หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรักตอนพิเศษ 14-2 จอมมารปรากฏตัว

ตอนพิเศษ 14-2 จอมมารปรากฏตัว

ตอนพิเศษ 14-2 จอมมารปรากฏตัว

ผู้พิทักษ์รองกวาดตามองพวกเขาทีหนึ่ง เอ่ยถามเสียงขรึมว่า “พวกเจ้าได้ยินอะไรกันมาใช่หรือไม่”

พวกเขาได้แต่หันหน้ามองกัน อยากพูดแต่ก็ไม่กล้าพูด

สุดท้ายด้วยความกดดันจากผู้พิทักษ์รอง พวกเขาก็ยังกลั้นใจเอ่ยออกมา

“ข้างนอกลือกันไปทั่วแล้วว่าสำนักเชียนหลันของพวกเรามีเรื่องผิดใจกับสำนักว่านเซี่ยง ซ้ำยังบอกว่าพวกเราแย่งพื้นที่กับสำนักว่านเซี่ยงอย่างไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ สุดท้ายก็แย่งมาไม่สำเร็จ”

ผู้พิทักษ์รองโมโหไม่น้อย “สารเลว! คำพูดเหล่านี้ใครเป็นคนนำไปพูดกัน พวกเราไปแย่งพื้นที่ของพวกเขาตั้งแต่เมื่อไร ทั้งๆ ที่พวกเขาแย่งของพวกเราไปแท้ๆ!”

ไม่ว่าใครจะแย่งของใคร สุดท้ายก็เป็นสำนักว่านเซี่ยงที่ชนะไป แต่เพียงข้อนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถของสำนักว่านเซี่ยงแล้ว

นกชั้นดียังรู้จักเลือกต้นไม้เพื่อทำรังเลย ทางที่ดีพวกเขาควรจะทำดีกับสำนักว่านเซี่ยงหรือสำนักเชียนหลันก็ดูจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ยากแล้ว

ผู้พิทักษ์ใหญ่ที่นิ่งเงียบมาตลอด อยู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นว่า “เหตุใดถึงมีคนมากเพียงนั้น เป็นสำนักที่ย้ายมาจากแดนล่างกันหมดเลยหรือ”

ลูกศิษย์เอกยอดเขาเหลียนเฟิงตอบว่า “คนที่ไปไม่ได้มีแค่ที่ย้ายมาจากแดนล่างขอรับ ได้ยินว่า…ได้ยินว่าสำนักในแดนกลางทั้งหมดก็มาด้วย”

สำนักในแดนกลางมีไม่ถึงหนึ่งพันก็มีอยู่สักแปดร้อย หากจะมากันทั้งหมดนั้นไม่น่าเป็นไปได้ ข่าวนี้มากน้อยอย่างไรก็ออกจะเกินจริงไปสักหน่อย แต่มากันไม่น้อยนั่นเป็นเรื่องที่เห็นๆ กันอยู่

เรื่องนี้น่าแปลกมากมิใช่หรือ ชื่อเสียงของสำนักว่านเซี่ยงในแดนล่างยังโด่งดังสู้สำนักเชียนหลันไม่ได้เลย สำนักเก่าแก่เหล่านั้นประจบสอพลอพวกเขาก็แล้วไปเถิด แต่คนในแดนกลางเหตุใดถึงเห็นว่าพวกเขาดีงามไปด้วยได้

“ใช่ว่ายังมีเรื่องอะไรที่พวกเราไม่รู้อีกหรือไม่” ผู้พิทักษ์ใหญ่ถาม

ลูกศิษย์เอกของยอดเขาเหลียนเฟิงบอกว่า “ดูเหมือนว่า…บุตรีของเจ้าสำนักว่านเซี่ยงจะหมั้นหมายกับบุตรชายของรองหัวหน้าสหพันธ์แล้ว”

ผู้พิทักษ์รองอึ้งไปอย่างหนัก “อะไรนะ”

ศิษย์เอกของยอดเขาเหลียนเฟิงบอกว่า “เรื่องนี้ลือกันไปทั่วแดนกลางแล้ว เวลาเดินไปตามถนน ทุกห้องของโรงน้ำชาล้วนพูดคุยกันแต่เรื่องนี้ คนเหล่านั้นหากบอกว่าไปเยี่ยมคารวะสำนักว่านเซี่ยง สู้บอกว่าไปเพื่อให้เกียรติรองหัวหน้าสหพันธ์จะดีกว่า”

ประมุขเหลยแค่นลมหายใจออกทางจมูก “ข้าก็ว่าอยู่ว่าเหตุใดพวกเขาถึงได้ย้ายเข้าแดนกลางมาได้อย่างง่ายดายเพียงนี้ ซ้ำยังบังอาจรังแกพวกเราอย่างเปิดเผยอีก! ที่แท้ก็มีรองหัวหน้าสหพันธ์คอยหนุนหลังอยู่นี่เอง!”

สหพันธ์เป็นการร่วมมือกันระหว่างสำนักใหญ่ๆ ในแดนกลาง รองหัวหน้าสหพันธ์ของที่นี่ก็เทียบเท่ากับรองเจ้าดินแดนของทั้งแดนกลาง อำนาจของเขาจะบอกว่าไม่มากก็คงไม่ได้

สำนักว่านเซี่ยงคงสานสัมพันธ์นี้เอาไว้ตั้งแต่ก่อนย้ายมาที่นี่แล้ว มิน่าเล่าพวกเขาถึงได้หยิ่งผยองถึงเพียงนั้นยามอยู่ในแดนล่าง ถึงขั้นกล้ามาท้าทายสำนักเชียนหลันถึงที่ ซ้ำยังเกือบลักพาตัวลูกศิษย์ของพวกเขาไปอีก ที่แท้ก็ได้คนหนุนหลังที่ยิ่งใหญ่ไว้แล้วนี่เอง!

ผู้พิทักษ์ใหญ่ที่สงบนิ่งมาตลอดเวลานี้ก็เดือดดาลขึ้นมาบ้าง

ผู้พิทักษ์รองเอ่ยด้วยความไม่พอใจว่า “รองสหพันธ์มีอะไรดีงั้นหรือ หลิงเอ๋อร์เป็นสายเลือดของท่านเซียน หรือว่าพวกเขาก็ไม่เห็นท่านเซียนอยู่ในสายตางั้นหรือ”

ศิษย์เอกยอดเขาเหลียนเฟิงเอ่ยว่า “ผู้พิทักษ์รอง…รู้หรือไม่ว่ารองหัวหน้าสหพันธ์นั้นมีความเป็นมาอย่างไร”

ผู้พิทักษ์รองทำเสียงหึก่อนเอ่ยว่า “มีความเป็นมาอย่างไร ยังจะล้ำเลิศกว่าท่านเซียนหรืออย่างไร”

ศิษย์ยอดเขาเหลียนเฟิงตั้งใจออกไปสืบข่าวจากด้านนอก ย่อมต้องรู้ความเป็นมาของรองหัวหน้าสหพันธ์ผู้นี้อย่างกระจ่างชัด “เขาเป็นสามีของจอมมาร บุตรชายของเขาก็คือคุณชายท่านนั้นที่หมั้นหมายของบุตรีของสำนักว่านเซี่ยง เป็นสายเลือดในโลกหล้านี้เพียงคนเดียวของจอมมาร”

สีหน้าผู้พิทักษ์รองพลันเปลี่ยน “จอมมารที่เจ้าพูดถึง…ใช่สตรีนางนั้นที่เกือบทำลายแดนเซียนนั่นหรือไม่”

นั่นเป็นยอดนางมารที่ทำให้ผู้ฝึกตนทุกคนต้องอกสั่นขวัญแขวน ฟาดฟันมาทั่วหกแดนอย่างไร้คู่ปรับยังไม่เท่าไร นางยังเกือบฉีกเอาแดนเซียนจนขาดกระจุยอีกด้วย ได้ยินว่าท่านยอดเซียนส่งลูกศิษย์ทั้งหมดของเขามาจัดการนาง ผลกลายเป็นว่าถูกนางเล่นงานจนต้องวิ่งหนีกันหมด พอท่านยอดเซียนออกโรงเอง ก็สู้ได้เพียงเสมอกับนางเท่านั้น

ตอนหลังนางตั้งครรภ์ ต่อมาอีกนางเผชิญกับบททดสอบสายฟ้า

คนทั่วไปแค่ต้องทนรับสายฟ้าเก้าสายก็สาหัสเกินพอแล้ว แต่ในท้องนางยังมีเด็กที่ก่อตัวขึ้นมาแล้วอีก สายฟ้าสวรรค์จึงเห็นว่าเป็นสองคน สายฟ้าสิบแปดสายฟาดลงมา นางจึงให้กำเนิดบุตร

มีคนบอกว่า นางถูกสายฟ้าฟาดตาย แต่ก็มีคนบอกว่านางผ่านอุปสรรคนี้ไปได้และได้ลอยขึ้นสู่สวรรค์

แต่ไม่ว่าอย่างนั้น นับแต่นั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีใครพบเห็นนางอีกเลย

สายฟ้าสิบแปดเส้นทำลายแดนมารไปกว่าครึ่ง นางกลายเป็นนักโทษของแดนมาร แต่นางไม่อยู่ในแดนมารแล้ว แดนมารจึงเนรเทศบุตรของนางไป

เด็กที่เพิ่งเกิดใหม่ ถูกทอดทิ้งลงสู่ทะเลแห่งความตาย พวกเขาคอยมองเด็กคนนั้นจมลงไปกับตา คิดว่าอย่างไรเขาก็มีชีวิตรอดมาไม่ได้

ใครจะคิดว่านางจะสามารถกลับมาได้

แน่นอนว่าสามีของนางก็จะเก็บไว้ไม่ได้ จึงถูกเนรเทศไปพร้อมกัน

สามีของนางพาบุตรไปอยู่ที่แดนกลาง แดนกลางเป็นสถานที่ที่ฝ่ายธรรมะกับฝ่ายอธรรมอยู่ร่วมกันได้ พวกเขาสองคนพ่อลูกจึงค่อยๆ ลงหลักปักฐานกันที่นี่

ได้ยินว่าเพราะตอนเด็กแช่อยู่ในน้ำนานเกินไปเลยกลายเป็นโรคเรื้อรังติดตัว เด็กคนนั้นสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง พอได้ยินว่าสำนักว่านเซี่ยงมียาวิเศษอยู่อย่างหนึ่งที่สามารถรักษาโรคเรื้อรังของเด็กคนนั้นได้ การแต่งงานระหว่างสองครอบครัวบางทีอาจจะเกี่ยวข้องบางอย่างกับยาวิเศษตัวนี้

นอกจากนี้ ถึงแม้พวกเขาสองคนพ่อลูกจะถูกเนรเทศออกจากแดนมารแล้ว แต่ได้ยินว่าในสามแดนนั้นมีคนพบเจอร่องรอยของจอมมาร ในเวลานั้นน่ากลัวว่าจอมมารคงยังไม่ตาย แต่ได้ลอยขึ้นสู่สวรรค์ไปจริงๆ เวลานี้นางคงต้องการกลับไปยังแดนมารแล้ว

คราวนี้คนในแดนมารจึงพากันร้อนรน ออกมาขอโทษขอโพยกันเป็นการใหญ่ คิดอยากรับตัวสองพ่อลูกกลับไป หากข่าวนี้เป็นความจริง เช่นนั้นคนที่คอยหนุนหลังให้สำนักว่านเซี่ยงจะไม่ได้มีเพียงสหพันธ์เท่านั้น แต่ยังมีจอมมารที่ใกล้จะปรากฏตัวรวมไปถึงคนทั้งแดนมารเลยอีกด้วย

ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นข่าวที่เหล่าลูกศิษย์ไปสืบมาได้จากด้านนอก แท้จริงแล้วข่าวไหนเป็นความจริง ข่าวไหนเป็นเพียงข่าวลือ คงต้องให้ผู้ที่นั่งอยู่ทุกคนเป็นผู้ตัดสินแล้ว

เฉียวเวยเวยฟังที่พวกเขาพูดคุยกันไม่เข้าใจ นางถือถังหูลู่ที่ส่องประกายแวววาว คอยเล็มกินอย่างไม่รู้เบื่อ

จีเสี่ยวซิวถูกนางแพร่เชื้อใส่ ตอนแม่นมยื่นไม้ถังหูลู่มาให้ เขาถึงขั้นยื่นมือไปรับเสียด้วย

“…” น่ากลัวว่าเขาคงถูกแพร่เชื้อร้ายใส่เสียแล้ว

จีเสี่ยวซิวที่รู้สึกตัวขึ้นมารีบเอาถังหูลู่ยัดใส่มือเฉียวเวยเวยพร้อมทำหน้ารังเกียจ

เฉียวเวยเวยมือซ้ายถือถังหูลู่ มือขวาถือถังหูลู่ เลียซ้ายเลียขวาให้วุ่นไปหมด

ทางด้านนั้นเจ้าสำนักสวี่กับผู้พิทักษ์ทุกคนหารือเรื่องสำนักว่านเซี่ยงกันต่อ ไม่มีใครสนใจว่าเด็กสองคนนี้จะทำอะไรกันอยู่

จีเสี่ยวซิวเขยิบเข้าไปหาเฉียวเวยเวย เอ่ยถามเสียงเล็กเสียงน้อยว่า “นี่ ข้ายังไม่ได้ถามเจ้าเลย เจ้าไม่มีพ่อไม่มีแม่หรือ”

“หือ?” เฉียวเวยเวยอึ้งงันไป

หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก

หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : หม่ามี๊ตัวร้ายกับเสนาบดีตื๊อรัก ผู้เขียน : เพียนฟางฟาง (偏方方) แนะนำเรื่องย่อ เมื่อหมอสาวยุคปัจจุบันต้องทะลุมิติมาอยู่ในยุคโบราณแถมพ่วงด้วยลูกแฝดอีกสอง ทำขนม ดักสัตว์ ทำไร่ ทำทุกอย่างที่ได้เงิน! เฉียวเวย เด็กกำพร้าไร้ญาติขาดมิตรจู่ๆ ก็ทะลุมิติมายังยุคโบราณที่ไม่รู้จัก นอกจากจะมาอาศัยร่างคนอื่นอยู่แล้ว ร่างเดิมนี้ยังมีลูกแฝดอีกสองชีวิตให้ต้องเลี้ยงดู! นางที่ไร้ซึ่งความทรงจำใดๆ ในโลกใบใหม่แต่พราะทักษะติดตัวสมัยยังต้องดิ้นรนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าทำให้ชีวิตไม่ลำบากเกินไปนัก ทำขนม ดักสัตว์ ปลูกพืช รักษาคน จากนี้นางจะเลี้ยงลูกๆ ให้เติบใหญ่ด้วยมือของนางเอง! เจ้าซาลาเปาน้อยจูงมือบุรุษใบหน้าเคร่งขรึมเข้ามา "ท่านแม่ ท่านลุงบอกว่าเขาเป็นพ่อของข้า" เฉียวเวยยิ้มละไม "ลูกรัก บอกพ่อเจ้าหน่อย ว่าต้องทำเช่นไรถึงจะพิสูจน์ว่าเป็นพ่อของเจ้าได้" เจ้าซาลาเปาน้อยเปิดสมุดทองคำ พูดอย่างชื่อๆ ว่า "ข้อที่หนึ่งร้อยหนึ่งของ 'กฎครอบครัวเฉียว' หลอกลวงเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมีโทษตัดอวัยวะสืบพันธุ์ ท่านลุง หากท่านเป็นพ่อของข้าจริงๆแล้วล่ะก็..." โดยไม่รอให้เจ้าซาลาเปน้อยจะพูดจบ ปลายนิ้วอันย็นเฉียบของชายคนนั้นก็บีบคางของเฉียวเวย เผยให้เห็นรอยยิ้มที่เย็นชาและเป็นอันตราย "หากข้าจำไม่ผิด คืนนั้น เหมือนเจ้าจะเป็นคนบังคับขืนใจข้า!"

Options

not work with dark mode
Reset