ตอนที่ 999 ทำการใหญ่อย่างต่อเนื่อง
“คุณผู้หญิง——”
คำทักทายที่เต็มไปด้วยความเคารพพูดขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง
ฟังดูเป็นทางการและดังกังวาน
เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่ที่ยืนอยู่หน้าสุดได้ยินคำเรียกที่ไม่คุ้นหู เธอก็ตกใจเล็กน้อย
หันไปมองนายหญิงอวี๋ นายหญิงอวี๋ยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความรักพร้อมกับตบหลังมือเธอเบาๆ “เด็กโง่ ยังยืนอึ้งอยู่ทำไม? แสดงความเป็นนายหญิงของตระกูลออกมาสิ ต่อไปนี้ตระกูลอวี๋คงต้องยกให้เธอกับเยว่หานแล้ว ยายแก่อย่างฉันจะได้ใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่กับลูกกับหลานอย่างสบายใจได้เสียที”
“คุณย่า…”
“ย่ารู้ว่าหนูขุ่นข้องหมองใจ อวี๋เยว่หานเป็นคนเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ไม่รู้จักเอาใจผู้หญิง นอกจากหล่อแล้วก็ไม่มีข้อดีอะไรเลย ออกจะนิสัยเสียแล้วยังหลอกลวง…ผู้หญิงดีๆ อย่างหนูมาได้ นี่จะต้องเป็นเพราะวิญญาณพ่อแม่ของเขาคอยช่วยอยู่บนสวรรค์แน่ๆ แต่จะยังไงก็เถอะ เพื่อเห็นแก่ลูกสาวที่น่ารักน่าเอ็นอย่างเสี่ยวลิ่วลิ่ว หนูพอจะฝืนใจแต่งงานกับเขาได้ไหม?”
เหนียนเสี่ยวมู่ : เอ่อ…
ถ้าเธอตกลงตอนนี้ ก็แสดงว่าเธอเองก็ฝืนใจที่จะต้องแต่งงานกับอวี๋เยว่หาน?
แต่ถ้าเธอไม่ยอมตกลง ก็เท่ากับว่าเธอไม่ยอมแม้แต่จะฝืนใจแต่งงานกับอวี๋เยว่หาน นั่นเป็นการตบหน้าเขายิ่งกว่าเดิม
เหนียนเสี่ยวมู่กัดริมฝีปาก หันไปมองใครบางคนที่ยืนอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ
อวี๋เยว่หานทำหน้าถมึงทึงเมื่อได้ยินที่คุณย่าพูด
การแสดงออกทางสีหน้าค่อนข้างซับซ้อน เหนียนเสี่ยวมู่เดาว่าเขาน่าจะกำลังสงสัยว่าตัวเองเป็นหลานชายแท้ๆของนายหญิงอวี๋หรือเปล่า…
แต่เพื่อที่จะแต่งภรรยาได้อย่างราบรื่น เวลานี้เขาจึงทำได้แค่ปล่อยให้ตัวเองโดนทำร้าย
อวี๋เยว่หานเดินไปข้างหน้าแล้วจับมือเหนียนเสี่ยวมู่ไว้แน่นๆ
พูดด้วยคำพูดที่แฝงไปด้วยคำหลอกลวง
“เหนียนเสี่ยวมู่ยังนิ่งอยู่ทำไม? เป็นเด็กก็ต้องรู้จักกตัญญูสิ รีบตอบตกลงคุณย่าเร็วเข้า”
เสี่ยวลิ่วลิ่วที่ยืนอยู่ข้างขาของเขาก็ยังคงต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย “ถ้าหม่าม้าไม่แต่งกับป่าป๊า ก็แต่งกับเสี่ยวลิ่วลิ่วก็ได้!”
วินาทีต่อมาอวี๋เยว่หานก็ใช้มือใหญ่ปิดปากเล็กๆของเธอ
มีเพียงเสียงอู้อี้
สองพ่อลูกมองเธอด้วยสายตาเปล่งประกาย
เหนียนเสี่ยวมู่กลัวจนอยากจะวิ่งหนี แต่อวี๋เยว่หานกลับกุมมือเธอไว้อย่างสุดชีวิตไม่ยอมให้เธอไปไหน
“วันนี้มันกะทันหันเกินไป คุณปล่อยให้ฉันทำใจดีดีก่อน…”
เมื่อคืนตอนเข้านอน พวกเขายังคุยกันถึงเรื่องเลื่อนงานแต่งไปอีกหนึ่งปีอยู่เลย
ถึงเขาจะไม่ได้ตอบตกลงในตอนท้าย
แต่เธอกลับไม่คาดคิดว่าเขาจะเชิญญาติผู้ใหญ่ตระกูลอวี๋มากะทันหันแบบนี้ และแนะนำให้ทุกคนทราบสถานะของเธออย่างเป็นทางการ
ตอนนี้ยังข้ามขั้นงานหมั้นโดยให้เธอแต่งงานกับเขาเลย
เสี้ยววิก่อนหน้านี้ยังบ่นอยู่เลยว่าเขาไม่พาเธอไปถ่ายรูปแต่งงานจริงๆ จังๆ สักที จู่ๆ เขาก็ทำการใหญ่ให้เธอ…
ตอนนี้เธอรู้สึกได้ว่าสภาพจิตใจตัวเองไม่ค่อยดีนัก
หายใจลำบากไปหน่อย
แล้วยังร้อนผ่าวที่หัวใจ
เธอมองอวี๋เยว่หานด้วยดวงตาสุกใสเหมือนลูกกวาง
ถึงเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่เธอรู้ดีว่าเขาเป็นคนเตรียมการเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
เพราะถ้าคุณย่าอยากแนะนำเธอให้ญาติผู้ใหญ่ตระกูลอวี๋ได้รู้จักจริงๆ ก็ไม่เห็นต้องเรียกทุกคนมาเหมือนคนอพยพแบบนี้
นอกเสียจากว่าเป็นความตั้งใจของเขา
เขาสร้างบารมีให้เธอ
และยังบอกทุกคนว่านี่คือผู้หญิงที่อวี๋เยว่หานเลือกแล้ว คุณผู้หญิงเพียงคนเดียวแห่งตระกูลอวี๋
เมื่ออวี๋เยว่หานเห็นว่าเธอยังขอเวลาพิจารณา เขาก็รวบตัวเธอเข้ามากอดแล้วพูดเสียงเข้ม
“ผมขอคุณแต่งงานมานานแค่ไหนแล้ว? มันกะทันหันตรงไหน? เหนียนเสี่ยวมู่ คุณควรจะรู้ไว้นะว่าถึงตอนนี้คุณคิดจะถอนหมั้น ผมก็ไม่ยอมเด็ดขาด”
ตอนที่ 1000 แต่งเลย แต่งเลย!
เมื่ออวี๋เยว่หานยังเห็นเธอยืนอึ้งอยู่ นิ้วยาวก็จับปลายคางเธอแล้วก้มหน้าลงจูบที่ริมฝีปาก
จนเหนียนเสี่ยวมู่รู้สึกสับสนวุ่นวายเต็มไปหมด เธอเอนกายลงในอ้อมแขนของเขา
เขาใช้แขนโอบเอวเธอไว้ราวกับกลัวจะสูญเสีย กอดเธอแน่นแล้วพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“เรื่องตระกูลมั่วก็ยังต้องสืบกันต่อไป เราไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้ ไม่ว่าคนเบื้องหลังที่ต้องการฆ่าคุณจะเป็นมั่วเฉียนหรือมั่วหย่งเหิง ตราบใดที่คุณเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลอวี๋ ตระกูลอวี๋ทั้งหมด บริษัทตระกูลอวี๋ และยังมีผม…จะเป็นที่พึ่งให้คุณเอง ไม่มีใครกล้าแตะต้องคุณได้ง่ายๆ”
ริมฝีปากของเขาแนบกับหูของเธอ
จูบที่ติ่งหูแล้วกระซิบเบาๆ
จากนี้ไป ผมคือที่พึ่งของคุณ…
ไม่ใช่คำบอกรัก แต่ดีกว่าคำบอกรักเป็นไหนๆ
หัวใจเหนียนเสี่ยวมู่สั่นสะท้าน!
เธอเงยหน้ามองเขาอย่างไม่คาดคิด
อวี๋เยว่หานยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรัก “ผมยังจำคำพูดที่คุณเคยพูดไว้ คุณเคยบอกว่าถานเปิงเปิงเป็นคนแนะนำคุณให้มาสัมภาษณ์เป็นพยาบาลรับจ้างที่คฤหาสน์ตระกูลอวี๋ ”
แม้เหนียนเสี่ยวมู่จะไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆเขาก็พูดถึงเรื่องนี้ในเวลาแบบนี้
แต่เธอก็ตอบไปตามความจริง “อื้อ”
อวี๋เยว่หาน “ถ้าผมเดาไม่ผิด การที่เธอส่งคุณมาที่ตระกูลอวี๋อาจจะมีจุดประสงค์บางอย่างนอกจากรู้มานานแล้วว่าคุณเป็นแม่แท้ๆของเสี่ยวลิ่วลิ่ว”
“อะไรนะ?” เหนียนเสี่ยวมู่ผงะ
ทันทีที่นึกถึงเหตุการณ์ปัจจุบันของพวกเขา เธอก็เอ่ยขึ้นมาว่า “คุณกำลังหมายถึง เปิงเปิงเธอ…”
“ถานเปิงเปิงหวังว่าผมจะตกหลุมรักคุณและปกป้องคุณ ตราบใดที่คุณเป็นภรรยาของผม แม้จะมีคนจำคุณได้ในสักวันหนึ่ง พวกเขาก็ไม่กล้าทำอะไรกับคุณได้ง่ายๆ”
อวี๋เยว่หานพูดอย่างแผ่วเบาพร้อมกับพูดเสริมคำพูดของเธอที่ยังพูดไม่จบให้สมบูรณ์
นิ้วยาวลูบคิ้วโค้งมนของเธอและสันจมูกเล็กๆของเธอ
ริมฝีปากเชอร์รี่อ้าเล็กน้อยด้วยความมึนงง…
“เหนียนเสี่ยวมู่”
เขาเรียกชื่อเธออย่างมีเลศนัย
ในรูม่านตาเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม
ดูชั่วร้ายมาก
น้ำเสียงออดอ้อนแฝงไปด้วยความคับข้องใจ “เหมือนผมจะตกหลุมพรางกลยุทธ์สาวงามของคุณเข้าแล้วสิ แล้วยังรู้ตัวช้าอีกด้วย ผมไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกโมโห แต่ยังมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก”
โชคดีที่ถานเปิงเปิงเลือกเขา ไม่ได้เลือกผู้ชายคนอื่น
ถ้าเสียเธอไป เขาคงทนไม่ได้ไปตลอดชีวิต
อวี๋เยว่หานจับมือเธอและจูบที่ริมฝีปากของเธอ
“เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะทำเพื่อผมหรือเพื่อเสี่ยวลิ่วลิ่ว หรือจะเป็นเพื่อนรักที่ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไงอย่างถานเปิงเปิง คุณก็ต้องแต่งงานกับผมเท่านั้น เข้าใจไหม?”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
นี่เธอถูกสารภาพรักหรือถูกบังคับให้แต่งงานกันแน่?
แต่ใครจะสนกันล่ะ!
เปิงเปิงพูดถูก เรื่องราวในอดีตมันผ่านไปแล้ว จะสืบพบช้าไปหนึ่งวันหรือเร็วไปหนึ่งวันก็ไม่ได้มีผลอะไร
ถึงจะไม่มีเรื่องวุ่นวายพวกนั้น ช้าเร็วยังไงเธอก็ต้องแต่งงานกับเขาอยู่ดี
หนุ่มหล่อหน้าตาดีขนาดนี้ หาที่ไหนไม่ได้แล้ว
แต่งก่อนแล้วค่อยว่ากัน!
เหนียนเสี่ยวมู่โอบรอบคอเขา เขย่งปลายเท้าจูบไปที่ริมฝีปากของเขาหนึ่งที
เปรียบเสมือนการถุยน้ำลายใส่จานอาหารเพื่อทำให้กลายเป็นของตัวเอง จากนั้นก็พูดอย่างใจกล้าบ้าบิ่น
“ตกลง! ฉันแต่ง!”
“ปัง——”
มีพลุพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าดังมาพร้อมกับเสียงของเหนียนเสี่ยวมู่
หลังจากเกิดเสียง พลุหลากสีก็เบ่งบานกลางอากาศ
บานทีละช่อทีละช่ออยู่อีกฟากฟ้า
ส่องสว่างในค่ำคืนที่มืดมิด
ดวงตาอวี๋เยว่หานดำขลับราวกับน้ำหมึก เขากำลังจับจ้องไปที่เธอโดยไม่ละสายตา
ตอนที่เธอตะโกนออกมาว่า “ฉันแต่ง” เขาก็ก้มจูบเธอ
เวลาผ่านไปนานแล้วก็ยังไม่ปล่อย…
พลุที่อยู่ด้านหลังกลายเป็นฉากที่สวยงามที่สุด
“เหนียนเสี่ยวมู่ ผมรักคุณ!”