ตอนที่ 440 หน้าหนาขออาศัยทุกอย่าง
ขณะอยู่บนเครื่องบิน โค้ชเถียนก็อดหันไปมองตี้อู๋เปียนอยู่บ่อยๆ ไม่ได้
เขาย่อมไม่มีทางจำตี้อู๋เปียนที่เปลี่ยนไปทั้งใบหน้าคนนี้ได้ ก็แค่รู้สึกคุ้นเคยกับรูปร่าง บุคลิก และอื่นๆ
ต่อมาเจ้าถุงลมน้อยเรียกอาเล็กเขาถึงรู้ว่านี่คือคุณชายเล็กที่รูปโฉมงดงามแห่งตระกูลตี้!
ชั่วขณะนั้นเขาตะลึงจนดวงตาแทบจะถลนออกมา
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
จากหล่อดุจเทพบุตรกลายเป็นอัปลักษณ์มันเพิ่งจะผ่านไปนานเท่าไรเอง
ถูกพิษเหรอ ต้องถูกพิษแน่ๆ
โค้ชเถียนอดหันไปมองมู่เถาเยาไม่ได้
แม้แต่หมอเทวดาก็ช่วยไม่ได้เหรอ
ตี้อู๋เปียนเย็นชาตลอดการเดินทาง
เขาตกอยู่ในความอัปลักษณ์นี้ออกมาไม่ได้ ไม่อยากยุ่งกับใครทั้งนั้น
โค้ชอีกสี่คนไม่รู้จักตี้อู๋เปียน จึงควบคุมตัวเองอยู่ตลอดไม่ให้หันไปมองตี้อู๋เปียน กลัวสายตาสงสารของตัวเองจะทำอีกฝ่ายสะเทือนใจอย่างรุนแรง
“เป็นอะไรไปคะโค้ชเถียน”
มู่เถาเยาอยากมองข้ามสายตาเป็นห่วงเป็นใยอย่างรุนแรงของโค้ชเถียนก็ดูจะทำไม่ได้
“คุณชายเล็ก…ป่วยเหรอ เธอก็รักษาไม่ได้เหรอ”
จินเหยี่ยน้อยที่นั่งตักมู่เถาเยาตบมือแปะ “พี่สาวรักษา! พี่สาวทำอาเล็กกลายเป็นลิง”
ลิงตี้อู๋เปียน “…” กระอักเลือดอยู่ในใจ
มู่เถาเยายิ้มตาโค้ง จับมืออวบๆ ของเด็กน้อยพลางพูดกับโค้ชเถียน “ใบหน้าของตี้อู๋เปียนไม่ค่อยสะดวกไปพักผ่อนในที่คนเยอะค่ะ หนูก็เลยช่วยเปลี่ยนนิดหน่อย อีกสองวันก็หายแล้วค่ะ”
โค้ชเถียนเข้าใจทันที
แต่นี่มันจะเปลี่ยนเยอะเกินไปหรือเปล่า! เหมือนเปลี่ยนหัวเลยนะ! นี่เรียกเปลี่ยนนิดหน่อยเหรอ
สภาพเหมือนผีในตอนนี้ อย่าว่าแต่คนไม่รู้จักเลย ขนาดคนที่รู้จักยังจำไม่ได้!
ขี้เหร่ได้เหมือนธรรมชาติมาก!
เขากล้าพูดเลยว่า เครื่องสำอางที่ดีที่สุดกับฝีมือแต่งหน้าอันล้ำเลิศแค่ไหนก็แต่งออกมาไม่ได้แบบนี้!
โค้ชคนอื่นๆ มองหน้ากัน ต่างไม่เข้าใจ
คนขี้เหร่นี่…เอ่อ เด็กหนุ่มที่จงใจแต่งให้อัปลักษณ์คนนี้แซ่ตี้ คงไม่ใช่คนครอบครัวนั้นใช่ไหม
ตี้อู๋เว่ย ตี้อู๋โยว ตี้อู๋เปียน? แค่ฟังดูก็เหมือนพี่น้องกัน!
เสี่ยวเยาเยาเกิดในตระกูลสูงศักดิ์เหรอ
ตอนนี้มีข้าราชการระดับสูงแซ่มู่ด้วยเหรอ
พวกโค้ชมองหน้ากันแล้วส่ายหน้า
มู่เถาเยาก็ไม่อธิบาย พูดกับพวกโค้ชแค่ว่า “พวกเราจะลงจอดที่โรงแรมไห่เทียน เหมือนทะเลแถวนั้นจะเป็นศูนย์ฝึกของเรือใบทีมชาติใช่ไหมคะ”
โค้ชหลี่พยักหน้า “ใช่แล้ว จากโรงแรมไห่เทียนเดินไปศูนย์ฝึกของเรือใบทีมชาติใช้เวลาประมาณสิบนาที ทะเลแถบนั้นไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไป เสี่ยวเยาเยา เดี๋ยวพวกเราคุยกับโค้ชหร่วน ขอพาทุกคนไปด้วย เธอจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเด็กๆ”
ตี้อู๋เปียนพูดเสียงเย็นชา “ผมวางแผนไว้แล้ว ซาลาเปาน้อยไปฝึกอย่างสบายใจได้”
มู่เถาเยาขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณวางแผนยังไงบ้าง”
“เข้าเก็บของในโรงแรม กินข้าวกลางวัน ช่วงบ่ายเล่นที่โรงแรม รอแดดร่มหน่อยค่อยไปขี่เจ็ตสกีที่ทะเล ดูพระอาทิตย์ตก กลับมากินข้าวเย็น วันรุ่งขึ้นดูพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จค่อยออกทะเล ตอนเที่ยงปิ้งย่างบนเรือ ตอนบ่ายกลับบ้าน”
“…เหรอ งั้นคุณดูแลพวกเด็กๆ นะ”
“ฉันจะไปดูเธอฝึก ไม่ไปกับพวกเขา” แบบนี้ก็สลัดพวกกอขอคอได้แล้ว
ส่วนพวกโค้ช เขามองข้ามได้
มู่เถาเยา “…มีผู้ใหญ่อยู่เยอะก็ไม่ต้องกังวล เพียงแต่ คุณไม่อยากออกทะเลไปเที่ยวเหรอ คุณน่าจะไม่เคยเล่นหรือเปล่า”
ร่างกายเพิ่งแข็งแรงได้ไม่นาน แถมยังยุ่งเรื่องานระบบระบายน้ำกับช่วยเหลือคนยากจนอยู่ตลอด เขามีเวลาเที่ยวเล่นที่ไหนกัน
เดิมทีเธอคิดว่าเขาตามมาเพราะอยากเห็นทะเล อยากเล่นกิจกรรมทางน้ำอะไรแบบนั้น
ตี้อู๋เปียน “วันหน้ายังมีโอกาส”
ตอนนี้เขาพอใจชีวิตตอนนี้มาก
ได้เล่นหรือไม่ได้ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือช่วงเวลาที่ได้อยู่กับซาลาเปาน้อย
“งั้นคุณจัดการตัวเองแล้วกัน”
“อืม”
ระยะเวลาบินสองชั่วโมงกว่า ทุกคนพูดคุยสรวลเสเฮฮาฆ่าเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ไห่เทียนเป็นโรงแรมเจ็ดดาวของอวิ๋นไป๋ ด้วยเหตุนี้พอเครื่องบินลงจอด หลัวชิ่งผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมก็พาคนมาต้อนรับ
มู่เถาเยาอุ้มจินเหยี่ยน้อยแล้วยิ้มพูดกับหลัวชิ่ง “ผู้จัดการหลัวคะ รบกวนพาพวกเราไปเก็บสัมภาระก่อน ช่วยจัดให้อยู่ห้องติดกันด้วยนะคะ”
“คุณอวิ๋นโทรมาบอกแล้วครับ พวกเราจัดการให้เรียบร้อยแล้วครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ไม่ต้องเกรงใจครับ นี่เป็นเรื่องที่ผมควรทำ ทุกคนเชิญทางนี้ครับ”
นี่เป็นคนในครอบครัวของบอสเชียวนะ!
เขาเคยเจอคนครอบครัวอวิ๋น และตรงนี้ก็มีหลานสาวของบอสอยู่แค่คนเดียว เขาจึงเดาว่าคนกลุ่มนี้เป็นครอบครัวของภรรยาบอส
ทั่วทั้งโรงแรมมีแค่เขาที่รู้ว่าบอสเป็นใคร ย่อมรู้ว่าครอบครัวภรรยาบอสมีสถานะแบบไหน
พวกมู่เถาเยาเดินตามไป
เมื่อไปถึงล็อบบี้ที่ตกแต่งสไตล์ทะเล โค้ชหร่วนก็รีบเดินเข้ามาหา “เสี่ยวเยาเยา…เหล่าเถียน เหล่าหลี่ เหล่าจาง เหล่าอัน เหล่ากง! มาได้ยังไงกัน ไม่เห็นบอกฉันก่อนเลย!”
โค้ชเถียนยิ้มพูด “ก็ต้องอยากมาดูเสี่ยวเยาเยาสร้างเซอร์ไพรส์อีกครั้งอยู่แล้ว!”
พอพูดถึงเซอร์ไพรส์ โค้ชหร่วนก็อารมณ์ดีมาก!
ต่อให้เสี่ยวเยาเยาอ่อนเรื่องเล่นเรือใบที่สุด แต่ได้ยินพวกโค้ชคนอื่นบอกว่า แขนขาของเสี่ยวเยาเยาสามัคคีและทำงานได้ดีมาก แถมหัวไวพูดอะไรก็เข้าใจเร็ว อีกทั้งตอนนี้ฝึกซ้อมแต่ละอย่างก็ทำลายสถิติแชมป์โลก!
แล้วจะไม่ให้เขาตื่นเต้นได้ยังไง!
มู่เถาเยายิ้ม “โค้ชหร่วนคะ พวกเราไปเก็บของก่อน โค้ชหร่วนไปรอที่ห้องอาหารดีไหมคะ”
“โค้ชไปกับพวกเธอด้วยแล้วกัน เหล่าเถียน พวกนายก็พักที่นี่เหรอ”
ห้องธรรมดาสุดของที่นี่ก็หมื่นกว่าหยวนแล้ว! มีเหรอที่พวกเขาจะยอมเสียเงินขนาดนี้ เมื่อก่อนเวลามาก็พักแค่โรงแรมธรรมดาที่ไกลจากชายหาดหน่อยไม่ใช่เหรอ
โค้ชเถียนยิ้มกว้าง “พวกเราอาศัยเครื่องบินของเสี่ยวเยาเยามา ตอนนี้ก็อาศัยพักโรงแรมด้วย อีกเดี๋ยวก็จะอาศัยขอกินข้าว หน้าหนาขออาศัยมันทุกอย่าง ฮ่าๆ…”
มู่เถาเยายิ้ม “โรงแรมเป็นของญาติค่ะ ไม่ต้องเสียเงิน เดิมทีพวกเราก็จะมากันเยอะอยู่แล้ว มีโค้ชไม่กี่คนมาด้วยไม่ต่างกันมากค่ะ”
โค้ชอันตบบ่าโค้ชหร่วนแล้วยิ้มแบบมีเลศนัยให้เขา
โค้ชหร่วน “…” หมายความว่าไง
โค้ชคนอื่นๆ แค่ยิ้มไม่ตอบอะไร
ผู้จัดการใหญ่หลัวชิ่งกับผู้จัดการฝ่ายห้องพักพาพวกมู่เถาเยาขึ้นไปห้องชุดเพรสซิเดนท์สวีทที่อยู่ชั้นบนสุด
“ตี้…”
มู่เถาเยาคิดได้ว่าไม่ควรเรียกชื่อตี้อู๋เปียนต่อหน้าคนเยอะขนาดนี้ จึงเปลี่ยนคำเรียก “พี่สามพาอันเหยี่ยกับศิษย์หลานสองคนของฉันไปพักห้องเดียวกัน”
ตี้อู๋เปียนพยักหน้า “อืม”
“อาคุน อาเจิ้น พาซือจิ่น จิ่งเหยา เซิ่นอวี๋ ไปพักด้วยกัน”
คนที่ถูกเรียกชื่อพากันพยักหน้า
“ฉันจะพาจินเหยี่ย เสี่ยวหว่าน เสี่ยวเหมียน เสี่ยวเหยา แล้วก็พี่หลินไปพักด้วยกัน”
พี่หลินคือพี่เลี้ยงของจินเหยี่ยน้อย
“พี่เหลียงจีพักกับโค้ชหลี่โค้ชจางนะคะ”
ทั้งสามคนตอบรับ “จ้ะ”
ห้องเพรสซิเดนท์สวีทเหล่านี้เป็นห้องใหญ่ที่มีสามห้องนอนหนึ่งห้องรับแขกหรือสองห้องนอนหนึ่งห้องรับแขก
พอจัดสรรห้องให้ทุกคนเสร็จก็นัดรวมตัวกันที่หน้าลิฟท์ในอีกครึ่งชั่วโมงให้หลัง จากนั้นค่อยลงไปกินอาหารกลางวันที่ห้องอาหารชั้นสาม
“ผู้จัดการหลัวลงไปก่อนได้นะคะ อีกครึ่งชั่วโมงพวกเราลงไปกันเองได้”
“ได้ครับ ห้องอาหารไห่เทียนที่ใหญ่สุดนะครับ ไม่ทราบว่ามีใครไม่กินอะไรไหมครับ มีแพ้อาหารทะเลไหม”
ทุกคนส่ายหน้า
มู่เถาเยายิ้มพูด “ผู้จัดการหลัวจัดการตามสบายได้เลยค่ะ”
“ครับ งั้นผมขอตัวลงไปคุยกับทางห้องครัวก่อน”
“ขอบคุณค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
…………………………………………………