บทที่ 254 อาชญากรโรคจิต
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่สวน หัวใจของลู่เสี้ยงหยางก็สั่นไหว แย่แล้วสิ ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่เลย
กลิ่นน้ำหอมที่ติดตัวเขาต้องเป็นของหานปิงหานแน่
ไม่คิดเลยว่าจมูกของผู้หญิงจะรับกลิ่นได้ดีขนาดนี้ พูดตามความจริง แม้แต่ลู่เสี้ยงหยางก็ยังไม่ได้กลิ่นนี้เลย
“ไม่มีหรอกมั้ง คุณคิดไปเองหรือเปล่า?” ลู่เสี้ยงหยางยิ้มพูด ได้แต่หวังให้เรื่องนี้ผ่านไปโดยเร็วที่สุด
เย่สวนยิ้มอย่างเย็นชา “กลิ่นน้ำหอมที่ติดตัวคุณเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่รุ่นที่ห้าของ Chanel โดยปกติแล้วผู้หญิงจะเลือกใช้ในตอนที่ออกไปที่สาธารณะ เรื่องน้ำหอมของผู้หญิงคุณคิดว่าคุณมีความรู้มากกว่าฉัน หรือว่าฉันมีความรู้มากกว่าคุณ?”
ลู่เสี้ยงหยางถึงกับพูดไม่ออก แต่ในไม่ช้าไหวพริบของเขาก็ทำงาน “ก็คืนนี้ผมออกไปเดินเล่น ขากลับขึ้นรถบัส ในรถค่อนข้างแออัดด้วย ผมว่าต้องเป็นกลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงคนนั้นบนรถบัสแน่เลย”
“แน่ใจนะ?” เย่สวนจ้องเข้าไปในดวงตาของลู่เสี้ยงหยาง ดูเหมือนว่าเธอจะเห็นอะไรบางอย่างนัยน์ตาเขา
“แน่นอนสิ เรื่องแบบนี้ผมยังต้องโกหกคุณด้วยเหรอ?” ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้าอย่างจริงจัง เป็นการโกหกที่เรียบเนียนอย่างที่สุด
เย่สวนจ้องหน้าลู่เสี้ยงหยางอยู่สักพัก แต่เธอก็ไม่เห็นความผิดปรกติใดๆ ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะเชื่อคำโกหกของลู่เสี้ยงหยาง
เป็นค่ำคืนที่แสนเงียบอีกคืน
จนเช้าวันที่สอง
ลู่เสี้ยงหยางตื่นแต่เช้าแล้วไปทำอาหารให้เย่สวนกับหลิวจิ้ง ในเวลานี้เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เมื่อหยิบโทรศัพท์ออกมาก็เห็นเป็นสายเรียกเข้าจากหวังเสว่
ลู่เสี้ยงหยางรับสายแล้วถามเขาว่า “คุณเจ้าหน้าที่หวังติดต่อผมแต่เช้ามีธุระอะไรเหรอครับ?”
น้ำเสียงของหวังเสว่ในสายค่อนข้างตื่นเต้น “ลู่เสี้ยงหยาง คุณรีบเข้ามาที่สถานีตำรวจหน่อย เราพบผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมต่อเนื่องแล้ว อีกสักพักก็จะเริ่มทำการสอบปากคำเขา”
“ได้ครับ ผมจะเข้าไปเดี๋ยวนี้เลยครับ” ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้าแล้วกดวางสายลง จากนั้นเตรียมตัวออกไปที่สถานีตำรวจ
ยี่สิบนาทีต่อมา ลู่เสี้ยงหยางได้เดินทางมาถึงสถานีตำรวจปินเหอ
เสี่ยวหม่าหนึ่งในสมาชิกของทีมอาชญากรรมร้ายแรงได้มารอลู่เสี้ยงหยางที่หน้าประตู เมื่อเห็นลู่เสี้ยงหยางลงจากรถ เขาก็พาลู่เสี้ยงหยางเข้าไปในห้องสอบสวนทันที
ในขณะนี้ หวังเสว่ยืนอยู่หน้ากระจกด้านเดียวของห้องสอบสวน
กระจกบานนี้สามารถมองเข้าไปด้านในของห้องสอบสวนได้ แต่จะมองออกมาจากด้านในห้องไม่ได้
“ถึงแล้วเหรอคะ” เมื่อเห็นลู่เสี้ยงหยาง หวังเสว่ก็กล่าวทักทายด้วยความนับถือ เธอต้องยอมรับว่า เพราะการให้ข้อมูลของลู่เสี้ยงหยาง เธอถึงจับผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมต่อเนื่องคนนี้ได้
ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้าตอบ “ขอดูข้อมูลของผู้ต้องสงสัยหน่อยครับ”
หวังไสว่จึงรีบยื่นแฟ้มในมือให้กับลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางรับแฟ้มมาแล้วเปิดอ่านคร่าวๆ จากนั้นก็ปิดแฟ้มนั้น
เขาพอเข้าใจสำหรับผู้ต้องสงสัยคนนี้แล้ว
ผู้ต้องสงสัยมีชื่อว่าหวงต้าจู้ เป็นชาวเมืองไท่ผิง อายุ 35 ปี เขาเคยทำงานในโรงงานเหล็กในเมืองไท่ผิง แต่งงานเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เขาใช้ชีวิตคู่เพียงระยะเวลาครึ่งปีก็ต้องหย่าร้างกัน หลังจากนั้นมาเขาก็ใช้ชีวิตตัวคนเดียว
ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้า เขารู้สึกว่าหวงต้าจู้คนนี้เป็นผู้ต้องสงสัยที่สอดคล้องกับการอนุมานของเขามากที่สุด
ประการแรก หวงต้าจู้เคยทำงานหนักและมีประสบการณ์ด้านงานเครื่องกล ดังนั้นเขาจึงเข้าใจพื้นฐานของหลักการเชิงกลและสามารถใช้อาวุธมีคมเพื่อสังหารเหยื่ออย่างเด็ดขาด
ประการที่สอง หวงต้าจู้เป็นคนล้มเหลวในชีวิตคู่ เขาอาจจะแค้นฝังใจสำหรับอดีตภรรยาที่ทำให้เขาต้องผิดหวัง ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะสังหารเฉพาะเพศตรงข้ามเพื่อระบายอารมณ์ที่ผิดปกติในใจ อีกทั้งหลังจากหย่าร้างกับคู่สมรส เขาได้อยู่ตัวคนเดียว ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เขามีเวลามากพอที่จะวางแผนก่ออาชญากรรมเหล่านี้ได้
ประการสุดท้าย เหยื่อที่ถูกสังหารโดยหวงต้าจู้ก็ล้วนเป็นหญิงสาวหน้าตาดีทั้งหมด หลังจากถูกสังหารแล้วอวัยวะเพศของเหยื่อทุกรายก็จะถูกทำลายสภาพด้วยของมีคม ซึ่งจุดนี้ได้บ่งบอกถึงความอาฆาตแค้นของผู้ต้องสงสัยที่มีต่อเพศตรงข้าม เขาจึงต้องการลายมันทิ้ง สิ่งที่เขาไม่สามารถได้รับ คนอื่นก็จะไม่ได้รับเช่นกัน
ในขณะนั้น ลู่เสี้ยงหยางสันนิษฐานว่าผู้ต้องสงสัยต้องมีความบกพร่องเรื่องสมรรถภาพทางเพศอย่างแน่นอน
และหวังไสว่ก็เห็นข้อมูลบนแฟ้มประวัติหลักฐานได้อย่างชัดเจนว่า ทางตำรวจสอบสวนคดีได้พบรอยนิ้วมือของหวงต้าจู้บนเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้านขายยาเพิ่มสมรรถภาพทางเพศแห่งหนึ่ง
ดังนั้นลู่เสี้ยงหยางจึงการันตี 90 % ว่าหวงต้าจู้คนนี้ต้องเป็นผู้ก่ออาชญากรรม
ในขณะเดียวกัน การสอบปากคำในห้องสอบสวนก็ได้เริ่มขึ้น
ผู้สอบสวนของหวงต้าจู้ชื่อว่าเถ่ลี่สิง เป็นเจ้าพนักงานสอบสวนอาชญากรที่มีประสบการณ์โชกโชน
เมื่อเถ่ลี่สิงเริ่มพูดก็ตรงเข้าประเด็นทันที เขามองไปที่หวงต้าจู้แล้วพูดว่า “หวงต้าจู้ ทางเราสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในเมืองไท่ผิง ตอนนี้ทางเราอยากขอความร่วมมือจากคุณเพื่อตอบคำถามของเรา……”
หวงต้าจู้ส่ายหัวแล้วพูดขัดจังหวะเขา “คุณตำรวจครับ ผมอยากบอกคุณว่าผมไม่ใช่ฆาตกรต่อเนื่อง แล้วก็คดีฆาตกรรมต่อเนื่องก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผมด้วย!”
ลู่เสี้ยงหยางยิ้มจางๆ เขารู้สึกว่าชายคนนี้ไหวพริบค่อนข้างดี ดูเหมือนเขาจะมีความมั่นใจเกินร้อย และคิดว่าตำรวจไม่มีทางเอาผิดเขาได้
เถ่ลี่สิงหัวเราะเบาๆ แล้วพูดต่อ “ตอนนี้ทางเรามีพยานหลักฐานมากกว่า 90% แล้ว มิฉะนั้นคงไม่เชิญคุณมานั่งสอบปากคำที่นี่หรอก”
หวงต้าจู้ตอบอย่างไม่แยแส “งั้นเชิญพูดเลยครับ ผมขอเป็นผู้ฟังก็แล้วกัน”
เถ่ลี่สิงเริ่มเกริ่นนํา “ทางเราได้ทำการตรวจสอบแล้ว เหยื่อทั้งหกคนก่อนหน้านี้ พวกเธอต่างก็เคยทำงานในหน่วยงานเดียวกับคุณ หรือไม่ก็เคยทำงานในหน่อยงานเดียวกับอดีตภรรยาของคุณ”
“พวกเธอทั้งหมดมีลักษณะเดียวกันก็คือ ต่างก็คอยนินทาว่าร้ายเกี่ยวกับการแต่งงานของคุณกับอดีตภรรยาของคุณ จนในที่สุดชีวิตสมรสของคุณกับอดีตภรรยาก็พังอย่างที่พวกเธอหวังไว้”
“เหตุการณ์เหล่านี้ได้กระตุ้นความคิดของคุณ คุณคิดเสมอว่าเป็นความผิดของพวกเธอที่ทำให้ชีวิตคู่ของคุณต้องจบลง ดังนั้นคุณจึงเลือกที่จะฆ่าพวกเธอทีละคนเพื่อระบายความเกลียดชังในใจ”
“หวงต้าจู้ คุณคิดว่าเรื่องที่ผมเล่ามาเป็นความจริงไหม? แล้วตอนนี้คุณรู้สึกผิดบ้างไหมที่ฆ่าพวกเธอไปทั้งหมด?” เถ่ลี่สิงทุบโต๊ะและพูดเสียงดัง
หวงต้าจู้ส่ายหัวแล้วพูดอย่าเย้ยหยัน “ทั้งหมดนี้เป็นการใส่ความของคุณ ที่คุณพูดมามีหลักฐานไหม?”
หวังไสว่ที่ดูการสอบสวนอยู่ก็เริ่มขมวดคิ้วขึ้นด้วยความเคร่งเครียด ดูเหมือนว่าหวงต้าจู้ไม่ได้เคี้ยวง่ายอย่างที่คิด และเถ่ลี่สิงก็คงทำให้หวงต้าจู้สารภาพง่ายๆ ไม่ได้อย่างแน่นอน
“เฮ่อ ดูเหมือนว่าเราทำได้แค่สงสัยเขาเท่านั้น คงไม่สามารถจับกุมเขาได้” หวังไสว่ได้แต่ถอนหายใจด้วยสีหน้าไม่เต็มใจ
เธอมั่นใจว่าหวงต้าจู้เป็นผู้ร้ายตัวจริง แต่น่าเสียดายที่ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะจับกุมเขาได้ ความรู้สึกแบบนี้ไม่มีใครจะเข้าใจเธอได้อีก
ลู่เสี้ยงหยางยิ้มพูด “ไม่ต้องห่วงครับ อีกไม่นานหวงต้าจู้ก็ถูกจับอย่างแน่นอน”
เมื่อพูดจบเขาก็หยิบเครื่องวิทยุของหวังไสว่มาแล้วส่งสัญญาณให้กับเถ่ลี่สิง
จากนั้นให้เถ่ลี่สิงบอกหวงต้าจู้ว่า ทางตำรวจจะเผยแพร่คลิปวิดีโอหลักฐานของเขาที่เข้าไปขโมยยาเสริมสมรรถภาพทางเพศในร้านยาให้กับโซเชียลได้เห็น
เพราะในแฟ้มเอกสารหลักฐานของหวงต้าจู้ หวังไสว่ได้เขียนอย่างชัดเจนว่าเขาได้เข้าไปขโมยสินค้าในร้านขายยาและทิ้งลายนิ้วมือไว้ จึงเป็นสาเหตุที่เขาถูกจับกุมในครั้งนี้
ตามการวิเคราะห์ของลู่เสี้ยงหยางแล้ว หวงต้าจู้ต้องคิดในใจว่าเขาเป็นคนล้มเหลวและไร้ประโยชน์ ดังนั้นเขาจึงพยายามแสดงความเป็นลูกผู้ชายให้ทุกคนได้เห็น แต่ถ้าคลิปที่เขาเข้าไปขโมยยาเสริมสมรรถภาพในร้านยาถูกเปิดเผยออกไป เขาต้องรับไม่ได้อย่างแน่นอน
และถ้าเขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ เขาก็จะก่ออาชญากรรมช้ำๆ ดังนั้นตำรวจจึงสามารถเตรียมการไว้ล่วงหน้าและสามารถทำการเข้าจับกุมเขาได้ในที่สุด