ายวนเช่นนี้ได้
ดอกหญ้า ต้นอ้อ สุดแสนจะธรรมดา แต่เมื่ออยู่รวมกันเป็นทุ่งผืนใหญ่กลับสะกดใจคนที่พบเจอได้
ตี้อู๋เปียนดีใจเหลือเกินที่ได้เชยชมทิวทัศน์อันงดงามแห่งนี้พร้อมคนที่ชอบ ทำตัวเหมือนเป็นลำโพงพูดไม่หยุดเลยทีเดียว
มู่เถาเยาคิดในใจ ลักษณะนิสัยแบบนี้เหมือนอาจารย์ใหญ่ไม่มีผิด!
แต่เธอเป็นคนที่ชอบฟัง จึงไม่รู้สึกรำคาญ
ทั้งสองคนเดินอยู่ท่ามกลางทะเลหญ้าบนเขาสูงด้วยความสุขสบายใจไปอีกหนึ่งวัน แต่ก็มีแค่ช่วงเช้าที่เห็นดวงอาทิตย์ ต่อมาฟ้าอึมครึม
ตอนบ่ายสี่โมงกว่าฟ้าสีเทา เมฆครึ้มลอยมา ให้ความรู้สึกเหมือนฝนใกล้ตก
มองหาทำเลเหมาะๆ ตี้อู๋เปียนพูดขึ้น “ซาลาเปาน้อย พวกเราตั้งเต็นท์ตรงนี้เถอะ พรุ่งนี้ดูทะเลหมอกเสร็จก็กลับ”
“อึม”
พอทั้งสองคนกางเต็นท์เสร็จฝนก็ตก
เต็นท์ทำด้วยวัสดุกันฝน แถมยังมีเต็นท์นอกซ้อนอีกชั้น ต่อให้ฝนตกหนักกว่านี้ก็ไม่กลัว
ก็แค่ทั้งสองคนหลบฝนอยู่ในเต็นท์เดียวกัน มู่เถาเยาเลยรู้สึกว่าแคบไปหน่อย
แม้ทั้งสองคนจะไม่ได้อ้วน แต่ว่าตัวสูงมาก แม้นี่จะเป็นเต็นท์สำหรับสองคน มู่เถาเยาก็ยังรู้สึกว่าพื้นที่น้อยเกินไป คล้ายกับว่าแค่ขยับก็จะแตะถูกอีกฝ่าย
ตี้อู๋เปียนกลับรู้สึกว่าเต็นท์ใหญ่เกินไป พวกเขาควรเอาเต็นท์สำหรับคนเดียวมาถึงจะถูก!
โอ๊ย ทำไมตอนนั้นคิดไม่ได้นะ!
อึม ต้องเพราะขาดประสบการณ์แน่! ต่อไปจะผิดพลาดแบบนี้ไม่ได้อีกเด็ดขาด!
“ซาลาเปาน้อย…”
เสียงหวานออดอ้อนแบบนี้ชวนให้มู่เถาเยาใจสั่น ขนลุกขึ้นมาทันที “ตี้อู๋เปียน ทำตัวให้มันปกติหน่อย!”
ตี้อู๋เปียนยิ้มกว้างเห็นฟันขาวเรียงตัวสวย “ซาลาเปาน้อย เธอไม่เรียกฉันว่าพี่สามแล้ว เห็นฉันอยู่ในสถานะแฟนแล้วใช่ไหม”
มู่เถาเยา “…”
ถ้าเขาไม่บอก เธอก็ไม่ได้สังเกตว่าคำเรียกแตกต่าง
“ซาลาเปาน้อย ถ้าเธอมีลูกสาวจะให้ชื่ออะไร”
มู่เถาเยา “…คิดมากเกินไปหรือเปล่า”
ตี้อู๋เปียนพูดต่อโดยไม่สนใจ “ซาลาเปาน้อย ถ้าฉันมีลูกสาว ฉันอยากให้ชื่อตี้หมิงจู ไข่มุกในมือของตี้อู๋เปียน”
“…”
ดูเอานะ มีคนตั้งชื่อได้ห่วยกว่าเธออีก! ถังถัง เสี่ยวอิน หลันฉือ พวกเธอไม่ควรหัวเราะเยาะฉัน!
มู่เถาเยาแอบทนไม่ได้ที่จะให้ลูกสาวเขามีชื่อเชยแบบนั้น เธอพูด “รุ่นนี้ของตระกูลตี้ต้องใช้คำว่า ‘เหยี่ย’ ไม่ใช่เหรอ”
ตี้อู๋เปียนเหม่อแบบที่เห็นได้ยาก เขาพูดต่อ “งั้นก็ชื่อตี้ซินเหยี่ย แก้วตาดวงใจของตี้อู๋เปียน”
มู่เถาเยาเงียบไปชั่วขณะ “ฉันว่าให้คุณลุงคุณป้าตั้งให้ดีกว่า”
“…ซาลาเปาน้อย เธอรู้สึกว่ามันไม่เพราะใช่ไหม หรือจะใช้แซ่มู่แซ่เย่ว์ของเธอก็ได้นะ แบบอู๋ซวงไง”
“…”
ลูกสาวของเขาใช้แซ่ของเธอ หมายความว่าไง
มู่เถาเยาเริ่มใบหน้าร้อนผ่าวแล้ว
“ซาลาเปาน้อย ต่อไปให้ลูกของพี่ชายเธอดูแลเผ่าหมาป่าพระจันทร์ไปดีกว่า”
เขาสงสารซาลาเปาน้อยมากพอแล้ว ไม่อยากให้ลูกของพวกเขาต้องเหนื่อย! ตอนเขาตั้งชื่อลูกก็เลยนึกถึงแซ่ตี้ก่อน
“…คิดไปไกลมากแล้ว พวกพี่ชายฉันยังไม่ได้แต่งงานเลย”
“ซาลาเปาน้อย ทำไมพี่ชายทั้งสองคนของเธอไม่หาแฟนล่ะ” พวกเขาไม่แต่งงานจะส่งผลต่อคู่ของเขากับซาลาเปาน้อยหรือเปล่า
“พวกพี่ชายฉันยุ่งมาก” วุ่นอยู่กับการสร้างเผ่าที่แข็งแกร่งไว้ให้เธอ วันหน้าเธอรับช่วงต่อจะได้สบายหน่อย
“ซาลาเปาน้อย ไม่งั้นพวกเราช่วยหาให้ดีไหม เมืองหลวงกับเย่ว์ตูมีผู้หญิงที่อายุเหมาะสมเยอะเลยนะ”
มู่เถาเยากะพริบตาปริบๆ ถามด้วยความไม่เข้าใจ “พ่อแม่ฉันยังไม่รีบเลย คุณรีบเหรอ”
“…”
ตี้อู๋เปียนร้อนใจจริงๆ!
เขากลัวมากว่าตระกูลเย่ว์จะใช้ข้ออ้างว่าพี่ชายยังไม่แต่งงานห้ามซาลาเปาน้อยแต่งกับเขา เขาไม่อยากรอนาน
“ซาลาเปาน้อย ฉันอยากแต่งงานมีลูกกับเธอ”
มู่เถาเยา “…” พูดเรื่องที่เธอไปต่อไม่ได้อีกแล้ว!
“ซาลาเปาน้อย…”
“…ดูนั่นสิ สายรุ้ง!”
ด้านนอกฝนยังตกอยู่ แต่เห็นสายรุ้งลางๆ
ตี้อู๋เปียน “…ซาลาเปาน้อย สายรุ้งน่ามองกว่าฉันอีกเหรอ”
มู่เถาเยามองหน้าของตี้อู๋เปียนอย่างจริงจัง จากนั้นก็พยักหน้าด้วยความสัตย์จริง “น่ามองกว่าคุณตอนนี้”
“….”
“เอ๊ะ สายรุ้งคู่!” มู่เถาเยายื่นมือออกไปแหวกม่านเต็นท์เพื่อให้เห็นกันชัดๆ ทั้งสองคน
สายรุ้งคู่เหมือนสะพานสองสะพาน ทอดยาวอยู่บนท้องฟ้า
หมอกละอองฝนปกคลุมอยู่ทุกทิศยิ่งช่วยขับให้สายรุ้งคู่นี้เหมือนอยู่ในแดนเทพนิยาย งดงามเหลือเกิน
ตี้อู๋เปียน “ตำนานเล่าว่า สายรุ้งคือแสงหลากสีจากหินห้าสีที่หนี่วาใช้ซ่อมแซมท้องฟ้า”
“แต่ในสายตาของคนเผ่าหมาป่าพระจันทร์ ปลายสายรุ้งคือดินแดนที่บรรพบุรุษอยู่ ในตำนานของบางประเทศ สายรุ้งคือสะพานที่เชื่อมระหว่างเทพกับมนุษย์”
ตี้อู๋เปียนละสายตาจากท้องฟ้ามาที่ใบหน้าคนข้างๆ “ซาลาเปาน้อย ฉันไม่อยากสนใจสายรุ้ง ฉันแค่อยากแต่งงานกับเธอ”
มู่เถาเยา “…”
ช่วยผ่านเรื่องนี้ไปได้ไหม!