ตอนที่ 542 ข้ามผ่านเขตไร้ผู้คน
รถบ้านกับรถออฟโรดไปถึงจุดแวะพักตอนสามทุ่ม
จุดแวะพักแห่งนี้อยู่สุดทางทะเลทราย อีกด้านหนึ่งมีต้นไม้และมีแหล่งน้ำ
แต่ถ้าอยากอาบน้ำก็หยุดคิดได้เลย มีห้องน้ำให้เข้าก็ดีมากแล้ว แถมยังต้องเสียเงินค่าเข้า
นักท่องเที่ยวเข้าใจได้ ไม่ได้โวยวายไม่พอใจอะไรกับการต้องเสียค่าเข้าด้วยเงินที่ไม่เท่าไรนี้
อยู่ระหว่างทางก็ย่อมต้องเอาความปลอดภัยเป็นหลัก อย่าไปมีเรื่องกับใครดีกว่า
อย่าคิดเล็กคิดน้อย อย่าไปถือสาอะไรมาก ทริปของตัวเองก็จะมีความสุขขึ้นเยอะ
ทั้งสี่คนกินอาหารแบบง่ายๆ เช่น ขนมปัง นม ผลไม้ จากนั้นก็ไปหาเจ้าหน้าที่ของจุดแวะพักเพื่อดูว่าพรุ่งนี้มีคนเข้าเขตไร้ผู้คนด้วยไหม
แต่น่าเสียดาย ในบรรดารถที่มีกันประปรายบ้างก็ขับกลับเส้นทางเดิม บ้างก็รอคนก่อน ไม่มีรถที่จะเข้าเขตไร้ผู้คนในวันพรุ่งนี้
จางผิงผิงกับลู่ทงจึงเกลี้ยกล่อมให้ ‘สองพี่น้อง’ รอรถมาร่วมขบวนก่อน
เดิมทีมู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนก็ไม่ได้วางแผนจะไปร่วมขบวนกับใคร พรุ่งนี้จึงจะออกเดินทางหลังดวงอาทิตย์ขึ้น
จางผิงผิงกับลู่ทงสองสามีภรรยาเกลี้ยกล่อมอยู่สักพักก็ไม่เป็นผล จำต้องแยกกัน ต่างฝ่ายต่างกลับรถของตัวเอง
มู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนขนเต็นท์ลงมาจากรถออฟโรดแล้วกางข้างรถ จากนั้นก็ปีนขึ้นหลังคารถชื่นชมดวงดาวที่ระยิบระยับเต็มท้องฟ้า
ครึ่งชั่วโมงต่อมาลงมาล้างหน้าแปรงฟันแล้วมุดเข้าเต็นท์พักผ่อน
วันรุ่งขึ้นฟ้าสว่างตั้งแต่ยังไม่หกโมง ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้น ‘สองพี่น้อง’ แทบจะออกจากเต็นท์ในเวลาเดียวกัน
ต่อมาจางผิงผิงกับสามีก็ลงจากรถบ้านของพวกเขา
ทั้งสี่คนนัดกันไปดูดวงอาทิตย์ขึ้น จากนั้นก็จะกินข้าวเช้าด้วยกัน
จางผิงผิงมอง ‘สองพี่น้อง’ ขมวดคิ้วแบบที่เห็นได้ยาก ยังอยากเกลี้ยกล่อมต่อ “เสี่ยวมู่ พวกเธอจะเข้าเขตไร้ผู้คนกันเองจริงเหรอ รอไปพร้อมคนอื่นดีกว่าไหม”
เดิมทีพวกเขาสองสามีภรรยาวางแผนจะพักที่จุดแวะพักสักสองสามวัน รอไปพร้อมรถคันอื่นๆ
มู่เถาเยายิ้มพูด “คุณป้าไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ พวกเราไม่เอาชีวิตตัวเองมาล้อเล่นแน่นอน”
ผ่านเขตไร้ผู้คนไม่เพียงแต่จะต้องใช้เวลาสองสามวัน ยังอาจเกิดสิ่งไม่คาดคิดได้ทุกเมื่อ พวกเขาไม่วางใจให้เด็กสองคนนี้ไปกันเอง
ในเมื่อมีวาสนาได้พบกัน แถมยังคุยกันถูกคอ ถ้าเช่นนั้นก็ควรช่วยกันดูแล
พวกเขามีประสบการณ์เยอะ ถ้าเจอเรื่องอะไรย่อมตั้งสติได้ดีกว่าคนหนุ่มสาว
“ได้ งั้นก็ไปด้วยกัน ผ่านเขตไร้ผู้คนไปถึงที่ราบทุ่งหญ้าก็มีโรงแรมแล้ว พอถึงตอนนั้นพวกเราก็หยุดพักสักสองวันค่อยไปต่อ”
มู่เถาเยามองความปรารถนาดีในดวงตาของสองสามีภรรยาออก
สายตาแบบนี้เธอคุ้นเคยมาก เพราะพบเจอมาไม่น้อย
จุดแวะพักสร้างแบบเรียบง่ายก็จริง แต่ภายในรถบ้านของสองสามีภรรยาคู่นี้มีห้องน้ำ มีเตียง ขอแค่มีน้ำเพียงพอพวกเขาก็สามารถพักที่นี่ได้อย่างสบาย
เพิ่งมีวาสนาได้พบเจอกัน แต่ทั้งสองคนกลับหอบร่างกายที่เหนื่อยล้าตามพวกเขาไปด้วย เพียงเพราะเป็นห่วงที่พวกเขาอายุยังน้อย อาจขาดเหลืออะไรระหว่างทางหรือเกิดสิ่งไม่คาดคิด
เขตไร้ผู้คนไม่เหมือนเส้นทางท่องเที่ยวปกติ หนุ่มสาวหลายคนอาจเลือดร้อนไปโดยไม่คิดอะไรมาก แต่พวกเขาไม่ใช่หนุ่มสาวเลือดร้อนแบบนั้น
ต่อให้ใช่ พวกเขาก็ไม่กลัว วรยุทธสูงถึงได้ใจกล้าเป็นพิเศษ
“งั้นก็ตามนี้! พอถึงตอนนั้นพวกเราพักที่โรงแรมแล้วกินข้าวด้วยกัน” จางผิงผิงก็ดีใจ
ลูกๆ ของพวกเขางานยุ่ง ไม่ค่อยได้ออกมาเที่ยวเป็นเพื่อน ตอนนี้เจอหนุ่มสาวที่ถูกชะตาก็เลยอยากดูแลเหมือนลูกเหมือนหลาน
มู่เถาเยาพยักหน้า “ค่ะ ป้าจางกับลุงลู่ดูอ่อนเพลีย เดี๋ยวหนูช่วยขับรถให้ คุณลุงคุณป้าจะได้พักผ่อนบนรถดีไหมคะ”
เธอมียาที่ช่วยขับไล่ความเหนื่อยล้าได้โดยเร็ว แต่ไม่เหมาะจะให้คนที่เพิ่งรู้จักกิน กลัวอีกฝ่ายจะคิดเยอะ
ลู่ทงยิ้มพูด “เสี่ยวมู่ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ พวกเราขับรถกันเองได้”
ตี้อู๋เปียน “ป้าจางครับ ในเขตไร้ผู้คนมีสัตว์ป่าหลายร้อยชนิด ทั้งเสือดาว หมี หมาป่า สัตว์ดุร้ายมีอยู่ไม่น้อย ถ้ามีแค่รถของพวกเราสองคันเข้าไป ตอนเย็นก็อย่าหยุดพักเลยดีกว่า พวกเราสี่คนสลับกันขับรถ หนึ่งวันหนึ่งคืนก็น่าจะผ่านเขตไร้ผู้คนไปได้แล้วครับ”
เดิมทีเขากับซาลาเปาน้อยไม่ได้กลัวสัตว์ป่ามาโจมตี แต่มีคนนอกอยู่ด้วย เขาจะใช้พลังวิเศษก็ยาก จะฆ่าสัตว์ที่เข้ามาโจมตีทั้งหมดก็ไม่ได้อีก วิธีที่ดีที่สุดก็คือเร่งเดินทางข้ามวันข้ามคืน
“พวกเธอก็รู้ว่ามันอันตรายเหรอ ลุงยังคิดว่าพวกเธอ…แหะๆ…” ใบหน้าซื่อๆ ของลู่ทงมีรอยยิ้มเขินอายเล็กน้อย
อันที่จริงเขตไร้ผู้คนแห่งนี้ไม่ใช่เขตไร้ผู้คนที่ใหญ่สุดและอันตรายสุดของประเทศ สภาพแวดล้อมตามธรรมชาติก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าเขตไร้ผู้คนแห่งอื่น มีอันตรายในระดับหนึ่งจริง แต่ตราบใดที่ไม่ลงจากรถ ไม่เข้าไปใกล้สัตว์ป่า ก็ยังถือว่าปลอดภัย
นี่ก็คือสาเหตุที่พวกเขาสองสามีภรรยาเห็นว่าเกลี้ยกล่อมไม่สำเร็จจึงเลือกตามไปด้วย
ถ้าอันตรายมาก ชีวิตเสี่ยงอยู่ทุกเมื่อ แบบนั้นพวกเขาก็ทำไม่ได้ที่จะตามไปโดยไม่คำนึงถึงตัวเอง
มู่เถาเยายิ้มดวงตาโค้งมน “คุณลุงคุณป้าคะ ถึงพวกเราจะไม่เคยผ่านเขตไร้ผู้คนแห่งนี้ แต่ก็เคยผ่านพื้นที่ที่ใหญ่สุดและอันตรายที่สุดมาแล้วค่ะ”
เธอเคยผ่านมาแล้วจริงๆ
เขตไร้ผู้คนที่ใหญ่ที่สุดและอันตรายที่สุดในโลกก็อยู่ในประเทศเหยียนหวง
ระดับความอันตรายของมันถ้าเทียบกับป่าเซียนโหยวก็ไม่มีค่าให้พูดถึง
แต่ว่าที่นั่นเป็นสวรรค์ของนักผจญภัยกับบรรดาช่างภาพ งดงามและลึกลับ สำหรับคนทั่วไปแล้ว ที่นั่นคือดินแดนที่พร้อมจะฝังร่างของทุกคนได้ทุกเวลา
สัตว์ร้ายโจมตี สภาพอากาศเลวร้ายหรือเปลี่ยนแปลงบ่อย รถยนต์ขัดข้อง พละกำลังร่างกายไม่พอ ช่วยเหลือฉุกเฉินไม่ทัน ไหนจะอันตรายที่แอบแฝงอีก…
ต่อให้เป็นเธอที่แข็งแกร่งขนาดนี้ก็ประมาทไม่ได้ เพราะต่อให้เอาชนะอุปสรรคทั้งหลายที่กล่าวมาได้ก็ย่อมมีปัจจัยที่ต่อให้คนแข็งแกร่งกว่านี้ก็ควบคุมไม่ได้ ไม่อย่างนั้นมนุษย์จะดูเล็กน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าธรรมชาติอันกว้างใหญ่ได้อย่างไร