“ไม่ไม่เอา เจ็บ โอ้ย ไม่เอา” ผมเดินไปที่เตียงพยาบาลหันมาเห็นจึงหลีกทางให้ผม
ทันทีที่เห็นคนที่ร้องไห้อยู่บนเตียงใจผมหล่นวูบ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะมันปวดหนึบไปหมด เกิดอะไรขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น” ผมถามเสียงเรียบแต่ดังพอสมควร จนทุกคนหันมามองผมรวมถึงคนไข้บนเตียงด้วยเธอดูตกใจแต่คงเจ็บมากกว่าจะตกใจ ตอนนี้ยิ่งเบะปากทำท่าจะร้องไห้หนักกว่าเดิมเสียอีก
“เอ่อ คนไข้ไม่ยอมเย็บแผลค่ะคุณหมอ” พยาบาลเป็นคนตอบผม
“ผมไม่ได้ถามคุณ ผมถามพวกคุณว่าเกิดอะไรขึ้น” ผมบอกพยาบาล แล้วหันไปจ้องหน้าบุคคลแปลกหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นคนที่บริษัทที่อิงชาฝึกงานอยู่
“เอ่อ เอ่อ”
“เอ่ออยู่นั่นแหละตอบมาสิโว้ย” โมโหชิบหายแม่งเอ้ยถามอะไรก็ไม่ได้คำตอบ
“อิงผิดเอง ฮือ ฮือ อิงเดินไม่ระวังเอง ฮือเจ็บบบอิงเจ็บบบ” กลายเป็นอิงชาที่ตอบออกมา ตอบไปร้องไห้ไปแถมยังจะมาทำเสียงอ้อนในตอนท้ายอีกใจผมอ่อนยวบเลยให้ตายเถอะทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ
ผมเดินเข้าไปลูบผมอิงชาที่นอนอยู่บนเตียงน้ำตานองหน้า
“ไม่ร้องแล้วนะครับเดี๋ยวก็หายแล้ว” ผมไม่เข้าใจตัวเองทำไมต้องอ่อนโยนกับเธอขนาดนี้ด้วย รู้แต่แค่เห็นเธอเจ็บผมอยากจะเป็นคนที่เจ็บแทนเธอเหลือเกิน หัวแตก แขนหัก เลือดเต็มเสื้อนักศึกษาทั้งๆ ที่ควรจะขาวสะอาดอย่างที่ควรจะเป็น ขามีแผลน่าจะมีเย็บ 1-2 แผล
“เจ็บ” อิงชาตอบเสียงเบาน้ำตาก็ไหลไม่หยุด ผมใช้มือคอยเช็ดน้ำตาให้เบาๆ
“อิงฟังพี่คินนะครับอิงต้องเย็บแผลก่อนนะครับแล้วพี่จะรักษาแขนให้อิงเองนะครับ” อิงชามองตาผมตอนแรกมีแววตากล้าๆ กลัวแต่สุดท้ายก็พยักหน้ายอม
ผมหันไปพยักหน้าให้หมอที่จะเย็บแผล แต่เห้ย เดี๋ยวนะ
“เดี๋ยว!!!”
“ครับพี่หมอ” หมอคนนี้มันเป็นรุ่นน้องผม
“จะไม่ฉีดยาชาหน่อยหรอ”
“แต่…” ดูมันยังจะเถียงผมอีก
“ไปเอายาชามา เมียกูทำให้ดี” ผมหันไปสั่งพยาบาล แล้วหันไปสั่งไอหมอรุ่นน้อง เสียงผมไม่เบาหรอกนะ บอกแล้วว่าตอนนี้อารมณ์ผมไม่ปกติถ้าไม่ติดว่าอิงชาเจ็บหนักผมต้องซักฟอกให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้แล้วก็จะจัดการกับไอคนที่ทำให้อิงชาเป็นแบบนี้
“ห๊ะ/ห๊ะ/เฮ้ย” จะตกใจกันทำไมวะทั้งหมอทั้งพยาบาลทั้งคนไข้เนี่ย ทำไมคนอย่างผมจะมีเมียไม่ได้ไง ก็แค่บอกว่าเมียผมแล้วไงวะ ยอมรับอย่างแมนๆ ลูกผู้ชายคุยกัน เอากันขนาดนี้ไม่เรียกว่าเมียให้เรียกว่าอะไรครับ
ดูเหมือนว่าทุกคนจะตกใจได้ไม่นานเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ฮือ ฮือ” อิงชาร้องไห้ไม่หยุดเลยคงเจ็บมากสินะ ผมอยากเจ็บแทนเธอจริงๆ ผมเดินอ้อมไปอีกฝั่งเตียงเพื่อหลีกทางให้ไอหมอรุ่นน้องเย็บแผลได้สะดวกใจอยากทำเสียเองแต่มันคนละหน้าที่คนละแผนกก้าวก่ายกันไม่ได้
“อิงครับเล่าให้พี่คินฟังหน่อยได้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น” ผมถาม
“อิง อิง แค่จะไปกินข้าวแต่อิงเดินไม่ระวัง ไม่ดูรถเองค่ะ” เธอตอบแต่หลบตาผม
“อิงชาพูดความจริง” ผมรู้ว่าเธอไม่พูดความจริงทั้งหมด
“เอ่อ คือ เอ่อ” เอ่อแบบนี้แล้ววันนี้จะรู้เรื่องกันมั้ยวะ
“โอเค ใครเป็นคนขับ” คราวนี้ผมไม่ถามเธอแล้วแต่หันมาถาม 3 คนที่ยืนอยู่ ชาย 1 หญิง 2 ดูจากป้ายชื่อแล้วก็คงอยู่แผนกเดียวกับอิงชาสินะ
“……..” ความเงียบคือสิ่งที่ผมได้ ผมไม่ได้บอกว่าผมเก่ง แค่ผมดูคนเป็นใครพูดจริงพูดโกหกผมดูเป็น
“ผมถาม” ย้ำถามอีกครั้ง
“ไม่ทราบค่ะเราไปก็เจอน้องนอนอยู่ข้างถนนแล้ว” ผู้หญิงหนึ่งในพนักงานตอบผมแต่ก็ไม่กล้าที่จะสบตาผมอีกเช่นกัน
ผมเดินเลี่ยงออกมาหลังจากที่เห็นว่ายาชา ยานอนหลับออกฤทธิ์แล้ว ตอนนี้อิงชากำลังสะลึมสะลือแล้ว ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก
“เฮียผมต้องการดูกล้องวงจรปิดตอนเกิดอุบัติเหตุหน้าบริษัทด่วน”
(อุบัติเหตุอะไรวะ)
“ก็ไม่รู้หาให้หน่อยด่วน”
(เอ่อๆ แม่งน้องหรือพ่อกูวะ)
“จะน้องหรือพ่อเฮียก็ต้องทำ” ผมกดวางสายไป
‘จริงหรอแฟนหมอนาคินจริงหรอ’
‘เจ้าชายของฉันไม่โสดแล้ว’
‘เป็นไรแก’
‘อกหักหมอนาคินมีเมียแล้ว’
‘เฮ้ยจริง’
‘จริงอยู่ห้องฉุกเฉินตอนนี้ พี่ตาลบอกเองเลยหมอนาคินอาละวาดใหญ่เลย’
ตลอดทางที่เดินสาบานว่าไม่ได้ยินเลยไม่ได้ยินเสียงคุยกันเรื่องอื่นเลยคุยกันแต่เรื่องกูเนี่ย ชัดทุกคำทุกประโยคเลย แต่อะไรผมยังไม่ได้อาละวาดอะไรเลยพูดกันเกินความจริงอีกแล้วนะเว้ย
ผมเดินเข้ามาในห้องฉุกเฉินเห็นอิงชาหลับไปแล้ว หมอรุ่นน้องกำลังเย็บแผลที่ขาอยู่ ยัยตัวเล็กเอ้ยคงเจ็บน่าดูตื่นมาจะตกใจแค่ไหนอยู่ดีๆ ต้องโดนเย็นถึง 3 แผลแถมยังต้องโดนผ่าตัดแขนที่หักจนผิดรูปอีก ถ้าบอกว่านี่คืออุบัติเหตุเล็กๆ ผมไม่เชื่อเด็ดขาด ต้องแรงขนาดไหนแขนถึงได้หักแบบนี้