บทที่ 401 เศษเดน
ต่อมา ภายใต้เสียงหัวเราะที่ดังก้องรอบกาย ลู่เสี้ยงหยางยื่นแขนออกไปดึงเสื้อผ้าของหมอดูจนฉีกขาด
ชั่วพริบตา สิ่งที่ทุกคนเห็น คือขุดสวมใหม่เอี่ยมที่ถูกสวมอยู่ด้านใน แถมยังเป็นแบรนด์เนมArmaniอีกต่างหาก
ให้ตาย!
ทุกคนนิ่งแข็งอยู่กับที่ หมอดูสมัยนี้ทันสมัยขนาดนี้เชียวหรือ? ด้านนอกสวมทับด้วยชุดนักพรต ด้านในเป็นชุดสูท
เสียดสีชะมัด เสมือนกับหมาป่าที่คลุมด้วยหนังมนุษย์ หากถอดหนังมนุษย์ด้านนอกนอก ด้านในก็คือรูปลักษณ์ของหมาป่า
“เอ่อ นี่มันเรื่องอะไรกัน?” รอยยิ้มบนใบหน้าของหวังเสว่แข็งข้าง รู้สึกว่าตนเองถูกหลอก
หมอดูคนนี้แรกเริ่มติดหนวดปลอม จากนั้นก็สวมชุดนักพรตทับเสื้อสูท สร้างภาพเห็นๆ
“เอ๋ อะไรกัน?” เย่สวนและโอหยางรั่วสุ่ยเต็มไปคำถามในหัว
“บัดซบ ไอ้งั่งนี่ ทำลายฤทธิ์ของกูย่อยยับ” ซุนยีเฉินเนื้อตัวกระตุก จับจ้องลู่เสี้ยงหยาง ด้วยสายตาที่คมกร้าวราวกับมีดดาบ หากฆ่าคนด้วยสายตาได้ ลู่เสี้ยงหยางได้ตายไปเป็นร้อยๆ รอบแล้ว
ในตอนนี้ ขาข้างหนึ่งของลู่เสี้ยงหยางยังคงวางทาบบนอกของหมอดูคนนั้น ร่างสูงมองต่ำ เอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งยิ้มไม่ยิ้ม “ละครที่แกแสดงไปเมื่อกี้ น่าสนใจมาก จะต่อรึเปล่า? แต่ผมรับรอง ว่าหากแกยังล่อลวง เล่นกับความเชื่อของคน แกจะได้ไปอยู่ในตารางหลายปีเลยล่ะ”
ไอ้บ้าเอ๊ย! ร้ายแรงขนาดนั้นเชียวหรือ? ถึงกับต้องติดคุกติดตะราง!!
เมื่อประโยคนี้หลุดออก หมอดูตกใจจนฉี่ราด หันไปพูดกับเฟิงยีเฉินทันที “คุณชาย ผมไม่อยากเข้าคุก คุณต้องช่วยผมนะ”
บัดซบ!
เฟิงยีเฉินโกรธจนตัวสั่น อยากจะยกเท้าขึ้นถีบไอ้หมอดูคนนี้ออกไปซะเดี๋ยวนี้ บ้าจริง ไร้สมองสิ้นดี คนอื่นหลอกแกแค่ไม่กี่ประโยค ก็คายฉันออกมาซะหมดเปลือก
“ควับ!” ในตอนนี้เอง หวังเสว่ เย่สวน และโอหยางรั่วสุ่ยรวมด้วยทุกคนรอบด้าน สายตาตกอยู่ที่เฟิงยีเฉินโดยไม่ได้นัดหมาย
ตอนนี้แม้แต่คนที่ไร้สมองก็สามารถคาดเดาถึงสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี การดูดวงในครั้งนี้ คงเป็นแผนการของไอ้หมอนี่
ให้ตาย ต่ำช้าสิ้นดี ทำไมถึงได้มีคนที่เลวทรามขนาดนี้อยู่บนโลกด้วย?
เอ่อ! เฟิงยีเฉินไม่สามารถทนกับสายตาของทุกคนได้ เขาได้แต่กลั้นใจ ถีบหมอดูจอมปลอมให้ล้มลงกับพื้น เอ่ยอย่างดุดัน “อะไรกัน กูรู้จักมึงเหรอ? อย่ากัดคนอื่นไปทั่วเหมือนหมาบ้าสิ แกโลภมากเอง แสร้งเป็นหมอดูเพื่อหลอกลวงเงินชาวบ้าน แล้วยังจะโยนความผิดมาที่ฉันงั้นเหรอ”
เขาเอ่ยพลางกะพริบตาให้กับหมอดูหนุ่มไม่หยุด เพื่อสื่อให้เขาให้ความร่วมมือกับตน
แต่ภายใต้ความตื่นตูม เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขาคลานลุกขึ้น กอดรัดท่อนขาของเฟิงยีเฉิน เอ่ยด้วยน้ำตาที่นองหน้าไหลอาบไปทั่ว “คุณชาย คุณคิดจะพูดอะไรต้องมีจริยธรรมบ้างสิ ไม่ใช่เพราะผมไร้จิตสำนึก ทำเพื่อเงินทองเสียหน่อย ปลอมตัวเป็นหมอดูเป็นคำสั่งของคุณ คุณบอกเอง ว่าจะให้ผมปลอมเป็นหมอดู แล้วพูดประโยคพวกนั้นกับคุณหวังเสว่ หากภารกิจลุล่วง คุณจะให้ผมเป็นผู้จัดการบริษัท ตอนนี้ผมไม่อยากได้ตำแหน่งผู้จัดการแล้ว ขอเพียงคุณชายเป็นพยานให้ผม ผมไม่อยากเข้าคุก”
“…..ไอ้บ้าเอ๊ย”
เฟิงยีเฉินแทบระเบิด ทำไมถึงได้มีลูกน้องที่มือไม่พายเอาเท้าราน้ำแบบนี้
ตอนนี้เป็นไงล่ะ ความจริงถูกเปิดเผย หวังเสว่ไม่มีทางชายตามองตนอีกต่อไปแล้ว
เป็นไปตามคาด หวังเสว่จ้องซุนยีเฉินเขม็ง กัดฟันกรอด “นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? หวังว่าคุณจะให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลกับฉันด้วย ไม่อย่างนั้น วันนี้ฉันจะลากคอแกเข้าตารางซะ”
ซุนยีเฉินกลั้นใจหาคำแก้ตัวให้กับตนเอง ด้วยน้ำเสียงกระอึกกระอัก “หวังเสว่ เรื่องทั้งหมดไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดนะ ผมเห็นว่าช่วงนี้คุณงานหนักมาก ก็เลยอยากหาใครสักคนชี้ทางให้กับคุณ เพื่อให้คุณสบายใจ…..”
ไม่ทันจบประโยค ลู่เสี้ยงหยางที่อยู่ข้างๆ ทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป ไอ้หมอนี้ถูกเปิดโปงแล้ว ยังจะหาคำแก้ตัวอยู่อีก แถมยังพูดให้ตนเองสูงส่งซะขนาดนั้น สารเลวจริงๆ
“ฮ่าฮ่า” เสียงหัวเราะของลู่เสี้ยงหยางดังขึ้น ก่อนที่จะหันไปทางซุนยีเฉิน “เลิกแก้ตัวได้แล้ว ที่แกทำทั้งหมดนี้ ก็แค่ต้องการล่อลวงให้หวังเสว่ขึ้นเตียง ยังไงแกก็เป็นลูกผู้ชาย กล้าทำไม่กล้ารับ เต่าหัวหดอย่างแก ทำให้ผมดูถูกคุณ”
ประโยคเหล่านี้แทงใจดำศักดิ์ศรีของซุนยีเฉินเข้าเต็มๆ แต่ก่อน หวังเสว่เองก็บอกว่าเขาเป็นเต่าหัวหดอยู่หลายต่อหลายครั้ง
เพราะงั้นตอนนี้ ซุนยีเฉินระเบิดไฟแค้น ดีดตัวลุกขึ้นชี้หน้าด่าลู่เสี้ยงหยาง “ไอ้บัดซบ แกเป็นใคร? แกก็แค่เกาะผู้หญิงกินไปวันๆ มีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน? ไม่ผิดหรอก เรื่องนี้เป็นแผนการของฉันเอง แล้วแกจะทำอะไรฉันได้? ให้ตาย ไอ้งั่งอย่างแก คิดวิธีที่ชาญฉลาดแบบนี้ได้ไหมล่ะ?”
ฟุ่บ!
เมื่อประโยคนี้หลุดออก ทุกคนรอบด้านเดือดดาลขึ้นมาทันที ไม่คิดเลยว่าเรื่องนี้จะเป็นฝีมือของเฟิงยีเฉินที่อยู่เบื้องหลัง
ชั่วพริบตา สายตาที่จับจ้องมองเขาเต็มไปด้วยการเหยียดหยาม ชิงชัง เสมือนกับมองเศษเดน
“ไม่ ไม่นะ หวังเสว่ เรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือของผม เป็นเรื่องโง่ๆ ที่ไอ้หมอดูสร้างขึ้นเองต่างหาก” ในเวลานี้เอง ซุนยีเฉินถึงได้รู้สึกตัวว่าตนได้ผิดพลาดไป เขารีบพลิกแพลง เพื่อแก้ตัว
แต่ทุกคนไม่ใช่คนโง่ ความสามารถในการตัดสินขึ้นพื้นฐานยังพอมีอยู่บ้าง
โดยเฉพาะหวังเสว่ เธอเป็นหัวหน้าหน่วยคดีร้ายแรง ตอนนี้ซุนยีเฉินถูกเปิดโปง ไม่มีทางที่จะหลอกลวงเธอได้อีกต่อไป
ตุ่บ!
ยกขาขึ้น ประทับลงที่แก้มก้นของซุนยีเฉิน เอ่ยอย่างเย็นชา “เศษเดน ไม่คิดเลยว่าแกจะเป็นพวกหมาที่เลียอุจจาระไม่เปลี่ยนแปลง ฉันตาบอดเองถึงได้เชื่อแก”
หลังจากที่สั่งสอนเฟิงยีเฉิน หวังเสว่หันไปทางลู่เสี้ยงหยางด้วยรอยยิ้ม “เรื่องในคืนนี้ขอบคุณมากนะ หากไม่ใช่เพราะนาย ฉันไม่มีทางรู้จักตัวตนที่แท้จริง ของเศษเดนอย่างเฟิงยีเฉินแน่”
ลู่เสี้ยงหยางส่ายหน้า “ไม่ต้องเกรงใจ นี่เป็นเรื่องที่ผมสมควรทำ ฮ่าฮ่า ผมไม่ชอบคนที่เสแสร้งที่สุด ให้ตาย แสร้งมากจะถูกฟ้าผ่าเอาได้นะ”
“…..” ซุนยีเฉิน รูม่านตาขยาย จ้องลู่เสี้ยงหยางเขม็ง ทีแรกคืนนี้ตนสามารถสยบหวังเสว่ ลากเธอขึ้นเตียง แต่ฤทธิ์ดีกลับถูกไอ้เขยแต่งเข้าอย่างลู่เสี้ยงหยางทำลายจนย่อยยับ
“บัดซบ แม่งเอ๊ย ถ้าฉันเอาแกตายไม่ได้ ฉันจะเลิกใช้นามสกุลซุน” เลือดตาของซุนยีเฉิน แทบกระเด็น พลันให้คำมั่นในใจเงียบๆ
หลังจากนั้น เขายิ่งคิดยิ่งโกรธ ไฟแค้นในใจไม่มีที่ให้ระบายออก ได้แต่ก่นด่าหมอดูจอมปลอมอยู่อย่างนั้น “แม่งเอ๊ย มึงนี่มันไร้ประโยชน์สิ้นดี ถึงได้ทำให้กูพังพินาศ”
“เฮ้อ” โอหยางรั่วสุ่ยเหนื่อยหน่าย อย่างไม่พอใจ เรื่องนี้ไม่สำเร็จ ตนก็ไม่สามารถชักจูงเย่สวน ให้ออกจากชีวิตของคนไม่เอาไหนอย่างลู่เสี้ยงหยาง
ส่วนเย่สวนนั้นมองสถานการณ์ตรงหน้าเป็นเรื่องตลก เธอมุดเข้าในอ้อมอกของลู่เสี้ยงหยาง กอดรัดเขาแน่น เมื่อกี้เธอตกใจแทบแย่ ดีที่ไอ้หมอนี่ดูเป็นแค่ละครฉากหนึ่ง ที่พูดพร่ำไปเรื่อย ลู่เสี้ยงหยางเองก็ไม่ได้มีดวงชะตาที่ชั่วร้าย