บทที่ 275 สิ่งที่สัตว์ดิรัจฉานทำ
เมื่อฟังคำพูดของลู่เซี่ยงหลง ลู่เซี่ยงหยุนก็แสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมา ก่อนจะส่ายหน้าไม่หยุด “ฉันไม่เชื่อว่าเรื่องนี้เขาจะเป็นคนทำ ฉันเชื่อในตัวเขา”
เซี่ยตงเสว่หัวเราะเสียงเย็น และพูดกับลู่เซี่ยงหยุนว่า “คุณเชื่อในตัวลู่เสี้ยงหยางงั้นหรอ งั้นก็หมายความว่าคุณไม่เชื่อคำพูดของภรรยาตัวเองงั้นสิ พวกเราอยู่ข้างนอกได้ยินชัดหมดแล้ว วางหยู่่พูดออกมาด้วยตัวเองว่าเมื่อวานคนที่ทำให้เธอเป็นมลทินคือลู่เสี้ยงหยาง ขยะของตระกูล”
ยิ่งได้ฟัง ลู่เซี่ยงหยุนก็ยิ่งแสดงสีหน้าเจ็บปวดมากขึ้น เขาสับสนเป็นที่สุด อีกฝั่งนึงก็เป็นลู่เสี้ยงหยาง คนในบ้านที่เขารักที่สุด อีกฝั่งก็เป็นวางหยู่่ ภรรยาที่เขารักที่สุด
วางหยู่่ใจสั่น เมื่อกี้เธอคิดไม่ถึง แต่ตอนนี้เมื่อเซี่ยตงเสว่พูดย้ำ เธอถึงคิดได้ ทำไมเขายังคงสงสัยในคำพูดของเธอล่ะ เธอเป็นคนถูกกระทำ เธอโดนลู่เสี้ยงหยางข่มขืนนะ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอก็รู้สึกราวกับถูกมีดแทงใจ น้ำตาค่อยๆไหลออกมาเป็นสายน้ำ
เมื่อเห็นวางหยู่่น้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง ลู่เซี่ยงหยุนก็แทบบ้า เขากัดฟันพูด “โอเค ภรรยา คุณบอกผมมาว่าจะให้คนที่ทำร้ายคุณชดใช้กับเรื่องนี้ยังไง”
ลู่เซี่ยงหลงหัวเราะเสียงดัง พลางตบไหล่ลู่เซี่ยงหยุนพูด “ต้องอย่างนี้สิน้องรอง นี่ถึงจะเป็นสิ่งที่ผู้ชายควรมี”
พูดจบเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาประมุขของบ้าน เตรียมเล่าเรื่องนี้ และทำให้ลู่เสี้ยงหยางต้องเสียชื่อเสียง
หลายนาทีจากนั้น ลู่เซี่ยงหลงก็อยู่ในสาย เขาเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังคร่าวๆ
หลังวางสายเขาก็แกล้งพูดกับลู่เซี่ยงหลงว่า “น้องรอง สบายใจได้ เรื่องนี้พี่ใหญ่จะช่วยจัดการแทนนายเอง ลู่เสี้ยงหยางเลวยิ่งกว่าสัตว์ดิรัจฉาน พี่จะให้มันมาคุกเข่าขอโทษวางหยู่่ จากนั้นก็ไล่ออกจากตระกูลไป”
ลู่เซี่ยงหยุนกำมือแน่นไม่ได้พูดอะไร เล็บจิกลงไปกลางฝ่ามือของเขา แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย
เขาหวังว่าเดี๋ยวลู่เสี้ยงหยางจะมาบอกเขาว่าเรื่องนี้เขาไม่ใช่เป็นคนทำ
แต่ทันใดนั้นวางหยู่่ก็ร้องไห้ และกลับเข้าห้องไปสวมเสื้อผ้า
ทางด้านเซี่ยตงเสว่ก็รู้สึกดีใจจนแทบกระโดดโลดเต้น เรื่องที่เธอเตรียมไว้เป็นไปตามแผน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดวันนี้ลู่เสี้ยงหยางต้องโดนกำจัดออกจากตระกูล และพ่อของเขาก็จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ด้วย ดังนั้นตำแหน่งในตระกูลของเขาจะสั่นคลอน หลังจากนั้นพวกเขาก็จะใช้แผนการอีกนิดหน่อย เพื่อทำให้พ่อของ
ลู่เสี้ยงหยางลงจากตำแหน่ง ทุกอย่างมันอยู่ใกล้แค่เอื้อม
…
ในขณะเดียวกัน
ลู่เสี้ยงหยางอยู่ในบ้านพักตากอากาศของเทพเทียนหัวชานเมือง
เมื่อคืนหลังจากส่งลู่เซี่ยงหยุนกับวางหยู่่เสร็จ เขาก็โทรศัพท์ไปคุยกับแม่นิดหน่อยว่าคืนนี้จะไม่กลับบ้าน จากนั้นก็มาพักอยู่ที่ เป็นครั้งแรกที่เขาหยิบตำราวิชานรกอมตะที่เทพเทียนหัวให้ออกมา
ลู่เสี้ยงหยางหมกมุ่นอยู่กับการฝึกวิชา ทุกวันนี้กว่าจะได้ตำรามามันไม่ใช่เรื่องง่าย แน่นอนว่าเขารู้สึกตื่นเต้นมาก ดังนั้นเขาจึงตั้งใจฝึกวิชานรกอมตะมาก
หลังจากเรียนมาทั้งคืน ลู่เสี้ยงหยางก็รู้สึกว่าเขารู้สึกงงอยู่ไม่น้อย แต่ก็อยากจะลองดู ถึงแม้ว่าระยะทางจะอีกยาวไกลก็ตาม
ยิ่งเรียนลู่เสี้ยงหยางก็รู้สึกหลงใหลมากขึ้น ยิ่งเขาเรียนยากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งมีพลังมากขึ้นเท่านั้น หลังจากที่เขาทำสำเร็จ
ปึก
ทันใดนั้นเขาก็ก้มหน้าลงไปมองหนังสือวิชานรกอมตะที่อยู่ข้างล่างพร้อมพึมพำกับตัวเองว่ามันเป็นของที่ดีจริงๆ ฉันต้องพยายามเข้าใจมัน อาจารย์จะได้ไม่ผิดหวัง
กริ๊งๆๆ
ขณะที่ลู่เสี้ยงหยางกำลังคิดอย่างนี้อยู่ในใจ โทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้น
เขาหยิบออกมาดู และก็เป็นพ่อของเขาเองที่โทรมา
ตอนนี้พ่อของเขาต้องดูแลทั้งตระกูล ดังนั้นจึงยุ่งมากทุกวัน เมื่อวานงานแต่งงานของลู่เซี่ยงหยุน พ่อเขาก็ไม่ได้ไปร่วมงาน เพราะแม่บอกว่า พ่อยังทำงานอยู่ที่ต่างจังหวัด วันนี้ถึงพึ่งจะกลับมา
ฮ่าๆ หรือว่าพ่อกลับมาแล้ว
ลู่เสี้ยงหยางตั้งหน้าตั้งตารออยากเจอพ่อมานานแล้ว เขาก็ไม่ได้เจอพ่อมาหลายปี เขาคิดถึงมาก
หลังจากรับสาย ลู่เสี้ยงหยางก็รีบถามว่า “พ่อกลับมาแล้วหรอ ให้ผมไปรับมั้ย”
แต่สิ่งที่ลู่เสี้ยงหยางได้รับกลับมาก็คือเสียงด่าอันเกรี้ยวกราด
“ลูกชั่ว แกทำเรื่องเลวๆอย่างนี้ได้ยังไง หน้าตาของตระกูลเราถูกแกทำลายจนป่นปี้ไปหมดแล้ว”
เชี่ย นี่มันเรื่องอะไรกัน ไม่ได้โทรผิดใช่มั้ย
ลู่เสี้ยงหยางดึงโทรศัพท์ออกมาแล้วก้มหน้ามอง พระเจ้าชื่อแสดงอยู่บนหน้าจอเป็นพ่อของเขาจริงๆ
“พ่อ พ่อเป็นบ้าอะไรโทรผิดหรอ”
ลู่เสี้ยงหยางถามอย่างไม่มีความโกรธ
ปลายสายโกรธจนแทบบ้า วันนี้เพิ่งลงจากเครื่องก็มีคนที่บ้านใหญ่โทรมาบอกเขาว่า ลูกชายของเขาข่มขืนพี่สะใภ้ เขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าลูกของเขาจะเลวทรามได้ขนาดนี้
ดังนั้นยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ ลู่กั๋วต้งตะคอกใส่โทรศัพท์มือถือว่า “ไอ้สัตว์เดรัจฉาน คนที่ฉันด่าก็คือแก ฉันให้เวลาแกครึ่งชั่วโมงรีบกลับบ้าน ไม่อย่างนั้นถ้าสายแม้แต่ครึ่งวินาทีฉันจะไล่แกออกจากบ้าน”
ติ๊ด
ด่าจบลู่กั๋วต้งก็ไม่ให้โอกาสเขาได้ถาม วางสายไปทันที
ลู่เสี้ยงหยาง งงเขาเป็นบ้าอะไรขึ้นมา
แต่พ่อของเขาไม่ใช่คนที่จะโกรธง่ายๆ วันนี้เขาแปลกมากที่บ้านต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่ๆ
เมื่อคิดได้อย่างนั้น ลู่เสี้ยงหยางก็ไม่กล้าช้าอีกต่อไป เขารีบออกจากบ้านของเทพเทียนหัว แล้วขับรถกลับบ้านใหญ่ หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงลู่เสี่ยงหยางก็ถึงบ้านใหญ่
ในห้องโถง คนตระกูลลู่ทุกระดับชั้นต่างมารวมตัวกัน
ลู่เสี้ยงหยางแปลกใจ ปกติแล้วมีแค่เรื่องใหญ่มากๆเท่านั้นถึงจะให้คนในตระกูลทุกระดับชั้นมารวมกัน
และผู้ใหญ่ระดับสูงก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ โดยเฉพาะตอนที่เจอหน้าลู่เสี้ยงหยาง สีหน้าของทุกคนโกรธจนแทบดูไม่ได้ ราวกับเขาทำอะไรผิดบาป จนไม่มีใครอาจรับได้
เชี่ย นี่มันอะไรกัน
ลู่เสี้ยงหยางงงมากขึ้นเรื่อยๆ
“พ่อเรียกผมมามีอะไรจะพูดรึเปล่า” ลู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้วถาม
ยังไม่ทันที่ลู่กั๋วต้งจะได้ตอบ พี่สะใภ้ใหญ่เซี่ยตงเสว่ก็รีบยิ้มเย็นพูด “ลู่เสี้ยงหยางนะลู่เสี้ยงหยาง นายนี่มันชาติชั่วจริงๆ เพิ่งกลับมาบ้านใหญ่วันแรกก็ทำตัวเป็นสัตว์ดิรัจฉานซะแล้ว”
เชี่ยไรเนี่ย เขาทำอะไร ถึงกับต้องเป็นสัตว์ดิรัจฉานทำเชียว
ลู่เสี้ยงหยางโกรธทันที เขามองไปที่เซี่ยตงเสว่และพูด “พี่สะใภ้พูดให้มันดีๆนะ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมไม่ไว้หน้า”
เซี่ยตงเสว่สงยิ้มเย็นพูด “นายทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจดี”
ฉันรู้ดีหรอ
ลู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้วมุ่น พูดอย่างกับเขาทำอะไรผิด ใครจะไม่โกรธบ้าง
ลู่เสี้ยงหลงส่ายหน้า และพูดเสียงแข็ง “ลู่เสี้ยงหยาง ถึงนายจะไปอยู่ปินเหอแล้วไม่ได้ทำหน้าที่สามี ไม่ได้แตะต้องภรรยาของตัวเอง นายก็ไม่ควรทนไม่ไหว แล้วกลับบ้านมาทำเรื่องต่ำช้าอย่างนี้นะ”