องครักษ์เสื้อแพร 992 ข้าเดินไปกับพวกเจ้าด้วย

ตอนที่ 992 ข้าเดินไปกับพวกเจ้าด้วย

หม่าหลินถูกตำหนิ สีหน้าแน่นอนย่อมไม่ดีนัก แต่ทว่าขุนพลเมืองเหลียวโจวทุกคนกลับไม่ได้คิดเคือง พวกเขาเห็นหม่าหลินขัดตาอยู่แล้ว เห็นๆ ว่าเป็นลูกหลานทหาร แต่ชอบวางตัวเป็นบัณฑิต ได้ฉายาว่ารู้หลักพิชัยสงครามลึกซึ้ง แต่ใช้การไม่ได้สักอย่าง ติ้งเป่ยโหวนำทัพใหญ่ผ่าวงล้อม กองกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ เจ้ายังมาพร่ำบ่นอะไรกัน หรือว่าคิดรังเกียจศีรษะตนที่มั่นคงเกินไป?

ติ้งเป่ยโหวคิดรวบความชอบไว้คนเดียว เจ้าจะทำอะไรได้ ติ้งเป่ยโหวหากคิดวางมือไม่สนใจ หรือว่าเจ้าจะนำกำลังไปช่วยกองกำลังเถี่ยหลิ่งกับเหลียวหนานเอง

ขุนพลเมืองเหลียวโจวทุกคนตอนนี้ปวดหัวกับการต่อสู้กับเผ่าหนี่ว์เจิน เผ่าหนี่ว์เจินองอาจกล้าหาญมาก เมืองเหลียวโจวไม่สนใจผลแพ้ชนะ แต่เรียกได้ว่าทุ่มเสียไปมาก หลังการต่อสู้ที่ป้อมเจี้ยฝานไจ้ก็ประสบภัยเรื่อยมากไม่หยุด ทำให้ทหารเมืองเหลียวโจวเปลี่ยนมุมมองต่อชาวเผ่าหนี่ว์เจิน จากที่ดูแคลนกลายเป็นเกรงกลัว

แต่ทว่า ขุนพลในที่นี้ต่างไม่เข้าใจหวังทง โจมตีช่วยเสิ่นหยางไว้ได้ หลังชัยชนะไม่พักซ่อมบำรุง กลับยังเร่งเดินทางไปทำสงครามต่อ ลำบากเช่นนี้เพื่ออะไรกัน?

ได้มาถึงขั้นนี้แล้ว ไยต้องลำบากต่อด้วย และยังต้องสูญเสียกำลังทหารตนเอง ไม่เพียงแต่เมืองเหลียวโจว ทหารที่อื่นก็ล้วนคิดเช่นนี้ ตามความคิดพวกเขา หวังทงตอนนี้น่าจะไล่พวกเขาไปออกศึก ให้พวกเขาสิ้นเปลือง ตนเองนั่งรอรับผลงานสบายๆ มากกว่า

……

หลังปลดวงล้อมศัตรู เมืองเสิ่นหยางก็ไม่ได้นอนกันทั้งคืน ราษฎรล้วนถูกเกณฑ์มาเร่งจัดเตรียมเสบียงแห้งให้กองกำลังหู่เวย หวังทงขอให้เกณฑ์คนงานมาทำคงไม่ทันแล้ว ทหารปรึกษากันแล้ว ก็ให้ทหารในเมืองมาช่วย สถานการณ์ตอนนี้ แม้ใต้เท้าหวังจะใช้ทหารในสังกัดตนเอง ตนเองก็ยังต้องยอมให้

พวกเดียวที่ได้พักผ่อนก็คือกองกำลังหู่เวย นอกเมืองม้าที่ตายไป ยังมีฝูงม้าวัวที่กวาดต้อนมาได้ ส่วนใหญ่ถูกนำมาฆ่า ต้มง่ายๆ แจกเป็นรางวัล ทหารได้กินอิ่มกันสักมื้อ จากนั้นเร่งเข้าพักผ่อน

“ตอนเดินทัพ ใต้เท้าผู้บัญชาการที่ปรึกษาทัพยังถามข้า เหตุใดจึงต้องให้ทหารกินดี ไยต้องมีน้ำมันสัตว์ให้เพียงพอเพียงนั้น ทหารได้กินไม่ดี จะมีแรงเดินทางไกลได้อย่างไร”

ทหารพักผ่อน หวังทงกลับไม่ได้พัก เขากับหัวหน้าหน่วยและรองหัวหน้าหน่วยกองกำลังหู่เวยเดินตรวจการพักผ่อนของทหารทุกคนในค่าย กำลังสนทนากันอยู่ในกระโจมแม่ทัพ

ไม่ว่าเป็นหลี่หู่โถวหรือหลีเสี่ยวเปียว พวกเขาแม้ว่ารู้สึกว่าวันนี้ต่อสู้ตื่นเต้น เรื่องเหนื่อยไม่พูดถึง ได้ยินหวังทงอธิบายดังนี้ ทุกคนล้วนเป็นพยักหน้า มองดูหน้าทุกคนแล้ว วาจาหวังทงกล่าวได้ถูกต้อง

“กองกำลังหู่เวยกำลังรบไม่ธรรมดา ใต้หล้าล้วนรู้ กำลังรบมาจากไหน หนึ่ง จากอาวุธที่ยอดเยี่ยม เรื่องนี้ใครก็ดูออก สองมาจากการฝึกซ้อม ทุกวันไม่พัก เบี้ยหวัดและเสบียงไม่เคยถูกหัก ให้ทหารได้กินดีอยู่ดีตลอดเวลา เป็นเหตุสำคัญ กินดีอยู่ดี ทำให้พวกเขามีกำลังดี จึงจะทนลำบากเดินทัพได้ มีใจออกศึก เบี้ยหวัดและเสบียงเพียงพอ พวกเขาจึงจะรู้สึกว่าตนเองทุ่มเทไปได้ผลตอบแทนเพียงพอ จึงต้องใช้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยใจ”

เห็นสีหน้าสยบของทุกคน หวังทงกล่าวต่อว่า

“ตอนนี้มีข้าและขันทีไช่จับตา พวกเจ้าก็ล้วนทำงาน แน่นอนไม่เกิดเหตุหักเบี้ยหวัด แต่วันเวลาสงบสุขหากนานวัน ก็คงยากที่จะป้องกันคนหาช่องทาง มีเรื่องเช่นนี้ กำลังใจและขวัญทหารก็ย่อมลดลง ยากจะไม่แตกกระเจิง พวกเจ้าคิดมีความชอบและอำนาจวาสนา ก็ต้องจับตาดูให้ดี เรื่องเบี้ยหวัดและเสบียงต้องทำให้ดี”

“มีพี่ใหญ่อยู่ กองกำลังหู่เวยไม่เกิดพวกเหลวไหลตลอดไป พวกเราไม่ต้องเป็นกังวล!”

หลี่หู่โถวรับคำ ทุกคนพากันหัวเราะดัง ต่อหน้าหวังทง พวกเขาค่อนข้างวางตัวสบายๆ ไม่เหมือนกับการหารือทางการทหารทั่วไป

หวังทงกับไช่หนานสบตา หรี่ตามองไปยังถานเจียงข้างๆ ยิ้มส่ายหน้ากล่าวว่า

“พวกเจ้าช้าเร็วก็ต้องเป็นอิสระของตนเอง จะมาติดตามข้าตลอดเวลาได้อย่างไร”

……

เช้าวันรุ่งขึ้น ฟ้ายังไม่ทันสางหวังทงก็ตื่นนอนไปเดินตรวจตราการทำงานของทหารเมืองเหลียวโจวและคนงานที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืน ยังไปตรวจดูม้าวัวนอกเมือง

เสบียงที่ราษฎรต้องเตรียมก็เตรียมเสร็จ ทหารในเมืองเก็บรวบรวมมาพร้อม เริ่มจัดระเบียบม้าวัวเข้าหน่วย หวังทงจัดการง่ายๆ เพียงแค่นำของลงจากรถใหญ่ให้มากที่สุด จากนั้นให้คนงานกับม้าวัวที่เลือกมาใหม่นำไปลากแทน

รถใหญ่เพียงแค่บรรทุกเสบียงอาหารแห้งที่กองกำลังหู่เวยใช้วันหนึ่งกับกระสุนปืนและเครื่องตั้งค่ายไม่มากนัก สำหรับรถใหญ่ม้าสี่ตัวลากเช่นนี้ก็เหมือนว่าลากรถเปล่า บรรดาทหารก็ถือแต่อาวุธไม่ให้แบกสิ่งของอื่น

พอฟ้าสาง ทหารกองกำลังหู่เวยเตรียมเดินทัพเรียบร้อย ก็เริ่มตั้งแถวนอกเมือง เตรียมออกเดินทาง

“ซุนเผิงจวี่ ข้าให้คนเจ้าราวสิบกว่าคน ม้า 30 ตัว เจ้าตอนนี้รีบเร่งไปนำวาจาข้าไปยังป้อมกูซานแจ้งบิดาเจ้า ห้ามถูกโจรเผ่าหนี่ว์เจินสกัดจับได้เด็ดขาด ไม่ว่าต้องล้มตายเท่าไรก็ต้องทำให้ได้ จากนี้ข้ารับรองให้ว่าซุนโส่วเหลียนจะได้เป็นผู้บัญชาการทหาร!”

ซุนเผิงจวี่ได้ยินว่าบิดากำลังนำทัพอยู่ที่ป้อมกูซาน รบเคร่งเครียดกับเผ่าหนี่ว์เจินก็ร้อนใจหลายส่วน ได้ยินการจัดการของหวังทง ซุนเผิงจวี่คิดแล้วก็โดดลงจากหลังม้า โขกศีรษะให้หวังทงอย่างแรงหลายที กล่าวว่า

“แม่ทัพใหญ่ ครอบครัวข้าน้อยเป็นตายขึ้นกับแม่ทัพใหญ่แล้ว ข้าน้อยจะเร่งเดินทางไป”

หวังทงพยักหน้ากล่าวว่า

“กองกำลังหู่เวยจะรีบเร่งเดินทางไป ทุกอย่างเตรียมพร้อม ล้วนเพื่อไปช่วยป้อมกูซาน”

มองทหารม้าซุนเผิงจวี่สิบกว่านายวิ่งฝุ่นตลบไป หวังทงกล่าวต่อว่า

“ทัพใหญ่เร่งเดินทาง หากใครทำเสียเวลาลงโทษตามวินัย ข้าวของอันใดให้กองกำลังที่เหลือนำตามไป อย่าได้สนใจสัตว์เป็นตาย การพักผ่อนคนงานก็ไม่ต้องสนใจ แต่ทุกวันต้องเร่งตามกองกำลังหู่เวยให้ทัน หากผิดจากนี้ตัดหัว ชาวบ้านโบยสิบทีก่อนตัดหัว”

กล่าวได้รุนแรงเช่นนี้ หลิ่วซานหลางรีบรับคำสั่งทันที หวังทงออกคำสั่งต่อว่า

“เมืองเสิ่นหยางทำเสบียงให้เพียงพอแล้ว คนงานกินวันละสี่มื้อได้ แต่ห้ามเสียเวลาเดินทาง หลิ่วซานหลาง เจ้ารู้ใช่ไหมว่าควรทำเช่นไร?”

“ข้าน้อยเข้าใจ!”

หวังทงโดดขึ้นม้า มองไปยังแถวทหารราบที่รออยู่ เขากระตุกบังเหียนม้าเริ่มวิ่งไปยังแนวหน้าหน่วยทหารราบ ทหารติดตามรีบตามไป ไปเรียงอยู่ด้านหน้า ทหารติดตามรักษาระยะห่างพอสมควรโดยมีหวังทงเป็นศูนย์กลาง เช่นนี้วาจาตะโกนหวังทงย่อมถูกตะโกนต่อไปยังที่ต่างๆ รับรองว่าแต่ละคนล้วนได้ยิน

“จากนี้อีกราว 250 ลี้คือป้อมกูซาน ที่นั่นรอกองกำลังหู่เวยเราอยู่ รอให้พวกเราไปรับชัยชนะ พวกเจ้าต้องเร่งเดินทางไปให้เร็ว เพื่อรับชัยชนะนี้ ไปช่วยเพื่อนทหารเราด้วยกัน”

ทั้งกองทัพเงียบมาก ทหารทุกคนล้วนตั้งใจฟัง หวังทงโดดลงจากหลังม้า กล่าวอีกว่า

“ทหารม้านำกำลังคุ้มกันกองเสบียงด้านหลัง ข้าจะเดินทางไปพร้อมกับพวกเจ้า!!”

วินัยทหารเคร่งครัด แต่ตอนนี้เริ่มมีเสียงดังเคลื่อนไหวไปทั่วกอง ทหารติดตามกับแต่ละกองขุนพลทหารบนหลังม้าเริ่มพากันลงจากม้า หวังทงโบกมือ ออกคำสั่งไป กองกำลังทหารราบออกเดินทาง

แต่ละคนล้วนรู้ว่าจากนี้เดินทัพอีกหลายวันย่อมยากลำบาก หากแต่ละคนล้วนยอม เร่งกำลังเต็มที่ เพราะแม่ทัพพวกเขาลงมาเดินไปด้วยกันกับพวกเขา เดินทัพไปพร้อมกัน

คนที่มุงดูรอบๆ และบนกำแพงได้เห็นรู้สึกเหนือความคาดหมาย หลี่หรูเจินกระซิบกับหลี่หรูป๋อเบาๆ ว่า

“หวังทงมาลำบากตัวเองเช่นนี้ คิดแผนอะไรกันแน่ หรือว่าเพื่อชัยชนะเท่านั้น อำนาจวาสนากับเสพสุขไม่ต้องการแล้วหรือ?”

“ไม่เข้าใจเช่นกัน แต่ทว่าหวังทงสามารถรบมีชัยเช่นนี้ได้ มีสถานะเช่นตอนนี้ได้ เขาทำเช่นนี้ย่อมเหตุผลของเขา”

คำตอบหลี่หรูป๋อเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

……

แต่ไรมากองกำลังหู่เวยเดินทัพไม่เน้นความเร็ว แต่เน้นให้นิ่ง ทุกวันเดินทัพไม่นาน ตั้งค่ายพักกับเวลาพักนั้นนาน ขอเพียงไม่เปิดโอกาสให้ศัตรูมีโอกาสโจมตี

แต่ทว่าครั้งนี้จากเมืองเสิ่นหยางไปทางตะวันตกเฉียงใต้ที่ป้อมกูซาน กลับต้องการเร่งเดินทัพ ความเร็วเป็นอันดับหนึ่ง

พื้นดินเป็นน้ำแข็งเดินทัพเช่นนี้ ทหารต้องกินให้อิ่ม  แต่เพื่อรักษาความเร็ว ของและเสบียงที่หนักเกินไปนั้นจึงต้องปลดออก  ครั้งนี้หวังทงพยายามรักษาเสบียงให้พอและความเร็วให้คงที่ ให้พวกเขาเสียกำลังน้อยที่สุด

ดูแลเติมกำลังทหารให้พอ แต่คนงานไม่อาจสนใจแล้ว ทหารนำเสบียงกินในหนึ่งวันติดตัวไป ตอนกลางวันจะมีเวลาพักเล็กน้อย พวกเชื้อเพลิงต้มน้ำร้อนก็หาเอาจากข้างทาง พวกเขาต้องเดินทัพให้เร็วกว่าปกติอีกหนึ่งในสาม พวกคนงานขนเสบียงตามมาเดินตามมาไม่เร็วนัก ดังนั้นหลังกองกำลังหู่เวยตั้งพักทัพยามกลางคืน พวกเขาก็จะมาช้าราวหลายชั่วยาม กองกำลังหู่เวยเติมเสบียงให้ตนแล้วก็เดินทางต่อ เป็นเช่นนี้ไปจนตลอดเส้นทาง

รถใหญ่ไม่ขนของมาก็รักษาความเร็วได้ดี รถใหญ่นี้สามารถเป็นเครื่องป้องกันยามค่ำคืนของกองกำลังหู่เวยขณะตั้งค่ายพัก สามารถป้องกันการโจมตีของศัตรูได้ รถใหญ่ที่เกินพอดีก็จะถูกส่งให้กองเสบียงไปขน  รถใหญ่ที่กองกำลังหู่เวยนำมาพร้อมกันนั้นเพียงพอจะล้อมเป็นค่ายพักเท่านั้น

ทหารสามารถพักผ่อนได้เต็มที่ คนงานและม้าวัวไม่อาจทำได้ ย่อมมีคนงานเหนื่อยเกิดปัญหา ม้าวัวลากรถก็อาจเหนื่อยตาย  แต่ของเหล่านี้ล้วนสามารถสละได้

หากเป็นทหารราบแผ่นดินหมิงที่อื่นเดินทัพเช่นนี้ย่อมหมดเรี่ยวหมดแรง เกิดปัญหาก็อาจเป็นได้ แต่การได้รับเครื่องอุ่นเพียงพอ กับอาหารเพียงพอให้อิ่มท้องมีเนื้อสัตว์อย่างกองกำลังหู่เวยนี้ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ พวกเขามีกำลังเพียงพอ การฝึกซ้อมสามารถรับประกันเรื่องนี้ได้

ที่หวังทงไม่เป็นห่วงว่าจะมีผู้ใดมาโจมตีกำลังขนเสบียงด้านหลังที่อ่อนแอ ก็เพราะคาดเดาไว้แล้วว่า ไม่มีผู้ใดมีกำลังทหารเพียงพอที่จะไล่ตามมาด้านหลังหวังทง แม้ไล่ตามมาได้ ทหารราบกองกำลังหู่เวยก็สามารถได้ข่าวและถอยกลับไปช่วยได้

สำหรับเรื่องที่หากโจมตีทหารราบกองกำลังหู่เวยระหว่างนั้นก็มีแต่รนหาที่ตาย ย่อมต้องตายใต้คมอาวุธร่างแหลกสลาย

การเดินทัพเช่นนี้ได้วันที่สองเริ่มทำให้ม้าวัวล้มตาย ม้าวัวเริ่มถูกนำมาเป็นอาหาร วันที่สาม มีคนงานเริ่มหนี  แต่ก็ถูกทัพม้าล่าจับตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

ความเร็วเดินทัพทหารราบกองกำลังหู่เวยไม่ลดลง เดินหน้าไม่หยุด

องครักษ์เสื้อแพร

องครักษ์เสื้อแพร

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 1116 อ่านนิยาย


หากคุณชอบนิยายจีนย้อนเวลา เรื่องราวเข้มข้นสุดมันส์ในประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงอยู่ที่นี่แล้ว!

ชาตินี้ต้องตายเพราะโรคร้าย ทั้งๆ ที่กำลังประสบความสำเร็จในธุรกิจ

เขาไม่ยอม!!

ชาติหน้าเขาจะต้องมีชีวิตที่รุ่งโรจน์กว่าผู้ใด…

หวังทงย้อนเวลามาเกิดใหม่ในราชวงศ์หมิงพร้อมความทรงจำของมนุษย์ทำงานในศตวรรษที่ 21

รัชสมัยฮ่องเต้ว่านลี่เป็นช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดในประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิง

และก็เป็นยุคสุดท้ายแห่งความรุ่งโรจน์ของราชวงศ์หมิง

หวังทงในฐานะ ‘องครักษ์เสื้อแพร’ จะนำความรู้สมัยใหม่ไปทำอะไรได้บ้าง

นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอะไรในประวัติศาสตร์

…วินาทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น ห้วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ก็เริ่มหมุนเปลี่ยนทิศ…

Options

not work with dark mode
Reset