ตอนที่ 1001 สะดวกสบาย ประหยัดเงิน คุณภาพดี ราคาไม่แพง
ทั้งสองกอดกันแน่น
ด้วยความหวานชื่น
จนลืมไปแล้วว่ายังมีคนนับร้อยยืนมองอยู่ข้างหลังด้วยสายตาอันแหลมคม
เสี่ยวลิ่วลิ่วตัวเล็กและยืนอยู่หลังจึงมองไม่เห็น
ร่างเล็กนุ่มนิ่มวิ่งมาข้างหน้าสุด ย่อตัวลง เอามือประคองแก้มทั้งสองข้าง มองไปด้วยพึมพำไปด้วย “ป่าป๊าหน้าไม่อาย จุ๊บหม่าม้าต่อหน้าคนเยอะแยะ ไม่เหมือนเสี่ยวลิ่วลิ่วที่ถือโอกาสตอนไม่มีคนแอบจุ๊บ…”
เสียงเด็กน้อยที่ชัดแจ๋ว
ถูกเสียงพลุกลบ
มีเพียงนายหญิงอวี๋ที่ยืนอยู่ข้างเธอเท่านั้นที่ได้ยิน นายหญิงอวี๋จึงรีบยื่นมือไปปิดตาเธอไว้
“เสี่ยวลิ่วลิ่ว ภาพไม่ดีอย่าดู!”
“เมื่อกี้คุณทวดก็ดูเหมือนกันนี่นา!” เสี่ยวลิ่วลิ่วทำหน้ากล่าวหาโดยไม่รู้ตัว
นายหญิงอวี๋ “…”
ช่างเถอะ วันมงคลแบบนี้ เธอเองก็ปลื้มใจ!
นายหญิงอวี๋ทำท่าเลียนแบบเสี่ยวลิ่วลิ่ว เธอย่อตัวลงพลางดูเป็นเพื่อนแม่ทูนหัวตัวน้อย
จนกระทั่งเหนียนเสี่ยวมู่ได้สติ หลังจากเธอรู้ตัวว่ายังมีคนอยู่รอบๆ อีกหลายคน มันก็สายไปเสียแล้ว
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาหยอกล้อมากมายหลายคู่ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะทำตัวเป็นนกกระจอกเทศที่มุดหัวลงไปในทราย ไม่ยอมมองหน้าใคร…
“นิ่งไว้ เรื่องแบบนี้สักครั้งสองครั้งก็คุ้นเคยไปเอง โดนคนมองมากหน่อยเดี๋ยวก็ชิน” อวี๋เยว่หานพูดปลอบใจ
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
คุณชายหาน คุณเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
คำว่า “อาย” คำนี้ เกรงว่าจะไม่มีในพจนานุกรมของคุณสินะ?
หลังจากที่เหนียนเสี่ยวมู่พยักหน้า คนในตระกูลอวี๋ก็เริ่มทำการเปิดประชุมใหญ่
พิธีแต่งงานของอวี๋เยว่หานและเหนียนเสี่ยวมู่แทบจะยกให้เป็นวาระการประชุมในทันที
“ยังไม่รู้เลยว่าเปิงเปิงเป็นตายร้ายดียังไง ไหนจะสถานการณ์ทางด้านตระกูลมั่วก็ยังไม่แน่ชัด เราแต่งงานกันเร็วขนาดนี้ จะเป็นการรีบร้อนไปหรือเปล่า?” เหนียนเสี่ยวมู่ถามอย่างไม่มั่นใจ
อวี๋เยว่หานยกมุมปาก พูดโดยไม่คิด
“ก็ใช่น่ะสิ เพราะมีเรื่องมากมายให้สะสางถึงยิ่งต้องรีบแต่ง หนึ่งเพื่อเป็นการคุ้มครองความปลอดภัยของคุณ สองมันเป็นการกินเข้าไปในท้องยัดใส่ในกระเป๋า เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว คุณเองก็ได้ทะเบียนสมรส ไม่ต้องกังวลไปหรอก”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
อวี๋เยว่หาน “คุณไม่มีความทรงจำในอดีตแล้ว เมื่อวานคุณสลัดหนุ่มหล่อทิ้งได้ ใครจะไปรู้ว่าต่อไปคุณจะสลัดคู่หมั้นที่ได้รับแต่งตั้ง ดังนั้นเรามาเตรียมงานแต่งงานกันไว้ก่อน พรุ่งนี้เราค่อยไปจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานกิจการพลเรือนกันเป็นไง?”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
ยิ่งพูดก็ยิ่งร้อนตัว
หนุ่มหล่ออะไรกัน คู่หมั้นอะไรกัน…
ตอนนี้เธอออกจะเชื่องซะขนาดนี้ จะลืมประวัติศาสตร์มืดไม่ได้เลยเหรอ?
เจ้าคิดเจ้าแค้นแบบนี้ไม่กลัวแก่เร็วหรือไง?
พอพูดถึงความเจ้าคิดเจ้าแค้น…
“จดทะเบียนสมรสอะไรกัน? ซั่งซินกับถังหยวนซือยังไม่ได้แต่งงานก็มีรูปแต่งงานกันไปแล้ว ฉันคนนี้ที่กำลังจะจดทะเบียนสมรสยังไม่มีรูปแต่งงานเลย…อ้อ ไม่สิ ฉันมีแล้วต่างหาก”
เหนียนเสี่ยวมู่ยื่นมือไปควานหารูปถ่ายเซตนั้นที่พวกเขาเพิ่งถ่ายกันออกมาจากในกระเป๋า
ถามเขาด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง
“คุณชายหาน คุณเคยเห็นงานแต่งงานที่ใช้รูปแต่งงานเป็นรูปสติ๊กเกอร์ไหม? ฉันคิดไว้แล้วล่ะ ล้างออกมาอีกหลายๆ ร้อยรูปแล้วมอบให้แขกผู้มีเกียรติคนละใบเพื่อเป็นของขวัญที่ระลึก ทั้งสะดวกสบาย ประหยัดเงิน แถมคุณภาพดีราคาไม่แพงอีกด้วย!”
อวี๋เยว่หาน “…”
ญาติผู้ใหญ่ตระกูลอวี๋ถูกอวี๋เยว่หานส่งกลับไปหมดแล้ว
ส่วนคุณย่าก็พาเสี่ยวลิ่วลิ่วไปนอนที่คฤหาสน์อีกหลัง
คฤหาสน์หลักจึงเหลือพวกเขาสองคน
เดิมทีอวี๋เยว่หานวางแผนเอาไว้ซะดิบดีว่าจะถือโอกาสตอนที่เสี่ยวลิ่วลิ่วไม่อยู่ครอบครองเธอ
ทว่าตอนนี้ ดูเหมือนว่าถ้าเขาให้คำตอบกับเรื่องนี้ไม่ได้ คืนนี้เขาอาจจะไม่ได้กินเนื้อและยังต้องคุกเข่าบนกระดานซักผ้าทั้งคืน…
ตอนที่ 1002 สาบาน
“เหนียนเสี่ยวมู่ ถ้าตอนนี้ผมบอกคุณว่าผมนัดถ่ายรูปแต่งงานไว้ตั้งนานแล้ว แต่แค่ไม่มีโอกาสพาคุณไปถ่าย คุณจะเชื่อไหม?” อวี๋เยว่หานปล่อยมือ เดินไปนั่งโซฟาฝั่งตรงข้าม
ดวงตาดำขลับมองเธอและทำหน้าแสดงความจริงใจ
“จริงเหรอ?” เหนียนเสี่ยวมู่มองเขาด้วยความสงสัย
ถ้าอยากพาเธอไปถ่ายรูปแต่งงานจริง ทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่เห็นเขาพูดถึงเลยล่ะ?
อวี๋เยว่หานเหมือนจะเดาความคิดเธอออก สายตาเข้มขึ้น “เมื่อคืนคุณยังนอนอยู่ใต้ร่างผม ร้องไห้สั่งให้ผมทำเร็วๆหน่อยและยังกัดฟันบอกว่าจะเลื่อนวันแต่งงานออกไปอีกหนึ่งปี แบบนี้จะให้ผมพูดถึงเรื่องถ่ายรูปแต่งงานได้ยังไง?”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
ร้องไห้สั่งให้เขาทำเร็วๆ หน่อยอะไรกัน!
เหนียนเสี่ยวมู่ “คุณพูดดีดีนะ อย่ามาพูดซี้ซั้ว!”
อวี๋เยว่หานเลิกคิ้ว “ได้ๆๆ คุณไม่ได้เป็นคนสั่งผมให้ทำเร็วๆ หน่อย แต่ผมเป็นคนร้องไห้ขอร้องคุณให้ทำเร็วๆ ต่างหาก”
เหนียนเสี่ยวมู่ “…”
เขายังจะมาพูดข่มอยู่ได้!
เมื่ออวี๋เยว่หานเห็นเธอทำหน้าตีให้ตายก็ไม่ยอมเชื่อ ก็ถอนหายใจเบาๆ
ลุกจากโซฟาแล้วเดินออกไป “คุณตามผมมา”
เหนียนเสี่ยวมู่ “ดึกขนาดนี้แล้วยังจะไปไหนอีก?”
เหนียนเสี่ยวมู่เดินตามเขาไปโดยไม่รู้ตัว
ตามเขาไปตามทางเดินยาว ทะลุเข้าไปในห้องหนังสือ
“พรึบ” ไฟในห้องหนังสือสว่างขึ้น
แสงแยงตาไปหน่อยจนเหนียนเสี่ยวมู่หรี่ตาลง
ก่อนสายตาเธอจะปรับแสงได้ ร่างอันสูงส่งของอวี๋เยว่หานก็นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน กำลังยื่นมือเปิดคอมพิวเตอร์
เหนียนเสี่ยวมู่จำได้ว่ามีบางครั้งที่เขาหาข้ออ้างแบบนี้ แล้วหลอกเธอเข้ามาในหนังสือตอนดึกๆ
ต่อมา อาศัยตอนที่เธอยังไม่รู้ตัวกดเธอลงกับโต๊ะทำงาน ปลดล็อกท่าใหม่…
พอคิดถึงตรงนี้แล้ว เธอก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันที!
มองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าด้วยความหวาดระแวง
เหมือนมองหมาป่าที่กำลังหมายหัวเธอและจะพุ่งเข้ามากินเธอเมื่อไหร่ก็ได้
ลังเลยังไม่กล้าเดินตามไป
“ไม่ต้องเชื่อที่ผมพูดก็ได้ มานี่สิ ผมจะให้คุณดูหลักฐาน” อวี๋เยว่หานมองคนที่ยืนนิ่งอยู่หน้าประตู
“คุณสาบานกับฉันก่อนว่าถ้าฉันเข้าไปแล้ว คุณจะไม่พูดโพล่งอะไรขึ้นมาหรือหาข้อแก้ตัวทำนองว่ายอมรับว่าตัวเองโกหก จากนั้นก็ยอมอุทิศร่างกายชดใช้ ไม่อย่างงั้นฉันไม่ไป!”
เหนียนเสี่ยวมู่ยืนอยู่หน้าประตูโดยยืดคอมาทางเขา
เมื่อได้ยินดังนี้ อวี๋เยว่หานก็ถึงกับผงะ
ทันใดนั้นรอยยิ้มชั่วร้ายก็ปรากฏที่มุมปากของเขาราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
เหมือนความชั่วร้ายที่แฝงในรอยยิ้มนั้นจะแทรกซึมเข้าไปในกระดูก
“เหนียนเสี่ยวมู่ ทำไมคุณถึงมีความคิดสกปรกแบบนี้? อะไรๆ ก็ใช้วิธีอุทิศร่างกาย ผมเป็นคนเหลาะแหละแบบนั้นเหรอ?”
“ใช่!” เหนียนเสี่ยวมู่ตอบอย่างไม่ลังเล
“อืม” อวี๋เยว่หานก็ไม่ได้แก้ตัว เพียงชำเลืองมองเธอด้วยท่าทางสงบเสงี่ยม “งั้นจะดูหลักฐานไหม? ถ้าไม่ดู เรื่องรูปแต่งงานก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว”
ขณะที่พูด อวี๋เยว่หานก็ทำท่าจะปิดคอมพิวเตอร์
“เดี๋ยวก่อน!”
เหนียนเสี่ยวมู่เห็นว่าที่เขาดูตรงไปตรงมาแบบนี้เพราะร้อนตัว เธอจึงรีบห้าม
และเดินเข้าไปในห้องหนังสือหนึ่งก้าว
เมื่อเห็นเขาไม่ขยับก็ก้าวเพิ่มอีกหนึ่งก้าว
“ในคอมฯ มีหลักฐานจริงๆ เหรอ? ไหนคุณลองสาบานก่อนสิ ถ้าสิ่งที่คุณพูดทุกประโยคเป็นความจริง…ช่างเถอะ คุณก็ไม่มีสัจจะอยู่แล้ว สาบานไปก็ไร้ประโยชน์”
อวี๋เยว่หาน “…”
เหนียนเสี่ยวมู่ค่อยๆ เดินเข้าไป ตอนที่เข้าไปใกล้โต๊ะทำงานก็เหลือบมองไปข้างหน้าก่อน
บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของเขาเห็นสิ่งที่คล้ายกับรูปภาพ เธอจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ เขา