องค์หญิงหมอเทวะ 53 : “ทองถังแรก”

ตอนที่ 53 : “ทองถังแรก”

“อะฮือออฮืออ …”

 

เสียงเด็กร้องไห้ดังเข้ามาในห้อง  ค่อยๆปลุกให้ซูมู่เกอตื่นขึ้น

 

เมื่อลืมตาขึ้น  นางก็เห็นม่านเตียงสีฟ้ากลางเก่ากลางใหม่และยกยิ้มเล็กน้อย

 

อธิบายไม่ได้ว่าห้องเล็กๆ แห่งนี้ทำให้นางรู้สึกเป็นเจ้าของ

 

นางพลิกตัวและลุกขึ้น  เมื่อได้ยินเสียง  เยว่รู่ผลักอ่างล้างหน้าเข้าไป

 

“คุณหนู  ในที่สุดท่านก็ตื่น  ข้าคิดว่าท่านจะนอนจะถึงเที่ยงซะอีกเจ้าค่ะ”

 

ซูมู่เกอเหล่มองนาง  “เด็กจอมซนอย่างเจ้า  เรียนรู้ที่จะหยอกล้อข้าแล้วรึ”

 

ซูมู่เกอนั่งอยู่หน้ากระจกแต่งตัวของนาง  เมื่อมองไปที่ปานอันโดดเด่นบนดวงตาของนาง  นางยิ้มด้วยความเยาะเย้ยตัวเอง

 

หลังจากปลอมตัวมานาน  นางรู้สึกแปลกๆเล็กน้อยที่จู่ๆก็เห็นใบหน้าของตัวเอง

 

เมื่อเห็นซูมู่เกอจ้องมองที่กระจกอย่างเหม่อลอย  เยว่รู่คิดว่านางกังวลเกี่ยวกับปานบนใบหน้าของนาง

 

“คุณหนู  เอาผมของคุณหนูลงมาคลุมบ้างเล็กน้อยหรือไม่เจ้าค่ะ?”

 

ซูมู่เกอส่ายหัว  “มันจะหายไปไหมถ้ามันถูกปกคลุมไว้?”

 

“คุณหนู  น้องสาวหยู่เซียงจากบ้านนายหญิงแจ้งมาหาท่าน ขอให้ท่านไปที่นั่นเพื่อร่วมทานอาหารเช้ากับนายหญิงเจ้าค่ะ”  ซินหลันแจ้งมาจากนอกห้อง

 

ไม่น่าแปลกใจที่นางอันจะขอให้นางไปพบ  “ได้  ข้าจะไปที่นั่น  บอกท่านแม่ของข้าด้วยว่าข้าจะไม่ร่วมทานอาหารกับนาง”

 

“เจ้าค่ะ”

 

หลังจากใส่ชุดที่สะอาดด้วยความช่วยเหลือของเยว่รู่แล้ว  ซูมู่เกอไปที่ลานธารดอกไม้ไหลริน  แม่บ้านที่ดูแลก็พานางเข้าไป

 

นางอันนั่งอยู่ในห้องและดูเหมือนจะร้อนรนเล็กน้อย  เมื่อนางเห็นซูมู่เกอเข้ามานางก็คลายความกังวลลง

 

“นายหญิง  คุณหนูใหญ่มาแล้วเจ้าค่ะ”  หยู่เซียงรายงานที่นอกห้อง

 

“ให้คุณหนูใหญ่เข้ามา”

 

ม่านยกขึ้น  ซูมู่เกอเดินเข้าไปและลดสายตาลง

 

นางอันพบว่าซูมู่เกอยังเหมือนเดิม  รู้สึกอึดอัดขึ้นมา

 

“นายหญิง”

 

นางอันซ่อนความรู้สึกของนางและยิ้มบนใบหน้าของนาง  “มู่เกอมานี่เถอะ  มานั่งนี่”

 

ซูมู่เกอนั่งลงฝั่งขวามือของนาง  และสาวใช้ก็มาพร้อมกับอาหารชั้นดีสำหรับมื้อเช้า

 

นางอันมองไปที่หลี่มาม่าที่พาสาวใช้ทั้งหมดให้ออกไปอย่างรู้กัน

 

“มู่เกอ  เจ้าคงหิว  มาทานอาหารเช้ากันเถอะ”

 

ซูมู่เกอไม่ปฏิเสธข้อเสนอของนางด้วยความนอบน้อม  เมื่อรู้ว่านางอันไม่จำเป็นต้องวางยาพิษในอาหารในเวลานี้  นางหยิบตะเกียบขึ้นมาและทานอาหารอย่างสบายใจ

 

หลายครั้ง  นางอันต้องการพูดคุย  แต่เมื่อเห็นซูมู่เกอไม่ได้ตั้งใจจะหยุดกินเลย  นางกลืนคำพูดของนางกลับคืน

 

นางต้องการพูดแบบนั้นนางอันมีชีวิตที่สุขสบายมาก  อาหารทุกจานบนโต๊ะนี้สวยงามและอร่อยมาก

 

เมื่อเห็นซูมู่เกอวางตะเกียบลง  ยิ้มและพูดว่า  “อิ่มแล้วหรือไม่?  เจ้าคงต้องทนทุกข์ทรมานมากมายข้างนอกในแต่ละวัน”

 

ซูมู่เกอหยิบถ้วยน้ำชามาดื่มล้างปากแล้วพูดว่า  “นายหญิง  ท่านต้องรู้ว่าท่านพ่อถึงเมืองโจวแล้ว ไม่ใช่หรือ?”

 

นางอันกระพริบตาอย่างไม่สบายใจและพยักหน้า

 

“แล้ว  ท่านรู้หรือไม่ว่าท่านพ่อมาถึงเมืองโจวเมื่อไหร่?”

 

นางอันขมวดคิ้วเล็กน้อย  สงสัยจุดประสงค์ของซูมู่เกอในการถามคำถามนี้

 

เมื่อหลี่มาม่าส่งคนไปที่เมืองโจวเพื่อตรวจสอบนั้น  มันมีรายงานแล้วว่าซูหลุนอยู่ที่นั่นเรียบร้อยแล้ว  ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่นั้น  นางแค่ต้องสั่งให้คนของนางค้นหาสักพัก  แต่ซูมู่เกอหมายความว่าอย่างไรเมื่อถามคำถามนี้กับนางโดยเฉพาะ?

 

“แต่ละวันที่ผ่านมาเจ้าอยู่ที่ไหน?  เจ้าพบพ่อของเจ้าหรือไม่?”  นางอันไม่ต้องการวกไปเวียนมาหรือพูดอ้อมใดๆอีก  นางถามตรงๆ

 

“ข้าใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองโจว  มันคือท่านพ่อของข้าเองที่ส่งข้ากลับ”

 

“แล้วพ่อของเจ้าสบายดีหรือไม่?”  นางอันกุมผ้าเช็ดหน้าไว้ในมือโดยไม่รู้ตัว

 

“เขาสบายดี”

 

“แล้ววันที่หายไปเขาไปอยู่ที่ไหนมา?”

 

ซูมาเกอเม้มริมฝีปากของนาง  “นายหญิง  มันรอให้ท่านพ่อกลับมาก่อนไม่ดีกว่าหรือ  และท่านสามารถถามเข้าด้วยตัวเองได้  มันสายมากแล้ว  ท่านต้องจัดการกับเรื่องทั่วไป  ข้าขอตัว”

 

ซูมู่เกอลุกขึ้นยืนและออกจากห้องก่อนที่นางอันจะพูดอะไรอีก

 

มองดูม่านที่สั่นเล็กน้อยดวงตาของนางมืดลง

 

หลี่มาม่าเข้ามาและสั่งให้สาวใช้มาทำการเก็บโต๊ะ  หลังจากสาวใช้ทำเสร็จแล้ว  นางปิดประตูและเดินไปที่นางอัน

 

“นายหญิง  คุณหนูใหญ่ว่าอย่างไรบ้าง?”

 

นางอันส่ายหัว  “นางทำตัวมีความลับและพูดแต่เรื่องไร้สาระ  นางต้องเก็บงำบางอย่างไว้กับนางแน่”

 

“ทำไมท่านไม่ถามนางตรงๆไปเลยเจ้าค่ะ  นายหญิง”

 

นางอันเหลือบมองหลี่มาม่าแวบหนึ่ง  “มาม่า  นางไม่ใช่เด็กสาวที่ไร้ปัญญา  ยอมใหใครบีบบังคับเค้นคอนางได้อีกแล้ว  ข้าอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่านางกลายเป็นคนประหลาดหลังจากรอดจากความตายมาได้อย่างหวุดหวิดนั้น….”

 

หลังจากกลับไปที่ลานดอกท้อบาน  ซูมู่เกอเรียกเยว่รูมาพบ

 

“มีอันใดให้ข้ารับใช้เจ้าค่ะ  คุณหนู?”

 

“เจ้าได้ส่งจดหมายถึงนายท่านอาวุโสเมิ่ง  ตอนที่ข้าจากไปหรือไม่?”

 

เยว่รู่พยักหน้าและลดเสียงลง  “คุณหนู  ไม่ต้องกังวลเจ้าค่ะ  ข้าส่งจดหมายให้เขาแล้ว  นายท่านอาวุโสเมิ่งยังกล่าวอีกว่า  หากคุณหนูมีจดหมายถึงเขาในอนาคต  ข้าสามารถไปที่โรงน้ำชายบนถนนเมืองตะวันตกและให้จดหมายกับเจ้าของร้านได้เลยเจ้าค่ะ”

 

“อืม”  ซูมู่เกอพยักหน้าหยิบจดหมายอีกฉบับออกมา  และมองมันให้นาง

 

“คุณหนู  นี่คือ….”  เยว่รู่มองไปที่จดหมายอย่างอยากรู้อยากเห็น

 

“ทำตามที่เขาบอก   นำมันไปส่งที่โรงน้ำชา”

 

รับจดหมายมาถือ  เยว่รู่พยักหน้า  “เจ้าค่ะ  ข้าจะไปเดี๋ยวนี้เลย”

 

หลังจากเยว่รู่จากไป  ซูมู่เกอไปที่ห้องของนางจ้าว และเล่นกับเหวินโม่ตัวน้อยที่เพิ่งตื่นนอน

 

“ท่านแม่  โม่เอ๋อดูคล้ายท่านมากจริงๆ  เขาดูน่ารักมาก”  ดวงตาและคิ้วของเหวินโม่น้อยดูคล้ายกับของนางจ้าวมาก  ดูเหมือนว่าเขาจะกลายเป็นเด็กที่อ่อนโยนและหล่อเหลาเมื่อเขาโตขึ้น

 

ราวกับรู้ว่าซูมู่เกอกำลังชื่นชมเขา  เด็กชายตัวน้อยหันมาตาโตและมองไปที่ซูมู่เกอ

 

“ข้าไม่รู้ว่าท่านพ่อของเจ้าเป็นอย่างไรบ้างในเมืองโจว”  นางจ้าวกำลังปักเย็บชุดชั้นในให้กับซูมู่เกอพลางพึมพำเสียงเบา

 

ซูหลุนเป็นหนี้บุญคุณนางจ้าวมากนัก  หลังจากแต่งงานกับนางอัน  เขาไม่เคยสนใจนางจ้าวและลูกสาวของนางเลย

 

แต่นางจ้าวยังคงมองว่าเขาเป็นสามีของนาง  แนวคิดในการภักดีติดตามสามีหลังแต่งงานฝังแน่นอยู่ในใจของนางจ้าว  ซึ่งไม่สามารถสั่นคลอนได้ง่ายๆด้วยคำพูดไม่กี่คำ

 

ซูมู่เกอมองไปที่รูปลักษณ์ของนางจ้าวที่แสดงออก  ในขณะที่จับมือเล็กๆของเหวินโม่ตัวน้อยเบาๆ

 

ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่นางจะหนีออกไปจากคฤหาสน์ซูและนางก็คิดที่จะพานางจ้าวไปกับนางด้วย  แต่สุดท้ายแล้วนางก็ยังคงเคารพความคิดเห็นของแม่

 

“นายหญิงบอกว่าเขาสบายดีในเมืองโจวเจ้าค่ะ”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้นรอยยิ้มจางๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนางจ้าว

 

“จริงๆเหรอ?  ดี  เป็นสิ่งที่ดี  ท้ายที่สุด  เขาเป็นพ่อของเจ้า  เด็กที่ไม่มีพ่อจะถูกดูถูกในที่สุด…..”

………………………..

 

ในคฤหาสน์ตระกูลเมิ่ง

 

เมิ่งซิวเหวินนั่งอยู่ในห้องในมือถือจดหมายด้วยความมึนงง

 

“นายท่าน?”  หวู่หมิงเด็กหนุ่มรับใช้ของเขาพบว่าเขานั่งนิ่งมาสักระยะ  เรียกเขาเบาๆ

 

นายท่านอาวุโสอยู่ในตำแหน่งนั้นนับตั้งแต่เขาอ่านจดหมาย

 

เมิ่งซิ่วเหวินรู้สึกตัวและวางจดหมายลง

 

“เจ้าทำทุกอย่างเสร็จหรือยัง?”

 

เด็กรับใช้ตอบอย่างรวดเร็วว่า  “นายท่าน  โปรดมั่นใจ  ทุกอย่างเรียบร้อยดีขอรับ”

 

“อืม”  เมิ่งซิ่วเหวินยืนขึ้นและไปที่ห้องหนังสือของเมิ่งฉางเต๋อ

 

เมื่อเห็นเมิ่งซิ่วเหวินมา  เด็กรับใช้ที่เฝ้าหน้าห้องรีบเข้ามารายงานและกลับออกไปอย่างรวดเร็ว

 

“นายท่านอาวุโส  เชิญขอรับ”

 

เมิ่งฉางเต๋อเป็นขงจื้อ(ลัทธิคลั่งการเรียน)  มีชั้นหนังสือขนาดใหญ่หลายชั้นในห้องหนังสือของเขาและเขาชอบอยู่ที่นี่ในเวลาว่าง

 

“ท่านพ่อ”

 

ยืนอยู่หน้าชั้นหนังสือ  เมิ่งฉางเต๋อเงยหน้าขึ้นจากการอ่านหนังสือ มองไปที่เมิ่งซิ่วเหวินและพูดเบาๆ ว่า  “มานั่งตรงนี้”

 

เมิ่งซิ่วเหวินเดินไปที่เก้าอี้อีกฝั่งและนั่งลง

 

เมิ่งฉางเต๋อวางหนังสือที่เขาถือไว้และหัวเราะ  “เจ้ารู้มาโดยตลอดว่าข้าไม่ชอบถูกรบกวนขณะอ่านหนังสือ  ทำไมวันนี้เจ้าถึงมาที่นี่ได้?”

 

“ท่านพ่อ  ข้ามีเรื่องอยากจะพูดคุยกับท่านขอรับ”

 

เมิ่งฉางเต๋ออยากรู้เมื่อเห็นรูปลักษณ์ที่เคร่งขรึมของเมิ่งซิ่วเหวิน  “โอ้?  บอกข้ามาสิ  มีเรื่องอะไร?”

 

มันกลับกลายเป็นว่า  ก่อนที่ซูมู่เกอจะไปที่เมืองโจว  นางเขียนจดหมายถึงเมิ่งซิ่วเหวินและขอให้เขาเตรียมรวบรวมยาที่จำเป็นหลังจากเกิดภัยพิบัติ  ท้ายที่สุดมันจะไม่เป็นอันตราย  แต่เป็นผลดีต่อตระกูลเมิ่ง  ไม่ว่าจะการทำให้รวยขึ้นหรือได้รับความชื่นชมจากจักรพรรดิ

 

“เจ้าหมายถึงคุณหนูใหญ่ซูที่บอกเจ้าเตรียมพร้อมงั้นรึ?”  เมิ่งฉางเต๋อประหลาดใจ  ผู้ที่อยู่ในราชสำนักมาหลายปีอาจรู้ประเด็นสำคัญบางประการ  แต่นางจะรู้ได้อย่างไรเมื่อนางเป็นเพียงแค่เด็กสาวที่ถูกขังไว้ในเรือน?

 

“ท่านพ่อ  เตรียมยาไว้แล้ว  ข้าเพิ่งส่งคนไปสอบถามและพบว่าราคายาเพิ่มขึ้นมาก”  เมิ่งซิ่วเหวินค่อนข้างประหลาดใจเมื่อได้รับจดหมายจากซูมู่เกอเป็นครั้งแรก

 

เขาคิดว่านางเขียนจดหมายถึงเขา…เพื่อแสดงความรักของนาง  อย่างไรก็ตาม…..

 

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้  เมิ่งซิ่วเหวินก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะกับตัวเอง

 

“นางบอกหรือไม่ว่ากำลังจะทำอะไร?”  ซูมู่เกอเคยช่วยรักษานายหญิงเมิ่ง  แต่หลังจากนั้นครอบครัวเมิ่งปฏิเสธที่จะให้นางรับการรักษาต่อ  อย่างไรก็ตามครอบครัวของเมิ่งเป็นฝ่ายผิด และซูมู่เกอควรจะโกรธพวกเขา

 

เมิ่งซิ่วเหวินคิดไม่ออกจริงๆ ว่า ซูมู่เกอกำลังทำอะไร!

 

“ไม่ทราบขอรับ”  ซูมู่เกอส่งข้อความถึงเขาอีกครั้งในวันนี้  บอกว่าตอนนี้สามารถวางขายยาบางชนิดได้แล้ว  เขาอยากรู้จริงๆว่านางรู้ได้อย่างไร?

 

“ท่านพ่อ  ท่านคิดว่าเราควรทำอย่างไรขอรับ?”  ตอนนี้ชุดยาจะทำให้พวกเขาร่ำรวยมากขึ้นเมื่อพวกเขาขายต่อ

 

เมิ่งฉางเต๋อนั่งนิ่งใช้สมาธิสักพัก  จำข้อความที่ส่งถึงเขาเมื่อวานนี้โดยอ่านว่าเมืองโจวต้องการวัสดุยามากมาย  ช่างเป็นเรื่องบังเอิญซะจริง

 

“ขายให้เมืองโจวในราคาเดิม”  หากพวกเขาส่งชาชุดนั้นให้ฟรีเขาจะได้รับความชื่นชมจากจักรพรรดิ  แต่สุดท้ายแล้วตระกูลเมิ่งทำได้อย่างแน่นอน

 

อย่างไรก็ตาม  เขาไม่ชอบการมีชื่อเสียงมาโดยตลอด  เขาค่อนข้างจะยกเลิกความคิดแนวนี้ไปเลย

 

“ขอรับ”  เมิ่งซิ่วเหวินรู้สึกว่าเหมาะสมกว่าที่จะทำเช่นนั้น

 

“สำหรับตระกูลซูนั้น มันขึ้นอยู่กับเจ้า”

 

“ขอรับ”

 

หลังจากออกจากห้องหนังสือ  เมิ่งซิ่วเหวินก็ยังคงครุ่นคิดถึงตลอดการเดินทางกลับไปที่ลานบ้านของเขา

 

ซูมู่เกออาจทำเช่นนั้นด้วยเจตนาที่ดีต่อตระกูลเมิ่ง  เมื่อเมิ่งซิ่วเหวินนึกถึงดวงตาที่โตและสดใสของนาง  การเต้นของหัวใจของเขาก็เริ่มกระหน่ำขึ้นอย่างอธิบายไม่ได้

 

“หวู่หมิง”

 

หมู่หมิงเดินเข้ามาในห้อง

 

“พร้อมรับคำสั่งครับ  นายท่าน?”

 

เมิ่งซิ่วเหวินส่งจดหมายให้เขา  “รับไป  อย่าลืมส่งไปให้คุณหนูใหญ่ซู”

 

หวู่หมิงรับจดหมายมาด้วยรอยยิ้ม  “นายท่าน  โปรดมั่นใจ  ข้าน้อยจะมองมันให้กับคุณหนูใหญ่ซู่ด้วยมือขอรับ”

 

ทันทีที่ซูมู่เกอออกกำลังกายในสนามเสร็จ  นางก็ได้รับจดหมายจากเมิ่งซิ่วเหวิน

 

ซูมู่เกอเอนกายบนเก้าอี้ยาวและเปิดจดหมาย  เมื่ออ่านจดหมายดวงตาของนางก็สว่างขึ้น

 

เยว่รู่ยืนอยู่ข้างๆ เห็นการเปลี่ยนแปลงของการแสดงออกของซูมู่เกอ  นางอยู่ในความงงงวย

 

มีกระดาษสองแผ่นอยู่ในซองจดหมาย  หนึ่งคือคำตอบจากเมิ่งซิ่วเหวินเพื่อขอบคุณนาง

 

อีกใบ…เป็นตั๋วเงินมูลค่า 500 เหลียง!

 

นี่คือ “ทองคำถังแรก”  ที่นางได้รับจากการเดินทางย้อนกลับมาในสมัยโบราณ!

องค์หญิงหมอเทวะ

องค์หญิงหมอเทวะ

Score 10
Status: Completed

บทนำ

ซูมู่เกอ หญิงสาวที่พระเจ้าโปรดปรานในวงการแพทย์ กลายเป็นเด็กสาวขี้เหร่เนื่องจากการเดินทางข้ามเวลา  พ่อของเธอเกลียดเธอและแม่ของเธอก็ขี้ขลาดเกินกว่าที่จะปกป้องเธอ!  เซี่ยโฮวโม่ หมาป่าผู้โดดเดี่ยวผู้หยิ่งผยองและเคยมีชัยชนะในสนามรบถูกจักรพรรดิขอให้แต่งงานกับหญิงสาวที่ไร้ประโยชน์และอัปลักษณ์!

 

ในวันแต่งงานของพวกเขา มีนักฆ่าเข้ามาลอบสังหารและเขาใช้เธอเป็นโล่  ผลที่ตามมา เธอได้รับบาดเจ็บ  ซูมู่เกอยิ้มน้อยๆพร้อมดวงตาสีแดงเข้ม  “เซี่ยโฮวโม่ ข้าเป็นหนี้ท่านและข้าจะชดใช้ให้ท่านเดี๋ยวนี้แล้ว”  เมื่อเห็นเลือดสีแดงไหลนองของนาง หัวใจของเขาก็เจ็บปวด…..”ซูมู่เกอ เจ้าเป็นหนี้ข้าอย่างมากและเจ้าต้องจ่ายคืนข้าหลังให้กำเนิด!

 

ตัวนางไม่สวยและไม่มีอำนาจใดทั้งสิ้น แต่นางมีแสงสีทองและมือวิเศษ

Options

not work with dark mode
Reset