อยากกินไหมล่ะ 美食供应商
บทที่ 804 เบียร์
หยวนโจวมัวแต่มองดูรางวัลใหม่ที่เป็นผลมาจากคืนก่อน ในขณะเดียวกัน สมาชิกในทีมงานถ่ายทำก็ยังคงนึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นอยู่
ย้อนไปคืนก่อน
หลังจากสมาชิกในทีมต่างขนอุปกรณ์ทั้งหมดเข้ารถตู้ไปแล้ว สมาชิกทุกคนต่างก็เข้าไปในรถตู้ ทุกขั้นตอนใชเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง
“อืม? ทำไมวันนี้พวกคุณกลับเร็วกันจังเลยล่ะครับ?” คนขับถามด้วยความสงสัย เขากำลังดูมังกรหยกฉบับปี 1983 และยังเหลืออีกสองตอนที่ยังดูไม่จบก่อนที่ทีมงานจะกลับมา จากการถ่ายทำสองครั้งก่อน ทีมงานจะกลับมาหลังจากเขาดูตอนที่สามจบแล้ว
“อย่าไปเอ่ยถึงเรื่องที่ผ่านมาเลย ชีวิตมักจะเต็มไปด้วยอุปสรรคอยู่เสมอแหละน่า” ต้าไห่กล่าว
เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว คนขับก็ไม่ได้ถามอะไรอีก เขาเก็บโทรศัพท์มือถือแล้วเริ่มออกรถ จะว่าไปแล้วคนขับคนนี้ก็ค่อนข้างหน้าตาดีทีเดียว ตัวเขามีอายุ 40 ปีและแซ่ของเขาคือโจว เขาชอบดูละครโทรทัศน์เก่าๆอย่างตำนานนางพญางูขาวและจอมยุทธ์อุ้ยเสี่ยวป้อฉบับปี 1998 เอามากๆเลย
เมื่อตอนที่เขาอยู่บ้านคนเดียว เขาจะถือโทรศัพท์มือถือเอาไว้เพื่อดูละครโทรทัศน์เก่าๆพลางจิบเหล้าเอ้อร์กัวโถวและกินถั่วลิสงที่ภรรยาของเขาเป็นคนทำขึ้นเอง เรื่องนั้นนับเป็นประสบการณ์ที่น่าเพลิดเพลินอย่างไม่น่าเชื่อ น่าเสียดายที่เมื่อไม่นานมานี้ ภรรยาของเขาได้จากไปด้วยอุบัติเหตุทางถนนอันมีสาเหตุมาจากเมาแล้วขับ ด้วยเหตุนี้คุณโจวจึงเลิกดื่มไปเลย
ทุกวันนี้จะดื่มแค่น้ำแร่ขณะที่เขากินถั่วลิสงและดูละครโทรทัศน์ เมื่อก่อนยิ่งกินถั่วลิสงก็ยิ่งอร่อยขึ้น แต่มาตอนนี้ยิ่งกินถั่วลิสงก็ยิ่งขมมากขึ้นขณะที่ยิ่งเขาดื่มไปเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกหนาวเหน็บมากขึ้นเท่านั้น
“หิวจังเลย”
เซียวหลงเหรินบ่นพึมพำหลังจากผ่านไปสักพัก นี่คือชนวนที่จุดระเบิดกระเพาะอาหารของทุกคนให้เริ่มร้องไม่หยุดในทันที
ผ่านมาตั้ง 10 คืนแล้วจึงพอเข้าใจความหิวของพวกเขาได้
“ผมรู้จักแผงขายอาหารอร่อยๆนะครับ พวกคุณอยากให้ผมพาไปส่งที่นั่นไหมล่ะ?” คุณโจวถามขึ้นมา
นี่เป็นข้อเสนอแนะที่ดี ทีมงานทุกคนยกเว้นคนเพียงคนเดียวต่างเห็นด้วยกับสิ่งนี้
คนผู้นั้นก็คือไป๋ลี่ที่เอาแต่เงียบมาโดยตลอดราวกับเป็นคนผ่านไปผ่านมา แน่นอนว่าเธอย่อมหิวเช่นกัน แต่เธอกลับค่อยๆหยิบขนมปังหน้าหมูออกมาจากกระเป๋าของตัวเอง ที่จริงแล้วขนมปังหน้าหมูจัดว่าเป็นอาหารโปรดของเธอเชียวล่ะ
จากนั้นเธอก็เริ่มกินโดยมีสายตาของทุกคนเฝ้ามองมา
“ไป๋ลี่ เธอซื้อขนมปังมาตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ?” อาเขิ่นถาม ส่วนคนอื่นๆกำลังรอคอยให้ไป๋ลี่ตอบเช่นเดียวกัน
ไป๋ลี่พูดแบบไม่ยี่หระว่า “ฉันซื้อเอาไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว เพื่อนคนหนึ่งของฉันเป็นลูกค้าขาประจำที่ร้านหยวนโจว เธอบอกฉันว่าเถ้าแก่หยวนมีสมญานามว่าเจ้าเข็มทิศ ไม่ว่าคุณจะเป็นหญิงสาวที่สวยมากสักเพียงใด คุณก็ไม่มีทางที่จะได้อาหารจากเขาไปฟรีๆหรอก เธอบอกฉันว่าเถ้าแก่หยวนไม่เคยพลัดหลงจากหนทางแห่งความตระหนี่ของเขาเลยล่ะ”
ไป๋ลี่พูดต่อว่า “ตอนที่ฉันเห็นเธอพูดออกมาด้วยความมั่นใจเสียขนาดนั้น ฉันก็ตัดสินใจแล้วว่าจะนำเอาขนมปังหน้าหมูที่เป็นอาหารโปรดกับโยเกิร์ตแพ็คหนึ่งมาด้วย” จากนั้นไป๋ลี่ก็หยิบโยเกิร์ตแพ็คหนึ่งออกมา
โยเกิร์ตกับขนมปังหน้าหมูช่างเป็นการผสมผสานที่แสนลงตัว
“ผู้หญิงคนนั้นชื่อว่าอะไรงั้นเหรอ?” เซียวหลงเหรินถามด้วยความอยากรู้
“เธอมีชื่อว่าอะไรไม่สำคัญหรอก นายควรจะให้ความสนใจกับสิ่งที่นายอยากจะกินมากกว่านะ” ไป๋ลี่ตัดสินใจที่จะไม่เปิดเผยชื่อเสียงเรียงนามของเพื่อนเธอ
“เฮ้อ ดูเหมือนฉันยังไม่รู้จักเถ้าแก่หยวนดีพอสินะ” ชิวชิวทอดถอนใจ
เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ว่าเหตุใดเขาจึงรู้สึกอารมณ์เสีย เขาเคยไปที่ร้านมาครั้งหนึ่งน่าจะรู้เรื่องของเถ้าแก่หยวนมากกว่านี้สิ น่าเสียดายที่ไม่ได้หาข้อมูลเอาไว้ล่วงหน้า
“เลิกคุยกันสักทีเถอะน่า ฉันหิวแล้วนะ คุณโจวไปกินอาหารกันเถอะครับ” อาเขิ่นร้องโหยหวนพลางลูบท้อง
ความหิวของเขายิ่งรุนแรงขึ้นเมื่อนึกถึงบะหมี่เย็นนึ่งที่กลิ่นหอมอย่างน่าเหลือเชื่อ
“ได้เลย พวกเราจะไปถึงในไม่ช้านี้แหละ” คุณโจวตอบ
รถตู้แล่นด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้โดยไม่เกินขีดจำกัดความเร็ว
ถึงอย่างไรคุณโจวก็เกลียดชังเจ้าพวกคนที่ขับรถเกินขีดจำกัดความเร็ว
สมาชิกในทีมไม่มีความเห็นต่อการกระทำของหยวนโจว ทีแรกพวกเขาต่างรู้สึกประหลาดใจราวกับสิ่งที่หยวนโจวทำอยู่นอกเหนือความคาดหมายของพวกเขา แต่หลังจากได้ฟังคำอธิบายของไป๋ลี่แล้ว การกระทำของหยวนโจวก็ไม่น่าประหลาดใจอีกต่อไป พวกเขาก็รู้สึกรำคาญน้อยลงมาก แต่แน่นอนว่าพวกเขาก็ยังคงค่อนข่างอารมณ์เสียอยู่ดี
ย้อนกลับไปตอนนี้ หยวนโจวกำลังมัวแต่อ่านคำอธิบายรางวัลของเขาอยู่
“เป็นเบียร์งั้นหรือ? ก็ดีน่ะสิ เบียร์สามารถดื่มได้ทั้งร้อนหรือเย็นแถมยังสามารถดื่มได้เยอะอีกต่างหาก” หยวนโจวบ่นพึมพำ ในประเทศเกาหลี ผู้คนที่นั่นคุ้นเคยกับการกินไก่ทอดและเบียร์ ส่วนในประเทศจีนนี้ ผู้คนมักจะกินกุ้งแม่น้ำไม่ก็เนื้อย่างเสียบไม้พลางดื่มเบียร์ไปด้วย
เมื่อเทียบกับไวน์ขาวแล้ว เบียร์เป็นที่นิยมของคนทั่วไปมากกว่า ถึงอย่างไรคนที่ไม่ได้ดื่มมากมายอะไรนักก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับเบียร์ปริมาณเล็กน้อยได้เป็นบางครั้งบางคราว
อย่างไรเสียความเข้มข้นเนื่องจากแอลกอฮอล์ของเบียร์ก็ต่ำกว่าและผู้คนก็น่าจะมึนเมาจากการดื่มเบียร์ได้น้อยกว่า
“แล้วนี่มันเป็นเบียร์สดหรือว่าเบียร์หมักยีสต์นอนก้นกันล่ะ?” หยวนโจวถามด้วยความสงสัย
ควรรู้ว่าเบียร์สดมักจะดีกว่าเบียร์หมักยีสต์นอนก้นอยู่แล้ว แต่เบียร์หมักยีสต์นอนก้อนที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดต่างก็เป็นเบียร์สดที่เก็บรักษาได้ยาก
แน่นอนว่าเนื่องจากสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนที่ดีขึ้น ผู้คนจึงเริ่มดื่มเบียร์สดมากขึ้นเรื่อยๆ
แม้จะเป็นเช่นนั้น ผู้คนที่ดื่มเบียร์สดก็ยังคงมีอยู่เพียงหยิบมือ
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “ทุกสิ่งทุกอย่างที่ระบบจัดหามาให้ย่อมต้องเป็นของดีที่สุดอยู่แล้ว แถมเบียร์ก็ยังเป็นเบียร์สดอีกต่างหาก”
“อืม แหงล่ะ ขอฉันดูหน่อยซิว่าต้มมาได้ดีขนาดไหนกัน” หยวนโจวกล่าวหลังจากตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่ายังเหลือเวลาอีกสามนาทีซึ่งเพียงพอให้เขาทำอาหารต่อได้
เจ้าระบบแสดงผลออกมาว่า “มีธัญพืชอยู่หลากหลายสายพันธุ์ที่สามารถนำมาใช้ต้มเบียร์ได้ แต่โดยทั่วไปแล้วข้าวบาร์เลย์หลายสายพันธุ์หรือข้าวบาร์เลย์ที่เติบโตด้วยกรรมวิธีพิเศษจะถูกนำมาใช้ในการต้มเบียร์ แน่นอนว่ายังมีคนที่ต้มเบียร์โดยใช้ข้าวสาลีอีกด้วย”
“ผู้คนยังต้มเบียร์ด้วยข้าวสาลีตราบเท่าที่พวกเขายังคงใช้ข้าวบาร์เลย์อยู่ ยังไงเสียทั้งข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์จะทำปฏิกิริยาที่แตกต่างกันไประหว่างการต้ม”
“ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกระบวนการต้มและธัญพืชที่นำมาใช้ โดยสามารถนำเอาธัญพืชที่ผ่านการงอกร้อยละ 5-70 มาใช้ได้ ส่วนข้าวสาลีที่กะเทาะเปลือกออกแล้วก็จะมีแทนนินต่ำกว่าเมื่อเทียบกับข้าวบาร์เลย์ แถมยังมีขนาดเล็กกว่าทว่าอุดมไปด้วยโปรตีนยิ่งกว่าด้วย”
“ธัญพืชพวกนี้จะส่งผลต่อระยะเวลาในการเกิดฟองเบียร์ได้นานๆและเนื่องจากอุดมไปด้วยโปรตีนในข้าวสาลี เบียร์ที่ต้มด้วยข้าวสาลีจะต้องมีความหนากว่าเบียร์ที่ต้มด้วยข้าวบาร์เลย์ ด้วยเหตุนั้นระหว่างกระบวนการต้ม เบียร์จึงต้องผ่านกรรมวิธีของโปรตีนเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีปัญหาในการกรอง แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ย่อมไม่เป็นปัญหาสำหรับระบบนี้เลย”
“สรุปแล้วเบียร์ของแกใช้ข้าวสาลีต้มขึ้นมาสินะ?” หยวนโจวถาม
ก่อนที่เจ้าระบบจะทันได้ตอบ หยวนโจวก็พูดต่อไปว่า “ตามที่ฉันพอรู้ เบียร์ส่วนใหญ่ในประเทศของเราจะใช้ข้าวบาร์เลย์นำเข้ามาต้ม แต่หลังจากกำลังในการผลิตเพิ่มขึ้น ข้าวบาร์เลย์ในท้องถิ่นก็ถูกนำมาใช้มากขึ้นเรื่อยๆไปด้วย”
หยวนโจวหยุดไปสักครู่แล้วพูดต่อ “แล้วตอนนี้ราคานำเข้าของข้าวบาร์เลย์อยู่ที่ราวๆ 2,700 หยวนต่อตัน ส่วนข้าวบาร์เลย์ในท้องถิ่นจะมีราคาอยู่ราวๆ 2,300 หยวนต่อตัน ยิ่งไปกว่านั้นราคายังดูเหมือนจะไต่ระดับขึ้นด้วย สรุปแล้วแกกำลังประหยัดเงินอยู่นะเจ้าระบบ”
“แล้วทุกวันนี้ฉันก็ค่อนข้างร่ำรวยทีเดียว ฉันสามารถจ่ายเงินไปกับการต้มเบียร์ได้ ถึงอย่างไรฉันก็มุ่งหวังที่จะใช้วัตถุดิบอันยอดเยี่ยมสำหรับทุกอย่างเลยล่ะ”
หยวนโจวพูดอย่างเปิดเผยออกมาหน้าตาเฉย ฟังดูแล้วไม่เหมือนว่าเขาพยายามที่จะแดกดันเจ้าระบบแต่อย่างใดเลย