บทที่ 530 เรื่องใหญ่
ต่อจากนั้น ลู่เสี้ยงหยางอยู่เฝ้าเย่สวนที่โรงพยาบาลเงียบๆ ทั้งวัน
เวลาผ่านไปอย่าวรวดเร็ว พริบตาผ่านไปสามวัน
ในสามวันนี้ลู่เสี้ยงหยางไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลแม้แต่ก้าวเดียว ในระหว่างนี้ ยามเช้าโอหยางรั่วสุ่ยและชิวรั่วหานก็จะมาอยู่เฝ้าเย่สวนด้วย
ชิวรั่วหานดูออกว่าลู่เสี้ยงหยางเป็นห่วงเย่สวนมาก เพราะงั้นเธอจึงค่อยเล่าเรื่องให้ลู่เสี้ยงหยางขำ อยากให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง
ลู่เสี้ยงหยางเข้าใจถึงความประสงค์ดีของโอหยางรั่วสุ่ย ในใจรู้สึกปลาบปลื้ม แม่หนูนี่คอยเป็นห่วงเป็นใยคนอื่นดีแฮะ
โอหยางรั่วสุ่ยเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด คืนนั้นหากเธอไม่ให้เย่สวนออกมาเดินเล่นด้วย เย่สวนก็จะไม่ถูกรถชน
หรือเมื่อตอนนี้รถพุ่งเข้าชน ตอนนี้เย่สวนสามารถวิ่งออกไปได้ แต่เธอไม่ทำแบบนั้น เธอเลือกที่จะผลักตนออก ส่วนเธอก็ถูกรถเฟอร์รารี่พุ่งชนเข้าเต็มๆ ตอนนี้ยังนอนไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยาบาล
ลู่เสี้ยงหยางรับรู้เหตุการณ์ทุกอย่างหลักเกิดเหตุ เพราะงั้นเขาจึงเข้าใจความคิดของโอหยางรั่วสุ่ย เขาได้แต่ส่งยิ้มให้เธอแทนคำปลอบใจ ยังไงซะเรื่องแบบนี้ใครรู้ล่วงหน้า
ในสามวันมานี้ แม้ว่าลู่เสี้ยงหยางไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลแม้แต่ก้าวเดียว แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไร้ความเคลื่อนไหว
สองวันก่อน เขาได้ติดต่อซุนเซียงเซียง บอกให้เธอยุติความร่วมมือทุกอย่างกับตระกูลเย่กรุ๊ป
ก่อนหน้านี้ตระกูลเย่กรุ๊ปใกล้จะล้มละลายอยู่แล้ว เตรียมปิดตัว เป็นเพราะท่านย่าตระกูลเย่แบกหน้าไปขอร้องเย่สวนให้กลับไปรับดำรงตำแหน่งที่ตระกูลเย่กรุ๊ปดั่งเดิม และให้คำมั่นสัญญาว่าจะแบ่งหุ้นส่วนให้เธอ30เปอร์เซ็นต์ ลู่เสี้ยงหยางถึงได้สั่งให้ซุนเซียงเซียงกลับมาร่วมมือกับตระกูลเย่กรุ๊ป
ตอนนี้เรื่องที่เย่สวนเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่เสี้ยงหยางผิดหวังกับตระกูลเย่ทุกคน ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องให้ทางรอดแก่พวกเขาอีกต่อไป
หลังจากที่ซุนเซียงเซียงได้รับคำสั่งจากลู่เสี้ยงหยาง เธอยกเลิกสัญญากับตระกูลเย่กรุ๊ปทันที และได้ประกาศอย่างเด็ดขาด ต่อจากนี้ตระกูลเย่กรุ๊ปจะเป็นศัตรูกับหยูเม่ยหยินกรุ๊ป จะทำทุกอย่างให้พวกเขาล้มละลาย
ในสถานการณ์แบบนี้ การเงินของตระกูลเย่กรุ๊ปหยุดชะงัก และคำสั่งซื้อทั้งหมดที่ดำเนินการก่อนหน้านี้ถูกยกเลิกทั้งหมด
หยูเม่ยหยินกรุ๊ปเป็นบริษัทใหญ่ที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าหลายพันล้าน บริษัทเล็กที่เพิ่งพาเขา ไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่
ตอนนี้หยูเม่ยหยินกรุ๊ปประกาศชัดเจน ว่าตระกูลเย่คือศัตรูของหยูเม่ยหยินกรุ๊ป บริษัทเล็กมากมายต่างเอาอกเอาใจหยูเม่ยหยินกรุ๊ป จึงเลือกที่จะขึ้นบัญชีดำตระกูลเย่กรุ๊ป
ชั่วพริบตา ตระกูลเย่กรุ๊ปเข้าสู่ความโดดเดี่ยว
ระยะเพียงแค่สองวัน หุ้นของตระกูลเย่กรุ๊ปก็ตกลง30เปอร์เซ็นต์ แถมยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
สถานการณ์แบบนี้ทำให้ตระกูลตกอยู่ในความย่ำแย่
หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป ตลาดหุ้นของตระกูลเย่กรุ๊ปก็คงพังพินาศก่อน
เพราะงั้นท่านย่าตระกูลเย่จึงเรียกประชุมด่วน ให้สมาชิกในตระกูลเย่คิดหาวิธี แต่กลับไม่มีใครที่คิดหาวิธีแก้ปัญหาได้
ตอนนี้หยูเม่ยหยินกรุ๊ปจะเหยียบตระกูลเย่กรุ๊ปให้เละอย่างชัดเจน ในสถานการณ์แบบนี้ใครกันที่จะกล้ายื่นมือเข้าช่วยเหลือ
เช้าตรู่ ท่านย่าตระกูลเย่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ธนาคารของปินเหอรบกวนแต่เช้า
ผู้จัดการธนาคารพัฒนาปินเหอโทรมาแจ้งท่านย่าตระกูลเย่ด้วยตนเองเป็นครั้งสุดท้าย ให้ตระกูลเย่คืนเงินกู้และดอกภายในเวลาสามวัน ทั้งหมด5ร้อยล้านกับอีกสิบล้าน หากไม่คืนตามกำหนด ธนาคารจะขายทุกอย่างของตระกูลเย่
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ท่านย่าตระกูลเย่แทบเสียสติ
อย่าว่าแต่ตอนนี้ตระกูลเย่มืดแปดด้านเลย ต่อให้เป็นช่วงที่มั่งคั่งที่สุดก็ไม่สามารถนำเงินจำนวนนี้ออกมาได้
ยังไงซะก่อนหน้านี้สัญญาของธนาคารระบุเอาไว้ชัดเจน ทั้งต้นและดอก ตระกูลเย่จะขอผ่อน
แต่ตอนนี้ทางธนาคารไม่ยอม ให้พวกเขาจ่ายครบภายในอึดใจเดียว อำนาจขึ้นอยู่กับทางธนาคาร ตระกูลเย่ไม่สามารถทำอะไรได้
ภายใต้ความกดดันเหล่านี้ ในที่สุดท่านย่าตระกูลเย่ก็ล้มป่วยลง ในชั่วค่ำคืน ผมขาวก่อนหน้านี้ของท่านย่าตระกูลเย่กลายเป็นสีขาวจั๊วะ จนเธอดูแก่ลงไปอีก10ปี
ภายใต้ความกดดัน ตระกูลเย่กรุ๊ปที่ใหญ่โตก็ตกอยู่ในความดูแลของเย่หยุนเทา มีอำนาจในการตัดสินใจทั้งหมด
เย่หยุนเทาไม่ชอบใจ ตอนนี้ตระกูลเย่กรุ๊ปตกต่ำขนาดนี้ เห็นได้ชัดเจนอยู่แล้วว่ากำลังจะล้มละลาย เขาจะต้องกลายเป็นนักโทษของตระกูลเย่ ถึงตอนนั้นตระกูลทุกคน ต้องกลืนกินเขาแน่ เมื่อรู้รับความร้ายแรงของเรื่อง เย่หยุนเทาแสร้งป่วย แต่ช่วยไม่ได้สุดท้ายก็ถูกบีบบังคับออกมาดูแลตระกูลเย่กรุ๊ปต่อไป
ในตอนนี้เย่หยุนเทาแทบอยากจะตายไปให้รู้แล่วรู้รอด
…..
ลู่เสี้ยงหยางที่อยู่ในโรงพยาบาลคอยจับตาดูตระกูลเย่อยู่ตลอด
ความเปลี่ยนแปลงของตระกูลเย่อยู่ในการควบคุมของเขา
ก่อนหน้าที่เย่สวนเกิดอุบัติเหตุทางนถยนต์ ตระกูลเย่ไม่เพียงแต่ไม่ช่วยเหลือเย่สวน แถมยังเข้าข้างคนอื่น สนับสนุนคนนอกอีกต่างหาก
อันที่จริงคนพวกนี้มันสมควรตาย แต่ลู่เสี้ยงหยางไม่อยากให้คนพวกนี้ตายไปแบบนี้ หากให้พวกเขาตายไปแบบนี้ ก็ถือว่าเป็นกำไรของพวกเขา คนของตระกูลเย่ต่างก็เป็นพวกขี้เกียจตัวเป็นขน อยากได้หน้า บทลงโทษที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาคือการมีชีวิตอยู่แบบตายทั้งเป็น
เชื่อว่าหากทำให้พวกเขาสูญเสียทุกสิ่ง ทำให้พวกเขาเจ็บปวดทรมานอย่างถึงที่สุด
เมื่อนึกขึ้นได้อย่างนั้น ลู่เสี้ยงหยางควักโทรศัพท์ออกมาต่อสายหาซุนเซียงเซียง ปลายสายรับสายในไม่ช้า ซุนเซียงเซียงกล่าวอย่างนอบน้อม “ท่านประธานลู่ มีอะไรหรือคะ?”
ลู่เสี้ยงหยางกล่าว “ผมต้องการเห็นทุกคนในตระกูลเย่ตายทั้งเป็น ช่วงนี้คุณพิจารณาตามสมควร บดขยี้พวกเขาให้ตายไปได้เลย”
ซุนเซียงเซียงกล่าวถามอย่างไม่เข้าใจ “ท่านประธานลู่ ตระกูลเย่ไม่มีคนดีสักคน เศษเดนพวกนี้จะเก็บไว้อยู่อีกทำไม? ทำให้พวกมันตายไปเลย มองไม่เห็นก็ไม่กระทบต่ออารมณ์ไม่ดีกว่าหรือ”
ลู่เสี้ยงหยางกล่าวเสียงเรียบ “ความตายง่ายเกินไปสำหรับคนพวกนี้ มีแต่ทำให้พวกเขามีชีวิตอยู่ ให้มันได้รับความทรมาน ถึงจะลดล้างบาปในตัวของพวกมันได้”
“ค่ะ ท่านประธานลู่ ฉันเข้าใจแล้ว” ซุนเซียงเซียงเผยรอยยิ้มที่ร้ายกาจออกมา “ฉันจะทำให้พวกมันกลายเป็นชั้นต่ำที่สุดในปินเหอ”
“อืม” ลู่เสี้ยงหยางกล่าวเสียงเรียบ ก่อนที่จะตัดสายทิ้ง
ไม่นานโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง ลู่เสี้ยงหยางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นสายที่มาจากกงหยู่หนิง
สำหรับกงหยู่หนิง ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกขอบคุณในน้ำใจของเธอ
ครั้งก่อนที่เขาเป็นอัมพาต ตอนนั้นมีเพียงแค่กงหยู่หนิงที่ไม่รังเกียจเขา รับหน้าที่คอยดูแลเขาอย่างหนัก
พระคุณนี้ชาตินี้ทั้งชาติเขาก็ชดใช้ไม่หมด
ซู้ด!
เขาสูดหายใจเข้า ก่อนที่จะกดรับสาย “มีอะไร? มีอะไรรึเปล่า?”
กงหยู่หนิงกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “เกิดเรื่องใหญ่แล้ว กำลังจะเกิดเรื่องใหญ่”
ลู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้วสงสัย “เรื่องใหญ่อะไร?”
โดยปกติแล้วกงหยู่หนิงเป็นคนที่ควบคุมตัวเองได้ดีเยี่ยม เรื่องที่ทำให้เธอเสียอาการได้ต้องไม่ใช่เรื่องปกติแน่