ตอนที่ 523 บรรยากาศตลาดกลางคืน / ตอนที่ 524 หลานชายของเจ้านาย
ตอนที่ 523 บรรยากาศตลาดกลางคืน
ครั้งนี้มู่หว่านกับพวกเจียงเฟิงเหมียนก็ยังคงตามมู่เถาเยากับตี้อู๋เปียนไปทะเลตะวันออกด้วย
อีหลายก็ไป
ดาราสาวทั้งสองมีชื่อเสียงโด่งดัง แว่นตา ผ้าปิดปาก หมวก จึงห่างตัวไม่ได้
แต่เมื่อไปถึงทะเลที่อยู่ในอาณาเขตของศูนย์ฝึกเรือใบทีมชาติ พวกเธอก็ถอดผ้าปิดปาก ถอดหมวก เล่นน้ำกันอย่างเต็มที่
เนื่องจากที่นี่ไม่เปิดสาธารณะ จึงไม่มีใครนอกจากโค้ช นักกีฬา เจ้าหน้าที่ และนักท่องเที่ยวมีแค่พวกเธอ
พวกโค้ชกับนักกีฬาก็เป็นดาวเด่นของวงการกีฬา พอเห็นดาราจึงไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนคนทั่วไป
ทุกคนเล่นกันอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะตี้อู๋เปียน เพราะมู่เถาเยาสอนเขาเล่นวินด์เซิร์ฟแล้ว!
พอพวกเขาเล่นน้ำกันจนเหนื่อยก็ขึ้นฝั่ง นั่งพักดื่มเครื่องดื่มบนเก้าอี้เอนใต้ร่ม
อีหลายมองสองคนที่ยังอยู่ในทะเล “ไอ๊หยา หนุ่มหล่อสาวสวยคู่นั้นเป็นอาหารตาจริงๆ !”
มู่หว่านหัวเราะคิกคัก “หนุ่มหล่อเหรอ”
ถึงแม้ใบหน้าที่แปลงโฉมแล้วของตี้อู๋เปียนจะไม่ได้ขี้เหร่ แต่ก็ไม่ได้เฉียดคำว่า ‘หล่อ’
อีหลายหัวเราะ “พี่มองภาพที่อยู่ตรงหน้าน่ะ ต่อให้ไม่มองหน้าตา เอาแค่รูปร่างก็เหมาะสมกันแล้ว! เสี่ยวเยาเยาสูงร้อยเจ็ดสิบห้าได้ไหม”
เจียงเฟิงเหมียนพยักหน้า “ใช่ค่ะ พี่เยาเยาสูงร้อยเจ็ดสิบห้าพอดี เฮ้อ ฉันก็อยากตัวสูงบ้างจัง!”
น่าเศร้าที่เธอสูงแค่หนึ่งร้อยหกสิบสองเซนติเมตร!
แม่ของเธอสูงหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร ไม่ถือว่าเตี้ยสำหรับผู้หญิง แต่เธอกลับได้พันธุกรรมของตระกูลลู่มา!
พ่อของเธอสูงแค่หนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตร
เวลาพี่เยาเยายืนกับพ่อของเธอให้ความรู้สึกสูงกว่าพ่อเธอไม่น้อย
ในบรรดาคนของหมู่บ้านเถาหยวนซาน สำนักแพทย์โบราณ สำนักซย่าโหว ครอบครัวเธอสามคนรวมอาอีกหนึ่งล้วนเตี้ยหมด!
ส่วนพวกยาเพิ่มความสูงอะไรนั่น พี่เยาเยาไม่ให้เธอกิน บอกว่าแม้เป็นยาก็มีพิษ
แน่นอนว่าพิษที่ว่านี้ไม่ได้หมายถึงยาพิษ แต่เป็นผลข้างเคียง
ยาทุกชนิดล้วนมีข้อเสียอยู่
ข้อเสียที่ว่านี้เป็นเรื่องคุณสมบัติ คล้ายๆ ผลไม้ที่มีแบ่งฤทธิ์ร้อนฤทธิ์เย็น
กินยาก็เพื่อใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติมาช่วยปรับร่างกายให้สมดุล
แต่ถ้าร่างกายไม่ได้เจ็บป่วย แต่กลับกินยา แบบนั้นก็ต้องแบกรับข้อเสียของตัวยา จากที่ไม่ป่วยก็เจ็บป่วยได้
คนร่างกายแข็งแรงกินยา ตัวยากลับจะไปทำลายสมดุลของร่างกาย
แม้เธอจะไม่ค่อยเข้าใจว่ามันจะเข้าไปทำลายร่างกายอย่างไรบ้าง แต่เธอเชื่อในคำพูดของพี่เยาเยาอย่างไร้ข้อกังขา
อีหลายยื่นมือไปลูบศีรษะของเจียงเฟิงเหมียน “ใบหน้าแสนสวยสไตล์โบราณแบบนี้ของเธอ ถ้ารูปร่างสูงใหญ่มันจะไม่เข้ากันเลยนะ แบบนี้กำลังดีแล้วจ้ะ”
มู่หว่านพยักหน้า “นั่นสิ สำหรับคนทางใต้แบบพวกเรา เสี่ยวเหมียนไม่เตี้ยเลยสักนิด ส่วนสูงปกติของผู้หญิง เมื่อก่อนหมู่บ้านเถาหยวนซานยากจน ทุกคนต้องไปทำไร่ทำสวน ต่อมาได้ฝึกวิทยายุทธ ก็เลยค่อนข้างสูงกัน”
อวิ๋นสุ่ยเหยา “เสี่ยวหว่านบุคลิกเท่องอาจ สูงร้อยเจ็ดสิบก็กำลังดี”
น่าหลานอวิ๋นไคกำลังคุยกับพวกผู้ชายอย่างเซี่ยซิงเฉินกับโจวซือหย่วนอยู่ไม่ไกล ได้ยินคำพูดนี้พอดีจึงอดยิ้มไม่ได้
เขาเองก็รู้สึกว่าเสี่ยวหว่านดูกำลังดีไม่ขาดไม่เกิน!
พวกเซี่ยซิงเฉิน โจวซือหย่วนมองน่าหลานอวิ๋นไคที่ความรักกำลังเบ่งบานด้วยความอิจฉา
พวกเขาก็อยากมีแฟนบ้าง!
สายตาอดละไปที่ทะเลไม่ได้ จากนั้นก็รีบหันกลับมาด้วยความปวดใจ!
ทำไมพวกเขาก็เกิดความรู้สึกที่ว่าสองคนนั้นดูเหมาะสมกัน!
ฮึ่ย ภาพลวงตาแน่นอน!
ช่วงเวลาสองวันที่มีทั้งความสุขและความเศร้าได้ผ่านไป จำต้องกลับสู่โลกความจริงแล้ว
ช่วงเวลาตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์นี้ ตี้อู๋เปียนปฏิเสธโค้ชเรือใบที่หร่วนเหวินให้มาช่วยสอน เขาแค่ให้มู่เถาเยาสอนเวลาเธอว่าง
แน่นอนว่าเป็นคำขอที่ดูว่าเธอทำไหว ไม่อย่างนั้นเขาเองก็ปวดใจเหมือนกัน
ตอนอาหารค่ำตี้อู๋เปียนแกะกุ้งหนึ่งตัวใส่ชามของมู่เถาเยาพลางพูด “ซาลาเปาน้อย พรุ่งนี้วันศุกร์พวกเราอยู่เล่นที่นี่อีกสองวันเถอะ ไม่เล่นน้ำ แต่ไปชมวิว กินของอร่อยของที่นี่” ถือโอกาสไปดูหนังด้วย!
มู่เถาเยาก็แอบสนใจ
ของอร่อยที่นี่มีอยู่ไม่น้อย นอกจากอาหารหลักแล้ว ของกินเล่นก็มีเยอะทีเดียว
โดยเฉพาะอาหารที่ดับร้อน ไล่ความชื้น ลดการอักเสบที่เธอชอบกิน
พวกธัญพืชและของมีประโยชน์ทั้งหลายที่แช่อยู่ในกะทิอย่างถั่วแดง ถั่วเขียว ลูกเดือย พุทราแดง ฟักเขียว เส้นหนึบ เป็นต้น พอเอามาผสมกันแล้วอร่อยเหาะ!
“ซาลาเปาน้อย พรุ่งนี้พวกเราไปซื้อของทะเลส่งไปหมู่บ้านเถาหยวนซานกับเผ่ากันเถอะ”
มู่เถาเยาพยักหน้าทันที “ไม่ต้องส่งกลับเผ่า พ่อกับแม่ฉันมีอาหารทะเลกินตลอด ทะเลที่เผ่ามีอาหารทะเลที่ทางนี้ไม่มีด้วย”
ละแวกหมู่บ้านเถาหยวนซานไม่มีทะเล ชาวบ้านเลยไม่ค่อยได้กินอาหารทะเลสดๆ อย่างมากก็ซื้อแบบแห้งกัน
ถ้าพรุ่งนี้พวกเธอออกไปซื้อเร็วหน่อยก็ให้หร่วนเหวินเอากลับหมู่บ้านเถาหยวนซานได้ คุณปู่คุณย่า พวกอาจารย์และชาวบ้านจะได้กินเป็นมื้อกลางวัน
“ได้ พรุ่งนี้พวกเราตื่นเร็วหน่อย ให้คนของโรงแรมพาพวกเราไปซื้ออาหารทะเล จากนั้นก็ไปเที่ยวจุดท่องเที่ยวจนถึงตอนเย็นไปตลาดกลางคืนกินเนื้อย่างเสร็จค่อยกลับมา”
ถึงแม้อยู่โรงแรมก็กินเนื้อย่างได้ แต่เขาต้องการบรรยากาศแบบตลาดกลางคืน! เหมือนคู่รักวัยรุ่นคู่อื่นๆ เดินกินไปเรื่อยๆ !
“ไหนๆ เครื่องบินก็จะกลับหมู่บ้านเถาหยวนซานแล้ว ทำไมพวกเราไม่กลับไปด้วยเลยล่ะ พี่หร่วนเหวินจะได้ไม่ต้องบินจากหมู่บ้านเถาหยวนซานมาที่นี่อีก รอเดือนหน้ามาอีกทีค่อยไปเที่ยวเถอะค่ะ”
ตี้อู๋เปียนที่จินตนาการว่าจะได้ไปออกเดทเดินเที่ยวดูหนัง “…!”
ตอนที่ 524 หลานชายของเจ้านาย
ด้านหลังรถของพวกเขายังมีรถบรรทุกตามไปด้วยคันหนึ่ง
ขณะอยู่บนรถ ผู้จัดการหลินวัยกลางคนพูดขึ้นระหว่างขับรถ “คุณชายเล็ก เจ้าหญิงน้อยครับ ตลาดอาหารทะเลของที่นี่เริ่มขายกันตั้งแต่ตีสาม นอกจากพ่อค้าท้องถิ่นแล้วยังมีพ่อค้าต่างถิ่นมาซื้ออาหารทะเลด้วย นักท่องเที่ยวก็มีตื่นแต่เช้ามาเอาบรรยากาศด้วยนะครับ…”
อันที่จริงอาหารทะเลทั้งหมดของโรงแรมจะมาจากชาวประมงที่จับขึ้นมาขายให้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องออกไปซื้อเอง
เมื่อคืนพอได้รับแจ้งเขาก็บอกผู้จัดการแล้วว่าจะให้คนเอามาส่ง แต่ทั้งสองท่านนี้อยากเห็นตลาดของทะเลที่ใหญ่ที่สุดของเหยียนหวง ก็เลยต้องมากันนี่ไงล่ะ!
มู่เถาเยาฟังผู้จัดการหลินบอกเล่าด้วยความสนใจ
พวกเขาไปถึงตลาดอาหารทะเล ชาวประมงที่สนิทกับผู้จัดการหลินเข้ามาหาอย่างกระตือรือร้น
พาแขกไปเดินรอบตลาดก่อนแล้วถึงเลือกอาหารทะเลมาชั่ง ขนขึ้นรถ
หมู่บ้านเถาหยวนซานมีคนอยู่เยอะ แจกบ้านละโลก็ต้องซื้อเป็นจำนวนไม่น้อยแล้ว
อาหารทะเลที่มู่เถาเยาเลือกส่วนใหญ่เป็นของทะเลที่พบได้บ่อยอย่างปลา กุ้ง ปู หอย และยังมีเป๋าฮื้อ ปลาหมึก ปลิงทะเล
ชาวประมงที่ผอมผิวดำคล้ำจัดแจงงานเสร็จก็พูดด้วยความเกรงใจว่า “ผู้จัดการใหญ่เฝิง ผู้จัดการหลินครับ ตอนตีสามเมียผมออกทะเลได้หอยนางรมทองแดงกลับมา ทางโรงแรมอยากรับไว้ไหมครับ”
นักท่องเที่ยวที่พักโรงแรมระดับเจ็ดดาวได้ย่อมไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน ขายออกแน่นอน แต่เขามีหอยนางรมทองแดงอยู่แค่ไม่กี่ตัว ดูน้อยนิด กลัวพวกเขาจะไม่อยากรับไว้
หอยนางรมทองแดงเป็นราชาหอยนางรม ราคาแพงมาก ตัวละหลายพัน คนในครอบครัวไม่เคยกินและก็เสียดายไม่กล้ากิน
ที่นี่คนรวยเยอะ แต่ปกติคนรวยไม่ค่อยยอมเสียเงินกับอาหารทะเลที่กินคำเดียวตั้งหลายพันแบบนี้
ส่วนพวกเศรษฐีที่ยอมจ่ายได้ก็ใช่ว่าจะมีวาสนาได้เจอหอยนางรมทองแดงของเขา อย่างไรเสียเขาก็ไม่ได้รู้จักเศรษฐี
ถ้าเอาไปขายในตลาดคงขายออกไม่ได้ง่ายๆ เก็บไว้นานก็จะไม่สด…
ดังนั้นขายให้โรงแรมจึงดีที่สุด
เฝิงหลินพูดด้วยความประหลาดใจ “จับหอยนางรมทองแดงได้เลยเหรอ เอามาให้พวกเราดูหน่อยเร็ว”
ชาวประมงดีใจรีบโทรหาเมีย จากนั้นก็พูดกับพวกมู่เถาเยา “บ้านผมอยู่ใกล้ๆ นี้ ขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาสามนาที รอเดี๋ยวนะครับ”
ทุกคนพยักหน้า
ไม่กี่นาทีต่อมาหญิงวัยกลางคนรูปร่างอ้วนเตี้ยก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาพร้อมถังเล็กใบหนึ่ง
พวกมู่เถาเยาล้อมเข้าไปดูของในถัง มีหอยนางรมสีทองแดงที่ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่อยู่หกตัว
ตี้อู๋เปียนพูดกับชาวประมง “ลุงครับ ทั้งหมดนี่เท่าไร”
เฝิงหลินรีบพูดขึ้น “คุณชายเล็ก บอสบอกแล้วครับว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ลงบัญชีส่วนตัวของบอส รวมถึงเวลาซื้อของด้วย”
“ได้ งั้นก็ลงบัญชีน้าเล็กไว้” ตี้อู๋เปียนไม่ปฏิเสธ
เฝิงหลินอึ้ง
นี่คือ…หลานของบอสเหรอ
พี่เขยบอสคือราชาตี้ไม่ใช่เหรอ ราชาตี้ที่รูปงามแบบนั้นทำไมถึงมีลูกชายที่หน้าตาสุดแสนจะธรรมดาล่ะ
นี่มันไม่ถูกต้อง!
หรือว่าอุ้มมาผิดตัว
สมองของเฝิงหลินมีบทละครน้ำเน่าผุดขึ้นมาไม่หยุดในชั่วขณะ
ชาวประมงถามด้วยความเกรงใจ “คุณชายเล็ก เจ้าหญิงน้อย จะเอาไปกินเหรอครับ”
เขาไม่รู้ว่าคุณชายเล็กกับเจ้าหญิงน้อยที่ผู้จัดการเฝิงเรียกคือใคร แต่ได้ยินผู้จัดการเฝิงกับผู้จัดการหลินเรียกแบบนี้ก็เลยเรียกตาม
มู่เถาเยาพยักหน้าให้ชาวประมง “ใช่ค่ะ”
ชาวประมงพูดเตือนด้วยความลังเล “เจ้าหญิงน้อยครับ รสชาติของหอยนางรมทองแดง…ได้ยินว่าจะมีกลิ่นเหมือนโลหะหน่อยๆ บางคนรับไม่ได้ เจ้าหญิงน้อยอาจไม่ชอบ…”
คนที่ขนาดผู้จัดการเฝิงยังเรียกว่าเจ้าหญิงน้อย ก็แสดงให้เห็นว่ามีสถานะสูงส่ง ถ้าเธอกินแล้วไม่พอใจ รู้สึกเหมือนโดนหลอก มีความเป็นไปได้ที่ผู้จัดการเฝิงจะเลิกค้าขายกับเขา…
เขาไม่อยากสูญเสียลูกค้ารายใหญ่โรงแรมเจ็ดดาวที่ค้าขายกันมานานเพียงเพราะเงินสองหมื่น ดังนั้นไม่ว่าอีกฝ่ายจะรู้หรือไม่ว่ารสชาติของหอยนางรมทองแดงค่อนข้างพิเศษ เขาก็ต้องเตือนไว้ก่อน
อันที่จริงเธอเองก็ไม่ค่อยชอบหอยนางรมทองแดงที่มีกลิ่นโลหะหน่อยๆ แต่ในครอบครัวคนเยอะ อาจมีคนชอบก็ได้
หอยนางรมทองแดงก็เหมือนทุเรียน คนชอบก็ชอบจริงจัง คนไม่ชอบไม่ว่าทำยังไงก็รับไม่ได้
พอลุงชาวประมงได้ยินมู่เถาเยาตอบแบบนี้ก็รีบไปคิดเงินที่ด้านข้างกับผู้จัดการหลินด้วยความดีใจ
ตี้อู๋เปียนถามด้วยความแปลกใจเล็กน้อย “ซาลาเปาน้อย เธอชอบกินหอยนางรมทองแดงที่รสจัดแบบนี้เหรอ”
มู่เถาเยาส่ายหน้า “เปล่าค่ะ ฉันแค่อยากเอากลับไปก่อน ยังไงหมู่บ้านเถาหยวนซานก็คนเยอะ อาจมีคนชอบกินก็ได้”
“อืม ฉันก็ไม่ชอบกินมัน”
หลังจากกินหญ้าพิษชีวิตเข้าไปเขาก็ไม่ต้องระวังเรื่องอาหารการกินเท่าไรแล้ว จึงกินหลายอย่างที่เมื่อก่อนไม่กล้าเอาเข้าปากง่ายๆ อย่างพวกอาหารทะเลดิบ ปลาดิบ เป็นต้น
แต่เขาก็ไม่ชอบกินพวกของดิบเท่าไร
รู้ว่ามู่เถาเยาไม่กินของดิบ หลังจากเขาลองกินให้รู้รสชาติแล้วพบว่าตัวเองไม่ชอบ เขาก็ไม่แตะอีกเลย
พอผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อกลับมาพวกเขาก็กลับโรงแรม
เฝิงหลิน “คุณชายเล็ก เจ้าหญิงน้อยครับ ที่บ้านมีคาเวียร์ไหมครับ เอาจากโรงแรมกลับไปกินพร้อมอาหารทะเลไหมครับ”
เมื่อครู่รู้แล้วว่าทั้งสองคนไม่ชอบกินหอยนางรมทองแดง เขาจึงไม่ถามว่าจะแกะกินตอนนี้เลยไหม
มู่เถาเยาส่ายหน้า “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“ครับ งั้นเดี๋ยวผมให้คนเอาของทะเลไปจัดการบรรจุ ทั้งสองท่านไปกินข้าวเช้าก่อนนะครับ”
“รบกวนผู้จัดการเฝิงด้วยนะคะ”
“ยินดีครับ”