หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรักตอนพิเศษ 29-1 ท่านแม่มาแล้ว จับแขวนเฆี่ยนตี

ตอนพิเศษ 29-1 ท่านแม่มาแล้ว จับแขวนเฆี่ยนตี

ตอนพิเศษ 29-1 ท่านแม่มาแล้ว จับแขวนเฆี่ยนตี

Ink Stone_Romance

เด็กสาวรากปราณสวรรค์ยกเท้าเดินไปทางนั้น

หลิงจือเรียกนางไว้ “เจ้าจะทำอะไร”

เด็กสาวรากปราณสวรรค์ “ไปตามหาคนผู้นั้นน่ะสิ!”

กำแพงที่หลิงจือให้รากปราณดินรวบรวมขึ้นมาใกล้ถูกเหล่าผู้ฝึกตนที่คลุ้มคลั่งทำลายลงเต็มทีแล้ว ในเวลานี้หากเด็กสาวรากปราณสวรรค์ไปอีกคน นางคนเดียวคงต้านทานเอาไว้ไม่อยู่ “เจ้า…เจ้าสู้เขาไหวหรือถึงจะไปน่ะ”

เด็กสาวรากปราณสวรรค์ “ข้าย่อมสู้เขาไม่ได้แน่ แต่ข้ามียาเม็ดปราณสายฟ้า เอาไว้ขู่เขาได้!”

ยาเม็ดปราณสายฟ้าคือยาที่ได้มายามอยู่แดนล่าง เมื่อครั้งสำนักว่านเซี่ยงมาหาเรื่องถึงสำนักแล้วสุดท้ายแพ้ต้องให้พวกนางมาสิบเม็ด และชดเชยอีกสิบเม็ด แต่หลิงจือยังไม่ถึงช่วงที่จำเป็นต้องใช้ยาเม็ดปราณสายฟ้า นางจึงไม่ได้แบ่งมาสักเม็ด คิดไม่ถึงว่าผู้พิทักษ์รองจะให้ของสิ่งนี้กับเด็กสาวรากปราณสวรรค์

นางช่างรักใคร่ลูกศิษย์ผู้นี้เสียจริง!

หลิงจือเอ่ยน้ำเสียงกระฟัดกระเฟี้ยด “เช่นนั้นเจ้าก็ให้ข้าเม็ดหนึ่งด้วยสิ! ข้าจะต้านไม่ไหวแล้ว!”

ครั้งนี้เด็กสาวรากปราณสวรรค์กลับไม่อิดออด คนฉลาดย่อมรู้ว่าเป้าหมายของตนคืออะไร การเอาชนะหลิงจืออาจจะสำคัญก็จริง แต่การรักษาความสามารถของหลิงจือเอาไว้ ร่วมกันเอาชนะเหล่าผู้ฝึกตนที่คลุ้มคลั่งเหล่านี้รวมถึงเจ้าคนที่แอบอยู่ข้างหลังนั่นนับว่าสำคัญกว่า

หลังจากให้ยาเม็ดปราณสายฟ้ากับหลิงจือเม็ดหนึ่งแล้ว เด็กสาวรากปราณสวรรค์ก็ตามป้ายติดตามวิญญาณไป

ยาเม็ดปราณสายฟ้าก็มีแบ่งชั้นเช่นกัน ยาเม็ดปราณสายฟ้าชั้นดียากนักที่จะได้มา ยาที่สำนักว่านเซี่ยงให้สำนักเชียนหลันมาย่อมไม่มีทางเป็นของดีเช่นนั้น แต่ต่อให้เป็นยาเม็ดปราณสายฟ้าชั้นเลวที่สุดก็ยังแฝงพลังปราณสายฟ้าเอาไว้มากมายอยู่ดี

ไม่ง่ายเลยที่ยัยขี้งกนั่นจะใจกว้างเช่นนี้ หลิงจือไม่อยากเอาของดีเช่นนี้มาสิ้นเปลืองกับเรื่องนี้เลยจริงๆ

แต่ช่วยไม่ได้ นางเคลื่อนพลังปราณไม่ได้อีกแล้วจริงๆ จุดตันเถียนของนางเหือดแห้งจนใกล้จะปริแตกเต็มทีแล้ว

ชั่วขณะที่กำแพงพังครืนลงนั้น หลิงจือโยนยาเม็ดปราณสายฟ้าในมือออกไป พลังสายฟ้าอันกล้าแกร่งระเบิดพื้นดินจนเกิดเป็นหลุมลึกขนาดสิบเมตร ผู้ฝึกตนทั้งสิบสามคนตกลงไปในหลุมนั้น

ป้ายติดตามวิญญาณไม่ได้ทะยานไปไกลนัก เด็กสาวรากปราณสวรรค์ตามไปถึงอย่างรวดเร็ว

แต่อีกฝ่ายดูเหมือนเดาไว้อยู่แล้วว่านางจะตามมา จึงเตรียมพร้อมรออยู่แล้ว เขาสวมเสื้ออารมณ์สีขาวเงิน เส้นผมก็เป็นสีขาว ใบหน้าดูดุดัน สองมือเขาดูไม่คล้ายมือของมนุษย์ นิ้วมือหนาหยาบ เล็บยาวจนโค้งงอ เข้าจับตัวศิษย์ของสำนักว่านเซี่ยงคนหนึ่งมาไว้ข้างหน้า

ลูกศิษย์คนนี้ก็คือคนที่บาดเจ็บ นอนฟุบหายใจรวยรินอยู่ไม่ไกลผู้นั้น

บุรุษผมขาวเอ่ยว่า “อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นข้าจะฆ่าเขาเสีย!”

เด็กสาวรากปราณสวรรค์มองระดับการฝึกของอีกฝ่ายไม่ออก แต่นางมั่นใจว่าจะต้องเหนือกว่านางมากเป็นแน่ เด็กสาวรากปราณสวรรค์กระชับยาเม็ดปราณสายฟ้าในมือ เอ่ยด้วยสีหน้าคงเดิมว่า “น่ากลัวว่าเจ้าคงไม่ได้ออกไปฟังข่าวคราวด้านนอกเลยสินะ ไม่รู้สิท่าว่าสำนักเชียนหลันของพวกเรากับสำนักว่านเซี่ยงมีความสัมพันธ์เช่นไรต่อกัน ศิษย์สำนักว่านเซี่ยงคนหนึ่งตายด้วยน้ำมือปีศาจอย่างเจ้า ข้ายังดีใจไม่ทันเลยด้วยซ้ำ เก่งนักก็ฆ่าเขาเลยสิ!”

บุรุษผมขาวส่งเสียงหึเย็นๆ “เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้า?”

เด็กสาวรากปราณสวรรค์เอ่ยหน้าตาเฉย “เจ้าเอาเลยสิ! ข้ารออยู่! พอเจ้าฆ่าเขา ข้าก็จะฆ่าเจ้าทันที นับว่าเป็นการแก้แค้นให้เขา ข้ายังจะได้ชื่อว่ากำจัดปีศาจผดุงความยุติธรรมด้วย เรื่องนี้เช่นนี้เหตุใดจะไม่ทำเล่า”

บุรุษผมขาวเอ่ยอย่างดูแคลน “แค่ผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตัวเล็กๆ อย่างเจ้าน่ะหรือ จะฆ่าข้าได้”

เด็กสาวรากปราณสวรรค์ชูขวดกระเบื้องในมือ “หากมียาเม็ดปราณสายฟ้าสักสิบเม็ดเข้ามาเพิ่มเล่า”

ความน่ากลัวของยาเม็ดปราณสายฟ้าสิบเม็ดไม่ด้อยกว่าอัสนีวิบากเลย!

นัยน์ตาบุรุษผมขาวมีแววหวาดหวั่นวาบผ่านทันที

เด็กสาวรากปราณสวรรค์ดึงที่ปิดขวดออก เอายาเม็ดในขวดโยนใส่บุรุษผมขาวอย่างดุดัน “รับการโจมตี!”

บุรุษผมขาวชักเท้าได้ก็วิ่งหนี!

ชั่วเวลาเพียงพริบตา เขาก็วิ่งหายไปจนไม่เห็นเงา

ยาเม็ดเหล่านั้นหล่นกระจายลงบนพื้น แต่กลับไม่มีเสียงแตกเลยสักนิด

เด็กสาวรากปราณสวรรค์หัวเราะหึหึ “เบาปัญญา!”

นางย่อมไม่มียาเม็ดปราณสายฟ้ามากมายเพียงนั้น ทั้งหมดมีแค่สองเม็ด ให้หลิงจือไปแล้วหนึ่งเม็ด อีกเม็ดในมือนางก็ใช้เพื่อรักษาชีวิตรอด อีตานั่นเอาตัวศิษย์สำนักว่านเซี่ยงมาเป็นโล่มนุษย์ ถ้านางระเบิดใส่เขาไม่ตาย ก็เท่ากับนางเสียยาเม็ดปราณสายฟ้าไปเปล่าๆ

เมื่อครู่นางแค่จะขู่เขาเฉยๆ ขู่ให้เขาปล่อยตัวประกันแล้วค่อยจัดการเขาอีกที ไหนเลยจะรู้ว่าอีกฝ่ายขวัญอ่อนเพียงนี้ แค่นี้ก็วิ่งแจ้นหนีหางจุกตูดไปแล้ว

เด็กสาวรากปราณสวรรค์เอายาที่ใช้รักษาบาดแผลในมือกรอกกลับลงขวดไป

“ขอบ…ขอบคุณนะ” ศิษย์สำนักว่านเซี่ยงเอ่ย

เด็กสาวรากปราณสวรรค์กรอกตาอีกฝ่าย คร้านจะสนใจเขา แต่เดินไปได้สองก้าวก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงโยนยารักษาบาดแผลเม็ดหนึ่งไปให้เขา “คนผู้นั้นยังไม่ตาย อีกเดี๋ยวเขาคงกลับมาอีก ทางที่ดีเจ้ารักษาตัวให้หายดีก่อน อย่ามาเป็นภาระให้พวกเรา!”

“…ได้!” ศิษย์สำนักว่านเซี่ยงกินยาลงไปด้วยความลนลาน

ทางด้านนี้เด็กสาวรากปราณสวรรค์ทำบุรุษผมขาวขวัญหนีดีฝ่อไปแล้ว เหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่หลุมลึกสิบเมตรก็หยุดการเข่นฆ่า สลบกันไปหมด!”

หลิงจือนั่งแผละอยู่ริมหลุม หอบหายใจอย่างนัก

“นี่” เด็กสาวรากปราณสวรรค์เหลือบมองนาง “ตายไหมนั่น”

หลิงจือถลึงตาดุใส่นาง “เจ้าสิตาย!”

เด็กสาวรากปราณสวรรค์ใช้รองเท้าเขี่ยขานาง “ไม่ตายแล้วจะนิ่งอยู่ไย ไม่ได้บอกว่าเจ้าจะเลือกอาวุธวิเศษก่อนหรือ ไปเลือกสิ!”

หลิงจือเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ให้ข้าพักเดี๋ยวหนึ่งไม่ได้หรือไร คนที่เมื่อครู่ถูกไล่ฆ่าจนเกือบตายไม่ใช่เจ้านี่ จริงหรือไม่”

เด็กสาวรากปราณสวรรค์ “ถ้าเจ้าไม่ไป ข้าไปแล้วนะ”

“ใครบอกว่าข้าไม่ไป” หลิงจือสูดหายใจลึกๆ พอได้หยุดพัก พลังปราณในกายก็เริ่มกลับมา นางกระโดดลงไป

เด็กสาวรากปราณสวรรค์ก็รีบกระโดดตามไปด้วย

หลิงจือตีหน้าบึ้ง “ไม่ได้บอกว่าให้ข้าเลือกก่อนหรือ”

เด็กสาวรากปราณสวรรค์เลิกคิ้ว “เจ้าก็เลือกสิ ข้าจะดูเฉยๆ”

อาวุธวิเศษเหล่านี้ย่อมมีระดับชั้นของมัน หากเป็นยอดฝีมือชั้นอมตะ แค่มองปราดเดียวก็แยกแยะได้แล้ว แต่มือสมัครเล่นอย่างพวกนางพบเห็นอะไรมาน้อย จะรู้ได้อย่างไรว่าชิ้นไหนถึงเป็นของดีที่สุด

หลิงจือไล่เลือกไปเรื่อยๆ

เด็กสาวรากปราณสวรรค์เอ่ยเร่งว่า “นี่ เร็วๆ หน่อยสิ ข้าไม่ได้ฆ่าปีศาจนั่น เขาอาจจะกลับมาอีกนะ!”

หลิงจือรู้ว่านางไม่ได้กำลังขู่ให้กลัว คราวนี้นางไม่กล้าชักช้าอีก หยิบเจดีย์วิเศษกับกระบี่วิเศษขึ้นมา “ข้าเลือกสองชิ้นนี้”

“เจ้ายังอยากได้สองชิ้นอีก?” เด็กสาวรากปราณสวรรค์ถาม

หลิงจือจึงถามกลับ “สองชิ้นแล้วทำไมหรือ คราแรกไม่ได้บอกว่าคนละครึ่งหรอกหรือ”

เด็กสาวรากปราณสวรรค์ “คนละครึ่งนั่นหมายถึงตัวเลือกของเจ้ามีครึ่งหนึ่ง หากเจ้าเอาอาวุธวิเศษไปสองชิ้นจริงจะออกจากข่ายอาคมไม่ได้ หากฝึนจะออกไปให้ได้ ข่ายอาคมจะสุ่มเก็บอาวุธวิเศษเจ้าไว้หนึ่งชิ้น เจ้าคิดให้ดีนะว่าจะเอาสิทธิ์การตัดสินใจให้ข่ายอาคมหรือเจ้าจะเลือกเอง”

หลิงจืองึมงำบ่นว่า “เหตุใดเจ้าจึงรู้ไปเสียหมดนะ”

เด็กสาวรากปราณสวรรค์มองนางอย่างไม่อยากเชื่อ “ในกล่องมีเขียนกฎการแข่งขันเอาไว้ เจ้าไม่ได้ดูหรือ”

หลิงจือไม่อยากยอมรับว่าตนรู้ตัวอักษรไม่มาก

หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก

หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก ผู้เขียน : เพียนฟางฟาง (偏方方) แนะนำเรื่องย่อ เมื่อหมอสาวยุคปัจจุบันต้องทะลุมิติมาอยู่ในยุคโบราณแถมพ่วงด้วยลูกแฝดอีกสอง ทำขนม ดักสัตว์ ทำไร่ ทำทุกอย่างที่ได้เงิน! เฉียวเวย เด็กกำพร้าไร้ญาติขาดมิตรจู่ๆ ก็ทะลุมิติมายังยุคโบราณที่ไม่รู้จัก นอกจากจะมาอาศัยร่างคนอื่นอยู่แล้ว ร่างเดิมนี้ยังมีลูกแฝดอีกสองชีวิตให้ต้องเลี้ยงดู! นางที่ไร้ซึ่งความทรงจำใดๆ ในโลกใบใหม่แต่พราะทักษะติดตัวสมัยยังต้องดิ้นรนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทำให้ชีวิตไม่ลำบากเกินไปนัก ทำขนม ดักสัตว์ ปลูกพืช รักษาคน จากนี้นางจะเลี้ยงลูกๆ ให้เติบใหญ่ด้วยมือของนางเอง! เจ้าซาลาเปาน้อยจูงมือบุรุษใบหน้าเคร่งขรึมเข้ามา "ท่านแม่ ท่านลุงบอกว่าเขาเป็นพ่อของข้า" เฉียวเวยยิ้มละไม "ลูกรัก บอกพ่อเจ้าหน่อย ว่าต้องทำเช่นไรถึงจะพิสูจน์ว่าเป็นพ่อของเจ้าได้" เจ้าซาลาเปาน้อยเปิดสมุดทองคำ พูดอย่างชื่อๆ ว่า "ข้อที่หนึ่งร้อยหนึ่งของ 'กฎครอบครัวเฉียว' หลอกลวงเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมีโทษตัดอวัยวะสืบพันธุ์ ท่านลุง หากท่านเป็นพ่อของข้าจริงๆแล้วล่ะก็..." โดยไม่รอให้เจ้าซาลาเปน้อยจะพูดจบ ปลายนิ้วอันย็นเฉียบของชายคนนั้นก็บีบคางของเฉียวเวย เผยให้เห็นรอยยิ้มที่เย็นชาและเป็นอันตราย "หากข้าจำไม่ผิด คืนนั้น เหมือนเจ้าจะเป็นคนบังคับขืนใจข้า!"

Options

not work with dark mode
Reset