บทที่ 559 ซ่อนความสามารถ
หลังจากนั้น ลู่เสี้ยงหยางรอการทดสอบอย่างเงียบ
ไม่นาน น้ำเสียงที่คุ้นเคยแล่นเข้ามาจากด้านข้างของเขา “อ้าว แกเองหรือลู่เสี้ยงหยาง ไม่คิดเลยว่านายจะมาสมัครเข้าร่วมการทดสอบของสำนักกลั่นอาวุธด้วย”
ลู่เสี้ยงหยางหันกลับไปที่ต้นตอของเสียง ก็ได้พบกับฟ้านเจา
ก่อนหน้านี้ ลู่เสี้ยงหยางได้เข้าศึกษาที่สถาบันหลงเสิน ฟ้านเจาเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเขา และเป็นรูมเมทของเขา
ลู่เสี้ยงหยางกับเขามีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวต่อกัน และแน่นอนว่าความสัมพันธ์กับรูมเมทอีกสองคนอย่างจางสู้และเซียวมู่ไป๋ ลู่เสี้ยงหยางก็มีความสัมพันธ์ที่ดีเช่นเดียวกัน
ในเวลานี้เมื่อเขาเห็นฟ้านเจา ลู่เสี้ยงหยางเองก็ตระหนกอยู่ไม่น้อย “ไม่คิดเลย ว่าจะเจอนายที่นี่”
เขากล่าวพลางเอื้อมมือต่อยที่ไหล่ของเขาเบาๆ
ฟ้านเจากล่าวด้วยรอยยิ้ม “หลังจากคราวก่อนที่สถาบันหลงเสิน ดานเถียนของนายถูกอาจารย์จูหยู่เจินแทงทะลุ เราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ฉันอยากจะหาเวลาให้เราสี่คนได้รวมตัวกันสักหน่อย”
ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้ารับ ช่วงนี้ไม่ได้เจอสหายทั้งสามอย่างฟ้านเจา เซียวมู่ไป๋และจางสู้ เขาเองก็รู้สึกคิดถึงทั้งสามบ้าง
หลังจากนั้นภายใต้บทสนทนา ลู่เสี้ยงหยางและฟ้านเจาใกล้จะถึงคิวการทดสอบของพวกเขาแล้ว
ในการทดสอบ ได้มีการจัดโต๊ะเอาไว้หนึ่งใบ บนโต๊ะได้มีลูกหินขนาดเท่าลูกบาสเกตบอลวางเอาไว้
การทดสอบนั้นง่ายมาก เพียงแค่นักบู๊เอื้อมมือวางลงบนลูกหิน จากนั้นจึงกระตุ้นปราณ หากสามารถทำให้ลูกหินเกิดแสงสว่างขึ้นมาได้ ก็ผ่านการทดสอบแล้ว
หากสามารถทำให้ลูกหินเกิดแสงสว่างไสวขึ้นได้มากเท่าไหร่ ก็เท่ากับว่าพรสวรรค์ที่จะเป็นนักกลั่นอาวุธก็สูงขึ้นเท่านั้น
ไม่นาน สามคนข้างหน้าก็ตกรอบไป ถึงคิวฟ้านเจาในการทดสอบ
ฟ้านเจาเดินไปที่จุดทดสอบ เขาเอื้อมมือวางลงบนลูกหิน กระตุ้นพลังปราณให้หมุนเวียน
เดิมทีลูกหินที่มีสีดำ เกิดแสงสีฟ้าขึ้นกะทันหัน
เวลาที่แสงสีฟ้าปรากฏขึ้นนั้น เพียงแค่ชั่วครู่ เพียงแค่กะพริบก่อนที่จะดับไป เสมือนกับอาร์กไฟ
ชายหนุ่มสองคนที่ยืนอยู่ที่จุดทดสอบ คืออาจารย์ผู้ทดสอบ ทั้งคู่ต่างสายตาประกาย
นักบู๊ทั้งหลายสามารถทำให้ลูกหินเผยแสงสว่างที่ริบหรี่เท่านั้น แต่ฟ้านเจาทำให้ลูกหินมีสีฟ้าประกาย
พรสวรรค์ในตัวเขานั้นถึงขั้นสูงเลยทีเดียว หากได้รับการฝึกฝน อนาคตต้องเป็นนักกลั่นอาวุธที่เก่งกาจแน่
“หมายเลข980ผ่านการทดสอบ ขอเชิญเข้าไปด้านในเพื่อเตรียมการต่อไป” ในตอนนี้เองชายวัยกลางคนหนึ่งในนั่นกล่าวกับฟ้านเจา
ฟ้านเจาพยักหน้ารับ พลันหันกลับไปมองลู่เสี้ยงหยาง ก่อนที่จะเดินเข้าประตู
ลู่เสี้ยงหยางเดินไปข้างหน้า เพื่อเตรียมตัวทดสอบ
ผู้คนมากมายด้านหลังเขา เริ่มวิพากษ์วิจารณ์
“การทดสอบการรับศิษย์เข้มงวดมาก ไอ้หมอนี่คงจะไม่มีโอกาสแน่”
“นั่นสิ เปอร์เซ็นต์ตกรอบสูงมากโข ข้างหน้าเพิ่งจะเข้ารอบไปหนึ่งคน เปอร์เซ็นต์ผ่านการทดสอบน้อยมาก”
ภายใต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คน ลู่เสี้ยงหยางเอื้อมมือแตะลงที่ลูกหิน
ปราณในร่างทำงาน ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกได้ ถึงพลังดึงดูดที่น่ากลัวบนลูกหินสีดำนี่ ดูดปราณของเขาเข้าไป
ซวย!
แสงสีทองแสบลูกตา ประกายขึ้นในลูกหินกะทันหัน
สิ่งนี้อยู่ในความคาดหมายของลู่เสี้ยงหยางอยู่แล้ว ลู่เสี้ยงหยางมั่นใจว่าเขาจะผ่านการทดสอบของการทดสอบรับศิษย์ของสำนักกลั่นอาวุธ
ก่อนหน้านี้ หยกที่เทพเทียนหัวให้เขาเอาไว้ เขาได้เรียนรู้การกลั่นอาวุธมาบ้าง
นั่นหมายความว่า หากกระตุ้นปราณธาตุไฟได้
ตอนนี้วิชานรกอมตะที่ลู่เสี้ยงหยางฝึกฝน แม้ว่าจะกระตุ้นพลังธาตุไฟไม่ได้ แต่วิชามหัศจรรย์บ้อเก๊กที่เขาฝึกฝน พลังธาตุทองไม้น้ำไฟดินในร่างเขา ก็สามารถใช้ได้ผลเช่นเดียวกัน
เพราะงั้นลู่เสี้ยงหยางจึงสามารถผ่านการทดสอบไปได้
แต่วินาทีต่อมาอุบัติเหตุก็ได้เกิดขึ้น
ลู่เสี้ยงหยางตกใจ แรงดึงดูดอันน่าสยดสยองจากลูกหิน กลับคิดที่จะดูดพลังจิตของเขา
ลู่เสี้ยงหยางรีบป้องกันพลังจิต ผลักแรงดึงดูดนี้ออก
ลู่เสี้ยงหยางไม่มั่นใจ ว่าหลังจากที่ลูกหินนี้ดูดพลังของเขา จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
การที่เขาเข้าร่วมสำนักกลั่นอาวุธในครั้งนี้ ก็เพื่อค้นหาการจดบันทึก หายาที่กงหยู่หนิงว่านั้นให้พบ เพื่อรักษาอาการของเย่สวน
อันที่จริง เขาเข้าร่วมสำนักกลั่นอาวุธก็เพื่อค้นหายาวิเศษเท่านั้น ไม่ต้องการเป็นที่จับตามองของทุกคน
เพราะงั้นลู่เสี้ยงหยางขอเพียงแค่ผ่านการทดสอบเท่านั้น
คนที่วิพากษ์วิจารณ์ลู่เสี้ยงหยางเมื่อสักครู่ ชั่วพริบตา ทุกคนต่างอึ้ง จับจ้องลู่เสี้ยงหยางอย่างตะลึง
ให้ตาย ไอ้หมดนี่ก็ผ่านการทดสอบงั้นหรือ
ชายหนุ่มวัยกลางคนที่มีหน้าที่ทดสอบต่างก็เผยสีหน้าประหลาดใจ ศิษย์ที่มาทดสอบในรอบนี้ มีหลายคนที่มีพรสวรรค์
“ฮ่าฮ่า ดี ดีมาก หมายเลข981แกเองก็ผ่านการทดสอบ เข้าไปรอด้านในได้เลย” ชายวัยกลางคนคนหนึ่งหัวเราะขอบใจ ด้วยความเป็นมิตร
ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้า ขยับฝีเท้าเตรียมเดินเข้าไปด้านใน
ในการทดสอบ ชายสามคนหลังจากนั้นตกรอบไปอีกหน
แต่เมื่อถึงศิษย์คนที่สี่ ก็เกิดเสียงโห่ร้องขึ้นกะทันหัน
“ให้ตาย ดูเร็ว ลูกหินนั่นถูกจุดประกายแล้ว”
“ให้ตาย พลังนี่น่ากลัวชะมัด”
เมื่อได้ยินเสียงโห่ร้องลู่เสี้ยงหยางหันหน้ากลับไป ก็ได้พบกับลูกหินสีดำ เปล่งประกายแสงสีแดง แสงสีแดงห่อหุ้มลูกหินเอาไว้
มองจากที่ไกลๆ เสมือนกับว่าลูกหินนี้ เพิ่งจะถูกนำขึ้นมาจากเบาะเลือด
ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นฟ้านเจาหรือลู่เสี้ยงหยาง เขาพวกเพียงแค่ทำให้ลูกหินนี้เกิดประกายแสง
แต่ตอนนี้ ลูกหินถูกจุดประกายทั้งลูก แสงสีแดงห่อหุ้มลูกหินเอาไว้ทั้งลูกเป็นชั้น
ความแตกต่างนี้ เห็นได้อย่างชัดเจน
แต่ต่อให้เป็นอย่างนั้น ลู่เสี้ยงหยางก็ไม่รู้สึกสลดแต่อย่างใด
เมื่อสักครู่ที่กระตุ้นปราณ เขาเพียงแค่ปล่อยปราณออกมาเพียงเล็กน้อย เพื่อให้ลูกหินดูดซับ ไม่ได้ใช้ปราณทั้งหมด และพลังดึงดูดในกล่อง ขณะที่ดูดพลังจิตของเขาก็ถูกผลักออกเช่นเดียวกัน
สามารถบอกได้ว่าลู่เสี้ยงหยางซ่อนพลังเอาไว้99เปอร์เซ็นต์ เขาเพียงใช้พลังแค่1เปอร์เซ็นต์ก็สามารถจุดประกายลูกหินได้แล้ว
ในเวลาเดียวกัน ชายวัยกลางคนเองก็ตกใจเช่นเดียวกัน ร่างกายเกิดสั่นเทาเล็กน้อย มาหยุดอยู่ที่ข้างผู้ทดสอบ พร้อมกล่าวถามอย่างตื่นเต้น “นายชื่ออะไร?”
ผู้ที่ทดสอบกล่าวเสียงเรียบ “หยางซ่าวฝัน”
ชายวันกลางคนสองคนพยักหน้ารัว “ดีดี ดีมาก หยางซ่าวฝัน เข้าไปด้านในได้เลย รอการจัดการข้างในต่อ”
ความเป็นมิตรนี้เมื่อเทียบกับความเย็นชาของผู้อื่น ต่างกันราวกับฟ้า กับดิน ต่างกันราวกับก้อนเมฆและดิน
“อืม” หากแต่ความเป็นกันเองของชายทั้งสอง หยางซ่าวฝันเพียงแค่พยักหน้ารับเบาๆ ด้วยสีหน้าเย็นชา ก่อนที่จะขยับฝีเท้าเดินเข้าไปที่ประตูใหญ่
ความหยิ่งยโสเช่นนี้ ไม่วางผู้ทดสอบทั้งสองเอาไว้ในสายตาแม้แต่น้อย
ไม่นาน เมื่อหยางซ่าวฝันเดินผ่านลู่เสี้ยงหยาง เพียงแค่เหลือบตามองเท่านั้น ด้วยสีหน้าเย็นชา
ลู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาได้จดจำชื่อนี้เอาไว้แล้ว หยางซ่าวฝัน