ตอนที่ 451 เซี่ยอวี่ฮว่าเกิด
วันอังคารที่สิบตุลาคม
พอมู่เถาเยาเลิกเรียนก็เห็นข้อความที่ตี้อู๋เปียนส่งมาบอกว่าตี้อู๋เสียคลอดลูกสาวเซี่ยอวี่ฮว่าแล้วเมื่อตอนบ่ายสามโมงสามนาที
เธอยิ้มตาโค้งเก็บของเตรียมลงจากอาคารเรียนไปโรงพยาบาล
พี่เหลียงจีต้องรอเธออยู่ที่ลานจอดรถแน่ๆ
“เสี่ยวเยาเยา”
“ศาสตราจารย์โจว” มู่เถาเยาหยุดชะงัก
“ว่างไหม ศาสตราจารย์หวังอยากชวนเธอไปกินข้าวที่บ้าน”
นับตั้งแต่ภรรยาของเขาเจอนักศึกษาคนนี้ก็อยากแนะนำให้โจวซือหย่วนลูกชายรู้จัก
ทำพูดไป เขาเองก็รอคอยอยากให้เป็นแบบนั้น!
มู่เถาเยายิ้มมุมปาก “ศาสตราจารย์โจวคะ วันนี้พี่สาวคนนึงของหนูเพิ่งคลอดลูก ตอนนี้หนูต้องรีบไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลผิงคังค่ะ ไว้วันไหนหนูขอเลี้ยงข้าวศาสตราจารย์ทั้งสองแทนนะคะ”
“อ้อ คลอดลูกเป็นเรื่องที่น่ายินดี! งั้นเธอรีบไปเถอะ เรื่องกินข้าวไม่รีบหรอก”
“ค่ะ หนูขอไปเยี่ยมสองแม่ลูกก่อน ไว้เจอกันนะคะ”
“ไว้เจอกัน”
มู่เถาเยารีบสาวเท้า ไม่นานก็ถึงชั้นล่าง
“เสี่ยวเยาเยา ทางนี้” เหลียงจีโบกมือเรียก
มู่เถาเยาวิ่งเหยาะไปขึ้นรถ
“พี่มาจากโรงพยาบาล เจ้าหญิงอู๋เสียกับลูกสาวปลอดภัยดีจ้ะ”
“ค่ะ” มู่เถาเยารัดเข็มขัดนิรภัย
เหลียงจีหยิบกล่องอาหารออกมายื่นให้ “เสี่ยวเยาเยา พี่ซื้อขนมถั่วลันเตาระหว่างทางมาที่นี่ กินรองท้องไปก่อนนะ”
“ขอบคุณค่ะพี่เหลียงจี พี่กินหรือยังคะ”
“เมื่อกี้กินระหว่างรอเธอไปแล้ว เดี๋ยวเย็นหน่อยพวกเราค่อยไปกินข้าวหลังจากเยี่ยมเจ้าหญิงอู๋เสียกับลูกเสร็จ”
“ค่ะ”
เหลียงจีขับรถไปโรงพยาบาลผิงคังที่อยู่ในเมืองหลวง
เดิมทีจากมหาวิทยาลัยไปโรงพยาบาลผิงคังก็ไม่ได้ไกลมาก แต่ตอนนี้เป็นเวลาเลิกงาน ถ้ารถไม่ติดใช้เวลาประมาณยี่สิบนาที แต่ตอนนี้ใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงครึ่งกว่าจะถึง
มู่เถาเยากับเหลียงจีเยี่ยมตี้อู๋เสียกับเซี่ยอวี่ฮว่าเสร็จถึงพบว่าไม่เพียงแต่ครอบครัวโค้ชเถียนสามคนจะอยู่ด้วย ยังมีผู้กำกับหนิงอีกคน
“น้าชิงก็มาด้วยเหรอคะ”
ผู้กำกับหนิงยิ้มพูด “พี่รองรู้ว่าน้าอยู่เมืองหลวงด้วยก็เลยเรียกให้มาด้วยกันน่ะ”
ราชินีภาพยนตร์หยางชิงเฉวียนแม่ของอวิ๋นสุ่ยเหยาพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ใช่จ้ะ น้าชิงของหนูหนีมาเที่ยวทางนี้คนเดียว น้าเล็กของป้าโมโหมากเลยล่ะ! ในเมื่อมาแล้วป้าก็ขอเจอหน้าหน่อย เผื่อพรุ่งนี้หนีไปเที่ยวไหนก็ไม่รู้”
อายุสามสิบต้นๆ แล้วยังอยู่ไม่ติดบ้าน น้าเล็กของเธอร้อนใจจนแทบอยากเอาโซ่ล่ามพาไปดูตัว
มู่เถาเยาพยักหน้า จากนั้นก็เหลือบมองเหลียงจีแล้วถามขึ้น “ลุงอวิ๋นกับคุณป้าจะอยู่เมืองหลวงกี่วันคะ”
นับตั้งแต่น้าเล็กอวิ๋นกลายเป็นอาเขยของเธอ มู่เถาเยาก็เปลี่ยนคำเรียกหยางชิงเฉวียนกับสามีเป็นคุณลุงคุณป้า
ลุงอวิ๋นอายุมากกว่าพ่อของเธอหนึ่งปี แต่พ่อแม่ของเธอแต่งงานเร็ว ลุงอวิ๋นแต่งงานช้า ลูกๆ ของตระกูลเย่ว์ก็เลยอายุมากกว่าฝาแฝดของตระกูลอวิ๋นค่อนข้างเยอะ
หยางชิงเฉวียนยิ้มพูด “พวกเราจะอยู่เมืองหลวงอย่างน้อยครึ่งเดือนจ้ะ”
“ค่ะ ไว้กินข้าวด้วยกันนะคะ” ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาสืบเรื่องน้าชิง
“จ้ะ”
ตี้อู๋เปียนพูดแทรก “ซาลาเปาน้อย ฉันเอาข้าวเย็นมาให้ด้วย นี่ก็เย็นแล้ว พวกเธอไปกินข้าวกันก่อน”
เขารู้ว่ามู่เถาเยาจะมาแน่นอน ตอนพวกเขากลับไปก็เลยเอาข้าวมาให้เธอกับเหลียงจีด้วย
“อืม”
มู่เถาเยากับเหลียงจีรับกล่องอาหารแล้วไปกินข้างนอก
พอทั้งสองคนกินข้าวเย็นเสร็จกลับมาตี้อู๋เปียนก็ถามขึ้น “ซาลาเปาน้อย เดี๋ยวไปเยี่ยมปู่หยวนกับพวกปู่ซย่าโหวที่วังตระกูลตี้ไหม”
เหล่าผู้อาวุโสมาตั้งแต่ตี้อู๋เสียคลอดแล้วกลับไปกินอาหารเย็น กินเสร็จคนอื่นๆ ก็ไม่ให้มาอีก บอกว่ารอสองแม่ลูกออกจากโรงพยาบาลค่อยไปเยี่ยมที่บ้านตระกูลเซี่ย
มู่เถาเยาพยักหน้า “ไป ตอนนี้รถไม่ติดแล้ว”
อันที่จริงจากโรงพยาบาลผิงคังไปวังตระกูลตี้ถ้ารถไม่ติดก็หนึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ที่นี่ค่อนข้างใกล้บ้านตระกูลเซี่ย จึงเลือกมาคลอดที่โรงพยาบาลผิงคัง
อีกทั้งโรงพยาบาลผิงคังเป็นโรงพยาบาลของสำนักแพทย์โบราณ ยิ่งวางใจเข้าไปใหญ่
คุณนายอวิ๋นเหอพูดกับหลานสาว “เสี่ยวเหยา เดี๋ยวกลับไปพร้อมเสี่ยวเยาเยาเลยนะ แล้วค่อยให้คนไปส่งกลับมหา’ลัย”
“ได้ค่ะ”
อวิ๋นสุ่ยเหยาก็มาหลังเลิกเรียน แต่เธอไม่ได้เรียนวิชาสุดท้ายที่ไม่ใช่วิชาเอก จึงมาถึงเร็วกว่ามู่เถาเยา
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเหยียนหวงเข้มงวดมาก เป็นการบริหารจัดการกึ่งโรงเรียนทหาร ดังนั้นนักศึกษาห้ามไปค้างแรมที่อื่นยกเว้นช่วงสุดสัปดาห์ เธอต้องรีบกลับถึงหอพักก่อนห้าทุ่ม
มู่เถาเยามองตี้อู๋เสียกับลูกอีกครั้งแล้วไปคุยกับคนตระกูลเซี่ยตระกูลตี้สักพัก จากนั้นคนอื่นๆ ก็เร่งให้สองเด็กสาวกลับไปก่อน
“งั้นพรุ่งนี้หนูมาใหม่นะคะ”
คุณนายใหญ่เซี่ยหรือก็คือตี้อู่ลู่น่าแม่สามีของตี้อู๋เสียยิ้มกว้างพลางจับมือมู่เถาเยา “เสี่ยวเยาเยา พรุ่งนี้ไม่ต้องมาหรอกจ้ะ ช่วงเลิกงานเดินทางลำบาก วันนี้ชั่วโมงครึ่งยังถือว่าเร็ว ปกติต่ำๆ ก็สองชั่วโมง รอเลิกเรียนวันศุกร์ค่อยไปบ้านตระกูลเซี่ยนะ กินข้าวเย็นด้วยกัน”
คุณนายอวิ๋นเหอพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่จ้ะ เสี่ยวเยาเยาอย่าเสียเวลาบนท้องถนนเลยนะ อู๋เสียกับอวี่ฮว่ามีพวกเราดูอยู่ อย่าลำบากเลยนะ”
อวิ๋นไป๋ยิ้มกว้างเห็นฟันขาว “นั่นสิ พวกเราอยู่กันหมด อาจะสอนซิงเหยียนด้วยว่าต้องดูแลอู๋เสียกับอวี่ฮว่ายังไง”
ตอนนี้ประสบการณ์ของเขาเยอะมาก!
อันที่จริงมีคนดูแลแม่และเด็กอยู่แล้ว แต่พวกเขาเป็นสามี ก็อยากดูแลภรรยากับลูกด้วยตัวเอง
พอทุกคนพูดแบบนั้นมู่เถาเยาก็จำต้องพยักหน้า “ก็ได้ค่ะ งั้นวันศุกร์หลังเลิกเรียนหนูจะไปบ้านตระกูลเซี่ยเลยนะคะ”
ตี้อู๋เปียน “อืม เธอกับเสี่ยวเหยากลับไปก่อน เยี่ยมพวกอาจารย์เสร็จก็กลับบ้านกลับหอกันนะ”
“ได้ ฉันขอไปทักทายศิษย์พี่สามก่อน”
ในเมื่ออาจารย์ไม่ได้อยู่นี่ ก็แสดงว่าศิษย์พี่สามต้องอยู่ที่โรงพยาบาลแน่นอน
“เสี่ยวเหยาไปด้วยกันเลย เดี๋ยวจะได้ไม่ต้องกลับมาอีก กลับบ้านไปพร้อมกันเลย”
มู่เถาเยาพยักหน้า ร่ำลาทุกคนเสร็จก็ออกไปพร้อมอวิ๋นสุ่ยเหยากับเหลียงจี
ตี้อู๋เปียนกับผู้กำกับหนิงมองตามหลังพวกเธอ เหม่อมองอยู่นาน
เพียงแต่เวลานี้ความสนใจของทุกคนไปอยู่ที่ตี้อู๋เสียกับเซี่ยอวี่ฮว่า จึงไม่ทันสังเกต
พอสามสาวหายไปจากสายตาแล้ว คุณนายอวิ๋นเหอก็ยิ้มพูดกับทุกคน “ที่นี่ก็ไม่ต้องอยู่กันเยอะหรอก ซืออวิ้น โค้ชเถียน ซินซิน กลับไปก่อนเถอะ พรุ่งนี้ซินซินยังต้องไปเรียน” ก็แค่สถาบันศิลปะการแสดงไม่ได้เข้มงวดมาก
คุณนายใหญ่เซี่ยพูดต่อ “เฮ่าเทียน อวิ๋นเซียว…พวกเธอกลับไปเถอะ แล้วก็อู๋เว่ยกับอาเนี่ยนด้วย ตอนนี้ใกล้ถึงเวลาจินเหยี่ยกับอันเหยี่ยเข้านอนแล้ว”
พ่อสามีของตี้อู๋เสียพูดต่อ “ใช่ ทุกคนกลับไปพักผ่อนเถอะ มีพวกเรากับซิงเหยียนอยู่ที่นี่ก็พอแล้ว”
ราชาตี้ยิ้มพูด “ตอนนี้ก็มืดค่ำแล้ว พวกเราอยู่เป็นเพื่อนอู๋เสียกับอวี่ฮว่าอีกสักพัก เฮ่าเทียน พาทุกคนกลับไปก่อน สามพี่น้องอยู่กับพวกเรา”
ตี้อู๋เสียที่อยู่บนเตียงผู้ป่วยพูดด้วยความจนปัญญา “พ่อกับแม่ก็กลับไปเถอะค่ะ มีซิงเหยียนกับพยาบาลอยู่ก็พอแล้วค่ะ อีกอย่างเดี๋ยวหนูก็จะนอนแล้วด้วย”
เมียถึงกับเอ่ยปากแล้ว เซี่ยซิงเหยียนจึงรีบพูดกับราชาตี้และคุณนายอวิ๋นเหอ “พ่อกับแม่กลับไปเถอะครับ ผมรับรองเลยว่าจะดูแลอู๋เสียกับลูกอย่างดี”
คุณนายอวิ๋นเหอครุ่นคิด ถ้าพวกเขาที่เป็นพ่อแม่ยังไม่กลับ พ่อแม่สามีของอู๋เสียก็ไม่มีทางกลับแน่ ซึ่งทั้งสองคนก็อายุมากกว่าพวกเขา สุขภาพแย่กว่า ไม่ควรให้อยู่ที่โรงพยาบาลนาน ครั้นแล้วจึงพยักหน้า
“ก็ได้ งั้นพวกเรากลับก่อน ดูแลสองแม่ลูกให้ดีล่ะ”
“วางใจได้ครับแม่ ผมดูแลทั้งสองคนได้ครับ”
“อืม มีอะไรก็โทรหาพวกเราได้ตลอดเวลานะ”
“ครับ”