ตอนพิเศษ 11-2 เล่นงานเทพสายน้ำ มังกรน้อยมา
คนผู้นี้สวมใส่ชุดออกปฏิบัติการยามราตรี ท่าทางลับๆ ล่อๆ เช่นนี้จะต้องเป็นโจรแน่!
บ้านของเจ้าหน้าที่เจ้าก็มีเงินมากเสียเหลือเกิน ล่อให้โจรอยากเข้ามา การวิเคราะห์ของเขานี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ!
ข้าช่างฉลาดเสียนี่กระไร!
คุณชายน้อยหรงยืดอกด้วยความภาคภูมิ
ใต้เท้าเจ้าตำหนักแทบจะทนดูไม่ได้
ชั่วขณะต่อมา ในขณะที่ชายชุดดำดึงยันต์ออก เงื้อหมัดขึ้นคิดจะประมือกับคุณชายน้อยหรงสักหน่อยนั้น คุณชายน้อยหรงกลับทรุดลงนั่งกับพื้น กอดเข่าตนเองไว้ “เจ้ารีบจับข้าไปทีเถิด…”
ชายชุดดำ “?!”
นี่มันอะไรกัน!
คุณชายน้อยหรงคิดดูแล้ว ที่แห่งนี้น่ากลัวเกินไป เขาทนอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ แต่เขาจะหนีไปเองก็ไม่ได้ แต่หากเป็นว่าถูกโจรจับตัวไป เช่นนั้นก็ล้วนอธิบายได้ทั้งสิ้น
ชายชุดดำที่เงื้อหมัดขึ้นแล้ว อยู่ๆ ก็เกิดไม่กล้าลงมือขึ้นมา… ผู้ฝึกตนคนนี้ทั้งๆ ที่ถึงขั้นพื้นฐานแล้ว แต่กลับแสร้งทำท่าทางหวาดกลัว ใช่จะเป็นหลุมพรางหรือไม่…
คุณชายน้อยหรงโยนกริชที่เอาไว้ป้องกันตัวกับยันต์จำนวนหนึ่งที่เหลือลงกับพื้นจนหมด “บนตัวข้าไม่มีอาวุธอะไรอยู่แล้ว เจ้าจับข้าไปอย่างสบายใจได้เลย!”
ชายชุดดำยิ่งระแวงหนัก กระทั่งอาวุธก็ไม่ใช้ เจ้าเด็กนี้คงไม่ใช่ว่าสามารถฉีกเขาได้ด้วยมือเปล่าหรอกนะ!
บางทีเจ้าเด็กนี้อาจจะกดความสามารถแท้จริงเอาไว้ ตั้งใจเผยให้เห็นว่าตนอยู่ในขั้นพื้นฐาน… หึหึ คิดว่าข้าจะตกหลุมพรางหรือไร
ที่นี้อยู่นานไม่ได้!
ชายชุดดำหมุนตัวจากไปทันที!
คุณชายน้อยหรงชักเท้าไล่ตาม!
ชายชุดดำมองเขาด้วยความตื่นตระหนก “เจ้าตามข้ามาทำไม ข้าไปเอง ข้าไปแล้วยังไม่ได้อีกหรือ!”
คุณชายน้อยหรงมองเขาอย่างร้องขอ เหตุใดเจ้าถึงไม่จับข้าไป ข้าว่าง่ายนะ ข้าว่าง่ายยังไม่ได้อีกหรือ
คุณชายน้อยหรงถึงอย่างไรก็ขาดประสบการณ์การเผชิญหน้ากับศัตรู ไล่ตามไปไม่เท่าไรก็คลาดกัน
ชายชุดดำไปหลบอยู่บนต้นอู๋ถง ไม่กล้าหายใจแรงสักนิด จนกระทั่งคุณชายน้อยหรงจากไปพร้อมหน้าตาเศร้าหมอง เขาถึงได้ใช้วิชาตัวเบากระโดดลงมา
ชายชุดดำเดิมทีคิดว่าแผนการคืนนี้น่าจะล้มเหลวแล้ว ใครจะคิดว่าพอหันไป จะเห็นซาลาเปาน้อยสองคนที่ดูราวกับหยกสลัก หนึ่งเด็กชายหนึ่งเด็กหญิง มองดูแล้วอายุเพิ่งสามสี่ขวบเท่านั้น
หรือว่านี่จะเป็นเด็กในจวนจ้าว
สายตาชายชุดดำพลันเป็นประกาย!
ยามจะหาเดินจนรองเท้าสึกก็หาไม่พบ ยามจะเจอก็เจอเสียง่ายๆ!
ชายชุดดำรีบโปรยยาสลบใส่ จากนั้นก็เอาเด็กหญิงขึ้นหลัง เด็กชายอุ้มไว้ข้างหน้า ร่ายคาถาถลาลมออกจากจวนจ้าวไปอย่างรวดเร็ว
แต่ไม่รู้ว่าชายชุดดำคิดไปเองหรืออย่างไร ระหว่างทางนี้เขามักได้ยินเสียงกลืนน้ำลายของเด็กหญิง…
กลับมาเอ่ยถึงทางฝั่งศิษย์พี่อวี๋ หลิงจือกับเด็กสาวรากปราณสวรรค์ในที่สุดก็หาวิธีคลายแดนป้องกันนี้ได้เสียที เจ้าสิ่งนี้ยามอยู่ใต้น้ำไม่มีสิ่งใดสู้มันได้ นั่นหมายความว่าสิ่งที่สามารถเล่นงานมันได้จะต้องเป็นของที่ไม่อาจนำลงมาใต้น้ำได้
ทั้งสองคิดถึงไฟขึ้นมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
เพียงแต่พวกนางสองคนล้วนไม่ใช่รากปราณอัคคี ไม่รู้จักวิชาสายไฟ ส่วนศิษย์พี่อวี๋เป็นรากปราณคู่ไฟกับดิน แต่ดูจากท่าทางกอดอกคอยมองของศิษย์พี่อวี๋แล้ว ก็ดูออกว่าเขาไม่คิดจะช่วยเหลือพวกนาง
สุดท้ายเป็นหลิงจือที่คิดได้ว่าตนมักพกไต้ไฟติดตัวไว้เสมอ นางลองใช้ไต้ไฟดู แล้วก็สามารถเผาแดนป้องกันจนเป็นรูโหว่ใหญ่ได้จริงๆ
ทั้งสามมุดเข้าไปในเขตป้องกัน อาณาเขตน้ำที่อยู่ด้านในกว้างขวางกว่าที่ทุกคนคิดไว้มากนัก หนำซ้ำศิลาหน่วงนำกับเข็มทิศดูเหมือนจะถูกขุมพลังมหาศาลบางอย่างรบกวนจนไม่สามารถใช้การได้
หากต้องการตามหาถ้ำของปีศาจน้ำตัวนั้น จึงทำได้เพียงอาศัยตัวพวกนางเอง
พวกเขาพยายามคลำทางในน้ำกันเต็มที่
สวนทางด้านชายชุดดำที่อยู่อีกด้านกำลังถือไข่มุกกั้นน้ำพาตัว “พี่น้องสกุลจ้าว” ลงไปใต้น้ำอย่างนิ่งเงียบ
ชายชุดนำเป็นผู้ฝึกตนสายมาร ตามปกติไม่ได้อาศัยอยู่ในน้ำ แต่เขาจะนำ “ของบำรุง” มาส่งให้เทพสายน้ำเป็นประจำ เพื่อเป็นการตอบแทน เทพสายน้ำอนุญาตให้เขาใช้พลังปราณส่วนหนึ่งของเทพสายน้ำได้
ต้องรู้ก่อนว่า พลังปราณในรุ่นหลังนับวันยิ่งอ่อนบางลงเรื่อยๆ ชีพจรปราณที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดก็ล้วนถูกสำนักใหญ่ๆ ยึดครองไปแล้ว เหล่าผู้ฝึกตนไร้สังกัด ผู้ฝึกตนสายมารอย่างพวกเขาหากไม่หาที่พึ่งพิงที่แข็งแกร่งก็ไม่อาจตั้งตัวในหมู่ผู้ฝึกตนได้
ชายชุดดำเดินปราณให้ไข่มุกกั้นน้ำทำงาน แล้วจึงตรงไปยังถ้ำเทพสายน้ำอย่างคุ้นเคย
ด้านนอกถ้ำ มีทหารกุ้งขุนพลปูคอยเฝ้าระวังอยู่ ทหารกุ้งขุนพลปูเหล่านี้ล้วนค่อยๆ มีญาณรับรู้อย่างการดูดซึมพลังปราณของเทพสายน้ำ จึงมีรูปลักษณ์งดงามกว่าสัตว์น้ำทั่วไป เพียงแต่ด้วยตัวมันเองมีวิชาติดตัวไม่สูง อย่างมากที่สุดก็ฝึกปราณได้เพียงขั้นกลางเท่านั้น
ทหารกุ้งขุนพลปูเหล่านั้นจำชายชุดดำได้ กุ้งจึงยากไปยืนกับกุ้ง ปูแยกไปยืนกับปู เปิดทางให้เขาเข้าไปอย่างเป็นระเบียบ
ที่นี่มีค่ายปราการกั้นน้ำเอาไว้ จึงไม่จำเป็นต้องใช้ไข่มุกกั้นน้ำอีก
ชายชุดดำเก็บไข่มุก พาเด็กสองคนที่สิ้นสมประดีเดินเข้าไปด้านในถ้ำ
ทหารกุ้งขุนพลปูยืนเรียงเป็นแถวแล้วเดินตามเข้าไปด้วย
ชายชุดดำหันไปมองทีหนึ่ง กุ้งตัวใหญ่หายไปสองตัว
ชายชุดดำหันไปมองอีกที ปูหายไปอีกสองตัว
ชายชุดดำชะงักฝีเท้า ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย นับในใจว่าหนึ่ง สอง สาม แล้วจึงหันขวับไปมอง จึงได้เห็นว่าทหารกุ้งขุนพลปูนับสิบตัวที่เดินตามตนอย่างเป็นระเบียบอยู่ก่อนหน้านี้หายวับไปหมดแล้ว
ด้านหลังว่างเหล่า ไม่เลยเลยสักตัว!
เฉียวเวยเวยเรอเบาๆ อย่างอิ่มท้อง
ชายชุดดำตกใจใหญ่ เหงื่อเป็นเม็ดๆ ผุดขึ้นมา “ทะๆๆๆๆ…เทพสายน้ำ! เกิดเหตุน่าสงสัย!”
ตึงๆๆ!
ภายในถ้ำมีเสียงอึกทึกดังลอยมา ทั่วทั้งใต้น้ำพลันสั่นสะเทือน คลื่นน้ำขนาดใหญ่วิ่งเข้าชนกัน บนผิวน้ำเกิดเป็นคลื่นลูกยักษ์สูงร้อยฉื่อ!
ทั้งสามคนที่ค้นหาอยู่ละแวกนั้นเกือบถูกคลื่นน้ำพัดกลับขึ้นฝั่ง
ศิษย์พี่อวี๋มือหนึ่งคว้าหลิงจือ อีกมือหนึ่งคว้าเด็กสาวรากปราณสวรรค์
เด็กสาวรากปราณสวรรค์รีบโยนไข่มุกกั้นน้ำออกไป ไข่มุกกั้นน้ำโอบล้อมทั้งสามเอาไว้ คอยกันคลื่นลูกยักษ์เอาไว้ให้
หลิงจือตั้งตัวให้มั่นคง ประสานคาถาไล่ผิวน้ำออกจากตัว นางถามศิษย์พี่อวี๋ว่า “ช่างเป็นพลังที่น่าเกรงกลัวนัก อีกฝ่ายมีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่”
สีหน้าศิษย์พี่อวี๋พลันเปลี่ยนเป็นหนักอึ้ง “มีที่มาที่ไปอย่างไรนั้นไม่แน่ชัด แต่เขาฝึกตน….ฝึกตนถึงขั้นประสานเม็ดตันแล้ว”
สีหน้าทั้งสองพลันซีดเผือด
ยอดฝีมือขั้นผสานเม็ดตัน แค่นิ้วเดียวก็สามารถบดขยี้ผู้ฝึกขั้นพื้นฐานะทั้งคณะได้แล้ว
ยอดฝีมือขั้นผสานเม็ดตัน… เทพสายน้ำออกมาพร้อมพลังอันกล้าแกร่ง เทพสายน้ำนั่งลงบนเปลือกหอยขนาดมหึมา รอบด้านปรากฏพลังแห่งระลอกคลื่นอันน่าประหลาด ชายชุดดำไม่อาจทานทนพลังกดดันมหาศาลเช่นนี้ได้ ทันใดนั้นจึงรู้สึกเจ็บที่หน้าอก กระอักเลือดออกมา
เทพสายน้ำที่นั่งอยู่บนเปลือกหอย มาหยุดลงตรงหน้าเฉียวเวยเวย
เขามองไปยังเฉียวเวยเวยด้วยสายตามาดร้าย
เฉียวเวยเวยก็มองเขาเช่นกัน ก่อนจะร้องว้าวด้วยความตกใจ “เจ้าปลาอ้วน?”
“?!”
เทพสายน้ำพลันตัวเซ กลิ้งกลุกกลักๆ ลงจากเปลือกหอย…
…
หึ ลูกศิษย์ตัวกะเปี๊ยกของสำนักเชียนหลันหรือ
เทพสายน้ำด้วยลำดับการฝึกตนขั้นผสานตันของตนนี้ การจะรับมือเด็กสักคนนั้นไม่ใช่ปัญหา
ไหนเลยจะรู้ว่าเทพสายน้ำกำลังจะแสดงฝีมือ เฉียวเวยเวยก็กดตัวอ้วนกลมของเทพสายน้ำเอาไว้แล้วมองด้วยความฉงนสงสัย
ฟี้ว…
เทพสายน้ำปล่อยลมออก ร่างที่อ้วนกลมพลันฟีบลง
เฉียวเวยเวยกะพริบตาด้วยความสงสัย คว้าหางของเทพสายน้ำแล้วฟาดเพี๊ยะลงกับพื้น
เทพสายน้ำถูกกระตุ้น ร่างจึงพลันขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง!
เมื่อเป็นเช่นนี้ หลังจากนั้นจีเสี่ยวซิวอายุสามขวบจึงนั่งอยู่บนหลังเต่าตัวโต ไขว้ขา เอามือเท้าคาง ท่าทางเหมือนผู้เป็นใหญ่ทอดสายตามองด้วยความดูแคลน คอยดูเฉียวเวยเวยกดตัวใต้เท้าเทพสายฟ้าจนฟีบแล้วฟาดให้พอง กดให้ฟีบ ฟาดให้พอง กดให้ฟีบ ฟาดให้พอง กดให้ฟีบ ฟาดให้พอง…
เทพสายน้ำแทบอยากจะเสียสติ!
ในที่สุดพวกศิษย์พี่อวี๋ทั้งสามคนก็ตามมาเจอที่นี่เสียที แต่สถานการณ์ช่างต่างกับที่พวกเขาคาดเดาเอาไว้ ที่นี่ไม่มีทั้งมารที่เก่งกาจ ไม่มีทั้งปีศาจน้ำที่น่ากลัว มีเพียงชายชุดดำที่ถูกทำให้ตกใจจนเส้นเลือดในสมองแตก กับปลาปักเป้าตัวใหญ่ที่หัวปักอยู่ในโคลน หางชี้ฟ้าสั่นดิกๆ
ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาพบเจอกับอะไรมา
ตอนศิษย์พี่อวี๋ดึงตัวปลาปักเป้าออกจากโคลน ปลาปักเป้าถึงกับน้ำตาไหล
…