บทที่238 อยากแพ้ซะขนาดนี้ ฉันจะให้นายสมหวัง!
ฟังคำพูดของเฉินเหลย ลู่เสี้ยงหยางก็รู้สึกว่าชายคนนี้มีความอ่อนต่อโลก นี่มันเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตคน จะพนันได้ยังไง?
ส่ายหัวแล้วพูดไป “ขอโทษที ฉันไม่สนใจ”
ได้ยินดังนั้น เฉินเหลยก็ผงะ จากนั้นก็ยิ้มเย็นชา พูดว่า “ทำไม? ไม่กล้า? กลัวแพ้หรอ? งั้นตอนนี้แกก็ยอมรับ ว่าที่แกพูดเมื่อกี้เป็นแค่การพูดปากเปล่าไม่มีความจริง พูดมั่วซั่ว”
แม่ง นี่มันสุดโต่งเกินไปแล้ว
ลู่เสี้ยงหยางเป็นคนไม่เกรงกลัวอะไร ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าพูดขึ้น “ได้เลย ในเมื่อนายอยากจะแพ้ขนาดนั้น งั้นฉันก็ให้นายสมหวัง”
เฉินเหลยโบกมือพูดว่า “อย่าพูดมากเกินไปนัก ชัยชนะจะเป็นของใคร ก็ยังไม่แน่”
ลู่เสี้ยงหยางขี้เกียจพูดไร้สาระกับเขาต่อ ถัดจากนั้น ก็เริ่มจับสลากแบ่งสมาชิกทีมอาชญากรรม
หน่วยอาชญากรรมรวมหวังเสว่ด้วยแล้ว มีทั้งหมด10คน แต่ล่ะกลุ่มแบ่งเป็น5คน
หวังเสว่บังเอิญได้มาอยู่ฝั่งของลู่เสี้ยงหยาง
เฉินเหลยโบกมือ พาสมาชิกในทีมไปที่มุมด้านข้าง แล้วเริ่มมอบหมายงานให้พวกเขา
หวังเสว่มองไปที่ลู่เสี้ยงหยาง เอ่ยถาม “ทิศทางการตรวจจับของเราคืออะไร นายตัดสินใจจะเริ่มสืบหาฆาตกรจากด้านไหน? ”
ลู่เสี้ยงหยางมีแผนการในใจอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว โน้มตัวเข้าไป กระซิบข้างหูของหวังเสว่ “ฉันกล้าที่จะชี้ขาด ว่าต้องเป็นคนที่คุ้นเคยก่อคดี พูดอีกอย่างคือ ฆาตกรต้องอยู่ในเมืองไท่ผิงแน่นอน ตอนเธอไปสืบหาฆาตกร ให้ใส่ใจจุดเด่นพวกนี้ ฆาตกรต้องเป็นคนโสด หรือมีเวลาที่เป็นอิสระ มีช่องว่างในการเตรียมก่อคดี อีกอย่าง ปัญหาความสัมพันธ์ส่วนตัวของเขาไม่ราบรื่นแน่นอน เธอตรวจสอบทีล่ะคน เอาคนที่มีความเป็นไปได้ทั้งหมด ทำเป็นข้อมูลมาให้ฉันดู ถึงเวลานั้นฉันค่อยวิเคราะห์”
“โอเค!” หวังเสว่พยักหน้า ในใจตกตะลึงอย่างมาก ความคิดของลู่เสี้ยงหยางค่อนข้างชัดเจน เหมือนกับได้รับการฝึกอบรมจากผู้เชี่ยวชาญ
แน่นอนว่าเธอไม่รู้เลย ว่าลู่เสี้ยงหยางตั้งแต่เล็กจนโตก็ชอบศึกษาจิตวิทยาอาชญากร ตอนนี้ความสำเร็จในด้านนี้ ค่อนข้างที่จะอยู่ในเชิงลึก
“โอเค งั้นเธอไปทำธุระเถอะ มีความคืบหน้าอะไร ติดต่อกันในโทรศัพท์” ลู่เสี้ยงหยางโบกมือ ไม่ได้หยุดอยู่ที่เดิมต่อ ดึงมือของเย่สวนออกจากที่เกิดเหตุไป
ระหว่างทางกลับ เย่สวนแปลกใจเป็นอย่างมาก เอ่ยถามลู่เสี้ยงหยาง “แต่ก่อนนายเรียนด้านการสืบสวนคดีอาชญากรรมใช่ไหม? ทำไมเข้าใจจิตวิทยาอาชญากรได้ชัดเจนขนาดนี้? ”
ลู่เสี้ยงหยางยิ้ม พูดขึ้น “มันเป็นงานอดิเรกส่วนตัวล้วนๆ ฉันครุ่นคิดไตร่ตรองเอา”
คำพูดนี้ เย่สวนกลับไม่เชื่อ ครุ่นคิดไตร่ตรอง? จะมีความสำเร็จเชิงลึกขนาดนี้ได้ยังไง
แน่นอน ก็ไม่ได้ตรวจสอบเชิงลึกกับลู่เสี้ยงหยางต่อ เปลี่ยนหัวข้อ มองไปที่ลู่เสี้ยงหยางแล้วเอ่ยถาม “จริงสิ จูบแห่งเทพธิดาของฉัน ใช่นายให้มาเหมือนกันหรือเปล่า? ”
ก่อนหน้านี้เย่สวนไม่แน่ใจมาตลอด ของขวัญที่ราคาแพงขนาดนี้ใครให้มากันแน่ แต่วันนี้เธอพอจะเดาได้แล้ว ในเมื่อวันนี้ลู่เสี้ยงหยางพึ่งให้รักแห่งคริสตัลราคา98ล้านกับเธอ ว่ากันตามกำลังทรัพย์แล้ว ลู่เสี้ยงหยางไม่มีปัญหาอะไรเลย
ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้าพูดขึ้น “ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้เธอชอบจูบแห่งเทพธิดานี่ไม่ใช่หรอ? ดังนั้น ฉันเลยใช้เส้นสายเอามันมาให้เธอ”
เอี๊ยด!
พอสิ้นเสียงพูด เย่สวนก็เหยียบเบรกจนสุด BMW M8ลากรอยเบรกยาวบนพื้น หยุดลงทันที
เฮ้ย!
ลู่เสี้ยงหยางตกใจ ตัวโน้มไปข้างหน้าเล็กน้อย เอ่ยถาม “เป็นอะไร? ”
เย่สวนใบหน้าเต็มไปด้วยความสุขและอาการการถูกรัก ที่แท้ ก็เป็นลู่เสี้ยงหยางมอบจูบแห่งเทพธิดาให้เธอ
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ลู่เสี้ยงหยางวางเธอไว้ในฝ่ามือ รักใคร่ราวกับเจ้าหญิง
นึกถึงเรื่องพวกนี้ เย่สวนก็ซาบซึ้งจนแทบจะร้องไห้ ปากเล็กรูปเชอรรี่ จูบลงบนแก้มของลู่เสี้ยงหยางหนึ่งที เอ่ยว่า “ขอบคุณนะ สามี”
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกลู่เสี้ยงหยางว่าสามี
ตูม!
สมองของลู่เสี้ยงหยางสั่นสะเทือน มีความตื่นเต้นและปีติยินดีที่อธิบายไม่ได้อยู่เต็มหัวใจเขา
ในตอนนี้ เขารู้สึกเพียง เรื่องทั้งหมดที่ทำให้เย่สวนนั้นคุ้มค่าแล้ว
ส่งเสียงหัวเราะเบาๆ ลู่เสี้ยงหยางพูดกับเย่สวน “ยัยบ๊อง ขอบคุณอะไร เราเป็นครอบครัวเดียวกัน พูดอีกอย่าง ฉันให้ของขวัญเธอเป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว”
“อื้มอื้ม” เย่สวนพยักหน้าไม่หยุด สีหน้าแสดงความเขินอายมาก ราวกับเด็กสาวที่พึ่งจะมีความรัก
อึก!
ลู่เสี้ยงหยางเห็นแล้วต้องกลืนน้ำลาย ความรู้สึกของสามีภรรยาและการเข้ากันได้ดีนั้นเยี่ยมจริงๆ แต่ก่อนเขากับเย่สวนมีแค่ชื่อของสามีภรรยา ไม่มีเรื่องของสามีภรรยา ตอนนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขากำลังพัฒนา
ความเป็นจริงของสามีภรรยา เชื่อว่าจะมีในไม่ช้า
…..
ในขณะเดียวกัน
คฤหาสน์ตระกูลหลิ่ว
หลิ่วหรูยู่หลังจากที่พึ่งได้สัญญาแผนการสนับสนุนจากหอการค้า ก็กลับไปที่ตระกูลเป็นอย่างแรก เตรียมแบ่งปันข่าวดีนี้ให้กับคนในครอบครัว
ในห้องรับแขก เหล่าผู้บริหารระดับสูงของตระกูลหลิ่วอยู่รวมกัน
เมื่อเห็นหลิ่วหรูยู่ หลิ่วซานซานพูดด้วยน้ำเสียงคลุมเครือ “อุ้ยตาย หรูยู่ ไม่ใช่ว่าเธอไปหารือกับหอการค้าเรื่องแผนการสนับสนุนหรอ? ทำไมกลับมาเร็วแบบนี้? ถูกรปภ.หอการค้าโยนออกมา ไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหม ถ้าบาดเจ็บ ไปยื่นขอค่ารักษาพยาบาลจากคุณปู่ซะ”
หลิ่วซานซานคนนี้เป็นลูกสาวของลูกคนโตตระกูลหลิ่ว ตอนนี้หัวหน้าตระกูลหลิ่วคือท่านปู่
ท่านปู่ตระกูลหลิ่วมีบุตรชายสามคน ลูกคนโต ลูกคนรอง ลูกคนเล็ก
ลูกคนโตอยู่ในบ้าน ได้รับความไว้วางใจจากท่านปู่ลึกซึ้ง มีบารมีมากที่สุด ลูกคนรองประจบประแจงลูกคนโตเก่ง จึงมีอำนาจมาก
ลูกคนเล็กคนนี้ค่อนข้างเถรตรง ไม่ค่อยเป็นที่ต้อนรับในครอบครัว ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงมักเป็นที่หัวเราะเยาะของคนในครอบครัว
แล้วพ่อของหลิ่วหรูยู่ ก็คือลูกคนเล็ก
“ฮ่าฮ่าฮ่า” สิ้นเสียงของหลิ่วซานซาน ก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะดังก้อง
ตอนนี้ ลูกชายของลูกคนรองหลิ่วจื้อหย่วนก็พูดต่อ “หลิ่วหรูยู่ ดูท่าเธอก็ทำเรื่องชุ่ยๆ สินะ ไม่สนใจเรื่องความร่วมมือของครอบครัวเรากับหอการค้าเลยสักนิด หอการค้าโยนเธอออกมา เธอก็กลับมาเลย พวกเขาโยนเธอครั้งหนึ่ง เธอไปครั้งที่สองอีกก็ได้ ครั้งที่สาม ครั้งที่สี่…..ฉันเชื่อว่าด้วยความจริงใจของเธอ หอการค้าจะต้องซาบซึ้ง ถึงตอนนั้นสงสารเธอ ให้ข้อตกลงการสนับสนุนเธอก็ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้”
“ฮิฮิ” ถัดมา ลูกสาวของลูกคนรองหลิ่วเหวินเชี่ยนก็หัวเราะ แล้วพูดสุ่มไฟเช่นกัน “หลิ่วหรูยู่ เธอเผาหนังสือพิมพ์บนหลุมศพเพื่อหลอกผี เธอคิดว่าแต่ก่อนได้รับความอัปยศจากที่บ้าน ตอนนี้จงใจแก้แค้นครอบครัวเราใช่ไหม? ถูกเธอทำชุ่ยๆ แบบนี้ หอการค้าจะคิดว่าตระกูลหลิ่วของเราไม่มีความจริงใจเลยสักนิด ต่อจากนี้คนของพวกเราตระกูลหลิ่วไปหารือกับพวกเขา ก็ไม่มีโอกาสแล้ว”
นี่เป็นการผลักภาระทั้งหมดมาไว้บนตัวของหลิ่วหรูยู่อย่างไม่ต้องสงสัย
คำพูดนี้อีกความหมายหนึ่งก็คือ ไม่ใช่ว่าพวกเขาตระกูลหลิ่วไม่เก่ง และไม่ใช่หอการค้าไม่เห็นพวกเขาตระกูลหลิ่วในสายตา แต่เพราะหลิ่วหรูยู่มีความจริงใจไม่พอ ทำให้เรื่องยุ่งเหยิง ดังนั้นหอการค้าจึงยอมแพ้ที่จะร่วมมือกับตระกูลหลิ่ว
สีหน้าของหลิ่วหรูยู่ดูไม่ได้ โกรธเกลียด โชคดีที่เธอได้หนังสือแผนการสนับสนุนของหอการค้ามาแล้ว ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ถูกหลิ่วเหวินเชี่ยนพูดใส่แบบนี้ เธอก็จะกลายเป็นคนผิดของครอบครัว เพราะความผิดพลาดของเธอ หอการค้าเลยไม่ร่วมมือกับพวกเขาตระกูลหลิ่ว