ตอนที่ 366 รูปหล่อของพ่อ
“แน่นอนว่าต้องเป็นรูปหล่อ ๆ ของพ่อสิ!” หมิ่นลี่มองไปด้วยรอยยิ้ม เพราะว่าหยางหยางกับหน่วนหน่วนอยู่ที่นี่เขาจึงลดเสียงลงอย่างไม่รู้ตัว ยิ่งกว่านั้นไม่ต้องพูดถึงจิ่งเป่ยเฉิน
“อ๋อ หนูเข้าใจแล้ว ถ้าหากว่าแม่จ๋าเห็นพ่อจ๋าที่น่าสงสารนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลแบบนี้จะต้องปวดใจแน่ ๆ แล้วแม่ก็จะมาหาพ่อจ๋า!” หน่วนหน่วนตอบกลับด้วยรอยยิ้มและหันไปมองจิ่งเป่ยเฉิน “พ่อจ๋า หน่วนหน่วนพูดถูกไหมคะ?”
เธอเป็นลูกสาวของเขาก็ต้องคิดเหมือนกับเขา
แม้เขาจะไม่แน่ใจว่าโหรวโหรวจะกลับมาไหม แต่ว่าเขาต้องลองดู
เสียงรองเท้าส้นสูงนั้นดังมาจากด้านนอก หน่วนหน่วนหันหน้าไปมองอย่างตื่นเต้น ก่อนจะตะโกนและมองไปที่ประตู “แม่จ๋า! แม่จ๋า!”
คนที่เปิดประตูเข้ามากลับไม่ใช่อันโหรว แต่เป็นอันหยาพั่น
“คุณน้า มาแล้วเหรอ!” เสียงของเธออารมณ์เสียไปทันที ทำไมแม่ของเธอไม่มา
แม่จ๋าไม่ชอบพ่อจ๋าแล้วเหรอ?
แม่จ๋าไม่รักเธอแและพี่ชายแล้วเหรอ?
อันหยาพั่นถือกระติกน้ำร้อนสองอันอยู่ในมือ เธอสวมชุดกระโปรงยาวสีขาวเดินเข้ามาอย่างอ่อนโยน “หน่วนหน่วน หยางหยาง คุณถัง คุณหมิ่น”
“พี่เขยคะ ฉันทำซุปมาให้ พี่ดื่มสักหน่อยสิ!” เธอเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม เวลานี้เป็นเวลาสิบเอ็ดโมงแล้วเมื่อพูดถึงคนไข้ก็ถือว่าเป็นเวลากินข้าวมื้อเที่ยง
“หยางหยาง หน่วนหน่วน พวกหนูมากินกับพ่อด้วยสิ” ถ้าไม่พูดแบบนี้เธอกังวลว่าจิ่งเป่ยเฉินจะไม่ยอมกินมัน
จิ่งเป่ยเฉินยังคงมีสีหน้าที่เย็นชา สายตานั้นจ้องมองไปตรงหน้าอย่างเยือกเย็นราวกับว่าไม่ได้ยินในสิ่งที่เธอพูดเลยแม้แต่น้อย
เพราะเมื่อวานเธอสวมชุดเจ้าสาวของอันโหรวและปรากฏตัวต่อหน้าจิ่งเป่ยเฉิน ในสายตาของหมิ่นลี่และถังซั่วจึงไม่พอใจตัวเธอค่อนข้างมาก
เพราะไม่ว่าจะยังไงเธอก็ไม่ควรจะทำแบบนั้น ไม่ควรจะหลอกจิ่งเป่ยเฉิน!
แม้แต่คำขอของอันโหรวเองก็เช่นกัน ถ้าหากว่าเธอหนีไปก็ไม่ปรากฏตัวออกมาเลยไม่ดีกว่าเหรอ?
ถ้าหากว่าจิ่งเป่ยเฉินไม่รู้ พิธีงานแต่งของพวกเขาจะถือว่านับไหม แม้ว่าจะไม่มีการยืนยัน แต่พิธีก็ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว
ดีที่จิ่งเป่ยเฉินนั้นรู้ตัวก่อน ตอนนี้เรื่องนี้ได้โด่งดังไปทั่วเมือง A เป็นข่าวเดือดอย่างมาก แต่จิ่งเป่ยเฉินกลับไม่ได้หยุดยั้ง ได้แต่พูดว่าไม่สนใจเลยสักนิดเกี่ยวกับข่าวที่ถูกปล่อยออกไป
จุดประสงค์ของเรื่องนี้ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการที่ให้อันโหรวนั้นออกมา
อันหยาพั่นที่อยู่ในห้องคนไข้เทน้ำซุปหนึ่งถ้วยและมองไปที่จิ่งเป่ยเฉินโดยไม่แน่ใจว่าตอนนี้เขานั้นสามารถที่จะกินเองได้ไหม มือทั้งสองข้างของเขาวางอยู่บนผ้าห่ม เธอจึงไม่รู้สถานการณ์ที่แน่ชัด
“พี่เขยคะ พี่กินสักหน่อยนะ! บำรุงร่างกาย จะได้หายไว ๆ พี่สาวเองก็คงไม่อยากเห็นพี่เป็นแบบนี้” เธอโน้มตัวลงและตักซุปซี่โครงหมูขึ้นมาป้อนเขา
จิ่งเป่ยเฉินยังคงมองไปด้านหน้า ก่อนที่ริมฝีปากบางซีดนั้นจะเอ่ยอย่างเย็นชา “เอาออกไป”
หลังจากเรื่องเมื่อคืนอันหยาพั่นก็เข้าใจอารมณ์ของจิ่งเป่ยเฉินขึ้นมาบ้าง เขาไม่ชอบเธอและไม่ฟังคำพูดของเธอเลย
ดังนั้นเธอจึงหันไปทางหน่วนหน่วนที่นั่งอยู่กับถังซั่ว “หน่วนหน่วนมาช่วยให้พ่อจ๋ากินเร็ว ตอนนี้ไม่สบาย ถ้าไม่กินอะไรเลย ร่างกายจะไม่ดีขึ้นนะคะ”
หน่วนหน่วนเชื่อฟังเธอและพยักหน้าไม่หยุด ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลนั้นจ้องมองไปที่จิ่งเป่ยเฉินด้วยความเจ็บปวด “พ่อจ๋ากินหน่อยนะ!”
เมื่อเห็นเขาที่ไม่เคลื่อนไหวใด ๆ น้ำเสียงของหน่วนหน่วนก็อ่อนลง “พ่อจ๋า กินหน่อยนะ ขอร้อง……”
เมื่อได้ยินเสียงของลูกสาว จิ่งเป่ยเฉินก็ได้สติกลับมา เขายื่นมือไปรับถ้วยจากมือของอันหยาพั่น
ในที่สุดคนที่อยู่ภายในห้องก็ได้เห็นเขากินน้ำซุป จึงพลันรู้สึกโล่งใจเพราะลูกของเขานั้นมีเสน่ห์อย่างมาก เมื่อเช้าหมิ่นลี่และถังซั่วเกลี้ยกล่อมอยู่นานก็ไม่ได้ผล
จิ่งเป่ยเฉินกินไปหนึ่งคำ เสียงฝีเท้าจากด้านนอกก็วิ่งเข้ามาอีกครั้ง เสียงนี้จิ่งเป่ยเฉินคุ้นเคยเป็นอย่างดี
เขาหันหน้าไปมองที่ประตู ประตูห้องคนไข้ถูกเปิดออก ในมือของฉีเซิ่งเทียนมีถุงซิปล็อกอยู่ “พี่เฉินเมื่อกี้ตอนฉันเข้ามาโรงพยาบาล พยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์เอามาให้ฉัน บอกว่าเป็นของพี่”
ทุกคนต่างมองไปยังของที่อยู่ในมือของเขา มีคนส่งมาให้จิ่งเป่ยเฉิน จะเป็นอะไรไปได้
“อีกอย่างคือฉันเพิ่งได้รับข่าวหนึ่งมา” เมื่อพูดถึงตอนนี้น้ำเสียงของเขาก็หยุดชะงักลง เจ้าของฝีเท้าที่เดินเข้ามาอย่างช้า ๆ นั้นก็พลันเปลี่ยนสีหน้าทันที
“พูดมา” จิ่งเป่ยเฉินอยากจะรู้จนแทบรอไม่ไหว
เรื่องที่เขาจะพูดต้องเกี่ยวข้องกับอันโหรว และน้ำเสียงของเขาแบบนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นข่าวที่ไม่ดี
ไม่ว่าจะข่าวดีหรือร้ายเขาก็อยากที่จะรู้
“เมื่อวานมีเครื่องบินส่วนตัวลำหนึ่งบินออกจากเมือง A เป็น TE”
เมื่อฉีเซิ่งเทียนพูดออกมา ถ้วยในมือของจิ่งเป่ยเฉินก็ร่วงหล่นลงพื้น
เมื่อวานไม่มีข่าวของเธอเลยสักนิด นี่เธอนั่งเครื่องบินหนีไปแล้วงั้นเหรอ?
เอกสารของเธอไม่ได้เอาไปสักอย่าง มีเพียงแค่เครื่องบินส่วนตัวเท่านั้น
ประธาน TE ฉีหย่วนหยาง!
นี่พวกเขาเป็นอะไรกันแน่ ทำไมถึงพาเธอหนีไปจากพิธีงานแต่งราวกับไม่ต้องการเขา หยางหยาง และหน่วนหน่วนแบบนี้!
“พี่เฉิน คือว่า……” ฉีเซิ่งเทียนยกถุงซิปล็อกในมือขึ้นมา
“แกะออก”
ฉีเซิ่งเทียนรีบแกะมันออกมาจากถุงทันที เขาเบิกตามองเนื้อหาที่อยู่ด้านใน ใบหน้าของเขาซีดขาวแทบจะทันที
ยังไม่ทันจะส่งให้จิ่งเป่ยเฉิน เขาก็หันหลังกลับและหัวเราะออกมา ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ไม่มีอะไรเลย เป็นเรื่องของบริษัท พี่เฉินรักษาอาการบาดเจ็บไปเถอะ ส่วนเรื่องของบริษัทฉันจะไปจัดการเอง”
ฉีเซิ่งเทียนรู้จักจิ่งเป่ยเฉินเป็นอย่างดี จิ่งเป่ยเฉินเองก็รู้จักเขาดีเช่นกัน ถ้าหากว่าเป็นเรื่องงานเขาจะตอบสนองแบบนี้ที่ไหนกัน
“เอามานี่!” น้ำเสียงของเขานั้นเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก เขาไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับบริษัท มันจะต้องเกี่ยวกับอันโหรวแน่นอน
“พี่เฉิน เป็นเรื่องของบริษัทจริง ๆ เมื่อวานเครื่องบินของฉีหย่วนหยางที่บินออกจากเมือง A ไป ฉันคิดว่าพี่สะใภ้ก็คงจะอยู่ที่นั่น ตอนนี้พวกเราออกนอกประเทศเพื่อไปตามหาคนให้แล้ว!” เมื่อฉีเซิ่งเทียนพูดจบก็หันหลังออกไป แต่เมื่อเขาหันหลัง ถุงซิปล็อกกลับถูกหมิ่นลี่ดึงออกไปอย่างกะทันหัน
หลังจากที่หมิ่นลี่หยิบมันมาก็ไม่ได้เปิดดูเอง แต่กลับโยนไปให้จิ่งเป่ยเฉินบนเตียง
“หมิ่นลี่ แกบ้าไปแล้วหรือไง!” ฉีเซิ่งเทียนเห็นแบบนั้นก็ตะโกนออกมาเสียงดัง
และหลังจากที่หมิ่นลี่โยนไปแบบนั้น จิ่งเป่ยเฉินก็รีบแกะถุงซิปล็อกออก เอกสารใบหย่าจึงร่วงหล่นออกมาจากด้านใน ทุกคนในห้องนั้นเห็นมันอย่างชัดเจน
เพล้ง!
ถ้วยในมือของจิ่งเป่ยเฉินนั้นร่วงหล่นลงพื้น
มือที่ว่างเปล่าของเขานั้นหยิบเอกสารหย่าออกมาจากด้านใน บนกระดาษนั้นมีลายเซ็นของอันโหรว
เขาพลิกกระดาษดูด้านหลังตรงช่องลายเซ็นที่เธอนั้นได้เซ็นเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ตอนที่อยู่ที่บริษัทเธอดูเขาเซ็นชื่อตลอด นานแล้วที่เขาไม่ได้เห็นลายเซ็นของเธอ ตัวเธอเองยังคงสง่างาม เผยถึงความหลุดพ้นเป็นอิสรภาพออกมา
ลายเซ็นที่คุ้นเคยนั้นกลับไม่ใช่ข่าวที่เขาอยากจะรู้
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ใครส่งมันมา!” หมิ่นลี่ตะโกนออกมา
ฉีเซิ่งเทียนแทบอยากจะลากเขาออกไปทันที ไม่เห็นหรือไงว่าสีหน้าของจิ่งเป่ยเฉินนั้นเปลี่ยนไปแค่ไหน
สีหน้าและแววตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและเยือกเย็นเหมือนกับซาตานในขุมนรก!
“ฉันได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว คนที่ส่งของมาเป็นคนที่มาเยี่ยมคนไข้ก่อนหน้านี้ ซึ่งหมายถึงว่าเขารับเงินจากการจ้างวานของคนอื่นเพื่อเอามันมาส่งให้ มองเห็นไม่ชัดว่าหน้าตาของคนนั้นเป็นยังไง และก็ไม่รู้ว่าไปที่ไหน กล้องวงจรปิดตรวจไม่พบ”