ตอนที่ 557 เธออยากแม้กระทั่งในฝัน
หลังจากดึงเข็มออกให้พ่อเสี่ยวที่ มู่เถาเยาก็ให้แม่เสี่ยวที่พาเขากลับห้องไปพักผ่อน
ใช้วิธีฝังเข็มที่หนักหน่วงแบบนี้ ร่างกายย่อมเหนื่อยล้า
“หมอเสี่ยวมู่ แล้วย่าต้องกลับไปฝังเข็มที่ห้องไหม” อย่างไรเสียก็ต้องถอดเสื้อผ้า
“คุณย่าคะ วิชาฝังเข็มหุยหยางเหมาะที่จะทำตอนเช้า เวลาเก้าโมงเช้าจะดีที่สุด ดังนั้นต้องรอวันพรุ่งนี้ค่ะ ก็พอดีค่ะ เราใช้เวลาช่วงนี้สังเกตอาการของคุณพ่อเสี่ยวที่ก่อนได้”
ย่าเสี่ยวที่ยิ้มกว้างพยักหน้า “ย่าทำเมื่อไรก็ได้ ก็แค่ต้องรบกวนหนูแล้ว ทำเสียเวลาพวกหนูไปเที่ยวเลย”
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูกับพี่สามไม่รีบค่ะ”
จางผิงผิงยิ้มพูด “พวกเราเกษียณแล้ว ก็ไม่รีบเหมือนกันค่ะ ก็พอดี ลู่ทงก็ต้องฝังเข็มเหมือนกัน อีกทั้งพวกเราก็เดินทางท่องเที่ยวมาสามเดือนกว่าแล้ว ใช้โอกาสนี้พักหน่อยก็ดีค่ะ”
กู่ถิง “หมอมู่คะ พวกหมอมู่มาเสียเวลาอยู่ที่นี่เพราะครอบครัวฉัน ดังนั้นเรื่องกินเรื่องที่อยู่ของที่นี่ฉันออกให้หมดเลยแล้วกันค่ะ”
“เถ้าแก่อาถิง พวกคุณดูแลแค่เสี่ยวมู่กับอู๋เปียนก็พอค่ะ พวกเราสองคนไม่ได้ช่วยอะไรเลย อีกอย่างที่อยู่ต่อเพราะอยากให้เสี่ยวมู่ช่วยรักษาโรค แล้วจะกินฟรีอยู่ฟรีได้ยังไงคะ…”
เถ้าแก่อาถิงส่ายมือ “โรงแรมคือบ้านของหนูเองค่ะ ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าให้คนอื่น รวมๆ กันก็ต้นทุนไม่เท่าไร ป้าจางไม่ต้องเกรงใจนะคะ”
ย่าเสี่ยวที่ “อาถิง…”
กู่ถิงจับสองมือที่ไร้เรี่ยวแรงของย่าเสี่ยวที่ “คุณป้าคะ พวกเราครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องพูดอะไรที่เกรงใจกันนะคะ ถ้าจะให้พูดก็ได้ค่ะ ก่อนหน้านี้สิบกว่าปีคุณป้าช่วยหนูกับคุณปู่คุณย่าไว้เยอะมาก ขอหนูนับดูก่อนนะคะ…”
ย่าเสี่ยวที่รีบขัดจังหวะ “เอาล่ะๆ ไม่พูดแล้ว ป้าล่ะกลัวเธอจริงๆ”
กู่ถิงยิ้ม รอยยิ้มสะกดใจ
ถ้าว่ากันเรื่องต่อล้อต่อเถียง เธอไม่เคยแพ้ใคร!
หลังจากมู่เถาเยาฆ่าเชื้อเข็มทองเสร็จก็พูดกับลู่ทง “ลุงลู่มานั่งตรงนี้ฝังเข็มค่ะ”
ลู่ทงเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ที่พ่อเสี่ยวที่นั่งเมื่อครู่ ถอดเสื้อออกแล้วพับขากางเกง
มู่เถาเยาฝังเข็มให้ลู่ทงพลางถาม “คุณย่าคะ แถวนี้มีร้านขายสมุนไพรไหมคะ”
“ในตัวตำบลถึงจะมีจ้ะ แต่หมู่บ้านข้างๆ มีหมอชราอยู่คน ในบ้านมีสมุนไพรเยอะ หมอเสี่ยวมู่ต้องการเหรอ”
“ในเมื่อป้าจางกับลุงลู่ก็อยู่ต่อด้วย งั้นหนูจะสั่งยาให้ลุงลู่เอามาแช่เท้า แบบนี้จะได้หายไวขึ้นค่ะ”
ย่าเสี่ยวที่ “เท้าของคุณคนนี้ดูเหมือนไม่ได้เป็นอะไรเลยนะ”
ลู่ทงยิ้มพูด “เมื่อก่อนผมทำงานได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้ง เลยมีแผลหลบในอยู่บ้าง ปกติมองผิวเผินเหมือนไม่เป็นไร แต่เวลาฝนตกมันจะเจ็บแปลบๆ น่ะครับ”
กู่ถิง “ตอนบ่ายเดี๋ยวหนูพาไปบ้านหมอชราที่อยู่หมู่บ้านข้างๆ ให้ค่ะ คุณหมอเป็นลูกพี่ลูกน้องของย่าหนูเอง ถือเป็นคุณปู่ ถ้าที่นั่นไม่มีหนูจะพาไปหาที่ร้านขายยาในตัวตำบลนะคะ”
จางผิงผิงกับสามีพูดขอบคุณทันที “ขอบคุณมากนะเถ้าแก่อาถิง”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
“หนูจะกลับไปบอกให้ลุงเจียงทำอาหารหนึ่งโต๊ะแล้วเอามาส่งให้ที่นี่ พี่สะใภ้ใหญ่ไม่ต้องทำหรอกค่ะ เดี๋ยวยังต้องไปเก็บผลไม้ขายอีก”
“อาถิง” ย่าเสี่ยวที่เรียกกู่ถิงที่กำลังจะออกไป
“คุณป้าจะทำตัวเกรงใจกับหนูอีกแล้วเหรอคะ”
“…ไม่ใช่ ป้าแค่จะบอกว่าเอาโสมกลับไปด้วย” ย่าเสี่ยวที่ชี้กล่องยาวที่อยู่บนโต๊ะหินข้างกล่องยาของมู่เถาเยา “หมอเสี่ยวมู่บอกว่าป้ากับพี่ใหญ่ของเธอไม่ต้องใช้ยา ปู่ย่าของเธอก็อายุมากแล้ว เอากลับไปให้พวกเขากินบำรุงเถอะ”
“มีส่วนของคุณปู่คุณย่าอยู่แล้วค่ะ ถึงคุณป้ากับพี่ใหญ่จะไม่จำเป็นต้องใช้ในการรักษา แต่เอาไว้ใส่เวลาต้มน้ำแกงก็ดีมากนะคะ ใช่ไหมคะหมอมู่”
มู่เถาเยาพยักหน้า “โสมเป็นราชาแห่งสมุนไพร มีสรรพคุณช่วยบำรุงที่ดีเยี่ยม ดื่มน้ำแกงโสมค่อนข้างดีต่อคนที่ป่วยเรื้อรังมานานค่ะ”
“นี่ไงคะ ขนาดหมอยังพูดเลย! คุณป้าให้พี่สะใภ้เก็บไว้เถอะค่ะ ตอนเย็นต้มน้ำแกงก็หั่นใส่ไปหน่อย หนูกลับบ้านก่อน เดี๋ยวให้คนมายกสาลี่นะคะ”
ผลไม้ที่ทางโรงแรมให้แขกกินก็มาจากที่นี่
ย่าเสี่ยวที่พยักหน้า
“อาซือ เอาโสมบนโต๊ะหินไปเก็บให้ดีนะ ตอนเย็นต้มน้ำแกงก็หั่นใส่ไปหน่อย ทุกคนกินด้วยกัน”
“ได้ค่ะแม่”
แม่เสี่ยวที่หยิบกล่องโสมกลับเข้าบ้านอีกครั้ง
จางผิงผิงทอดถอนใจ “พวกคุณไม่ง่ายเลยจริงๆ”
“คนที่ลำบากที่สุดคือลูกสะใภ้ฉัน ไม่ใช่แค่ต้องดูแลคนป่วยสองคนกับเด็กอีกหนึ่งคน ยังต้องกลุ้มเรื่องหาเลี้ยงครอบครัวด้วย ลำบากมากจริงๆ พวกเราทำผิดต่อเธอมาก”
“เดี๋ยวคุณกับพ่อเสี่ยวที่หายดีแล้ว แม่เสี่ยวที่ก็สบายขึ้นค่ะ”
จางผิงผิงไม่รู้เกี่ยวกับโรคที่สองแม่ลูกนี้เป็น แต่เธอมั่นใจในฝีมือของมู่เถาเยา!
เธอรู้สึกว่าไม่มีอะไรที่สาวน้อยคนนี้ทำไม่ได้!
ย่าเสี่ยวที่ยิ้ม
ขนาดตอนฝันเธอก็ยังอยากหายดี!
ก็แค่ไม่รู้ว่ายังจะมีวันนั้นไหม เธอเกือบลืมรสชาติของการวิ่งการกระโดดไปแล้วด้วยซ้ำ…
มู่เถาเยายิ้มบาง “วางใจได้ค่ะ ขอแค่ไม่ยอมแพ้ สวรรค์ต้องเห็นใจแน่ค่ะ”
ลู่ทงพยักหน้า “คุณย่าเสี่ยวที่ หมอเสี่ยวมู่รักษาเก่งมาก อาจารย์ของเธอคือหมอเทวดาที่โด่งดังที่สุดในโลกเลยครับ เสี่ยวมู่ก็ย่อมไม่ด้อยไปกว่ากัน”
“เมื่อกี้เสี่ยวมู่ก็บอกว่าตัวเองเป็นลูกศิษย์สำนักแพทย์โบราณ…หมอเทวดาที่มีชื่อเสียงที่สุดของสำนักแพทย์โบราณไม่ใช่หมอเทวดาหยวนหรอกเหรอ เสี่ยวมู่…” ย่าเสี่ยวที่อดตะลึงดวงตาเบิกโพลงไม่ได้
มู่เถาเยายิ้มพูด “อาจารย์ของหนูคือหมอเทวดาหยวนจริงค่ะ วันหน้าหนูจะมาเปิดโรงพยาบาลผิงคังที่นี่นะคะ”
สร้างโรงพยาบาลไม่ยาก ที่ยากคือหมอ
มีหมอไม่พอ!
เรียนหมอใช่ว่าปีสองปีก็จะสำเร็จ
ถ้าเรียนไม่ดีแล้วมาปฏิบัติงานจะทำชื่อเสียงของสำนักแพทย์โบราณเสียหาย หรืออาจเกิดอุบัติเหตุในการรักษาจนถึงแก่ชีวิต แบบนั้นผลลัพธ์จะยิ่งเลวร้ายเกินจะคาดเดา