“เรียนต่ออีกปีไง” โอ้ยพี่หมอพูดออกมาได้หน้าตาเฉย
เฮลโหลอิงชาอยู่นี่ช่วยหันมาสนใจกันบ้างสิคะทุกคนรู้มั้ยคุณหมอนั่งพิงหัวเตียงข้างฉันก็จริงแต่เขาไม่ได้สนใจฉันเลยจร่า เล่นเกมส์อยู่คร่าเห็นบอกว่ากำลังแข่งกับเพื่อนอยู่ จร้าเอาเลยจร้าพี่หมอ บางทีก็สงสัยว่านี่คือหมอจริงๆ ใช่มั้ย รักษาคนไข้ได้ใช่มั้ย ผ่าตัดเป็นจริงหรอ
“นอนได้แล้วพรุ่งนี้จะได้กลับ” อยู่ดีๆ เสียงพี่หมอก็ดังขึ้น ได้กลับแล้วจริงอะ
“จริงนะ” ฉันหันไปยิ้มถามเขา เขาแค่เหลือบตามองนิดเดียวพยักหน้า แล้วก็สนใจเกมส์ต่อ แต่ไม่เป็นไรให้อภัยหนูอิงอารมณ์ดีจะได้ออกไปเจอโลกภายนอกแล้ว
“แต่ไปอยู่คอนโดพี่นะ” เห้ยได้ไงอะ
“ไม่เอาอะ” ฉันปฏิเสธทันทีจะให้ไปอยู่ฐานะอะไรก็ไม่รู้
“ไม่ไปก็อยู่ที่นี่แหละ”
“จะบ้าไงหนูบอกแล้วว่าต้องไปฝึกงาน จะแกล้งกันหรือไง” งอนแล้วนะเว้ย
“……” เงียบไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
ผมเงียบไม่ตอบเหลือบตามองเธอนิดนึงแล้วหันมาสนใจหน้าจอโทรศัพท์ต่อ ตอนนี้ผมเลิกเล่นเกมส์แล้ว เปลี่ยนมาเข้าเฟสบุ๊คแทน ผมก็ชอบนะโซเชียลแต่ไม่ค่อยมีเวลาเล่นหรอก เคยโพสอะไรบ้างมั้ยก็ลงนะส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการแพทย์ สุขภาพ โรคต่างๆ ซะมากแต่ช่วงนี้ไม่ได้ลงหรอกครับตอนนี้เป็นเสือซุ่มส่องอย่างเดียวจะส่องใครล่ะก็คนข้างๆ ผมเนี่ยแหละ
“พี่งอนหนูอยู่นะ” เห้ยๆ เดี๋ยวนะงอนอะไร งอนเรื่องอะไร เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะคุณหมอคนที่ควรงอนต้องเป็นอิอิงคนนี้ไม่ใช่หรอ
“หนูทำไรผิดอะ” ถามด้วยความงงสงสัยจริงๆ ฉันอยู่ของฉันดีๆ กลายเป็นคนผิดซะงั้น
“……..” ผมก็ยังไม่ตอบ ได้แต่นั่งเงียบเล่นโทรศัพท์ต่อแต่ไม่ใช่เครื่องของผมนะของคนข้างๆ ก็เครื่องนี้มีเกมส์ที่เครื่องผมไม่มีนี่นาเล่นไปเล่นมาก็เพลินดีนะ
“พี่คินขาบอกหนูอิงหน่อยนร้า” ผมชอบมากเลยเวลาหนูอิงอ้อนแบบนี้ ถ้าจะถามแล้วทำท่าแบบผมว่ากลับเถอะกลับคอนโดตอนนี้เลยดีกว่า ไอท่าที่ว่าเนี่ยคือมองทำตาปริบๆ คิ้วขมวด แก้มป่องๆ ปากยู่ โคตรน่ารักเลยพากลับไปนอนฟัดที่คอนโดดีกว่ามั้งใจอยากจะทำตอนนี้เลยแต่ไม่ได้ไงที่นี่ที่โรงพยาบาลนะครับ
ตอนนี้ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ต้องทำคือ คิดก่อนว่าจะงอนเรื่องอะไร ก็ไม่ได้คิดจะงอนอะไรนี่หว่าแค่อยากแกล้งเฉยๆ ผู้หญิงอะไรน่าแกล้งชะมัด แต่ตอนนี้ผมต้องงอนเรื่องอะไรดีวะเนี่ย
“บอกหนูอิงหน่อยนะ นะคร้า” เสียงหวานก็ยังไม่หยุดหนูอย่าพึ่งอ้อนตอนนี้ได้มั้ยพี่ยังคิดเรื่องไม่ออกเลยครับ อ้อนทีไรสมาธิแตกกระเจิงทุกทีเลยสิ
“…….” ความเงียบสยบทุกสิ่ง ที่เงียบคือผมไม่ได้โกรธไม่ได้งอน แต่ผมกำลังคิดเรื่องงอนอยู่เว้ย
“ก็หนูไม่ไปอยู่กับพี่” โอ้ยกว่าจะพูดได้เรื่องแค่เนี้ยเป็นถึงคุณหมอเรื่องแค่นี้คิดไม่ได้ จะให้ไปอยู่ได้ไงล่ะเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย
“จะไปได้ไง” ฉันตอบเขาทันทีแทบไม่ต้องคิดอะไรเลยด้วยซ้ำ
“ทำไมจะไม่ได้” ทำไมจะต้องเสียงดังใส่ด้วยล่ะฉันก็พูดกับเขาเสียงปกตินี่หว่า
“ก็เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” จะว่าไม่เป็นก็ไม่ใช่นะฉันเป็นของเล่นของเขาแต่ก็ไม่เห็นจะต้องไปอยู่กับเขาเลย
“ที่พูดไปวันนั้น ที่ทำอยู่ทุกวันเนี้ยไม่ได้เป็นอะไรกันหรอ” วันนั้นวันไหนล่ะคะพี่หมอ ก็เห็นพูดทุกวันวันละหลายๆ เรื่องใครจะไปจำได้เล่า
“วันไหนล่ะ เห็นพูดทุกวัน วันละหลายเรื่องด้วย” หน้ายู่ใส่เขาสงสัยก็ถามสิคะจะเก็บไว้ให้อึดอัดทำไม
“อิงชาไม่รู้จริงหรือแกล้ง” เอ้าก็คนไม่รู้จริงๆ อะ
“ก็หนูไม่รู้จริงๆ วันๆ พี่พูดเยอะกว่าหนูอีก” หน้าหมางงขนาดนี้แกล้งมั้งคะพี่หมอ งงจริงๆ ค่ะ
“มีเมียทั้งทีทำไมต้องโง่ด้วยวะ” ใครโง่พูดดีๆ นะเว้ยพี่หมอ
“หนูไม่ได้โง่สักหน่อยสอบได้ทุนมาตลอดเลยนะบอกไว้เผื่อไม่รู้” กล้ามาว่าฉันโง่หรอไม่ยอมหรอก ถึงบางครั้งจะโง่จริงก็เถอะ เชอะสะบัดหน้าหนีเขาแต่สงสัยจะแรงไปหน่อยปวดๆ คอเลยแหะ แต่ทนไว้ก่อนเชิดเขาไว้เดี๋ยวเสียฟอร์ม
“ก็ยอมรับนี่” ยอมรับเรื่องอะไรอะ จากหน้าหมางงอยู่แล้วงงหนักเลยทีนี้
“ก็เป็นเมียพี่ไงยอมรับเองแล้วนะ” เฮ้ยๆ เดี๋ยวๆ ฉันไปยอมรับตอนไหน ย้อนกลับไปฟังใหม่ได้มั้ย ฉันหันมามองหน้าพี่หมอ นิ่งค่ะ พยายามใช้สมองอันน้อยนิดย้อนกลับไปว่าเราคุยอะไรกันบ้าง หึ้ย!!! ทำไมไม่คิดก่อนพูดวะอิงชา แต่เขาบอกว่าฉันเป็นเมียหรอ บ้าเขินเป็นนะ แฟนยังไม่เคยมีเลยแต่มีสามีแล้วหรอเนี่ย