องครักษ์เสื้อแพร 869 ห้ามขายอาวุธ

ตอนที่ 869 ห้ามขายอาวุธ
ตอนที่ 869 ห้ามขายอาวุธ

แม้ว่าตอนนี้จวนหวังทงอยู่เมืองหลวง ครอบครัวอยู่เมืองหลวง แต่สำหรับเขาแล้ว เทียนจินจึงจะเป็นบ้าน หวังทงถูกลอบสังหารที่เขตปกครองใต้ ย่อมแพร่ข่าวไปถึงเทียนจิน

กลางเดือนสิบ คลองส่งน้ำเมืองหลวงกับเทียนจินมีน้ำไม่พอ แม้ว่าส่งคนมาลากเรือทางการก็ยังไม่สะดวก ได้แต่เปลี่ยนขึ้นรถม้าแทน

จากเรือเปลี่ยนเป็นรถม้า ย่อมมีคนเตรียมการให้พร้อม หวังทงได้รับการต้อนรับในจวนที่เคยพัก คนที่เทียนจินตั้งแต่ขันทีคุมเสบียงไช่หนาน นายกองพันจางซื่อเฉียง ซุนต้าไห่และหัวหน้ากองกำลังหู่เวยอย่างหลี่หู่โถว ก็ล้วนเป็นคนสานมสัมพันธ์ราวกับครอบครัวของหวังทง

ในห้องรับแขกจวนหวังทงก่อไฟให้อุ่นไว้แล้ว กลับมองหน้ากันไร้วาจา เริ่มจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ในเมืองหลวง จากนั้นถูกส่งออกจากเมืองหลวง จากนั้นก็ยังลงใต้ไปโดนลอบสังหาร  อันตรายเกือบถึงแก่ชีวิต คิดอีกทีสี่ห้าเดือนมานี้ หวังทงจากเมืองกุยฮว่าเฉิงกลับมา เวลาไม่กี่เดือน ถึงกับมีเรื่องมากมายเช่นนี้ได้

“ท่านโหว พูดถึงพระสนมเอก ทรงพระครรภ์ได้เก้าเดือนแล้ว วันกำหนดประสูติกาลก็ใกล้เข้ามาแล้ว”

ไช่หนานทำลายความเงียบขึ้น ทุกคนในห้องสบตากัน ฮ่องเต้ว่านลี่มี่พระสนมไม่น้อย แต่พระสนมเอกมีเพียงองค์เดียว ก็คือพระสนมเอกเจิ้ง

พระสนมกงประสูติพระโอรสองค์โต จูฉางลั่ว แล้วก็ยังคงเป็นสนมธรรมดา แต่พระสนมเอกเจิ้งไม่ได้ประสูติองค์ชาย  กลับมีตำแหน่งพระสนมเอกรองจากฮองเฮา หากพระสนมเอกเจิ้งที่ไร้โอรสประสูติองค์ชายครานี้ได้ ราชสำนักก็ย่อมเปลี่ยนแปลงใหญ่ และหลังจูฉางลั่วประสูติ ราชสำนักก็มีขุนนางยื่นฎีกา ให้แต่งตั้งเป็นรัชทายาท  แต่ฮ่องเต้ว่านลี่ไม่สนพระทัย  มีคนเริ่มกระจายข่าวว่า ฮ่องเต้ท่าทีเช่นนี้ก็เพราะรอให้พระสนมเอกเจิ้งมีพระประสูติการ  พระสนมเอกเจิ้งหากมีโอรส  เช่นนี้พระโอรสก็ย่อมได้เป็นรัชทายาท

 ตั้งแต่ตั้งแผ่นดินหมิงมา เรื่องแต่งตั้งรัชทายาท ทุกครั้งก็จะเกิดกระแสเคลื่อนไหวในราชสำนัก มักจะมีขุนนางทรงอำนาจอยากจะต่อสู้กันอยู่ พระสนมเอกเจิ้งหากให้กำเนิดพระธิดา ย่อมสงบสุข หากให้กำเนิดพระโอรส เช่นนี้แค่คิดก็รู้ได้แล้วว่าจะเกิดอันใดขึ้น

ในสถานการณ์เช่นนี้ ในฐานะผู้บัญชาการสำนักองครักษ์เสื้อแพรอย่างหวังทงก็ย่อมต้องเตรียมตั้งจุดยืนตนเองไว้ก่อน ไม่เช่นนั้น สถานะเช่นเขา แม้ไม่เรียกร้อง หากความยุ่งยากและภัยใหญ่ย่อมมาหาถึงที่เอง

“ฮ่องเต้ทรงคิดเช่นไร ขุนนางอย่างเราย่อมปฏิบัติตาม”

หวังทงวาจานี้เหมือนตอบ แต่ก็เหมือนไม่ตอบ หากทุกคนก็เข้าใจความหมายเขา ทุกคนพยักหน้า หลี่หู่โถวแทรกขึ้นว่า

“พี่หวังไม่เป็นไรก็ดี กลับถึงเมืองหลวงพักรักษาตัวดีๆ  วันหน้าคงสบายแล้ว แดนใต้นั้นแต่เล็กข้าก็ได้ยินมาว่าอุดมสมบูรณ์ มีของมากมายพร้อมสรรพ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นที่เช่นนั้นได้ ถึงกับกลางวันแสกๆ ลอบสังหารขุนนางราชสำนัก  ยังดีที่เป็นพี่หวัง ช่างไร้กฎหมายในสายตาเสียจริง”

หลี่หู่โถวกล่าวอย่างโมโห คนในห้องก็ล้วนอยู่ในอารมณ์คล้ายกัน หวังทงยิ้ม กล่าวน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า

“สังหารข้าทิ้ง คงสร้างคลื่นใหญ่ได้ อาจทำให้เขาเกิดประโยชน์อย่างมหาศาล ส่งมือสังหารเดนตายไม่กี่คนมาลองดู เรื่องนี้ควรค่าแก่การลอง ย่อมมีคนคิดเสี่ยงอันตรายนี้”

ทว่าประเด็นนี้ไม่อาจคุยกันได้ลึกนัก ไช่หนานกระแอมไอ จางซื่อเฉียงส่งสายตา จางซื่อเฉียงเข้าใจความหมายดี จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปว่า

“ใต้เท้า พ่อค้าเกาหลีเรื่องนั้นจัดการส่งคนไปตรวจสอบแล้ว แต่พวกนั้นออกจากท่าเรือแล้ว คนของเรา หรือแม้แต่คนบนท้องทะเลก็เข้าไม่ถึง ข่าวก็สืบไม่ได้ความมากนัก”

ก่อนหน้านี้มีพ่อค้าเกาหลีมาซื้ออาวุธและชุดเกราะที่เทียนจิน หวังทงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก หน่วยงานต่างๆ ในเทียนจินก็เริ่มตรวจสอบ จางซื่อเฉียงกล่าวถึงเรื่องนี้ ดูท่าแล้วสืบความไม่ได้อันใดนัก หวังทงผิดหวังอยู่บ้าง จางซื่อเฉียงยังกล่าวต่อว่า

“เมื่อสองวันก่อน คนร้านสามธาราคนหนึ่งคุยอยู่ว่า พ่อค้าเกาหลีพวกนี้มาขายของป่าและโสมเกาหลี สินค้าไม่ใช่ของทางเกาหลี หากเป็นของเผ่าหนี่ว์เจิน”

ของเช่นนี้ เผ่าหนี่ว์เจินทางตอนเหนือของเมืองเหลียวโจวมีอยู่ เกาหลีเองก็มี ทว่าของมีชื่อแดนเหนือ เน้นเรื่องยิ่งเหนือยิ่งดี สินค้าเกาหลีย่อมสู้สินค้าเผ่าหนี่ว์เจินไม่ได้

พ่อค้าเกาหลีเอาของเผ่าหนี่ว์เจินมาขาย  ก็เป็นเรื่องที่เห็นบ่อย เมื่อก่อนพวกเขาเดินทางมาทางบกไปถึงเมืองหลวง เส้นทางทางบกย่อมผ่านเผ่าหนี่ว์เจินมากมาย ขายสินค้าพวกนี้ทำกำไรดีก็ย่อมเป็นเรื่องปกติ ที่จริงแล้วก่อนหลี่เฉิงเหลียงเลื่องชื่อ สินค้าเมืองหลวงพวกนี้ส่วนใหญ่ก็อยู่ในมือพ่อค้าเกาหลี

แต่พ่อค้าเกาหลีแต่ไรมาไม่มาซื้ออาวุธแผ่นดินหมิง อาวุธเป็นสินค้าทางการทหาร เกาหลีเองก็มีทำเองได้ คุณภาพดีไม่ดีไม่ว่ากัน แต่ก็พอกับความต้องการของตนอยู่ หากทำให้แผ่นดินหมิงระแวง ย่อมเกิดเหตุยุ่งยากมากกว่า

จางซื่อเฉียงกล่าวถึงเงื่อนงำนี้ ทุกคนก็คิดโยงไปได้ง่าย หวังทงพยักหน้ากล่าวน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า

“เจ้าหมายความว่า เป็นเผ่าหนี่ว์เจินฝากพ่อค้าเกาหลีมาซื้ออาวุธ?”

“ท่านโหว ข้าน้อยยังไม่ได้ตรวจสอบ ไม่กล้ากล่าวไร้หลักฐาน ทว่าก็เป็นไปได้”

จางซื่อเฉียงตอบนุ่มนวลมาก ซุนต้าไห่กระแอมไอกล่าวว่า

“ในเมื่อเผ่าหนี่ว์เจินต้องการซื้อ ไม่สู้พวกเราก็ขายให้พวกเขากันตรงๆ ไยต้องมาแบ่งกำไรให้เกาหลีด้วย ตอนนี้ตอนเหนือสินค้าก็ซื้อมาจากเมืองเหลียวโจว ระหว่างนั้นกำไรไม่น้อย เงินก้อนนี้ให้เขากำไร ไม่สู้ให้พวกเรากำไรเอง”

“เหลวไหล!!”

คิดไม่ถึงว่าจะกล่าวเช่นนี้ หวังทงอยู่  ๆ ก็โมโหขึ้น ทุกคนในห้องอึ้งเงียบกริบ ซุนต้าไห่รีบยืนขึ้นคุกเข่ารับผิด หวังทงสูดลมหายใจเข้า โบกมือกล่าวว่า

“คนกันเองไม่ต้องทำเช่นนี้ นั่งลงๆ !”

ซุนต้าไห่ยังคงคุกเข่ารับผิด จากนั้นค่อยลุกขึ้นกลับไปนั่ง หวังทงกล่าวจริงจังว่า

“โรงช่างสามธาราผลิตเกราะและอาวุธ หรือแม้แต่โรงช่างทางการที่เทียนจินก็ตาม ก็เพื่อเป็นอาวุธชั้นยอดให้กับแผ่นดินหมิง ทหารได้มีอาวุธที่พัฒนาก้าวหน้า การรบก็ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพ ทำให้แผ่นดินหมิงมีกองทัพที่เข้มแข็ง แต่การจะเอาไปเพิ่มศักยภาพให้เผ่าหนี่ว์เจินที่เป็นคนนอกเผ่า ทำเรื่องพวกนี้ ย่อมมีจิตใจราวกับสัตว์ป่า เท่ากับช่วยเสริมศัตรู!”

ได้ยินหวังทงกล่าวจริงจัง ทุกคนก็อึ้งไป หลี่หู่โถวครุ่นคิดไปมา กลับไม่เข้าใจกล่าวว่า

“พี่หวังคิดมาไปหรือเปล่า รายงานจากเมืองเหลียวโจวมาถึงเราเห็นแล้วว่า  เจี้ยนโจวอะไรนั่น ข่านนีคานอะไรนั่น ตระกูลเย่เฮ่อนาราอะไรนั่น สองฝ่ายปะทะกันทหารไม่เคยเกินหมื่น คนแก่อายุ 40-50 ยังต้องออกรบแนวหน้า ทว่าไม่กี่เผ่าสู้ไปสู้มา ไม่จำเป็นต้องกังวล จะว่าไป เราไม่ขาย เมืองเหลียวโจวมาซื้อก็ยากที่จะไม่ขาย นี่สิเป็นการเสริมกำลังศัตรูที่แท้จริง”

“ไม่ต้องพูดแล้ว อาวุธแผ่นดินหมิงไม่ขายให้คนนอก  นี่เป็นหลักการและขีดจำกัดที่ข้ารับได้ จางซื่อเฉียงกับซุนต้าไห่ดูแลให้เข้มงวด หากมีคนหาช่องทางนำออกไปขาย จัดการลงโทษเช่นสมคบคิดโจรสลัดวัวโค่ว”

วาจานี้คือคำสั่ง จางซื่อเฉียงกับซุนต้าไห่รีบลุกขึ้นรับคำสั่ง คนอื่นไม่กล้ากล่าวอันใดอีก อย่างไรหวังทงก็รู้สึกไวกับคำว่า ‘เผ่าหนี่ว์เจิน’ (พวกชาวแมนจู) มาตลอด แต่จากการวิเคราะห์ของหวังทง ตอนนี้ยังไม่กระจ่างว่าถึงขึ้นไหนแล้ว เผ่าหนี่ว์เจินแท้จริงแล้วพัฒนาไปถึงระดับใดกันแล้ว

กำลังทหารปราบนอกด่าน เรียกได้ว่ากำจัดภัยตอนเหนือไปได้หลายปี แต่จะใช้กำลังทหารกับเผ่าหนี่ว์เจิน เผ่าหนี่ว์เจินแต่ละเผ่าตอนนี้ยังคงรับการแต่งตั้งยอมอยู่ในอาณัติหมิงอยู่ ถือเป็นขุนนางแผ่นดินหมิง พวกเขาภายในเป็นอย่างไร แต่ยังคงให้การเคารพแผ่นดินหมิงเป็นปกติ ก็ย่อมไม่อาจทำอันใดได้

ทางนั้นเป็นเขตป้องกันของหลี่เฉิงเหลียง หากหวังทงคิดจะยื่นมือไปยุ่ง ก็ย่อมก่อให้เกิดการต่อต้านรุนแรง ขุนพลตระกูลหลี่เป็นเจ้าครองพื้นที่เมืองเหลียวโจวไปแล้ว ไม่ยอมให้คนนอกเข้าแตะต้องเป็นแน่ ประเด็นหลักที่สำคัญก็คือ หวังทงหาเหตุในการเคลื่อนกำลังไม่ได้  เผ่าหนี่ว์เจินอยู่นอกด่านอันหนาวเหน็บในสายชาวแผ่นดินหมิงก็แค่ต้นกล้าเล็กๆ ไม่มีค่าควรแก่การป้องกัน ชาวเผ่าหนี่ว์เจินก็น้อยมาก และยังกระจัดกระจายเป็นเผ่าๆ ถึงกับเรียกไม่ได้ว่ากองกำลังด้วยซ้ำ

ในฐานะติ้งเป่ยโหว ผู้บัญชาการสำนักองครักษ์เสื้อแพรอย่างหวังทง เหตุใดจึงสนใจกองกำลังเล็กๆ ที่ไม่โดดเด่นในสายตาพวกนี้กัน  ราชสำนักย่อมคาดเดาไปต่างๆ พากันวิพากษ์วิจารณ์ไปหลายทางเป็นแน่ โจมตียกทัพก็ย่อมใช้กำลังทหาร เปลืองเสบียงงบประมาณ คงต้องการสร้างฐานอำนาจให้ตนเองไม่สนใจพี่น้องทหารที่ต้องล้มตาย เหตุผลต่างๆ หวังทงย่อมคิดออก

และตอนนี้สถานการณ์กับอำนาจในมือเขา ฮ่องเต้ว่านลี่ย่อมไม่ทรงอนุญาตให้ทำ หวังทงเองไม่มั่นใจว่าจะโน้มน้าวคนอื่นให้ออกรบได้อย่างไร

หรือว่าแผ่นดินหมิงคงได้ล่มสลายในมือเผ่าหนี่ว์เจิน แม้หวังทงรู้ประวัติศาสตร์ แต่ก็รู้ว่าอีก 50 ปี จึงจะเกิดเหตุนี้ ตอนนี้พูดออกมา เกรงว่าคงถูกคนชั่วให้ร้ายแทน ที่จริงแล้วด้วยกำลังหลี่เฉิงเหลียง ตอนนี้ก็สามารถปราบเผ่าหนี่ว์เจินให้หมดสิ้นได้แล้ว

แต่ท่าทีตระกูลหลี่แต่ไรมาก็รบแบบนี้ กำลังตระกูลเขา 15 ปีก่อนก็สามารถกวาดล้างเผ่ามองโกลนอกด่านและเผ่าหนี่ว์เจินไปจนเผ่าตอนเหนือได้หมดแล้ว แต่หลังชัยชนะใหญ่ครั้งหนึ่ง จากนั้นตระกูลหลี่ก็ไม่มั่นใจว่าจะรักษาตำแหน่งเจ้าแห่งเหลียวตงไว้ได้ และยังไม่อาจรับประกันได้ว่าจะมีอำนาจวาสนานี้ไปตลอด

หากกระต่ายหมดไป สุนัขย่อมถูกต้มแทน หลักการแห่งความจริงแต่โบราณก็มีกล่าวอยู่ ดูแลโจรไว้เพื่อดำรงสถานะตนก็เป็นหลักการหนึ่ง หลี่เฉิงเหลียงเข้าใจเรื่องนี้ดี ส่วนตัวอย่างคืออะไรนั้น หวังทงสร้างความชอบใหญ่ที่เมืองกุยฮว่าเฉิงกลับมาเจอกับอะไรบ้าง หรือว่าไม่ใช่ตัวอย่างที่มีให้เห็นก่อนหน้ากัน?

เห็นหวังทงเงียบไป ทุกคนในห้องก็เงียบตาม หวังทงเงียบไปนาน ก่อนจะเคาะโต๊ะ ถามขึ้น

“ส่งสายไปวางไว้ที่เมืองเหลียวโจวมากหน่อย  ทางนั้นทำอันใดต้องจับตาดูให้ดี”

“ท่านโหว ข้าน้อยขอบังอาจถาม ตอนนี้ ส่งคนไปเมืองเหลียวโจวไม่ง่าย ตอนนี้เทียนจินส่งคนไปก็ล้วนป้องกันแน่นหนา ตอนนี้ข้าน้อยกำลังหาคนจากที่อื่นอยู่ อีกปีหรือสองปี รอส่งจากการค้าที่อื่นเข้าไป  ตอนนั้นการข่าวก็คงมากขึ้น”

หวังทงพยักหน้า กล่าวน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า

“เรื่องนี้รีบร้อนไม่ได้ แต่ต้องทำ ซุนโส่วเหลียนทางนั้นใส่ใจมากหน่อย น่าจะเป็นช่องทางแทรกซึมได้ นอกจากนี้ วันหน้าอาวุธเทียนจินไม่ให้ขายให้เมืองเหลียวโจว ขอเพียงที่เกี่ยวกับเมืองเหลียวโจว ไม่ขายหมด ป้องกันพวกเขาไว้”

องครักษ์เสื้อแพร

องครักษ์เสื้อแพร

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 1116 อ่านนิยาย


หากคุณชอบนิยายจีนย้อนเวลา เรื่องราวเข้มข้นสุดมันส์ในประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงอยู่ที่นี่แล้ว!

ชาตินี้ต้องตายเพราะโรคร้าย ทั้งๆ ที่กำลังประสบความสำเร็จในธุรกิจ

เขาไม่ยอม!!

ชาติหน้าเขาจะต้องมีชีวิตที่รุ่งโรจน์กว่าผู้ใด…

หวังทงย้อนเวลามาเกิดใหม่ในราชวงศ์หมิงพร้อมความทรงจำของมนุษย์ทำงานในศตวรรษที่ 21

รัชสมัยฮ่องเต้ว่านลี่เป็นช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดในประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิง

และก็เป็นยุคสุดท้ายแห่งความรุ่งโรจน์ของราชวงศ์หมิง

หวังทงในฐานะ ‘องครักษ์เสื้อแพร’ จะนำความรู้สมัยใหม่ไปทำอะไรได้บ้าง

นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอะไรในประวัติศาสตร์

…วินาทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น ห้วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ก็เริ่มหมุนเปลี่ยนทิศ…

Options

not work with dark mode
Reset