บทที่ 527 ความสามารถของอาจารย์ลู่
ในตอนนี้เอง สิ่งที่เกินความคาดหมายของทุกคน ดาราดังที่สูงศักดิ์อย่างหยางฉุนฉุนกลับโค้งคำนับให้กับลู่เสี้ยงหยาง พร้อมเอ่ยอย่างเคารพยำเกรง “คุณลู่เองก็อยู่ด้วย บังเอิญจังเลยนะคะ”
อะไรนะ?
ให้ตายนี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ในพริบตา ทุกคนรอบข้างต่างเบิกตากว้าง ใบหน้าตกตะลึง
โดยเฉพาะเหล่าสมาชิกของตระกูลเย่ ความตกใจนี้ยากที่จะอธิบายเป็นคำพูดได้ หัวใจของพวกเขาเต้นรัวจนสุดแรงเกิดในทรวงอก เสมือนกับว่าจะระเบิดออกมาให้ได้เสียอย่างนั้น
ทำไมกัน? ทำไมดาราดังอย่างหยางฉุนฉุนต้องให้ความเคารพยำเกรงต่อลู่เสี้ยงหยางด้วย
“เฮ้ย พี่ พี่กินยาลืมเขย่าขวดรึเปล่า?” หยางหยูนนิ่งแข็งราวกับท่อนไม้ ทีแรกคิดว่าหากพี่สาวของเขามา ใช้เพียงแค่นิ้วเดียวก็บดขยี้ลู่เสี้ยงหยางให้เละคามือได้แล้วแท้ๆ
ตรงกันข้าม พี่สาวของเขากลับเกรงอกเกรงใจลู่เสี้ยงหยาง
บ้าเอ๊ย ไม่มีเหตุผลเลยนี่นา
นี่มันนี่มัน…..
โอหยางรั่วสุ่ยตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก แต่ก่อนในความเข้าใจของเธอที่มีต่อลู่เสี้ยงหยาง เธอแค่รู้ว่าลู่เสี้ยงหยางบู๊เก่ง แต่ดูเหมือนว่า นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเล็กๆ ของลู่เสี้ยงหยางเท่านั้น
ชั่วพริบตาเธอรู้สึกเหมือนว่ารอบกายของลู่เสี้ยงหยางถูกปกคลุมไปด้วยชั้นหมอก เต็มไปแล้วเสน่ห์การล่อลวงเย้ายวนอย่างร้ายแรง
ส่วนลู่เสี้ยงหยางเพียงแค่ตอบรับสั้นๆ ต่อการทำความเคารพของหยางฉุนฉุน ด้วยทีท่าไม่ยินดีเท่าใดนัก
หยางฉุนฉุนเริ่มประหม่า หันไปถลึงตาใส่หยางหยูน “คุณลู่ ต้องมีการเข้าใจผิด……”
ไม่จบได้จบประโยคดี ลู่เสี้ยงหยางยกมือขึ้นขัดประโยคของเธอ “ไม่ต้องพูดมาก น้องชายของคุณขับรถชนผู้หญิงของผมจนต้องเข้าโรงพยาบาลไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง ทางที่ดีคุณควรขอพรภาวนาให้ผู้หญิงของผมปลอดภัย ไม่อย่างนั้นผมจะให้น้องชายของคุณชดใช้ด้วยชีวิต”
อะไรนะ?
เมื่อได้ยินอย่างนั้นหยางฉุนฉุนสีหน้าเย็นชาขึ้นมา
ก่อนหน้านี้การที่เธอให้ความเกรงใจต่อลู่เสี้ยงหยาง เป็นเพราะเธอรู้ดีว่าลู่เสี้ยงหยางไม่ควรที่จะล่วงเกิน แต่ตอนนี้ลู่เสี้ยงหยางกลับพูดจาโอหังได้ถึงขนาดนี้ ต้องการชีวิตของน้องชายเธอ
เหอะ โอหังเกินไปแล้ว หากทำให้เธอโกรธขึ้นมา ด้วยเส้นสายความสัมพันธ์ของเธอ หากต้องการสู้ต่อกรกับลู่เสี้ยงหยางให้ตายกันไปข้าง ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
เมื่อคิดได้อย่างนั้นเธอหัวเราะอย่างเย็นชา หยางฉุนฉุนเอ่ยกับลู่เสี้ยงหยาง “ดูเหมือนว่าคุณคงไม่อยากเจรจากับฉันสินะ”
ลู่เสี้ยงหยางส่ายหน้าหัวเราะเยาะ “คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะเจรจากับปม”
…..หยางฉุนฉุน ไร้คำพูดอย่างมาก สีหน้าของเธอเขียวปั้ดด้วยความโกรธ
ให้ตาย มันเป็นใครกัน? เธอให้เกียรติเขาหน่อย คิดว่าตัวเองใหญ่มาจากไหน
เธอเรียวทั้งสองข้างกำแน่น หยางฉุนฉันอยากจะฉีกหน้ากับลู่เสี้ยงหยางให้แหกกันไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่ในเวลานี้เอง หยางฮุยหวงดึงเธอไปอีกทาง กระซิบแผ่วเตือนเธอว่าลู่เสี้ยงหยางนั้นน่ากลัวมากแค่ไหน “คุณหยาง ผมคิดว่าวันนี้น้องชายของคุณล่วงเกินอาจารย์ลู่ เป็นความโชคร้ายของน้องชายคุณ เห็นแก่ที่เราเป็นเพื่อนกัน ผมขอเตือนเอาไว้อย่าง ทางที่ดีคุณอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยว ไม่อย่างนั้น ไม่ว่าใครก็ช่วยคุณไม่ได้” หยางฮุยหวงจับจ้องหยางฉุนฉันพร้อมกล่าวด้วยความเคร่งขรึม
หยางฉุนฉุนขมวดคิ้วอย่างสงสัย กล่าวอย่างไม่อยากเชื่อ “คุณอย่าเวอร์ไปหน่อยเลย ต่อให้เขาเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของปินเหอ ฉันก็ไม่กลัว”
ที่มากไปกว่านั้นไอ้หมอนี่ไม่ใช่มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของปินเหอ คิดว่าตัวเองมีเงินหน่อยเก่งมากหรือไง
เหอะ คนในสังคมสมัยนี้ ใครบ้างที่ไม่มีเงินทอง
เมื่อเห็นทีท่าของหยางฉุนฉุน หยางฮุยหวงถอนหายใจออกมา “มหาเศรษฐีในสายตาของอาจารย์ลู่ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น”
“หืม? หมายความว่ายังไง?” เมื่อได้ยินแย่างนั้นหยางฉุนฉุนเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ เพลย์บอยที่มีเงินทองอย่างหยางฮุยหวงมีไม่กี่คนที่อยู่ในสายตาของเขา แต่กับลู่เสี้ยงหยาง เขากลับเกรงกลัวได้ถึงเพียงนี้
นี่มันไม่ปกติแล้ว
หยางฮุยหวงไม่ได้ตอบคำถามของหยางฉุนฉุน เพียงกล่าวถาม “คุณเคยได้ยินปรมาจารย์ฮวงจุ้ยของเกาะฮ่องกงอย่างโจวต้าวหย่วนไหม”
หยางฉุนฉุนพยักหน้า ด้วยความตื่นเต้นดีใจ พร้อมกล่าว “ฉันไม่เพียงแค่เคยได้ยิน ฉันเคยเจอปรมาจารย์โจวท่านนี้ด้วย ปรมาจารย์โจวเป็นเทพเดินดินจริงๆ ครึ่งปีที่แล้วฉันเคยขอยันต์ฮวงจุ้ยจากเขา เพราะการลงมนต์ของยันต์ฮวงจุ้ยนี้ ฉันจึงได้ตำแหน่งราชินี”
ท้ายประโยค เธอไม่สามารถเก็บซ่อนความหลงใหลที่แสดงออกชัดเจนบนใบหน้าได้
แน่นอนว่าเหล่าเพื่อนรอบกายของเธอ ไม่เพียงแค่เธอเท่านั้นที่ไปขอยันต์ฮวงจุ้ย แต่แทบจะทุกคนต่างก็ไปขอยันต์ฮวงจุ้ยมาทั้งนั้น
คนที่มียันต์ฮวงจุ้ยของปรมาจารย์โจวไว้ในครอบครอง ต่างก็ชีวิตราบรื่นกันทั้งนั้น
เพราะงั้น ปรมาจารย์โจวก็เป็นเหมือนกับเทวดาเดินดินของพวกเธอ
ฮ่าฮ่า! เมื่อเห็นปฏิกิริยาที่ตื่นเต้นดีใจของหยางฉันฉุน หยางฮุยหวงนึกขำ ก่อนที่จะเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ “เทวดาเดินดินที่เธอว่าเคยประลอง กับลู่เสี้ยงหยางมาก่อน ตอนนั้นผมเห็นกับตาเขาสู้กับลู่เสี้ยงหยางได้ไม่ครบรอบด้วยซ้ำ ก็ถูกเพลิงไฟที่ออกมาจากปากของลู่เสี้ยงหยางแผดเผาจนแหลกละเอียด”
อะไรนะ? ปรมาจารย์โจวเสียแล้ว?
เมื่อพูดจบ หยางฉุนฉุนสะดุ้งโหยงราวกับว่าเหยียบหางแมวเข้า ใบหน้าของเธอตกตะลึงจนพูดไม่ออก ยากที่จะเชื่อ
นี่มันเป็นไปได้ยังไง เทวดาเดินดินอย่างปรมาจารย์โจวจะตายได้ยังไง?
แถมยังถูกผู้ชายตรงหน้าที่แต่งตัวราวกับยาจกพ่นไฟใส่จนถูกเผา
เดี๋ยวนะ ไม่สิ
ไอ้หมอนี่จะพ่นไฟได้ยังไง ไม่ใช่นกฟินิกส์
เมื่อคิดได้อย่างนั้นหยางฉันฉุนทำหน้าไม่เชื่อ กล่าวกับหยางฮุยหวง “คุณไม่ได้โกหกใช่ไหม? ล้อเล่นรึเปล่า? คิดว่าเขาเป็นพวกเหนือมนุษย์หรือไง พ่นไฟอะไรกัน?!”
เอ่อ!
เมื่อเห็นว่าหยางฉุนฉุนไม่เชื่อ หยางฮุยหวงจึงไร้คำพูด “ช่างเถอะ คุณหยางไม่เชื่อก็ตามใจ ผมแค่หวังดีอยากจะเตือนคุณเท่านั้น คืนนี้อย่าล่วงเกินแาตารย์ลู่ คืนนี้อาจารย์ลู่ไม่เพียงแต่พ่นไฟเผา ปรมาจารย์โจว แถมยังเป็นผู้นำทางด้านฮวงจุ้ยและลัทธิอภิปรัชญาของมณฑลเจียงหนานอีกด้วยนะ”
“ตอนนี้เพียงแค่อาจารย์ลู่ประโยคเดียว ก็มีอาจารย์ฮวงจุ้ยและลัทธิอภิปรัชญาทำตามคำสั่งของเขา คุณได้รู้จักกับผู้มีอำนาจของแต่ละพื้นที่ คุณลองคิดดูสิ ในสถานการณ์แบบนี้ พวกเขากล้าก้าวออกมาช่วยเหลือคุณไหม?”
นี่มีน?
เมื่อได้ยินอย่างนั้นหยางฉุนฉุนพูดไม่ออก ร่างกายเสมือนกับรูปปั้นยืนตัวแข็งทื่อ
ไม่คิดเลยว่าลู่เสี้ยงหยางจะมีอำนาจถึงขนาดนี้ เป็นถึงผู้นำทางด้านฮวงจุ้ยลัทธิอภิปรัชญาของมณฑลเชียวหรือ
อำนาจของเขาในตอนนี้ หากต้องการชีวิตของน้องชายง่ายยิ่งกว่าอะไรดี
เมื่อนึกได้อย่างนั้น หยางฉุนฉุนเผยสายตาที่หวาดหวั่น พลันเดินมาที่ลู่เสี้ยงหยางอย่างสั่นเทา คุกเข่าลงตรงหน้า พร้อมกล่าวกับลู่เสี้ยงหยางอย่างเคารพยำเกรง “อาจารย์ลู่ ก่อนหน้านี้เพราะดิฉันมีตาหามีแววไม่ที่ล่วงเกินคุณ บทลงโทษทุกอย่างของคุณดิฉันยอมทั้งหมด ส่วนความโง่งมของน้องชายดิฉัน แล้วแต่คุณจะลงโทษ”
เงียบกริบ! ที่เกิดเหตุเงียบกริบ กับประโยคที่หลุดออกมา