ตอนที่ 514 อาจารย์มีงานแต่ง
พวกมู่เถาเยาอยู่ฉลองตรุษจีนที่หมู่บ้านเถาหยวนซานสองวันแรกก่อนถึงกลับเผ่า
พวกอาจารย์ก็ย่อมตามไปด้วยกัน
เนื่องจากฐานะครอบครัวและสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน ชีวิตของพวกเขาตอนอยู่ในเผ่ากับหมู่บ้านเถาหยวนซานจึงไม่เหมือนกันไปด้วย ไม่มีบ้านให้เดินไปคุยเล่นด้วย
แต่คนตระกูลเย่ว์ ตระกูลปา ตระกูลเหลียง และตระกูลเหมียวก็มีมาเยี่ยมเยียนบ้าง ส่วนเวลาอื่นถ้าไม่อยู่ตำหนักพระจันทร์ก็ออกไปเที่ยวข้างนอก
เมื่อเทียบกับเผ่าหมาป่าพระจันทร์ที่ทัศนียภาพงดงามและอุดมสมบูรณ์แล้ว พวกเขาก็ยังคงชอบหมู่บ้านเถาหยวนซานมากกว่าอยู่ดี
อยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านของเรา
พวกหยวนเหยี่ยกับซย่าโหวโซ่วมองหมู่บ้านเถาหยวนซานเป็นบ้านของตัวเองไปแล้ว อีกทั้งสภาพแวดล้อมของหมู่บ้านเถาหยวนซานก็มีความครึกครื้น เหมาะสมกับชีวิตยามแก่ชราที่รู้สึกโดดเดี่ยวได้ง่าย
อย่าว่าแต่พวกหยวนเหยี่ยกับซย่าโหวโซ่วเลย ขนาดปู่เย่ว์ย่าเย่ว์ ตาเป่ยยายเป่ยก็ยังชอบไปหมู่บ้านเถาหยวนซาน
ไม่ใช่ว่าบ้านตัวเองไม่ดี แต่บ้านใหญ่เกินไป หนุ่มสาวไปทำงานกันหมด…คนอยู่บ้านน้อย เงียบเหงา
ฉลองตรุษจีนกันอย่างครึกครื้นเช่นเคย ไม่นานก็ถึงวันเกิดอายุครบยี่สิบสองปีของมู่เถาเยา
ตี้อู๋เปียน อวิ๋นไป๋ คุณนายอวิ๋นเหอ สองผู้อาวุโสตระกูลตี้ จินเหยี่ยน้อย สองพี่น้องอวิ๋นสุ่ยเหยา และกู้หานก็มาถึงก่อนวันเกิด
มู่เถาเยาถามด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “ทำไมมากันหมดเลยล่ะคะ”
ตี้อู๋เปียนพูดด้วยสายตาอ่อนโยน “มาฉลองวันเกิดให้เธอไง”
“ไม่ใช่วันเกิดอายุเลขเต็มเสียหน่อย ฉันไม่ได้กะจัดใหญ่ด้วยค่ะ”
เธอบอกคนในเผ่าหมาป่าพระจันทร์ตั้งแต่กลับมาแล้วว่าไม่จำเป็นต้องจัดงานฉลองวันเกิดใหญ่โต รอพิธีรับตำแหน่งหัวหน้าเผ่าค่อยจัดอย่างยิ่งใหญ่
คุณนายอวิ๋นเหอจับมือมู่เถาเยายิ้มพูด “ตรุษจีนพวกเราไม่ว่างเลยไม่ได้มา เลยใช้โอกาสนี้มากันจ้ะ”
มู่เถาเยาพยักหน้า
อวิ๋นสุ่ยเหยา “พี่เยาเยาคะ ฉันใกล้เปิดเทอมแล้วค่ะ”
“อืม ปลายเดือนมีนาพี่จะไปเมืองหลวง เริ่มฝึกเดือนเมษา สุดสัปดาห์มีเวลาว่างจะไปเล่นกับพวกเธอนะ”
อวิ๋นสุ่ยเหยาพยักหน้าหงึกๆ
“เวลาผ่านไปไวจริงๆ เพียงชั่วพริบตาก็สี่ปีแล้ว” หยวนเหยี่ยทอดถอนใจ
ในสี่ปีนี้เกิดเรื่องที่เกี่ยวข้องกับลูกศิษย์คนเล็กมากมาย ดังนั้นการที่ให้เดินออกมาจากหมู่บ้านก็ถูกต้องแล้ว
วัยที่กำลังเบ่งบานไม่ควรอุดอู้อยู่แต่ในหมู่บ้านจริงๆ แม้หมู่บ้านนั้นจะไม่ใช่หมู่บ้านธรรมดาก็ตาม
แต่ทำงานด้านวิจัยจะให้นั่งเทียนเขียนเอาก็ไม่ได้
ฉลองวันเกิดให้มู่เถาเยาเสร็จคุณนายอวิ๋นเหอกับสองพี่น้องอวิ๋นสุ่ยเหยาและกู้หานก็กลับเมืองหลวง
จากนั้นปาอินกับครอบครัวลู่หันซูก็กลับเมืองเย่ว์ตู เปิดเทอมแล้ว
ต่อมามู่เถาเยา ตี้อู๋เปียน เหล่าผู้อาวุโสและพวกเด็กๆ ก็ตามลู่จือฉินไปบ้านตระกูลตี้อู่ที่ทางเหนือ
ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างหลายตระกูลของพวกเขาแน่นแฟ้นแล้ว เดิมทีตี้อู่เหลียนจิงกับตี้อู่หลันฉือก็ไปที่หมู่บ้านเถาหยวนซานบ่อย คนตระกูลตี้อู่ก็กระตือรือร้นเชื้อเชิญทุกคนไปเป็นแขกที่บ้านใหญ่
ตี้อู่ลู่น่าพี่สาวแท้ๆ ของตี้อู่เหลียนจิงได้รับแจ้งล่วงหน้า จึงพาสามีกับครอบครัวลูกชายคนเล็กเซี่ยซิงเหยียนกลับมาบ้านด้วย
ตี้อู่หลันฉือก็ตั้งใจลาหยุดกลับมา
คนสายหลักของตระกูลตี้อู่มากันครบ รวมถึงพวกน้องๆ ที่เป็นญาติกับตี้อู่หลันฉือ
นี่ก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับลู่จือฉินขนาดไหน
มู่เถาเยากับลู่จือฉินมีความสุขมาก
ลู่จือฉินประหม่านิดหน่อย ไม่ใช่เขินอาย แต่รู้สึกว่าพวกเขาอายุมากขนาดนี้แล้ว แถมตี้อู่เหลียนจิงก็ไม่ได้เพิ่งแต่งงานครั้งแรก แต่คนตระกูลตี้อู่กลับยังคงต้อนรับอย่างอลังการขนาดนี้…
สองผู้อาวุโสตระกูลตี้อู่จับมือลู่จือฉิน ยิ่งมองยิ่งชอบ
ถึงแม้ในสายตาของคนทั่วไปจะรู้สึกว่าหน้าตาธรรมดา แถมยังตัวเล็ก แต่บุคลิกท่าทางของเธอชวนให้รู้สึกเข้มแข็ง มีความอ่อนโยนในตัว สบายตา ยากที่จะลืมเลือน
ของแบบนี้ดูกันที่การถูกชะตา
ไม่ใช่แค่พวกคนแก่ที่ชอบลู่จือฉิน สิ่งสำคัญที่สุดคือลูกชายคนโตกับหลานสาวต่างก็ชอบ
“จะว่าไปเป็นหนูต่างหากที่ถูกใจอาจารย์ลู่ก่อน” ตี้อู่หลันฉือพูดอย่างใจกล้าแล้วยิ้มหวาน
มู่เถาเยาก็ยิ้ม “นั่นสิคะ พี่หลันฉือตาถึงมากเลย!”
ลู่จือฉินพูดด้วยความรู้สึกขำ “พอเสี่ยวฉือว่างก็ชอบมาเกาะติด อาจารย์ยังคิดว่าอยากมาเรียนด้วยแบบเสี่ยวอิน”
ตี้อู่หลันฉือยิ้มตาโค้งพลางส่ายมือ “อันที่จริงหนูไม่ค่อยสนใจวิชาแพทย์โบราณหรอกค่ะ แต่เพื่อตามติดอาจารย์ลู่ ก็เลยต้องแสร้งทำเป็นชอบมาก”
ทุกคนหัวเราะเสียงดัง
“แสบนักนะเรา” คุณนายผู้เฒ่าตี้อู่ยิ้มตาหยี
ตี้อู่ลู่น่ายิ้มพูดกับหลานสาวคนโต “ลำบากเราแย่เลยนะที่ต้องแกล้งชอบอยู่นาน”
“นั่นสิคะ ก่อนหน้านี้ฉันมองไม่ออกเลยว่าเสี่ยวฉือไม่ชอบวิชาแพทย์โบราณ มาตอนท้ายๆ ถึงสังเกตเห็น เลยไม่ให้เรียนด้วยแล้ว แต่เด็กคนนี้ก็ยังมาตามติด”
ส่วนที่โดดเด่นที่สุดบนใบหน้าของลู่จือฉินก็คือดวงตา เวลานี้โค้งเหมือนจันทร์เสี้ยว ไม่เพียงแต่งดงาม ยังเปล่งประกายอีกด้วย
ตี้อู่หลันฉือพูด “หนูแค่รู้สึกว่าอยู่กับอาจารย์ลู่แล้วสงบสบายใจดี ตัวอาจารย์ชวนให้รู้สึกสงบ ทำให้คนที่รุ่มร้อนนิ่งลงได้ค่ะ”
ผู้เฒ่าตี้อู่ยิ้มตาหยี “ในเมื่อทั้งสองคนแน่ใจเรื่องคบหากันแล้ว งั้นก็รีบจัดงานมงคลเลยสิ จือฉิน อยากอยู่ที่ไหนล่ะ”
ลู่จือฉิน “ตอนนี้คงอยู่ที่เมืองเย่ว์ตูไปก่อนค่ะ วันหน้า…ยังไม่แน่ใจค่ะ”
เดิมทีคิดว่าจะใช้ชีวิตเกษียณที่หมู่บ้านเถาหยวนซาน ไม่นึกเลยว่าตัวเองจะแต่งงาน…
คุณนายผู้เฒ่ายิ้มพูด “งั้นอีกหน่อยค่อยว่ากัน ไม่รีบ ครั้งนี้ฉันกับผู้เฒ่าจะไปเย่ว์ตูกับพวกเธอด้วย ไปเจออธิการบดีเจียงพี่ชายเธอหน่อย จะได้หาฤกษ์ดีจัดงานมงคลด้วย จะจัดงานแต่งที่ไหนก็แล้วแต่พวกเธอเลยนะ พวกเราแค่ไปร่วม ไม่แทรกแซง”
ลู่จือฉินเหลือบมองตี้อู่เหลียนจิงแวบหนึ่ง “คุณน้าคะ ฉันไม่เคยคิดเรื่องจัดงานแต่งงานเลยค่ะ แค่กินข้าวกับคนสนิทก็พอแล้วค่ะ”
มู่เถาเยารีบพูดขึ้น “อาจารย์สามคะ แค่คนสนิทก็ไม่น้อยแล้วค่ะ กินข้าวด้วยกันกับจัดงานฉลองไม่ต่างเลยค่ะ แล้วทำไมไม่ถือโอกาสจัดงานแต่งไปเลยล่ะคะ”
เธออยากให้อาจารย์มี…งานแต่งงานที่ไม่ต้องใหญ่มากแต่ชวนให้จดจำ
พวกหยวนเหยี่ยก็พยักหน้า
ลู่จือฉินครุ่นคิดแล้วก็เห็นด้วย
ตอนนี้สี่ตระกูลปลีกวิเวกต่างไปมาหาสู่กันแล้ว ยังไงก็ต้องเชิญมา ไหนจะคนจากเผ่าหมาป่าพระจันทร์กับสำนักแพทย์โบราณอีก แค่นี้ก็ไม่น้อยแล้ว
ครั้นแล้วลู่จือฉินจึงยอม “โอเค งั้นก็จัดงานเล็กๆ แล้วกันค่ะ”
ทุกคนส่งเสียงโห่ร้องดีใจ