“หนูเจ็บแขนจะกินยังไงล่ะ” เออใช่อย่าบอกนะว่าพยาบาลแค่เอาชามโจ๊กมาตั้งไว้แล้วออกไปเลย เออดีครับผิดเองที่ดันใช้คนผิดดันไปใช้คนงานเยอะซะด้วย แขนที่หักน่ะแขนซ้าย แต่แขนขวานี่ก็ได้แผลถลอก ช้ำหลายที่เลยเรียกว่ากำลังระบมเลยแหละ
หนูอิงทำหน้างอเลยใหญ่เลยครับ ยิ่งเหมือนเด็กเข้าไปใหญ่เลยฮ่าฮ่า จะขำเสียงดังก็เกรงใจเดี๋ยวเด็กน้อยงอน
“มาครับ เดี๋ยวพี่ป้อนนะกินเสร็จแล้วจะได้กินยา”
“มีอีกมั้ยอะ” เดี๋ยวนะผมช็อกแปบ ในชามที่หมดไปคือโจ๊กชามใหญ่เลยนะแล้วแม่คุณกินหมดเกลี้ยงเลยแล้วยังจะมาถามว่า ‘มีอีกมั้ย’ อีกหรอวะ ผมว่านะสกิลการกินคงจะไม่ธรรมดาแล้วนะเมียผมเนี่ย
“พอแล้วหนูกินเยอะไปแล้ว” เชี้ยมองตาขวางเลยครับ แล้วผมต้องทำไงซื้อมาแค่ถุงเดียวใครจะไปคิดว่าคนป่วยพึ่งออกจากห้องผ่าตัดจะกินเยอะขนาดนี้ เคยเจอแต่กินมากสุดครึ่งถ้วยก็เก่งมากแล้วนะยอมแล้วครับยอมแล้วมองซะตาขวางแบบนี้กินหัวพี่เลยมั้ยน้อง เห็นว่าป่วยนะถึงยอม หายแล้วจะคิดต้นทบดอกให้ดู
“แค่นมพอนะ” ผมยื่นข้อเสนอถึงไม่พอก็ต้องพอล่ะ
“อยากกินข้าวอะ ราดหน้า ก๋วยเตี๋ยวก็ได้” พูดไปตานี่เป็นประกายเชียวนะ น่ารักจัง แต่เห้ยไม่ได้ใจอ่อนไม่ได้
กว่าจะพูดให้ยอมได้ถึงกับเหงื่อซึมกันเลย สุดท้ายก็จบลงที่นมจืด 1 กล่อง
“หนูอิง หนูอิง”
“คะ”
พี่หมอเรียกอะไรนักหนาก็ไม่รู้ทุกคนรู้มั้ยว่าตอนนี้เขาผิดกับคนเมื่อเช้าและหลายเดือนที่ผ่านมามากเลย คนอะไรก็ไม่รู้ขยันหาเรื่องคุยหาเรื่องถามจังเลย แถมคำพูดก็เปลี่ยนไปมันไม่ชินยังไงก็ไม่รู้ คือฉันกำลังดูซีรีย์อยู่อะ เรื่องนี้ฉันติดมากเลยนะ โชคดีจังที่ทีวีในโรงพยาบาลมีช่องนี้ดูกันไปยาวๆ ได้เลย
พี่หมอแกก็หอบงานโน๊ตบุ๊คขึ้นมานั่งทำงานไปด้วยเฝ้าฉันไปด้วย แต่ก็หลายครั้งนะที่โดนตามตัว ไปครั้งหนึ่งก็ไม่นานหรอก 30-50 นาที
“รหัสโทรศัพท์หนูอะไรอะ”
“3124”
เฮ้ย อะไรนะ คือคนกำลังเพลินไงแล้วอะไรมาหลอกถามกันแบบนี้ได้ด้วยหรอ ฉันหันไปมองเขาที่ตอนนี้นั่งเล่นโทรศัพท์ฉันอยู่ไง โอ้ยมึนกว่านี้มีอีกมั้ยเนี่ย
“กีต้าร์ เสือ ใคร” เออเล่นของเขายังจะมาทำเสียงโหดใส่อีก ตอบมั้ยล่ะ
“เพื่อนในกลุ่ม” ตอบสิ เขาพยักหน้าเบาๆ แต่มือก็ยังกดๆ เลื่อนๆ หน้าจออยู่
“เพื่อนถามว่าฝึกงานเป็นไงบ้าง” ….คำถามนี้แม่งโดนใจค่ะเจ็บจี๊ดไปถึงทรวงเป็นไงดูสภาพอิอิงตอนนี้สินอนเดี้ยงอยู่เนี่ย
“เหนื่อยมาก…ไม่เอาๆ ไม่ต้องตอบหรอกไม่ต้องบอกเพื่อนหนูนะเดี๋ยวพวกมันเป็นห่วง” เขาไม่ตอบอะไรได้แต่พยักหน้านิ่งๆ
ช่างเถอะอยากจะเล่นอะไรเล่นไปเถอะไม่มีความลับอะไรอยู่แล้วนี่ ถึงโทรศัพท์จะอยู่กับฉันก็เล่นไม่ได้อยู่ดี
กริ้ง กริ้ง
“ครับ ครับ”
เสียงโทรศัพท์เขาดังเขาก็รับทันทีพูดอยู่แค่ 2 คำแล้วก็ลุกขึ้น อีกแล้วสินะ สงสารจังเขาพึ่งขึ้นมายังไม่ถึง 15 นาทีเลยนะต้องลงไปอีกแล้วหรอ
“หนูนอนไปเลยนะ” เขาหันมาบอกฉันมือก็หยิบเสื้อกราวน์ใส่ไปด้วย
“นานหรอคะ” ฉันถามบางทีอยู่คนเดียวก็เหงาไปนะดีออกเวลาเขาอยู่มีคนคอยกวนด้วยไม่เหงาดีฉันชอบ
“มีคนไข้ฉุกเฉินต้องผ่าตัดครับ”
จุ๊บ
หึ้ย คืออะไรเดินมาจุ๊บหน้าผากเค้าแล้วเดินออกไปเฉยเลย บ้าหรอเค้าเขินนะ
“พี่หมอเมื่อไหร่จะได้ออกจากโรงบาลอะ” ฉันถามพี่หมอที่ตอนนี้พึ่งออกเวรและก็ไม่มีผ่าตัดดัวย เขาเลยมานั่งเล่นนอนเล่นอยู่บนเตียงคนป่วยกับฉันเนี่ย บางทีก็สงสัยนะว่าใช่เตียงสำหรับคนป่วยจริงหรอมันกว้างมากขนาดนอนกัน 2 คนยังมีที่ว่างเหลืออะ
“ก็หนูยังไม่หายจะรีบไปไหน” โอ้ยไม่หายอะไรล่ะฉันนั่งๆ นอนๆ มาจะ 1 อาทิตย์แล้วนะ แผลก็หายแล้วด้วยพรุ่งนี้ก็ตัดไหมหมดแล้วนะเหลือก็แต่แขนที่เข้าเฝือกอยู่ ถ้าจะให้อยู่รอเอาเฝือกออกอีกตั้ง 2 เดือนไม่เอาด้วยหรอกนะ
“หายแล้วพรุ่งนี้จะตัดไหมแล้วนะหนูต้องไปฝึกงานอีกนะไม่จบขึ้นมาจะทำไงเล่า” สกิลการเถียงไว้ใจอิงชาค่ะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี่ไม่กล้าแม้แต่จะอ้าปากด้วยซ้ำ แต่หลังจากอยู่กับเขาในห้องแคบๆ นี้มาหลายวันรู้เลยคุณหมอนาคินเนี่ยไม่ได้มีความน่ากลัวเลยสักนิด ขี้แกล้งบางทีต้องแกล้งงอนบ้างร้องไห้บ้างถึงจะหยุด มึน พูดมากอีกต่างหาก
“เรียนต่ออีกปีไง” โอ้ยพี่หมอพูดออกมาได้หน้าตาเฉย