บทที่ 241 วีรบุรุษกอบกู้คนงาม
เมื่อโจวอานพูดจบ เขายื่นมือทั้งสองข้างมันจับแขนของจ้าวหรูเย็นแล้วดึงเธอไปที่ข้างรถ
ในเมื่อเสียหน้าไปแล้ว เขาจึงไม่จำเป็นที่จะเสแสร้งต่อ เขาเตรียมใช้ไม้แข็งเพื่อพาจ้าวหรูเย็นขึ้นไปบนรถแล้วเริ่มแผนการแก้แค้นของเขา
จ้าวหรูเย็นพยายามดิ้นรน แต่เนื่องจากยาได้ออกฤทธิ์อย่างเต็มที่แล้ว เธอจึงรู้สึกอ่อนเพลียและไม่มีเรี่ยวแรงที่จะขัดขืนเลย
โจวอานหัวเราะเสียงดังแล้วพูดอย่างอนาจาร “คุณขัดขืนไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ผมว่าคุณยอมซะโดยดีจะดีกว่านะ”
“สารเลว ปล่อยฉันนะ” จ้าวหรูเย็นพยายามตะโกนและดิ้นรนอย่างไม่หยุด เธอรู้สึกน่าขยะแขยงขนลุกทุกจุดที่โอวอานสัมผัสกับตัวเธอ มันเหมือนถูกสัตว์ร้ายที่กำลังจ้องมองเพื่อจะกัดกินเธอไปทั้งตัว
โจวอานทำเหมือนไม่ได้ยิน เขาได้แต่ดึงจ้าวหรูเย็นไว้เพื่อพยายามลากเธอขึ้นรถ
ในช่วงเวลาวิกฤตนั้น ไม่รู้ว่าจ้าวหรูเย็นเอาแรงมาจากไหน เธอยกเท้าขึ้นแล้วเตะไปที่กลางเป้าของโจวอานด้วยความแรง
แมร่งเอ๊ย!
โจวอานเจ็บจนเหงื่อตกและปล่อยจ้าวหรูเย็นไปอย่างไม่รู้ตัว
จ้าวหรูเย็นพยายามฝืนตัวเองแล้ววิ่งหนีอย่างสุดชีวิต จนในที่สุดก็มีรถแท็กซี่คันหนึ่งขับสวนมา เธอจึงรีบขึ้นรถหนีไป
“เหอะ! คิดว่าจะหนีไปได้เหรอ? ยังไงคืนนี้มึงก็ต้องเป็นของเล่นบนเตียงของกู” โจวอานพูดด้วยความเจ็บปวด จากนั้นหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรหาลูกสมุน
“อาสาม นายพาลูกน้องไปดักรอที่ทางกลับบ้านของจ้าวหรูเย็นตอนนี้เลย แล้วจับมันกลับมาให้ได้” หลังจากลูกสมุนรับสายโจวอานก็รีบออกคำสั่ง
“รับทราบครับคุณชาย ผมจะจัดการให้สำเร็จครับ” เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายดังขึ้นในสาย
จากนั้นโจวอานวางสายแล้วขึ้นรถด้วยความเจ็บปวด เขาเตรียมกลับบ้านไปรอข่าวดีจากลูกสมุน
แต่โจวอานยังไม่ทันสังเกตว่ามีคนแอบมองเขาอยู่ที่มืด เมื่อเห็นภาพนี้เขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรออก
……
ทางด้านจ้าวหรูเย็นหลังจากขึ้นรถแล้วเธอก็เร่งคนขับให้ขับเร็วที่สุด
ยี่สิบนาทีต่อมา ในที่สุดจ้าวหรูเย็นก็ได้ไปถึงหมู่บ้านที่เธอเปิดคลินิกอยู่
ระหว่างทางกลับโจวอานไม่ได้ไล่ตามเธอมาเลย เธอจึงรู้สึกโล่งอกและคิดว่าตัวเองหลุดพ้นจากเขาแล้ว
แต่ในขณะที่เธอรู้สึกสบายใจ จู่ๆ คนขับรถก็เหยียบเบรกอย่างกะทันหันจนทำให้รถหยุดลงทันที
จ้าวหรูเย็นที่ยังไม่ทันตั้งตัวก็ชนกับเบาะที่นั่งด้านหน้า
“เกิดอะไรขึ้น? คุณหยุดรถทำไม?” จ้าวหรูเย็นถาม
คนขับรถแท็กซี่พูดอย่างจนปัญญา “ทางข้างหน้าถูกปิดครับ”
จ้าวหรูเย็นมองไปข้างหน้าแล้วเห็นรถตู้สองคันจอดขวางถนนและมีชายร่างสูงยืนอยู่ข้างรถห้าคน
แย่แล้ว!
จ้าวหรูเย็นรู้ทันทีว่าชายร่างสูงตรงหน้านั้นเป็นลูกสมุนของโจวอาน
ดูเหมือนว่าโจวอานไม่ได้ไล่ตามเธอมาแต่เขาเรียกคนของเขามา
ทันทีที่รถแท็กซี่หยุดลง ชายร่างสูงห้าคนนั้นก็เดินเข้ามาล้อมรถไว้ จากนั้นชายคนหนึ่งเปิดประตูแล้วลากจ้าวหรูเย็นลงจากรถ
คนขับแท็กซี่ตกใจและรีบตะโกนพูดว่า “พวกคุณทำอะไร? เดี๋ยวผมแจ้งตำรวจนะ……”
ผัวะ!
เขายังพูดไม่ทันคาดคำก็ถูกชายร่างสูงคนนั้นตบเข้าที่ใบหน้าอย่างจัง “ไม่ใช่เรื่องของนาย เราแค่ต้องการตัวผู้หญิงคนนี้ ถ้ากล้าพูดมากอีกคำ นายได้ตายสมใจแน่”
เมื่อคนขับแท็กซี่เห็นใบหน้าชายร่างสูงทั้งห้าคนนี้ก็รู้ว่าพวกเขาต้องเป็นนักเลงอย่างแน่นอน เขาจึงไม่กล้าพูดต่อเพราะถึงอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องของเขาอยู่ดี
“เราไปกันเถอะ คุณชายยังรอผู้หญิงคนนี้อยู่” หัวหน้าชายร่างสูงหันไปโบกมือ จากนั้นลากจ้าวหรูเย็นไปขึ้นรถ
จ้าวหรูเย็นพยายามตะโกนและดิ้นรนอย่างสุดชีวิต แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
เป็นเวลาในพริบตาจ้าวหรูเย็นก็ถูกพาไปถึงข้างรถตู้ หัวหน้าชายร่างสูงเปิดประตูแล้วผลักจ้าวหรูเย็นเข้าไปในรถอย่างง่ายดาย
จ้าวหรูเย็นตัวสั่นอย่างไม่หยุด เมื่อนึกถึงสภาพอันเลวร้ายที่ตัวเองกำลังจะเผชิญ เธออยากกัดลิ้นฆ่าตัวตายไปเสียแต่ก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะขยับปากเลย
ตอนนี้แม้กระทั่งสติสัมปชัญญะของเธอก็เริ่มเลือนรางไปแล้ว
ในขณะที่ชายร่างสูงทั้งห้ามองหน้ากันและเตรียมตัวขึ้นรถ ทันใดนั้นก็มีร่างปรากฏอยู่ข้างหลังพวกเขาอย่างเงียบ ๆ
พรึบ!
ร่างนั้นตบไหล่ของหัวหน้าชายร่างสูง
หัวหน้าชายร่างสูงจึงหันกลับไปด้วยความสงสัย แต่ก่อนที่เขาจะรู้ตัวก็ถูกชกเข้ากลางใบหน้าอย่างจัง
ผัวะ!
กำปั้นกระแทกกับใบหน้าของเขา จนทำให้เขากระเด็นออกไปชนกับรถตู้
เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะกรีดร้องก็ต้องล้มสลบคาพื้นทันที
เชี่ย!
อะไรวะนั่น?
ชายร่างสูงอีกสี่คนหันกลับไปและได้เห็นชายแปลกหน้าคนหนึ่งยืนมองพวกเขาด้วยสายตาอันเย็นเยือกอยู่ตรงหน้าจนทำให้พวกเขาต้องถึงกับเหงื่อตก
“แมร่งเอ๊ย นายเป็นใคร?” ชายร่างสูงทั้งสี่คนตกใจด้วยความตื่นตัว
ชายดังกล่าวไม่ได้ตอบด้วยคำพูด แต่กลับตอบพวกเขาด้วยกำปั้นของเขา
ผัวะ!
เขาเหวี่ยงหมัดออกไปอีกครั้งจนทำให้ชายร่างสูงคนหนึ่งล้มทั้งยืน
เชี่ยเอ๊ย!
นี่มันคนเหี้ยม!
ชายร่างสูงที่เหลือรีบชักมีดออกมาจากเอวทันที
ฝึบ ฝึบ!
จากนั้นพวกเขาก็ฟันไปที่ชายดังกล่าวอย่างไม่ยั้ง
มีดเล่มหนึ่งสับไปที่ตำแหน่งศีรษะของชายคนนั้น ส่วนอีกเล่มฟันไปที่กลางอกของเขา
ซึ่งทั้งสองตำแหน่งก็ล้วนเป็นจุดสำคัญของร่างกายมนุษย์ ถ้าถูกฟันเข้าคงจะมีโอกาสรอดน้อยมาก
ดวงตาของชายคนนั้นเย็นชาอย่างที่สุด เขาเพียงแค่ถอยหลังไปก้าวเดียวก็สามารถหลบการโจมตีจากชายร่างสูงเหล่านั้นได้
แมร่งเอ๊ย!
ชายร่างสูงสองคนนั้นก็ยิ่งหัวร้อนมากขึ้น พวกเขาใช้มีดฟันไปที่ชายดังกล่าวอย่างไม่ยั้ง
สึบ สึบ!
แต่ถึงอย่างไรชายดังกล่าวก็สามารถตั้งรับการโจมตีจากพวกเขาได้ จากนั้นเขาคว้าแขนของชายร่างสูงเหล่านั้นแล้วหักแขนพวกเขาทีละคน
“โอ๊ย โอ๊ย!”
ตามด้วยเสียงกรีดร้องอันแสนเจ็บปวด
“เหอะ” ชายดั่งกล่าวเตะไปที่ชายร่างสูงเหล่านั้นจนสลบคาที่ทันที
จ้าวหรูเย็นที่นั่งอยู่ในรถตู้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก ในขณะนี้เธอได้แต่อ่อนล้าและกลัวจนตัวสั่นอย่างไม่หยุด
แต่วินาทีต่อมาเมื่อเธอเห็นหัวที่โผล่เข้ามาจากด้านนอกก็ทำให้เธอถึงกับตกตะลึง
“ลู่ ลู่เสี้ยงหยาง ใช่คุณไหม?”
“ผมเองครับ” ลู่เสี้ยงหยางยิ้มพูด จากนั้นเข้าไปนั่งข้างๆ จ้าวหรูเย็นในรถตู้
ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจ้าวหรูเย็นก็คอยยื่นมือช่วยเหลือเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข ซึ่งเขาไม่เคยลืมบุญคุณเหล่านี้เลยแม้แต่เรื่องเดียว เมื่อเขารู้ว่าโจวอานนั้นไม่ใช่คนดีอย่างที่คิด เขาจึงสั่งให้ถังหลงคอยส่งคนมาติดตามจ้าวหรูเย็นเพื่อปกป้อมความปลอดภัยของเธอ และเรื่องของคนนี้ลู่เสี้ยงหยางก็ได้ข่าวมาจากคนของถังหลงเหมือนกัน
เมื่อได้ยินข่าวร้ายนี้ลู่เสี้ยงหยางก็ถามจ้าวหรูเย็นมาทันที
“ฮือ ฮือ!” จ้าวหรูเย็นรู้สึกซาบซึ้งจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ จากนั้นเธอทิ้งตัวเข้าไปกอดลู่เสี้ยงหยางไว้แน่นๆ
“ฮือ!” เนื่องจากยาในร่างกายของจ้าวหรูเย็นได้ออกฤทธิ์อย่างเต็มที่ ในขณะที่เธอทิ้งตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของลู่เสี้ยงหยางก็ทำให้เธอได้สัมผัสกับกลิ่นกายความเป็นผู้ชายของเขา ดังนั้นจึงทำให้เธอไม่สามารถควบคุมสติได้ จากนั้นริมฝีปากสีแดงของเธอก็จูบไปที่ริมฝีปากของลู่เสี้ยงหยางอย่างควบคุมไม่อยู่