ตอนที่ 491 กินสดหรือทำยาก่อน
มู่เถาเยาหลับไปครั้งนี้ก็อาจจะยี่สิบสี่ชั่วโมง
เย่ว์จือกวงจึงให้เจ้าขาวปุยเฝ้าไว้ ส่วนตัวเองหยิบกล้องส่องทางไกลไปยืนตรงริมแล้วคุยภาษามือกับเย่ว์จือเหิง
เขาไม่กล้าลงไป กลัวน้องสาวพลิกตัวแล้วตกเขา อย่างไรเสียพื้นที่เล็กๆ บนยอดเขาตรงนี้ก็ถือว่ากว้างแล้ว
ถึงแม้ความเป็นไปได้ที่จะเกิดเรื่องแบบนี้กับน้องสาวจะน้อยนิดมาก แต่เขาก็ไม่กล้าเสี่ยง
ครบยี่สิบสี่ชั่วโมงมู่เถาเยาก็ตื่น
“เสี่ยวเยาเยา รู้สึกเป็นไงบ้าง”
“รู้สึกว่าร่างกายไม่ได้เปลี่ยนไปมาก ก็แค่รู้สึกตัวเบาขึ้นเยอะ”
“งั้นลองเดินลมปราณดูนะ”
“ค่ะ”
มู่เถาเยานั่งขัดสมาธิควบคุมลมหายใจ ครึ่งชั่วโมงต่อมาก็หยุดทำ
“พี่รองคะ กำลังภายในไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่ฉันรู้สึกว่าร่างกายไม่เหมือนเดิมแล้ว ก็แค่บรรยายความรู้สึกไม่ถูก แค่รู้สึกว่า…อารมณ์ดีเป็นพิเศษ เหมือนจิตใจกับร่างกายมันสดชื่นขึ้นมาก นี่น่าจะเป็นผลจากการที่ร่างกายถูกชำระล้าง”
“ไม่รู้สึกแย่ก็ดีแล้ว ค่อยๆ ซึมซับฤทธิ์ของมัน”
“ค่ะ พี่รองกินก้านมันดูสิคะ”
ไม่ว่าจะดอก ใบ ก้าน ก็เหมือนกันทั้งนั้น
ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่เห็นผลลัพธ์ชัดเจน แต่ไม่มีทางธรรมดาเหมือนที่รู้สึกตอนนี้แน่นอน
เย่ว์จือกวงยิ้มพูด “เสี่ยวเยาเยา เก็บไว้ก่อนดีกว่า วันหน้าอาจได้ใช้ประโยชน์ ยังไงตอนนี้ก็ยังไม่รู้สรรพคุณที่แน่ชัดของมัน”
มู่เถาเยาไม่คัดค้าน
เก็บไว้ก่อนก็ดีเหมือนกัน รอเธอแน่ใจถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายค่อยกินจะยิ่งดีกว่า
“จี๊ดๆ”
มู่เถาเยาอุ้มเจ้าตัวน้อยขึ้นมา จ้องดวงตาที่สวยเหมือนทับทิมของมัน “เจ้าขาวปุย ส่วนที่เหลือเราจะกินเองหรือให้ฉันเก็บไว้ก่อน”
“จี๊ดๆ”
“…” เธอฟังไม่เข้าใจจริงๆ!
“จี๊ดๆ”
“…”
ตาดำมองตาแดง หนึ่งคนหนึ่งสัตว์ ไม่ได้รู้ใจกันเลย
“จิ๊บๆ”
มู่เถาเยาจำต้องวางมันลง จากนั้นก็หยิบกล่องไม้มา แสร้งทำเป็นจะเด็ดใบเรียวยาวสีเขียวหยกของหญ้าพิษชีวิต
เจ้าขาวปุยไม่ร้องและไม่ขยับ ไม่ได้ขวางด้วยซ้ำ
มู่เถาเยาลองเด็ดหนึ่งใบมาใส่ในกล่อง
เจ้าขาวปุยยังคงไม่ขยับ
แค่นี้สองพี่น้องก็รู้แล้วว่ามันยินดีให้เก็บไว้ก่อน
เด็ดออกมาเจ็ดใบด้วยความดีใจ พอถึงใบสุดท้ายเจ้าขาวปุยก็ส่งเสียงร้อง
มู่เถาเยาชักมือกลับ “ยังอยากกินอีกเหรอ”
เจ้าขาวปุยส่งเสียงจี๊ดๆ จากนั้นก็ไปจิกกินใบเรียวยาวคล้ายใบกล้วยไม้ของหญ้าพิษชีวิต
มู่เถาเยาปิดฝากล่องยื่นให้เย่ว์จือกวง จากนั้นก็พูดกับเจ้าขาวปุยที่กำลังกินใบอย่างมีความสุข “เจ้าขาวปุย พวกเราจะกลับบ้านแล้ว อยากตามกลับไปด้วยกันไหม”
“จี๊ดๆ”
เจ้าขาวปุยกินใบหมดก็กระโดดไปบนมือของมู่เถาเยาแล้วหลับสนิท
เย่ว์จือกวงยิ้มพูด “ดูท่ามันจะยอมตามเรากลับไปนะ”
“อึม เราลงกันเถอะค่ะ”
“ได้ พวกเรากลับบ้านกัน”
สองพี่น้องหยิบข้าวของแล้วเหาะลงจากเขาหิมะ
“เสี่ยวเยาเยา อากวง”
เย่ว์จือเหิงวิ่งมาหา รับเป้ปีนเขาจากบ่าของมู่เถาเยามาหิ้วให้
“พี่ใหญ่คะ เจ้าขาวปุยกินใบไปหนึ่งใบ หลับอยู่ในกระเป๋า ขอฉันอุ้มมันออกมาก่อนค่ะ”
“ได้เลย”
พี่ชายทั้งสองมองมู่เถาเยาอุ้มเจ้าตัวน้อยที่หลับปุ๋ยออกมาจากกระเป๋า จากนั้นก็เก็บข้าวของเตรียมเดินทางกลับ
พอสามพี่น้องขนของขึ้นรถเสร็จ เตรียมจะออกจากที่นั่น ทันใดนั้นก็เห็นรถคันใหญ่มาจากด้านหน้า
เย่ว์จือเหิงนั่งอยู่บนเบาะคนขับ หันหน้ามาพูดกับน้องทั้งสองคน “พ่อกับแม่มาอีกรอบแล้ว”
ที่นี่ไม่มีสัญญาณ ใช้โทรศัพท์มือถือไม่ได้ จึงโทรมาบอกล่วงหน้าไม่ได้
มู่เถาเยายิ้มมุมปาก “พี่ใหญ่คะ รอคุณพ่อคุณแม่มากลับรถตรงนี้ก่อนค่ะ”
“อืม พี่จะขยับรถไปด้านข้างหน่อย”
รถคันนี้กลับหัวไว้แล้วตั้งแต่มาถึง เพราะกลัวมีเหตุการณ์ฉุกเฉินต้องรีบออกไป
ไม่กี่วินาทีถัดมาเย่ว์หลั่งก็ขับรถบ้านคันใหญ่เข้ามาใกล้แล้วค่อยๆ จอด
สามพี่น้องเดินไปที่ประตูรถแล้วพูดเป็นเสียงเดียวกัน “คุณแม่ คุณพ่อ”
เป่ยซีถามด้วยความดีใจ “เสี่ยวเยาเยา อากวง อาเหิง เตรียมออกกันแล้วเหรอ”
มู่เถาเยาพยักหน้า “ใช่ค่ะ พวกเราเด็ดหญ้าพิษชีวิตมาได้แล้วค่ะ”
“เยี่ยม!”
หยุดเล็กน้อย เป่ยซีถามต่อ “แล้วเจ้าขาวปุยล่ะ อยู่บนเขาหิมะหรือว่า?”
“มันเพิ่งกินใบของหญ้าพิษชีวิตไป ตอนนี้หลับอยู่บนรถ พวกเราจะพามันกลับไปด้วยค่ะ”
“งั้นพวกเรากลับก่อนค่อยว่ากัน กลับไปอาบน้ำกินข้าวดีๆ”
ครึ่งเดือนมานี้ลูกชายกับลูกสาวไม่ได้กินข้าว เย่ว์หลั่งสงสารจับใจ
สามพี่น้องพร้อมใจกันพยักหน้า
รถสองคันทยอยออกจากเขาเทพจันทรา มุ่งหน้าสู่ตำหนักพระจันทร์
พอไปถึงจุดที่มีสัญญาณ มู่เถาเยาก็โทรหาที่บ้านก่อน
เมื่อพวกเขากลับถึงบ้าน คนตระกูลเย่ว์ก็มาอยู่กันหมดแล้ว
ปู่ย่าตระกูลตี้ รวมถึงราชาตี้กับคุณนายอวิ๋นเหอ กู้เนี่ยน จินเหยี่ยน้อยก็อยู่ด้วย
เศรษฐีอวิ๋นกับภรรยาก็มาด้วย
ตี้อู๋เปียนวิ่งเข้าไปหามู่เถาเยาก่อน “ซาลาเปาน้อย” น้ำเสียงเจือไปด้วยความดีใจ
ก่อนหน้านี้ที่ดูจากกล้องเห็นสองพี่น้องล้มลง เขาเกือบหัวใจวายตาย!
มู่เถาเยายิ้มกว้าง “พี่สาม พวกเราเอาหญ้าพิษชีวิตกลับมาได้แล้ว พี่สามใกล้จะหายแล้วนะ”
“อึม ตอนนี้ไม่รีบ เธอกับพี่ใหญ่พี่รองไปอาบน้ำพักผ่อน เดี๋ยวมากินข้าวเย็นค่อยว่ากัน”
“ได้”
มู่เถาเยาเอาเจ้าขาวปุยที่อยู่ในอ้อมอกให้เยี่ยนหัง พวกเด็กๆ จะได้ดู
ไม่รู้ว่าครั้งนี้เจ้าขาวปุยก็หลับยี่สิบสี่ชั่วโมงหรือเปล่า ถ้ามันตื่นก่อนก็ยังมีเยี่ยนหังกับอู๋ซวงที่คุ้นหน้า ไม่ต้องกลัวตกใจเพราะคนเยอะ
เย่ว์จือกวงหยิบกล่องไม้ที่ใส่หญ้าพิษชีวิตออกมาจากเป้ปีนเขาแล้วยื่นให้มู่เถาเยา
มู่เถาเยาส่งให้หยวนเหยี่ย
“เจ้าขาวปุยกินหนึ่งดอกกับหนึ่งใบ หนูก็กินไปหนึ่งดอก ยังเหลืออีกหนึ่งดอก เจ็ดใบ หนึ่งก้าน อาจารย์ใหญ่กับอาจารย์สามลองเอาไปศึกษาดูก่อนค่ะว่าจะให้พี่สามกินสดหรือเอาไปทำยา หนูกับเจ้าขาวปุยเคี้ยวกินสดค่ะ”
หยวนเหยี่ยรับกล่องมาด้วยความดีใจ “ได้ๆๆ พวกเราขอดูก่อน พวกเธอไปอาบน้ำจะได้สดชื่น เดี๋ยวค่อยมาหารือกัน”
“ค่ะ”
มู่เถาเยาหยิบดวงตาสีน้ำเงินออกมาให้เย่ว์เลี่ยง “อาคะ อันนี้เจ้าขาวปุยคาบจากใต้รอยแยกภูเขาไฟมาให้หนูค่ะ อาพอจะรู้ไหมคะว่าคืออะไร”
เย่ว์เลี่ยงรับดวงตาสีน้ำเงินที่มีไอร้อน “อึม ขอดูก่อน พวกเธอรีบไปอาบน้ำเร็วเข้า”
“ค่ะ”
มู่เถาเยากับพี่ชายทั้งสองหยิบของใช้ส่วนตัวเดินออกจากห้องรับแขกแยกย้ายกลับห้องตัวเองอาบน้ำล้างหน้า