หมอร้ายคลั่งรัก 9

ตอนที่ 9

หมับ อยู่ดีๆ ก็มีมือใครก็ไม่รู้มาแย่งตะกร้าใส่แก้วกาแฟจากมือฉัน ฉันมองตามมือขึ้นไปเจอผู้ชายคนหนึ่งส่งยิ้มมาให้ หืมหล่อจัง

“พี่ช่วย”

“ขอบคุณค่ะ” ฉันปล่อยมือจากตะกร้านั้นฉันจำได้ว่าผู้ชายนี้เป็นพี่พนักงานแผนกวางแผนการผลิต ห้องตรงข้ามแผนกการตลาดที่ฉันอยู่นั่นเอง มีคนมาช่วยทั้งทีจะปฏิเสธทำไมล่ะคะ ดีซะอีกไม่ต้องถือเองให้หนัก ถือเองมาหลายวันจนกล้ามจะขึ้นแล้วเนี่ย พี่เขาเบี่ยงตัวให้ฉันเป็นคนเดินนำฉันเดินนำพี่เขามาจนถึงหน้าห้องแผนกพี่เขาก็ยื่นตะกร้าส่งคืนให้

“ขอบคุณค่ะ” ขอบคุณเขาอีกรอบ

“พี่ชื่อกิตครับน้องอิงชา” เขาพูดแล้วเดินเข้าห้องฝั่งตรงข้ามไป ทิ้งให้ฉันยืนมองตามเขาตาโตมองอยู่ตรงที่เดิม ตกใจสิฉันไม่รู้จักเขา เราไม่เคยคุยกันเลยด้วยซ้ำแล้วเขารู้จักชื่อฉันได้ยังไงเนี่ย

หน้าที่ต่อมาของอิงชาคนนี้ก็คือแจกจ่ายกาแฟตามโต๊ะพวกคุณๆ ทั้งหลาย ไม่รู้ฉันคิดไปเองหรือเปล่าสายตาพี่ๆ แกดูไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไหร่ ปกติก็ไม่ค่อยจะดีอยู่แล้วแต่วันนี้มันมากกว่าเดิมน่ะสิ ฉันก็ไม่รู้นะว่าไปทำอะไรให้พวกพี่แกไม่พอใจกัน แคร์มั้ยฉันไม่แคร์ค่ะทนอีก 2 เดือนฉันก็ไปแล้วไม่อยู่ให้จิกแบบนี้ไปตลอดหรอกนะ ไม่ใช่ฉันไม่สู้คนนะแต่ที่ไม่สู้เพราะรู้ไงว่าไม่เป็นผลดีกับฉันเลย ทนอีกนิดเดียวก็จะจบคว้าปริญญาตรีมาให้กับครอบครัวและตัวเองได้แล้ว

“นั่งพักบ้างเถอะเรา” ในดงกาที่คอยจิกก็ยังมีฝูงมดที่ยังคอยกัดเล็กๆ แทนฉันอยู่ คอยช่วยเหลือในบางครั้งที่พอช่วยได้

ฉันยิ้มให้กับพี่ๆ โต๊ะข้างๆ เขาชื่อพี่เชนกับพี่คิตตี้ พี่เชนพี่ใหญ่ในแผนกผู้ชายอบอุ่นใจดีกับทุกคนเสมอ พี่คิตตี้สาวสองที่สวยมากภายนอกดูร้ายๆ แต่นิสัยน่ารักมาก ทั้งแผนกสิบกว่าคนก็มีพี่สองคนนี้แหละที่คอยช่วยฉัน ที่เหลือก็แบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มพวกพี่ผู้ชายไม่สนโลกไม่ยุ่งกับใครสนใจแค่งานของตัวเอง พวกผู้หญิงรวมทั้งผู้จัดการแผนกพวกนี้ฉันไม่รู้หรอกว่าไปทำอะไรให้ถึงแผ่รังสีแม่มดผู้ร้ายกาจออกมาซะชัดเจนขนาดนั้น

ติ้ง ติ้ง นั่งทำงานมาจนจะใกล้เวลาเลิกงานแล้วเสียงข้อความไลน์ก็ดังขึ้น ฉันหยิบโทรศัพท์เครื่องบางไม่ได้หรูหราเหมือนใครๆ ขึ้นมาดูคิดว่าต้องเป็นพวกเพื่อนๆ เหมือนเช่นทุกวัน แต่มันไม่ใช่ ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอทำให้ใจบางๆ ของอิงชาเต้นไม่เป็นจังหวะ นับจากวันนั้นวันที่เขามาส่งเธอที่หน้าบริษัทวันนั้นเขาก็ไม่เคยติดต่อเธอมาอีกเลย เกือบเดือนแล้วที่เขาหายไป และที่แปลกไปกว่านั้นเขาไม่เคยส่งข้อความหาเธอตอนกลางวันแบบนี้เลย ชั่งใจอยู่นานก็กดเปิดข้อความไลน์ของเขา

พายุ: เลิกงานแล้วรีบลงมา

พายุ: รออยู่ข้างหน้า

ผมกำลังนั่งรอใครบางคน พอดีวันนี้เลิกงานเร็ว ไม่มีเคสด่วนเคสฉุกเฉินเหมือนทุกๆ วัน บังเอิญขับรถผ่านมาทางนี้พอดี บังเอิญใกล้เวลาเลิกงานของใครบางคนพอดี เลยจะขอเป็นคนดีรับกลับไปด้วยสักหน่อย

รอไม่นานผมก็เห็นคนที่ผมรออยู่เดินออกมาจากบริษัทที่เธอฝึกงานอยู่ เธอหยุดมองรอบๆ น่าจะมองหารถผม ผมจะไม่ออกไป จะไม่ไลน์บอก อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะจำรถผมได้มั้ย

“หึ” ความจำดีนี่ผมมองเธอเดินมาที่รถ แต่ก็ไม่มีทีท่าจะเปิดประตูเข้ามา ยืนท่าทางกล้าๆ กลัวๆ ตลกชะมัด

“ต้องให้ฉันลงไปเปิดประตูให้หรือไง” หน้าตาก็ดีไม่น่าเลี้ยงหมาไว้ในปากเลย ได้แค่คิดในใจแหละใครจะไปกล้าพูดให้ได้ยินเล่า แค่นี้ก็กลัวจะตายอยู่แล้วคนอะไรแค่ทำหน้านิ่งๆ รังสีความน่ากลัวไปถึงดาวพฤหัสนู่น

เขาออกรถอย่างรวดเร็วทันที่ที่ฉันปิดประตูรถไม่ได้สนใจเลยว่าฉันยังคาดเบลไม่เสร็จ หน้าจะทิ่มชนคอนโซลรถหรูของเขาหรือเปล่า อิงชาคนนี้ทำได้แค่นั่งเงียบๆ ไม่คิดที่จะถามเขาสักคำว่าเขาจะพาฉันไปไหน ไปไหนก็ไปเถอะตอนนี้ขอพักสายตาก่อนฉันเหนื่อยมาก มาฝึกเหมือนมาสนามรบ

“ตื่น” เสียงเบาๆ ที่เรียกไม่ได้ทำให้อิงชาตื่นได้หรอกสิ่งที่ทำให้ตื่นคือแรงเขย่าอย่างกับแผ่นดินไหวต่างหาก ไม่คิดจะถนอมรางกายอันเบาะบางของอิอิงสักนิดเลยหรือไงเนี่ย ฉันลืมตามองรอบๆ ข้างรู้ได้เลยว่าที่นี่ที่ไหนและมันก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายสักเท่าไหร่

Options

not work with dark mode
Reset