บทที่ 291 ช่วงเวลาสำคัญ ไม่ได้การแล้ว!
ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกยินดีอยู่ในใจ โชคดีที่ตนอ่านเกมของฉินหยุนเฟยและหวังเจี้ยนออก ไม่เช่นนั้นคืนนี้ค่าใช้จ่ายจะต้องถูกรูดเข้าบัตรของเขาเป็นเงินกว่าหกสิบล้าน เสียรู้ให้เจ้าโง่สองคนนี้จริงๆ
ฮ่าๆ ลู่เสี้ยงหยางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วส่ง SMS ไปหาผู้จัดการร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่งทันที
ในเวลานี้พอฉินหยุนเฟยได้ยินหวังเจี้ยนพูดดังนั้นก็พยักหน้าพลางกล่าวว่า “ก็ดี แกรีบไปสอบถามแผนกต้อนรับหน่อยว่าค่าใช้จ่ายคืนนี้สามารถใช้บัตร VIP ใบนั้นได้ไหม”
“โอเค พี่หยุนเฟย ผมจะไปเดี๋ยวนี้ พี่รอฟังข่าวดีจากผมที่นี่ได้เลย” หวังเจี้ยนตอบแล้วเดินจากไปอย่างมีความสุข
ลู่เสี้ยงหยางแอบยิ้มออกมา เจ้าโง่ฉินหยุนเฟย คืนนี้ต้องเสียเป็นใหญ่แน่
หลังจากนั้นไม่นาน หวังเจี้ยนก็กลับมาด้วยความหดหู่ใจ
ฉินหยุนเฟยรีบถาม “ว่าไง? คืนนี้สามารถใช้บัตร VIP ใบนั้นสำหรับค่าใช้จ่ายคืนนี้ได้หรือเปล่า?”
หวังเจี้ยน ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “พี่หยุนเฟย ใช้ไม่ได้”
ฉิบหาย!
เมื่อได้ยินดังนั้นฉินหยุนเฟยก็ถึงกับหน้าอึ้งไปเลย ดูเหมือนว่าคืนนี้เขาจะต้องคิดทำอะไรสักอย่างแล้ว
หวังเจี้ยนสมกับที่เขาได้รับชื่อนี้จริงๆ ตัวตนมีนิสัยเลวทราม ในเวลานี้เขายังคิดหาวิธีที่จะทำลายผู้อื่นเพื่อประโยชน์ต่อตัวเองอีก เขายิ้มพร้อมกับพูดว่า “พี่หยุนเฟย ความจริงพี่เข้าไปแล้วก็แกล้งเมาสิ ยังไงชั้นเรียนของเราก็มีพวกลูกคนรวยอยู่ไม่น้อย พอพี่เมาพวกเขาก็ไม่สามารถบังคับให้พี่ลุกขึ้นมาจ่ายเงินได้ พวกเขาต้องจ่ายเงินเองแน่นอน”
เมื่อได้ยินดังนั้นแววตาของฉินหยุนเฟยก็สว่างไสวขึ้นมาทันที
ฮ่าๆ ใช่แล้ว ทำไมฉันถึงคิดวิธีนี้ไม่ออกนะ ถึงอย่างไรฉันก็เมาพับไปเพราะคอไม่แข็ง
ให้ตายสิ! เจ้าสารเลวสองคนนี้หน้าไม่อาย เมื่อได้ยินเช่นนี้ลู่เสี้ยงหยางก็พูดไม่ออก
แต่ทันใดนั้นฉินหยุนเฟยก็ส่ายหน้าพร้อมกับพูดว่า “ไม่ได้การ ค่าใช้จ่ายคืนนี้หกสิบกว่าล้าน เกรงว่าจะไม่มีใครเต็มใจจ่ายเงินให้ฉัน”
หวังเจี้ยนหัวเราะแล้วพูดต่อ “พี่หยุนเฟย พี่ไม่ต้องเป็นห่วง กงหยู่หนิงเป็นมาดามใหญ่ในเมืองหลวงไม่ใช่หรือ? เธอต้องมีเงินไม่ขาดมือ พอถึงตอนนั้นถ้าพี่เมาพับไป ทุกคนทำอะไรไม่ได้ เธอก็จะออกหน้าเอง”
ฉินหยุนเฟยลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “แต่ถ้าให้เธอจ่ายเงินให้ฉัน แล้ววันหลังฉันไปตามจีบเธอมันจะไม่น่าอายหรอกเหรอ”
ฉินหยุนเฟยเป็นคนเจ้าชู้มาแต่ไหนแต่ไร แม้ว่าเขาจะหมั้นกับหลิ่วหรูยู่แล้ว แต่เขาก็ยังคิดถึงผู้หญิงคนอื่น
กงหยู่หนิงพรั่งพร้อมทั้งรูปร่างและหน้าตา ที่สำคัญคือภูมิหลังของครอบครัว นี่คือแหล่งอาหารของเขา เขาคิดหาวิธีที่จะได้ครอบครองสาวสวยที่สุดของชั้นเรียนนี้มานานแล้ว
หวังเจี้ยนส่ายหน้าแล้วช่วยคิดแผนให้ฉินหยุนเฟยต่อ “พี่หยุนเฟย ไม่หรอก พี่คิดมากเกินไป พี่ก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่จ่ายสักหน่อย มันเป็นเพราะว่าพี่เมา จะว่าไปแล้วเงินที่กงหยู่หนิงจ่ายให้ในคืนนี้ พรุ่งนี้พี่ก็สามารถจ่ายคืนเธอได้ อย่างไรเสียช่วงเวลาหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืนพี่หยุนเฟยจะต้องหาได้หกสิบกว่าล้านอย่างแน่นอน พี่หยุนเฟยลองคิดดูสิ พรุ่งนี้ตอนคืนเงินพี่ยังสามารถใช้โอกาสนี้แอด Wechat ก็เธอได้อีก ฮ่าๆ แล้วมันจะไม่ใช่การยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัวได้ยังไง?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ดวงตาของฉินหยุนเฟยก็สว่างแพรวพราว เอามือตบต้นขาทันที
ถูกต้อง นี่คือสิ่งที่เจ้าหนุ่มหวังเจี้ยนคนนี้ถนัดมาก มันคือการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวจริงๆ ไม่เพียงแต่ช่วยกู้หน้าให้ตัวเอง แต่ยังได้วิธีการติดต่อของสาวสวยที่สุดของชั้นเรียนอีกด้วย
“ตกลง งั้นเดี๋ยวก็ทำแบบนี้แล้วกัน” ฉินหยุนเฟยหัวเราะเบาๆ นึกกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ
รอยยิ้มจางๆ วาดขึ้นที่มุมปากของลู่เสี้ยงหยางที่กำลังแอบฟังอยู่ เนื่องจากเขาได้รับรู้แผนการของฉินหยุนเฟยและหวังเจี้ยนแล้วจึงไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาทำสำเร็จได้
เขาหันหลังกลับมาที่ห้องวีไอพีอย่างเงียบๆ
ไม่นานฉินหยุนเฟยและหวังเจี้ยนก็กลับมาที่ห้องวีไอพี ฉินหยุนเฟยแสดงเป็นคนเหลาะแหละได้เหมือนจริงๆ เขาเดินโซซัดโซเซ โชคดีที่มีหวังเจี้ยนคอยช่วยพยุงจึงกลับมายังที่นั่งของตนเองได้
หวังเจี้ยนคนต่ำช้า กลัวคนอื่นจะไม่รู้ว่าฉินหยุนเฟยเมาแล้ว เขายิ้มพลางพูดว่า “พี่หยุนเฟย พี่ก็ดื่มไม่เก่งเหมือนกันนี่ แค่นี้ก็เมาแล้วเหรอ?”
เพื่อนนักเรียนหลายคนพากันบอกว่า “พี่หยุนเฟยเมาแล้ว คุณก็ให้เขานอนฟุบบนโต๊ะสักพัก อย่ารบกวนเวลาพักผ่อนของเขา”
หวังเจี้ยนพยักหน้า รู้สึกภาคภูมิใจมาก แผนการที่เขาคิดไว้นั้นไร้ที่ติ ฮ่าฮ่า มีแต่คนโง่ๆ ทั้งนั้นคงไม่มีใครอ่านแผนการออกแน่นอน
ยี่สิบนาทีต่อมา
งานเลี้ยงกำลังจะสิ้นสุดลง ใครสักคนก็พูดขึ้นมาว่ากินเสร็จแล้ว ต้องไปแล้ว
สิ้นเสียง ทุกคนก็พากันลุกขึ้นยืนและกำลังจะเดินออกไป
หวังเจี้ยนรีบเขย่าตัวฉินหยุนเฟยพร้อมกับพูดว่า “พี่หยุนเฟย งานเลี้ยงของเราจบแล้ว ต้องไปแล้วล่ะ พี่สร่างเมาบ้างหรือยัง?”
เมื่อได้ยินดังนั้น ผู้คนที่กำลังจะเดินออกไปก็พากันหยุดชะงัก แม่งเอ๊ย เจ้าฉินหยุนเฟยก็เมาแล้ว ไม่มีใครจ่ายเงิน ถ้าเขาไม่จ่ายเงิน แล้วพวกเขาจะไปได้อย่างไร?
ไป๋หมิ่นหมิ่นชอบฉินหยุนเฟย ในเวลานี้เธอต้องใช้มารยาเพื่อให้ได้รับความรู้สึกดีๆ จากฉินหยุนเฟย ดังนั้นเธอจึงโบกมือพร้อมกับพูดอย่างห้าวหาญ “ไปกันเถอะ ในเมื่อหยุนเฟยเมาแล้ว งั้นอาหารค่ำมื้อนี้ฉันจะเป็นเจ้าภาพเอง”
ทุกคนพยักหน้าแล้วเดินตามเธอออกจากห้อง VIP มาถึงหน้าเคาน์เตอร์
เจ้าฉินหยุนเฟยแกล้งทำเป็นเมาอยู่ตลอดเวลา เดินโซซัดโซเซตามอยู่ข้างหลังโดยมีหวังเจี้ยนคอยพยุง
ไป๋หมิ่นหมิ่นวางบัตรธนาคารลงบนเคาน์เตอร์อย่างห้าวหาญพลางพูดว่า “คิดเงินค่ะ”
พนักงานเก็บเงินสาวสวยหยิบบัตรธนาคารของเธอไป พอนำไปรูด บัตรก็แสดงยอดวงเงินคงเหลือไม่เพียงพอออกมาอย่างรวดเร็ว
พนักงานเก็บเงินสาวสวยส่ายหน้าพลางพูดว่า “คุณผู้หญิงคะ เงินในบัตรของคุณไม่เพียงพอ รบกวนเปลี่ยนบัตรใบใหม่ค่ะ”
ไป๋หมิ่นหมิ่นกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง “เป็นไปไม่ได้ บัตรของฉันมีเงินตั้งหลายล้าน เครื่องรูดบัตรของพวกคุณเสียแน่ๆ คุณลองเปลี่ยนเครื่องใหม่ดูซิ”
เธอไม่เคยไปมากินที่ร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่งมาก่อน เธอจึงคิดว่าอาหารมื้อนี้อย่างมากก็แค่ประมาณล้านนึง
พูดจบจิตใต้สำนึกของไป๋หมิ่นหมิ่นก็เห็นลู่เสี้ยงหยางอยู่ตรงหน้าเธอ เธอย่นจมูกและพูดเหน็บแนม “ไอ้เศษสวะ เคยกินอาหารราคาแพงขนาดนี้ไหม? ล้านกว่านะ”
ลู่เสี้ยงหยางยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เดี๋ยวยัยโง่นี่ก็จะปล่อยไก่แล้ว
แน่นอนว่าพนักงานเก็บเงินสาวสวยส่ายหน้าพร้อมกับพูดว่า “คุณผู้หญิงคะ ฉันคิดว่าคุณน่าจะเข้าใจผิดแล้ว ค่าอาหารในคืนนี้ของพวกคุณทั้งหมด 68 ล้าน รบกวนเปลี่ยนบัตรใบใหม่ด้วย”
อะไรนะ?
68 ล้าน?
เกือบทุกคนต้องตกตะลึงเมื่อได้ยินราคาเมื่อครู่นี้ เธอยืนนิ่งอยู่กับที่ด้วยสีหน้าตกใจสุดขีด
แม่งเอ๊ย! งานเลี้ยงประตูมังกรเหรอ? ถึงได้แพงขนาดนี้?
ไป๋หมิ่นหมิ่นรู้สึกอายมาก แต่ก็ยังคงพูดอย่างหนักแน่น “อาหารมื้อหนึ่งแพงขนาดนี้เชียวหรือ ช่วยแจกแจงให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม?”
พนักงานเก็บเงินสาวสวยชักสีหน้าพร้อมกับพูดว่า “ไวน์ Caloranti หนึ่งขวดราคา 5 ล้าน พวกคุณสั่งมา 100 ขวด นอกจากนี้อาหารที่พวกคุณสั่งล้วนเป็นอาหารแนะนำของร้านเราทั้งหมด บิลค่าใช้จ่ายง่ายๆ แบบนี้ฉันคงไม่จำเป็นต้องสอนคุณคำนวณหรอกนะ
“ฮู้!”
หลายคนสูดหายใจเข้าอย่างแรง ไวน์ Caloranti ขวดเดียวราคาตั้ง 5 ล้าน ให้ตายสิ! แพงเกินไปหรือเปล่า แต่ไวน์นี้ก็รสชาติดีทีเดียว
จางสู้ไม่เคยเห็นโลกมาก่อน ในเวลานี้จึงเกาหัวด้วยความลำบากใจ ไวน์ Caloranti นั้นเขาไม่ได้ตั้งใจจะสั่ง
ไป๋หมิ่นหมิ่นหน้าแดงด้วยความอับอาย เก็บบัตรธนาคารของเธอคืนมาอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เธอมีเงินในบัตรแค่ไม่กี่ล้าน ไม่ถึงเศษเสี้ยวด้วยซ้ำ
“ตกลงว่าพวกคุณใครจะเป็นคนจ่ายเงิน? ให้ตายสิ เงินไม่พอยังจะเสแสร้งอีก ดื่มไวน์ที่แพงที่สุดในห้องวีไอพี” พนักงานเก็บเงินสาวสวยกล่าวด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
หลายคนมองกลับไปที่ฉินหยุนเฟยโดยสัญชาตญาณ ไอ้บ้าเอ๊ย! เจ้าหมอนี่ทำไมต้องมาเมาในช่วงเวลาสำคัญอย่างนี้ด้วย?