หนุ่มเศรษฐีลึกลับ 227 แกไม่คู่ควรกับลูกสาวฉัน

ตอนที่ 227 แกไม่คู่ควรกับลูกสาวฉัน

บทที่227 แกไม่คู่ควรกับลูกสาวฉัน

เชี่ย นี่หมายความว่าไง?

ตอนนี้หลิ่วหรูยู่นั่งอยู่บนตักของลู่เสี้ยงหยาง แม้ว่าจะมีกางเกงกั้น แต่ก็ยังรู้สึกได้ ถึงอุณหภูมิและความมีน้ำมีนวลที่ส่งมาจากขาสวยของหลิ่วหรูยู่

อีกอย่างในคอก็รู้สึกได้ถึง อุณหภูมิจากแขนของหลิ่วหรูยู่ที่ส่งมา ในจมูกยิ่งสัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมบนตัวของหลิ่วหรูยู่ มันทำให้เขาหายใจเร็วขึ้นเล็กน้อย เปลวไฟแทบจะลุกโชนอยู่ใต้ท้องน้อย

แม่ง! เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่งั้นจะเกิดเรื่อง

ลู่เสี้ยงหยางรีบขยับต้นขาออก จับให้หลิ่วหรูยู่ลุกขึ้นยืน

หลิ่วหรูยู่มองไปที่ลู่เสี้ยงหยาง เผยรอยยิ้มอ่อนหวาน “เป็นอะไร? ไม่กล้าแล้วหรอ? นายนี่เล่นไม่ได้เลยนะ”

ลู่เสี้ยงหยางยิ้มอย่างขมขื่น “เธอก็อย่ามาล้อเล่นกับฉันสิ”

รอยยิ้มบนใบหน้าของหลิ่วหรูยู่หายไปช้าๆ สุดท้ายก็ถอนหายใจออกมา กลับไปนั่งลงตรงที่นั่งเดิมเมื่อกี้ ใบหน้าหม่นหมอง

แค่คิดถึงพวกคนแก่ในครอบครัว ที่หาการแต่งงานมาให้เธอ เธอก็โกรธจนทำอะไรไม่ถูก

พูดตามจริง หลายปีมานี้ ในบรรดาผู้ชายที่เธอพบเจอมา ก็มีความรู้สึกนิดหน่อยกับลู่เสี้ยงหยาง สำหรับคนอื่น แค่เป็นผู้ชาย เธอต่างก็รังเกียจเป็นที่สุด

“ทำไมไม่พูดอะไรแล้วล่ะ?” ลู่เสี้ยงหยางเห็นหลิ่วหรูยู่มีเรื่องในใจ จึงยิ้มถาม

ในใจพอจะเดาได้บ้าง ว่าหลิ่วหรูยู่จะต้องกังวลเรื่องการแต่งงานแน่

“สั่งอาหารเถอะ” หลิ่วหรูยู่โบกมือ อารมณ์ยิ่งดูตกลงอีก

แล้วในตอนนี้เอง หลิ่วหรูยู่กับลู่เสี้ยงหยางต่างก็ไม่ได้สังเกต ว่าที่ชั้นสอง ว่ามีผู้หญิงชั้นสูงคนหนึ่งกับผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่

ผู้หญิงชั้นสูงหน้าตาสวยงาม มัดผมขึ้น กระโปรงยาวสีน้ำเงินทำให้เห็นหุ่นได้ชัดเจน ตั้งแต่หัวจรดเท้าล้วนเป็นแบรนด์เนม ดูประดับไปด้วยเพชรพลอย

ผู้ชายสวมสูทรองเท้าหนัง ใบหน้าหล่อเหลา หวีผมเสยไปข้างหลัง ข้อมือใส่นาฬิกาโรเล็กซ์สีทองรุ่นลิมิเต็ด แค่เห็นก็รู้ว่าเป็นคุณชายที่ไม่ขาดแคลนเงิน

สวีฉิน

ฉินหยุนเฟย

คือแม่ของหลิ่วหรูยู่ กับสามีที่เธอจะแต่งงานด้วยในอนาคต

เมื่อกี้ฉากที่หลิ่วหรูยู่นั่งลงบนตักของลู่เสี้ยงหยาง ยั่วยวนลู่เสี้ยงหยาง ถูกสวีฉินกับฉินหยุนเฟยเห็นเข้าพอดี

ใบหน้าของสวีฉินจู่ๆก็เหมือนถูกดึงลงมา เกลียดจนแทบจะกลืนกินลู่เสี้ยงหยางเข้าไป

เมื่อคืนวานนี้ ลู่เสี้ยงหยางมาส่งหลิ่วหรูยู่ที่บ้าน ถูกคนรับใช้เห็นเข้า คนรับใช้ก็ไปรายงานเรื่องนี้กับเธอในทันที

คนรับใช้บอกกับเธอ ว่าไอ้กระจอกแต่งตัวธรรมดาคนหนึ่งมาส่งคุณหนูใหญ่ที่บ้าน ตอนนั้นเธอไม่ได้สนใจ

คิดไม่ถึงว่า วันนี้ลูกสาวจะนัดเจอกับไอ้ยาจกกระจอกนี่

หลิ่วหรูยู่กับฉินหยุนเฟยตกลงแต่งงานกันมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้หลิ่วหรูยู่กลับมานัดเจอกับผู้ชายคนอื่น นี่มันเป็นการทำลายข้อตกลงแต่งงานของครอบครัว งั้นแบบนี้จะไปดีได้ยังไง?

แม่ง ยัยกะหรี่หลิ่วหรูยู่ กล้าสวมเขาให้กูหรอ เธอไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว

แล้วฉินหยุนเฟยก็รู้สึกได้ว่า มีทุ่งหญ้างอกขึ้นเหนือหัวเขาอย่างบ้าคลั่ง ดังนั้นความโกรธจึงยากที่จะควบคุม แต่เพื่อรูปลักษณ์สุภาพบุรุษของเขา เขาได้แต่อดทน

“คุณป้าครับ คนนั้นคงจะเป็นเพื่อนของหรูยู่ ยังไงเรียกพวกเขาทั้งสองขึ้นมาทานข้าวด้วยกันไหมครับ?” ฉินหยุนเฟยยิ้มพูด

เขากับสวีฉินกินข้าวที่นี่ มาเจอกับหลิ่วหรูยู่เป็นเรื่องบังเอิญโดยแท้

สวีฉินส่งเสียงหึจากจมูก แล้วพูดขึ้น “ไอ้ยาจกกระจอกคนหนึ่ง มีคุณสมบัติอะไรมานั่งกินข้าวกับพวกเรา ไปเถอะ เราลงไปดูกันว่ามันเรื่องอะไร”

“โอเคครับ คุณป้า ตามที่คุณป้าว่าเลยครับ” ฉินหยุนเฟยหัวเราะอย่างไร้เสียง สายตามีความเยือกเย็นแวบผ่าน

ตระกูลฉินของเขาเป็นตระกูลใหญ่ที่มีชื่อเสียงในไห่ตง ครั้งนี้ การแต่งงานของเขากับหลิ่วหรูยู่ เป็นตระกูลหลิ่วที่เร่งรีบจัดเตรียม คิดไม่ถึงว่าภายใต้สถานการณ์แบบนี้ หลิ่วหรูยู่ยังกล้าสับราง สวมเขาให้เขาแบบนี้

เพียงไม่นาน สวีฉินกับฉินหยุนเฟยก็ลงมาถึงชั้นล่าง ข้างตัวของหลิ่วหรูยู่กับลู่เสี้ยงหยาง

“ลูกสาว ทำไมลูกก็อยู่ที่นี่?” สีหน้าของสวีฉินมีความดูไม่ได้

หลิ่วหรูยู่พยักหน้า ใบหน้ามีความตื่นตกใจแวบผ่าน แต่ก็สงบลงได้อย่างรวดเร็ว มองไปที่สวีฉินแล้วพูดว่า “แม่ อยู่ที่นี่ด้วยหรอ?”

สวีฉินไม่ได้ตอบสนองต่อคำพูดของหลิ่วหรูยู่ จ้องเขม็งไปที่ลู่เสี้ยงหยางแล้วพูด “คุณค่าของคนอยู่ที่ความรู้ตัวเอง แกเข้าใกล้ลูกสาวฉัน อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่ามีเป้าหมายอะไร ก่อนที่ฉันจะพูดอะไรไม่น่าฟัง แกไปจากลูกสาวฉันซะ หลังจากนี้ อย่ามาเรียกร้องความสนใจจากเธออีก”

“แม่ พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?” หลิ่วหรูยู่ขมวดคิ้วพูดถาม

ลู่เสี้ยงหยางกับตนเองเป็นเพื่อนกันธรรมดา การควบคุมของแม่เธอกว้างเกินไปหรือเปล่า

สวีฉินส่งเสียงหึจากจมูก พูดขึ้น “ทุกคนล้วนเป็นคนฉลาด ฉันไม่อยากพูดอะไรที่ไม่น่าฟัง หลิ่วหรูยู่ ตอนนี้ครอบครัวของเรามีสถานการณ์ยังไง อย่าบอกแม่นะ ว่าลูกไม่รู้?”

หลิ่วหรูยู่ไม่พูดจา แต่คิ้วโค้งงอจนกลายเป็นเส้นตรงแล้ว

แต่ก่อน สี่ตระกูลใหญ่แห่งปินเหอควบคุมโลกธุรกิจของปินเหอ แม้จะพูดไม่ได้ว่าครอบครองท้องฟ้าด้วยมือเดียว แต่ก็มีอิทธิพลอย่างมาก

แต่ไม่นานมานี้ เพื่อมาตรฐานการจัดการ ปินเหอได้จัดตั้งหอการค้าขึ้น ทำให้อำนาจของสี่ตระกูลใหญ่อ่อนแอลงอย่างมาก

หลังจากนั้น เพื่อตอบสนองผลประโยชน์และการพัฒนาของตัวเอง สามตระกูลใหญ่อื่นๆ ตระกูลเหอ ตระกูลจางและตระกูลหลินต่างก็เลือกที่จะเป็นพันธมิตรกับตระกูลหานจากไห่ตง

ในตอนนี้ เหลือเพียงตระกูลหลิ่วที่ต่อสู้ตัวคนเดียว มองด้วยตาก็เห็นว่าพวกเขาตระกูลหลิ่วจะถูกอีกสามตระกูลใหญ่กดดัน ให้ออกจากหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ ดังนั้นตระกูลหลิ่วจึงตื่นตระหนก เริ่มมองหาคนที่จะมาเป็นพันธมิตร

ตระกูลฉินเป็นตระกูลใหญ่ของไห่ตง ความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับตระกูลหาน กลายเป็นตัวเลือกของพวกเขา

โชคดีที่ฉินหยุนเฟยคุณชายของตระกูลฉินสนใจหลิ่วหรูยู่ จึงตกลงเป็นพันธมิตร

ดังนั้น ตอนนี้สำหรับทั้งครอบครัวในตระกูลหลิ่วแล้ว ที่สำคัญที่สุดคือ รักษาความสัมพันธ์ของตระกูลหลิ่วกับตระกูลฉิน ไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆ

ฉินหยุนเฟยสายตาตกไปที่ร่างของหลิ่วหรูยู่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนโยน สำหรับลู่เสี้ยงหยาง มองยังมองไม่เห็น ราวกับว่าในสายตาเขา ลู่เสี้ยงหยางเป็นแค่อากาศ ฝุ่นละออง

ต่ำต้อยไร้ค่า ไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงเลยซักนิด

“หรูยู่ เดิมที่ฉันไม่มีสิทธิ์ยุ่งกับการคบหาเพื่อนของเธอ แต่เธอคบเพื่อนก็ต้องรู้จักเลือก คนบางคนก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะได้เป็นเพื่อนเธอ” ฉินหยุนเฟยพูดพลางยิ้มให้ คำพูดการกระทำสงบนิ่งมีเหตุมีผล แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของลูกชายตระกูลใหญ่

ลู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้วเล็กน้อย ไอ้ผู้ชายคนนี้กำลังพูดถึงตนเองหรอ?

แม่ง นี่มันเป็นการดูถูกกันไม่ใช่หรอ?

กูเป็นถึงประธานของหอการค้าปินเหอ ยิ่งไปกว่านั้นเป็นคุณชายตระกูลลู่ด้วยโอเคไหม?

สวีฉินพยักหน้า พูดเสริม “ใช่แล้ว หยุนเฟยพูดถูกต้อง หลิ่วหรูยู่ ลูกควรจะรู้สถานะและตัวตนของตนเองให้ชัดเจน พวกเพื่อนกะโหลกกะลาหลังจากนี้ไม่ต้องไปคบแล้ว”

ไม่รอให้หลิ่วหรูยู่พูด ฉินหยุนเฟยก็พูดต่อ “หรูยู่ ฉันรู้ว่าเธอกดดันมาก แต่เธอพูดกับฉันได้ เรื่องที่ครอบครัวของเธอพูดกับฉันไว้ก่อนหน้านี้ ฉันจะลงแรงอย่างเต็มที่ที่สุด ด้วยเครือข่ายของฉัน สามารถหาประธานหอการค้าปินเหอได้ พูดคุยกับเขา ขอแค่ได้รับการสนับสนุนจากหอการค้าปินเหอ อีกสามตระกูลใหญ่ก็ไม่สามารถคุกคามตระกูลหลิ่วของเธอได้”

สาเหตุที่ตระกูลหลิ่วต้องการที่จะเป็นพันธมิตรกับตระกูลฉิน ด้านหนึ่งเป็นเพราะความแข็งแกร่งของตระกูลฉิน อีกด้านคือหวังว่าตระกูลฉินจะสามารถออกหน้าเจรจาต่อรองกับหอการค้าปินเหอ ให้หอการค้าปินเหอสนับสนุนตระกูลหลิ่วของพวกเขา

ฟังคำพูดของฉินหยุนเฟย สวีฉินก็ยิ่งแสดงความพึงพอใจ เหลือบมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางอีกครั้ง รู้สึกแค่ว่าผู้ชายคนนี้ไร้ประโยชน์ ถูกออร่าของฉินหยุนเฟยบดบัง

หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

หนุ่มเศรษฐีลึกลับ

Score 10
Status: Completed
ช็อค!ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่ได้รับได้รับความอัปยศอดสูการเหยียดหยาม หลังจากที่เปิดเผยฐานะตัวเองแล้ว แม่ภรรยาตั้งเงื่อนไข่ที่น่าอับอาย

Options

not work with dark mode
Reset