บทที่ 260 ชายผู้แข็งแกร่ง
แม้ลู่เสี้ยงหยางจำเป็นต้องยอมรับในฝีมือของหญิงชราคนนี้ เขารู้ว่าเธอสามารถฆ่าเขาด้วยฝ่ามือเดียวของเธอได้ แต่ในใจลึกๆ เขาก็ไม่เคยคิดจะยอมแพ้
เขาเงยหน้าขึ้นแล้วพูดด้วยเสียงแข็ง “คุณยาย ถ้าคุณยายจะเอาตัวเธอไป ยายต้องข้ามศพผมไปก่อน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ แววตาของหญิงชราก็เต็มไปด้วยความเลือดเย็น แม้แต่จ้าวหรูเย็นก็สัมผัสถึงความเย็นเยือกราวกับหลุดเข้าไปในถ้ำน้ำแข็งนี้ได้
ลู่เสี้ยงหยางเองก็รู้สึกว่ากำลังถูกภูเขาลูกใหญ่กดทับจนทำให้เขาหายใจลำบาก
“ได้ ดีมากเจ้าหนู นายแน่มาก ถ้าอย่างนั้นฉันจะทำให้นายตายอย่างสมหวังก็แล้วกัน” ทันทีที่พูดจบ หญิงชราก็ยกมือขึ้นและพร้อมที่จะลงมือ
จ้าวหรูเย็นรู้สึกกลัวมาก แต่เธอรีบเข้าไปยืนอยู่หน้าลู่เสี้ยงหยางแล้วกางมือสองข้างออก “คุณจะฆ่าเขาไม่ได้ ถ้าคุณฆ่าเขา ฉันก็จะตายต่อหน้าคุณเหมือนกัน”
หญิงชราหยุดนิ่งลง แม้เธอเพิ่งรู้จักจ้าวหรูเย็นเพียงไม่กี่วัน แต่เธอก็รู้นิสัยของเธอดี ยัยคนนี้กล้าพูดกล้าทำอย่างแน่นอน
“เหอะ เจ้าหนู ถือว่านายโชคดีไป ครั้งหน้ากล้าท้าทายฉันอีก นายไม่รอดแน่” หญิงชราพูดอย่างเย็นชา จากนั้นค่อยๆ วางมือลง
เกือบไปแล้วสิ!
ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกโชคดีที่ยังมีโอกาสได้หายใจต่อ และเขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าแผ่นหลังของเขาท่วมไปด้วยเหงื่อของตัวเองแล้ว
“งั้นเราไปกันเลย” หญิงชราโบกมืออย่างไม่รอช้า
จ้าวหรูเย็นกัดริมฝีปากแล้วพูดเบาๆ ว่า “ฉันขออยู่ปินเหออีกสักวัน ฉันสัญญาว่าพรุ่งนี้เช้าฉันจะออกเดินทางไปกับคุณ”
สีหน้าของหญิงชราหมองหม่นทันที จากนั้นพูดต่อ “เธอคิดจะต่อรองกับฉันเหรอ? อย่าลืมนะว่าเธอเคยสัญญาอะไรกับฉันไว้”
จ้าวหรูเย็นตกใจจนตัวสั่นเทา แต่ก็ยังฝืนใจพูด “ขอแค่ให้ฉันได้อยู่ปินเหออีกสักวัน ต่อไปฉันจะติดตามคุณอย่างไม่มีเงื่อนไข”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หญิงชราก็เงียบไปสักพักด้วยสีหน้าเคร่งขรึม จากนั้นค่อยๆ พยักหน้าตอบ “ก็ได้ ครั้งสุดท้ายแล้วนะ ต่อไปถ้าเธอกล้าต่อรองกับฉันอีก เธอได้เสียใจอย่างแน่นอน”
จ้าวหรูเย็นดีใจจนไม่ทันตอบสนองหญิงชราคนนั้น เธอรีบเข้าไปดึงแขนลู่เสี้ยงหยางแล้วพูดว่า “เราไปกันเถอะ”
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เธอจะได้อยู่กับลู่เสี้ยงหยาง เธอจะใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่าที่สุด
หลังจากที่เธอออกเดินทางไปกับหญิงชราคนนี้ในวันพรุ่งนี้ เธออาจจะไม่ได้เจอกับลู่เสี้ยงหยางอีกก็เป็นไปได้
แม้ลู่เสี้ยงหยางกับเธอไม่เคยคบกัน แต่ในใจเธอยอมรับมาตลอดว่าลู่เสี้ยงหยางเป็นของเธอ และทุกสิ่งทุกอย่างของเธอก็มอบให้กับลู่เสี้ยงหยางแล้ว
ในระหว่างทาง
ลู่เสี้ยงหยางถามจ้าวหรูเย็น “เกิดบ้าอะไรขึ้นกับยายคนนั้นกันแน่? แล้วพรุ่งนี้พวกคุณจะไปไหนกัน?”
จ้าวหรูเย็นส่ายหัวตอบ “ฉันก็ไม่รู้จักเธอเหมือนกัน แต่สามวันก่อน จู่ๆ เธอก็เข้ามาหาฉันแล้วบอกว่าฉันจะกลายเป็นธิดาเทพแห่งพรรคของเทียนเหมินของพวกเธอ แล้วจะให้ฉันไปกับเธอด้วย ตอนนั้นฉันยังสับสนแล้วปฏิเสธเธอไปทันที แต่เธอเอาพ่อของฉันมาขู่ เธอบอกว่าถ้าฉันไม่ไปเทียนเหมินด้วย เธอจะฆ่าพ่อของฉัน”
เมื่อพูดถึงจุดนี้ สีหน้าของจ้าวหรูเย็นก็กลายเป็นเศร้าหมองอีกครั้ง “ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตอบตกลงกับเธอ”
“อันที่จริง วันนี้ฉันต้องไปกับเธอแล้ว แต่ก่อนไปฉันอยากเจอคุณอีกสักครั้ง ดังนั้น……”
น้ำตาคลอเต็มเบ้าตาของจ้าวหรูเย็นและเธอไม่สามารถพูดต่อได้อีก
ถ้าไม่ได้ถูกบังคับ แล้วเธอจะคิดออกจากปินเหอนี้ได้อย่างไร
ที่นี่เป็นสถานที่ที่เธออยู่อาศัยมาโดยตลอด
และเธอยังต้องจากลู่เสี้ยงหยางคนที่เธอรักมาตลอดด้วย
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลู่เสี้ยงหยางได้แต่กำหมัดไว้แน่นๆ ด้วยความรู้สึกผิด ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเขาเอง เขาไม่แข็งแกร่งพอที่จะหยุดสิ่งเหล่านี้ได้
จ้าวหรูเย็นรู้สึกเศร้าใจที่เห็นสีหน้าลู่เสี้ยงหยางรู้สึกผิด เธอยกมืออันขาวเรียวขึ้นแล้วปาดน้ำตาออก จากนั้นยิ้มพูดกับเขา “อันที่จริงคุณก็มีคุณเย่สวนอยู่แล้ว และฉันกับคุณก็มันไม่มีทางเป็นไปได้ เรื่องนี้ฉันรู้ดีมาตลอด แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ ดีเหมือนกันที่ฉันจะได้ไปจากที่นี่ ฉันจะได้มีเหตุผลให้กับตัวเองบ้าง แต่ก่อนไปฉันอยากขออะไรคุณอย่างหนึ่ง ฉันหวังว่าวันนี้คุณจะอยู่กับฉันทั้งวัน ถือว่าเป็นการฝากความทรงจำที่ดีให้กับฉันได้ไหม?”
เมื่อพูดถึงประโยคสุดท้าย สีหน้าของจ้าวหรูเย็นก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง
ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกเศร้าใจอย่างไร้คำบรรยาย เขาปฏิเสธคำขอของจ้าวหรูเย็นไม่ได้ ทำได้เพียงพยักหน้าตอบเธอ “ได้สิ วันนี้ผมเป็นของคุณนะ”
“เย้! ดีจังเลย คุณเป็นของฉันแล้ว” แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่จ้าวหรูเย็นก็กระโดดขึ้นอย่างมีความสุข
จากนั้น ลู่เสี้ยงหยางกับจ้าวหรูเย็นก็ไปเที่ยวในสถานที่ที่สนุกที่สุดและไปกินอาหารที่อร่อยที่สุดในเมืองปินเหอ
เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ ช่วงเช้าของวันนั้นผ่านไปในพริบตา
ในช่วงบ่ายลู่เสี้ยงหยางพาจ้าวหรูเย็นไปเดินห้างเหนียนหัว
ห้างเหนียนหัวเป็นหนึ่งในห้างสรรพสินค้าที่หรูที่สุดในเมืองปินเหอ
จ้าวหรูเย็นละทิ้งความโศกเศร้าของการพรากจากกันชั่วคราว ตอนนี้เธอเหมือนเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่กำลังมีความรัก เธอจุงมือลู่เสี้ยงหยางแล้วเลือกซื้อเสื้อผ้ารองเท้าในห้างอย่างมีความสุข
ลู่เสี้ยงหยางรับหน้าที่เป็นผู้ถือของ ทั้งมือซ้ายและมือขวาของเขาก็เต็มไปด้วยของของจ้าวหรูเย็น
หลังจากที่ทั้งสองเดินออกจากร้านขายเสื้อ ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้หญิงดังมาจากด้านหลัง
“อ้าว นี่คุณจ้าวหรูเย็นไม่ใช่เหรอเนี่ย? เพิ่งถูกโจวอานทิ้งก็มีคนใหม่ซะแล้ว เหอะๆ สุดยอดจริงๆ เมื่อก่อนดูไม่ออกเลยนะ หน้าตาใส่ๆ ซื่อๆ แบบนี้ก็ร้ายลึกไม่เบาเลยนะเนี่ย”
เมื่อได้ยินคำพูดที่เสียดสีนี้ ลู่เสี้ยงหยางก็หันกลับไปมอง เขาได้เห็นสาวไฮโซรูปร่างอวบอิ่มคนหนึ่งควงแขนชายกล้ามใหญ่แล้วเดินเข้ามา
“หม่าจิงจิง มาได้ไง?” จ้าวหรูเย็นจำผู้หญิงคนนี้ได้ในพริบตา เธอคนนี้เคยทำธุรกิจกับโจวอาน หลายครั้งที่โจวอานประชุมก็จะพาจ้าวหรูเย็นไปด้วย ดังนั้นทั้งสองจึงเคยเจอหน้ากันมาหลายครั้งแล้ว
แม้โจวอานกับหม่าจิงจิงจะมีความร่วมมือทางธุรกิจ แต่ทั้งสองก็มีความขัดแย้งกันและกัน
ได้ยินว่าช่วงที่ผ่านมาโจวอานถูกคนทำร้ายจนไม่เหลือความเป็นชายแล้ว หม่าจิงจิงที่ได้ยินข่าวนี้ก็รู้สึกมีความสุขไม่น้อยเลย
และวันนี้ที่บังเอิญเจอจ้าวหรูเย็น หม่าจิงจิงจึงตั้งใจอยากพูดเสียดสีให้เธอขายหน้า เพื่อตอบสนองความฟุ้งเฟ้อในใจตน
“ทำไม? เห็นฉันแล้วรู้สึกแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ? หรือว่าอยากให้ฉันบอกโจวอานเรื่องที่เธอแอบมีกิ๊กคนนี้?” หม่าจิงจิงเดินเข้ามาหาจ้าวหรูเย็นแล้วพูดด้วยรอยยิ้มเย่อหยิ่ง
หลังจากพูดจบ สายตาของเธอกวาดมองไปที่ลู่เสี้ยงหยาง จากนั้นพูดอย่างเหยียดหยามอีกครั้ง “แต่เธอก็ไม่เท่าไหร่นะ หากิ๊กทั้งทีก็ได้แค่คนจนๆ แต่งตัวสุรุ่ยสุร่ายคนหนึ่ง กลางคืนเขาคงพาเธอขึ้นสวรรค์ไม่ไหวหรอกมั้ง ฮ่าๆ อยากได้ผู้ชายคนใหม่ที่ฉันเพิ่งหาเมื่อวานไหมล่ะ? ยืมให้เธอก่อนได้นะ คนร้ายลึกอย่างเธอคงต้องเจอกับผู้ชายกล้ามโตๆ แบบนี้สิ ว่ามั้ย?”