หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรักตอนพิเศษ 90-2 จุดจบของจิตมาร

ตอนพิเศษ 90-2 จุดจบของจิตมาร

ตอนพิเศษ 90-2 จุดจบของจิตมาร

หูซื่อไห่โมโหจนกัดฟันกรอด “เจ้าตัวต่ำช้าไร้ยางอาย! แม้แต่มังกรน้อยตัวหนึ่งก็ไม่ละเว้น! เก่งจริงก็ปล่อยมังกรน้อยแล้วสู้กับท่านจอมมารอย่างสง่าผ่าเผยสิ!”

ต้าจ้วงเท้าสะเอวกระทืบเท้า แค่นเสียงหยัน “เจ้าตัวหน้าไม่อายตัวนี้! เจ้าทำแดนเทพขายหน้าหมดแล้ว!”

จิตมารเหลือบสายตามองมาหนึ่งหน ต้าจ้วงผู้ร่างหนาบึกบึนหนักสองร้อยชั่งตกใจกลัวกระโดดไปหลบหลังหูซื่อไห่ในบัดดล!

หูซื่อไห่ที่หนักเพียงหนึ่งร้อยชั่ง “…”

อีกฝั่งหนึ่ง หลังจากฟังคำขู่ของจิตมารจบ เสียงหัวเราะหยันแผ่วเบาก็ดังออกมาจากปากของมังกรมาร “จิตมารตัวกระจ้อยกล้ามาผายลมต่อหน้าข้าคนนี้หรือ! สมัยที่ข้าเอาพวกจิตมารมาเตะเล่นเป็นลูกบอล เจ้ายังซุกอยู่ในศอกหลืบไหนสักแห่งอยู่เลย”

องครักษ์มังกรเอ่ยทัก “ท่านจอมมาร ซอกขอรับ”

ท่านจอมมารเหล่มองเขา แล้วถามพร้อมกับจิตสังหารท่วมท้น “ไม่เมือนกันหรือ”

องครักษ์มังกรตีหน้านิ่ง “เหมือนกันขอรับ!”

ท่านจอมมารปรายตามองเขาอย่างรังเกียจ พูดราวกับกำลังสั่งสอน “อยู่กับข้ามาเนิ่นนานถึงเพียงนี้ เหตุไฉนยังไม่รู้ความเช่นนี้อีก คำพูดนี้วันหน้าอย่าพูดให้อาเจิงได้ยิน ข้าฉลาดถึงเพียงนี้ แต่พวกลูกน้องแต่ละคนๆ กลับโง่เง่า อาเจิงคงหัวเราะเยาะแน่!”

“ขอรับ” องครักษ์มังกรเดินคอตกกลับไปบนเรือรบ

จิตมารฉวยโอกาสที่มังกรมารเสียสมาธิ ผนึกปราณสีดำทมิฬกลางฝ่ามือซัดเข้าใส่มังกรมารอย่างรุนแรง! มังกรมารดูเหมือนจะหลบไม่ทัน มันปล่อยให้ปราณสีดำก้อนนั้นกระแทกเข้ากับร่างมังกร ทว่าอึดใจต่อมาเรื่องน่าเหลือเชื่อพลันบังเกิด มังกรมารหายวับไปแล้ว!

เทพเป่ยไห่ตกตะลึง เกิดอะไรขึ้น มังกรมารถูกพลังโจมตีใส่จนร่างสลายไปแล้วหรือ

จิตมารแผ่จิตสัมผัสออกไปทันที มันเริ่มค้นหากลิ่นอายของมังกรมารรอบๆ แต่จนปัญญาที่จอมมารก็เป็นมารเหมือนกัน แล้วยังเป็นอันดับหนึ่งในหมู่มารอีกด้วย การซ่อนเร้นกลิ่นอายต่อหน้าจิตมารตนหนึ่งจึงง่ายดายจนไม่มีอะไรง่ายกว่านี้อีกแล้ว

ขณะที่จิตมารพยายามค้นหาร่องรอยของมังกรมารนั่นเอง มังกรมารก็ปรากฏตัวเบื้องหลังเขาอย่างเงียบเชียบ จู่ๆ จิตมารก็หนาวสันหลังวาบอย่างกะทันหัน เขาหันกลับมาแต่น่าเสียดายที่ช้าไปแล้ว มังกรมารฟาดกรงเล็บคมลงมา หนึ่งอุ้งเท้าตบเขาปลิวไปอย่างรวดเร็ว

มังกรมารน้อยก็ถูกเหวี่ยงออกไปด้วย ทว่ามังกรมารทะยานร่างออกไปคาบมังกรน้อยที่ร้องครวญครางเสียงดังไว้ได้ทันก่อนจะให้มังกรน้อยนั่งอยู่บนหลังของตนเอง

มังกรมารน้อยเบิกบานใจยิ่งนัก กรงเล็บน้อยๆ เกาะลำคอของมารดา แล้วใช้เกล็ดมังกรของตนเองถูไถกับเขามังกรของมารดา มังกรมารก็คลอเคลียนางด้วย ดวงตาอันเย็นยะเยือกทอประกายอ่อนโยนอย่างที่หาได้ยาก

มังกรมารน้อยกอดมารดาแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความสุขอันหวานล้ำ

ขณะเดียวกันหัวใจของท่านจอมมารก็เหมือนจะหลอมละลาย

ทว่ายามนี้ยังไม่ใช่เวลาสุขสันต์ของการหวนกลับมาพบหน้ากัน เจ้าจิตมารนั่นยังยืนขัดหูขัดตานางอยู่ตรงนั้น!

จิตมารถูกลอบโจมตีไปหนึ่งหน เพลิงพิโรธในใจก็ลุกโชติช่วง ร่างกายของเขาเริ่มพองขยาย หนึ่งจั้ง สองจั้ง สามจั้ง สี่จั้ง…สิบจั้ง!

ร่างกายสูงสิบจั้งลอยอยู่กลางท้องฟ้า สูงเทียมยอดเมฆที่มีอสนีบาตแลบแปลบปลาบ พลังของอสนีบาตทะลักเข้ามาในร่างของเขาจนหมดสิ้น ร่างกายของเขายังขยายใหญ่อย่างต่อเนื่อง รอบร่างเขามีปราณมารดำทะมึนรูปร่างเหมือนเปลวเพลิงทมิฬวนเวียนรายล้อม ภายในปราณมารสายนี้มีพลังสีทองของตราพญาเทพกับมังกรโบราณจู๋หลงแทรกอยู่ด้วย

คูเมืองสวรรค์คล้ายกำลังเกิดคลื่นยักษ์ เรือรบร้อยลำถูกพลังอันน่าหวาดหวั่นสายนี้ซัดเข้าโจมตี พวกมันเริ่มจะตั้งลำลำบาก เรือทั้งหลายทยอยเซมาชนกันเอง

ท้องนภาแหวกออกเป็นช่องว่าง เสาแสงสีดำลำหนึ่งพุ่งลงมา จิตมารยืนอยู่ตรงใจกลางของเสาแสง มันสูบกินพลังงานรอบด้านอย่างบ้าคลั่ง แม้แต่พลังของเทพเป่ยไห่ก็ถูกจิตมารสูบกินไปด้วย

เทพเป่ยไห่หน้าถอดสีอย่างฉับพลัน “พี่ใหญ่…พี่ใหญ่! พี่ใหญ่นี่ข้าเอง! พี่ใหญ่ไม่นะ!”

ร่างของเขาลอยขึ้นไปบนท้องนภาแล้วถูกพัดเข้าไปยังใจกลางเสาแสงสีดำ พลังปราณลมของเขาไหลทะลักเข้าไปในร่างจิตมารอย่างบ้าคลั่ง เขาแก่ชราลงอย่างรวดเร็วชนิดที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เขากลายเป็นศพแห้งกรังร่างหนึ่ง จากนั้นก็เหลือแต่โครงกระดูกร่างหนึ่ง สุดท้ายก็สลายเป็นผงธุลี แม้แต่จิตตั้งต้นก็ถูกกลืนกินไปด้วย

ค่ายกลบนเรือรบเริ่มต้านทานพลังของจิตมารเอาไว้ไม่อยู่ พวกเขากำลังจะถูกสูบเข้าไปด้วยแล้ว!

ในเสี้ยวพริบตานั่นเอง บุรุษผู้มีกลิ่นอายพิสุทธิ์ของเซียนก็เหาะออกมาจากเรือรบ เขายืนอยู่กลางอากาศ ใช้ร่างดอกบัวน้ำแข็งกางข่ายอาคมอันแข็งแกร่งไว้นอกเรือรบ!

มังกรน้อยกระโดดดึ๋งดั๋งด้วยความตื่นเต้น ท่านพ่อๆ!

ชิงสุ่ยเจินเหรินยิ้มอย่างรักใคร่

ท่านจอมมารใช้ภาษามังกรคุยกับมังกรน้อย “นั่งดีๆ แม่จะพาเจ้าไปสั่งสอนเจ้าสารเลวตัวนั้น!”

แววตาของมังกรมารน้อยจริงจังขึ้นมาในชั่วพริบตา

ดวงตาของมังกรมารทอประกายเย็นยะเยือก เพลิงมังกรสายหนึ่งลุกโชนล้อมร่างกายของนาง

มังกรมารน้อยที่นั่งอยู่บนหลังของมารดาพยายามเลียนแบบมารดาบ้าง นางเรียกเพลิงมังกรน้อยของตนเองออกมาด้วย!

ถึงแม้ว่าเพลิงมังกรดวงน้อยของนางปกติแล้วจะทำให้จิตมารรู้สึกคันๆ ได้เท่านั้น แต่นางมั่นอกมั่นใจอย่างยิ่ง ในเมื่อมารดาเก่งกาจถึงเพียงนี้ นางก็ย่อมเก่งกาจมากเหมือนกัน!

มังกรมารทะยานเข้าหาเสาแสงสีดำเต็มกำลัง ร่างมังกรมารพุ่งเข้าไปในเสาแสง มังกรมารน้อยกอดลำคอของมารดาแน่น พลังมหาศาลคล้ายสายลมโหมกระหน่ำเป่านางจนจมูกเกือบเบี้ยว ยากจะลืมตาขึ้นมอง ในตอนที่แก้มของนางถูกลมพัดจนเปลี่ยนรูปนั่นเอง มังกรมารผู้แบกนางไว้บนหลังก็พานางทะลวงผ่านร่างของจิตมารไปด้วยกัน!

จิตมารมองรูขนาดใหญ่กลางหน้าอกของตนเองอย่างเหลือเชื่อ ไม่รอให้เขาได้สติ มังกรมารก็วกกลับมาอีกหน จากนั้นทะลวงร่างเขาเป็นรูจากด้านหลังซ้ำอีกครั้ง!

หนนี้มือของมังกรมารมีหัวใจร้อนผ่าวดวงหนึ่งติดออกมาด้วย

จิตมารกระโจนเข้ามาหาพร้อมกับหน้าถอดสี “คืนหัวใจของข้ามา!”

มังกรมารแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย มันยื่นหัวใจให้เขา ทว่าชั่วอึดใจที่เขากำลังจะคว้ามันได้ มังกรมารกลับขยำมันจนแหลกอย่างไม่ยั้งมือแม้แต่น้อย!

หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก

หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก ผู้เขียน : เพียนฟางฟาง (偏方方) แนะนำเรื่องย่อ เมื่อหมอสาวยุคปัจจุบันต้องทะลุมิติมาอยู่ในยุคโบราณแถมพ่วงด้วยลูกแฝดอีกสอง ทำขนม ดักสัตว์ ทำไร่ ทำทุกอย่างที่ได้เงิน! เฉียวเวย เด็กกำพร้าไร้ญาติขาดมิตรจู่ๆ ก็ทะลุมิติมายังยุคโบราณที่ไม่รู้จัก นอกจากจะมาอาศัยร่างคนอื่นอยู่แล้ว ร่างเดิมนี้ยังมีลูกแฝดอีกสองชีวิตให้ต้องเลี้ยงดู! นางที่ไร้ซึ่งความทรงจำใดๆ ในโลกใบใหม่แต่พราะทักษะติดตัวสมัยยังต้องดิ้นรนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทำให้ชีวิตไม่ลำบากเกินไปนัก ทำขนม ดักสัตว์ ปลูกพืช รักษาคน จากนี้นางจะเลี้ยงลูกๆ ให้เติบใหญ่ด้วยมือของนางเอง! เจ้าซาลาเปาน้อยจูงมือบุรุษใบหน้าเคร่งขรึมเข้ามา "ท่านแม่ ท่านลุงบอกว่าเขาเป็นพ่อของข้า" เฉียวเวยยิ้มละไม "ลูกรัก บอกพ่อเจ้าหน่อย ว่าต้องทำเช่นไรถึงจะพิสูจน์ว่าเป็นพ่อของเจ้าได้" เจ้าซาลาเปาน้อยเปิดสมุดทองคำ พูดอย่างชื่อๆ ว่า "ข้อที่หนึ่งร้อยหนึ่งของ 'กฎครอบครัวเฉียว' หลอกลวงเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมีโทษตัดอวัยวะสืบพันธุ์ ท่านลุง หากท่านเป็นพ่อของข้าจริงๆแล้วล่ะก็..." โดยไม่รอให้เจ้าซาลาเปน้อยจะพูดจบ ปลายนิ้วอันย็นเฉียบของชายคนนั้นก็บีบคางของเฉียวเวย เผยให้เห็นรอยยิ้มที่เย็นชาและเป็นอันตราย "หากข้าจำไม่ผิด คืนนั้น เหมือนเจ้าจะเป็นคนบังคับขืนใจข้า!"

Options

not work with dark mode
Reset