บทที่ 147 ผมอยากตาย
ถึงหานเซ่าซวนจะถูกลู่เสี้ยงหยางบีบคออาไว้ แต่เขาก็ยังมีความมั่นใจ เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นถึงคุณชายหานแห่งไห่ตง
เขาไม่เชื่อหรอกว่าลู่เสี้ยงหยางจะกล้าลงมือกับเขา แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ทุกคนในครอบครัวของลู่เสี้ยงหยางได้ถูกฝังแน่
หานเซ่าซวนยิ้มเยาะ แล้วพูดกับลู่เสี้ยงหยางว่า “แกลองคิดถึงผลที่จะตามมาดีๆนะ ตระกูลหานไม่ใช่อะไรที่แกสามารถต่อกรได้”
ตระกูลหาน?
ลู่เสี้ยงหยางทำหน้าเย็นชา พูดเสียงนิ่งว่า “ก็แค่มดตัวเล็กๆ”
หานเซ่าซวนชะงัก ลู่เสี้ยงหยางอวดเก่งเกินไปแล้ว
เย่สวนถลึงตาใส่ลู่เสี้ยงหยาง รีบพูดว่า “คุณปล่อยคุณชายหานนะ”
เธอไม่ได้เป็นห่วงหานเซ่าซวน แต่เธอเป็นห่วงลู่เสี้ยงหยางต่างหาก ถ้าลู่เสี้ยงหยางทำร้ายหานเซ่าซวนจริงๆล่ะก็ ตระกูลหานไม่ปล่อยเขาไปแน่
เพราะเธอรู้ว่าตระกูลหานแห่งไห่ตงน่ากลัวขนาดไหน ตระกูลหานเป็นตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้นๆของไห่ตงเลยนะ แถมยังมีอำนาจมากๆในเจียงหนาน
ถ้าลู่เสี้ยงหยางหาเรื่องตระกูลหาน ก็พอจะจินตนาการถึงจุดจบออก
ลู่เสี้ยงหยางยกยิ้มเยาะ แล้วพูดว่า “คุณห่วงเขาว่างั้น? เหอะๆ คุณเคยรู้ไหม ว่าคนอย่างเขาเลวร้ายขนาดไหน ไม่กี่วันก่อน ถังหลงเพื่อนสนิทของผมถูกทำร้ายก็เพราะคุณ ตอนนี้ยังนอนอยู่โรงพยาบาลอยู่เลย เขาถูกฟันสามสิบหกจุดบนร่างกายจนเส้นเอ็นขาด ถามหน่อยคูณไม่รู้สึกผิดอะไรเลยเหรอ?”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เย่สวนงงก่อนเป็นอันดับแรก แต่ไม่นานก็นึกออก ว่าไม่กี่วันก่อนตอนเธอนัดเจอกับหานเซ่าซวน คนที่ชื่อว่าถังหลงก็โผล่มาพังการนัดเจอของเธอและหานเซ่าซวน
แต่เธอก็ไม่เข้าใจที่ลู่เสี้ยงหยางพูดอยู่ดี วันนั้นสภาพของถังหลงก็ดีๆอยู่เลยไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงถูกทำร้ายจนเส้นเอ็นขาดล่ะ
วันนั้น หลังจากที่การนัดเจอกันของเธอและหานเซ่าซวนถูกขัดจังหวะ เธอก็ขอตัวกลับก่อน จึงไม่รู้ว่าเรื่องราวที่เหลือต่อจากนั้นเกิดอะไรขึ้น
และก็เพราะว่าไม่รู้ ตอนนี้เย่สวนเลยรู้สึกน้อยใจเป็นที่สุด เธอมองลู่เสี้ยงหยางแล้วพูดว่า “ดูก็รู้แล้วว่าถังหลงเพื่อนของคุณไม่ใช่คนดีอะไร น่าจะเป็นพวกอันธพาลด้วยซ้ำ เขาถูกทำร้ายจนเอ็นขาด แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน?”
เมื่อได้ยินดังนี้ ไฟโกรธของลู่เสี้ยงหยางก็ปะทุขึ้นมาทันที เขากัดฟันกรอดแล้วมองเย่สวน “ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าคุณไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีแบบนี้ ถังหลงไม่น่าเข้าไปยุ่งด้วยเลย น่าจะปล่อยให้คุณถูกหลอกซะก็ดี”
เมื่อเห็นท่าทางเกลียดชังของลู่เสี้ยงหยาง เย่สวนก็ยิ่งน้อยใจ
เป็นคนยังไงกัน? เธอโกรธอยู่นะเขาไม่คิดจะง้อเลยเหรอ? แล้วยังจะมาพูดแรงๆกับเธออีกเนี่ยนะ
ยิ่งลู่เสี้ยงหยางเป็นแบบนี้ เย่สวนก็ยิ่งโกรธ เธอเชิดคางขึ้นแล้วพูดว่า “ในเมื่อคุณพูดขนาดนี้แล้ว งั้นก็แปลว่าฉันมันโง่จนเกินเยียวยา ไร้เหตุผลและดีแต่สร้างปัญหาสินะ แล้วคุณยังอยู่ที่นี่ทำไมล่ะ? รีบไสหัวไปสิ ดีเหมือนกันฉันก็ไม่อยากเห็นหน้าคุณแล้ว”
สีหน้าของลู่เสี้ยงหน้าพลันมืดมัว ท่าทางแบบนี้ของเย่สวน ทำให้เขาโกรธเป็นอย่างมาก
“ดีนี่ ดีจริงๆ ตอนนี้คุณคงโตเป็นผู้ใหญ่รับผิดชอบตัวเองได้แล้วสินะ คุณต้องได้เห็นธาตุแท้ของหานเซ่าซวนเข้าสักวัน ถึงวันนั้นแล้วคุณจะเสียใจ” ลู่เสี้ยงหยางทิ้งคำพูดเย็นชาเอาไว้ จากนั้นก็ปล่อยมือที่จับคอของหานเซ่าซวนอยู่ออก จนร่างกายที่ลอยอยู่ของหานเซ่าซวนร่วงลงกับพื้น
หานเซ่าซวนเจ็บจนต้องซี๊ดปาก จากนั้นก็มองลู่เสี้ยงหยางด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น วันนี้เขาพลาดท่าให้ลู่เสี้ยงหยาง วันข้างหน้าเขาจะเอาคืนหลายเท่าเลยคอยดู
เขาจะเล่นงานไอ้ลู่เสี้ยงหยางนี้ให้ตายทั้งเป็น
หลังจากนั้น ลู่เสี้ยงหยางก็ไม่ได้อยู่ที่ร้านอาหารเจียงหัวต่อ พยุงหลิวผิงเดินออกไปจากร้าน
เยสวนจดจ้องไปยังทิศทางที่ลู่เสี้ยงหยางจากไปด้วยสีหน้านิ่งค้าง จนกระทั่งแผ่นหลังของลู่เสี้ยงหยางลับสายตาไป ชั่วขณะในใจก็รู้สึกวูบโหวง ราวกับว่าสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตกำลังจากเธอไป
หานเซ่าซวนจับสังเกตสีหน้าของเย่สวนได้ ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้ยังตัดใจจากลู่เสี้ยงหยางไม่ได้สินะ เขาต้องรีบจับเธอให้ได้เร็วๆซะแล้ว หลังจากได้เล่นสนุกสมใจ ค่อยปล่อยปละละเลยก็ได้
เขายิ้มออกมาน้อยๆ กักเก็บความคิดเลวร้ายเอาไว้ แล้วเอ่ยพูดอย่างสุภาพบุรุษว่า “สวนเอ๋อ เป็นความประมาทของผมเองที่ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ต่อไปนี้ผมจะให้ลูกน้องคอยติดตามเยอะๆ รับรองไม่มีใครกล้ามารบกวนเราสองคนแน่”
“ค่ะ” เย่สวนพยักหน้าอย่างเหม่อลอย แล้วพูดว่า “ใช่สิ คุณชายหาน ฉันยังมีธุระที่บ้านต่อ ต้องขอตัวก่อนนะคะ ต่อไปนี้ถ้ามีเรื่องอะไร เราติดต่อกันทางโทรศัพท์เอาแล้วกันนะคะ”
อะไรวะ จะมีเรื่องอะไรล่ะ? คิดจะหลบหน้ากันหรือไง
หานเซ่าซวนรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็ไม่อยากให้ความพยายามที่ผ่านมาเสียเปล่า จึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ได้ครับ เดี๋ยวผมให้คนไปส่ง”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันขับกลับเองได้” เย่สวนปฏิเสธฉับ
เมื่อเย่สวนออกไปจากร้านอาหารเจียงหัว ใบหน้าของหานเซ่าซวนก็มืดครึ้มลง เมื่อเขาก้มลงมองลูกน้องแต่ละคนที่ถูกสอยร่วงกับพื้น ก็กำหมัดแน่น นัยน์ตาเต็มไปด้วยไอสังหาร จากนั้นก็พูดลอดไรฟันออกมาว่า “พวกขยะ แค่คนคนเดียวก็สู้ไม่ได้ หึ! ไอ้เวรลู่เสี้ยงหยาง ถ้าไม่ได้เอาแกตาย หานเซ่าซวนคนนี้ก็ไม่ใช่คนแล้ว”
……
บนถนน
ขณะที่ลู่เสี้ยงหยางพยุงหลิวผิงเดินช้าๆ บนใบหน้าของหลิวผิงก็เต็มไปด้วยความสงสัย
จากนั้น เขาก็ทนไม่ไหว จนต้องเอ่ยถามออกมา “พี่ใหญ่ จะปล่อยหานเซ่าซวนไปทั้งอย่างนี้เหรอครับ? เล่นงานมันเบาเกินไปหรือเปล่าครับ”
ลู่เสี้ยงหยางพูดเสียงนิ่ง “แน่นอนว่าไม่ ฉันมีแผนอื่น”
เขาบอกแล้วไงว่าจะเอาคืนหานเซ่าซวนสิบเท่าให้เหมือนกับที่ถังหลงโดน เขารู้ว่ามันต้องมีเลือดกระเซ็นแน่ๆ ถึงได้ไม่อยากลงมือต่อหน้าเย่สวนไง
เขาจะรอโอกาสอื่น แล้วค่อยลงมือก็ไม่สาย
“อ๋อ” หลิวผิงพยักหน้าเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ จากนั้นก็พูดว่า “งั้นผมจะจับตามองหานเซ่าซวนเอาไว้ ถ้าได้จังหวะ ผมจะรายงานพี่ทันที”
“อืม” ลู่เสี้ยงหยางตอบกลับเสียงเรียบ จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
ตอนนี้ถังหลงยังอยู่ที่โรงพยาบาล ดังนั้นลู่เสี้ยงหยางจึงพาหลิวผิงตรงไปที่โรงพยาบาล เพื่อไปเยี่ยมถังหลง
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ลู่เสี้ยงหยางกับหลิวผิงก็มาถึงโรงพยาบาล จากนั้นก็ตรงไปที่ห้องพักผู้ป่วย
ถังหลงพ้นขีดอันตรายแล้ว จึงได้ย้ายจากห้องไอซียูมาที่ห้องผู้ป่วยธรรมดา
ห้องพักผู้ป่วยในตอนนี้นอกจากถังหลงแล้ว ยังมีถังปิงหยู่อยู่ด้วย
ถังหลงนอนนิ่งอยู่บนเตียง ร่างกายถูกพันด้วยผ้าพันแผลทั้งตัว มีแค่ส่วนใบหน้าที่เหลือเว้นไว้ ภายใต้ผ้าพันแผลยังเห็นเลือดสีแดงจางๆอีกด้วย
ถังหลังไม่ทันสังเกตเห็นว่าลู่เสี้ยงหยางเดินเข้ามา ยังคงเอ่ยพูดกับถังปิงหยู่อย่างเซื่องซึม “พี่ครับ ปล่อยให้ผมตายเถอะ ชีวิตหลังจากนี้ก็คงได้แต่นั่งอยู่บนรถเข็น ไม่ต่างอะไรกับคนพิการ ขืนใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปมันจะมีค่าอะไร?”
ถังปิงหยู่สะอึก “อาหลงพูดไร้สาระอะไร? ถึงจะต้องนั่งรถเข็นไปตลอดชีวิต ยังไงแกก็เป็นว่าที่ผู้นำตระกูลของเรานะ ตระกูลถังต้องการแก”
ถังหลงส่ายหน้าอย่างยากลำบาก กรอบตารื้นไปด้วยน้ำตา มองถังปิงหยู่อย่างอ้อนวอนแล้วพูดว่า “พี่ครับ ถ้าพี่สงสารผม ให้หมอมาฉีดยาให้ผมตายไปอย่างสงบเถอะนะ ผมทำใจยอมรับความจริงที่ผมกลายเป็นคนพิการไม่ได้จริงๆ! ผมมีชีวิตต่อไปแล้วจะมีค่าอะไร หลังจากนี้ก็มีแต่จะถ่วงวงศ์ตระกูล ถ้าผมตายไปผมขอแค่อย่างเดียว ขอให้ตระกูลแก้แค้นแทนผมด้วย”