บทที่ 101 เหตุไม่คาดคิดของบริษัท
ลู่เสี้ยงหยางฆ่าจางเซี่ยวเทียนด้วยลวดลายการต่อสู้ท่าเดียว เขาได้แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญของเขาแล้วทำให้คนอย่างถังหลงเชื่อมั่นอย่างสมบูรณ์
หัวใจของถังหลงเต้นแรง ราวกับว่ามันสามารถทะลุออกจากหน้าอกได้ทุกเมื่ออย่างไม่ลังเลใจใดๆ เขาคุกเข่าลงบนพื้นและพูดกับ ลู่เสี้ยงหยางอย่างเคารพ "ลูก ลูกพี่ คารวะผู้ยิ่งใหญ่ หลังจากนี้ไปผมขอติดตามคุณ ถ้าต่อไปถ้าผมคิดไม่ซื่อ ขอให้ถูกรถชนทันทีที่ออกจากบ้านและไม่ตายดี"
วินาทีนี้ ในใจเขานับถือลู่เสี้ยงหยางเป็นพี่ใหญ่
เพล้ง!
ลูกน้องของ อาเปียว เสือและเฉินเหาต่างคุกเข่าลงบนพื้นและโค้งคำนับให้ลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางใบหน้าไร้ความรู้สึกใดๆ เขามองไปที่ถังหลงแล้วพูดเบาๆ "จัดการส่วนที่เหลือด้วย"
"ไม่ต้องกังวล ลูกพี่ ผมจะจัดการให้เรียบร้อย" ถังหลงตบหน้าอกของเขาเป็นการรับประกัน
ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้า ไม่อยู่อีกต่อไปแล้วหันหลังกลับเดินออกไป
ลูกน้องของถังหลงยืนส่งลู่เสี้ยงหยางออกไป จนกระทั่งพวกเขามองไม่เห็นหลังของเขาเลย พวกเขาถึงได้โล่งใจ
ผู้ยิ่งใหญ่คืออะไร?
คนอย่างลู่เสี้ยงหยางที่ปกติไม่เปิดเผยเรื่องสำคัญแต่ในเวลาคับขันกลับแสดงความสามารถออกมา
อาเปียวถามอย่างอ่อนแรง: "คุณชาย ต่อไปเราจะตามเขาไปจริงๆหรือ?"
ตามแผนเดิมของถังหลง คืนนี้จะจัดการจางเซี่ยวเทียนให้เรียบร้อยและขั้นตอนต่อไปคือการจัดการกับลู่เสี้ยงหยาง
แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าลู่เสี้ยงหยางจะช่วยชีวิตทุกคนไว้ในช่วงเวลาสำคัญ
“ไร้สาระ นายน้อยคนนี้หนึ่งวาจาหนักดุจติ่งทองเก้าชั้น พูดแล้วจะกลืนน้ำลายตัวเองได้งั้นเหรอ?” ถังหลงจ้องมองไปที่อาเปียวและพูดอย่างเรียบเฉย
"โอ้" อาเปียวและคนอื่นๆตัวสั่น ต่อไปลู่เสี้ยงหยางจะเป็นลูกพี่ของคุณชายพวกเขานับจากนี้และนั่นก็ถือว่าเป็นลูกพี่ของพวกเขาด้วย
ติ๊งๆๆๆ
ในขณะนี้โทรศัพท์มือถือของถังหลงดังขึ้น เขารับสายจากถังปิงหยู่
ถังหลงมีสีหน้าผิดปกติ ตั้งแต่วัยเล็กจนโต ที่เขากลัวที่สุดคือพี่สาวของเขา เขากดปุ่มรับสายด้วยความตื่นตระหนกและถามด้วยรอยยิ้มว่า "พี่ ดึกป่านนี้แล้วมีอะไรรึเปล่าครับ”
น้ำเสียงของถังปิงหยู่ดูกังวลเล็กน้อยและพูดว่า "ฉันได้ยินมาว่าศัตรูคนหนึ่งของนายจะมาหา ดังนั้นจงเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ"
ถังหลงประหลาดใจและถามว่า "ศัตรูคนไหน?"
ถังปิงหยู่พูดอย่างเรียบเฉย "จะใครที่ไหนอีก จางเซี่ยวเทียนไง"
ถังหลงหัวเราะอย่างว่างเปล่าและพูดว่า "จางเซี่ยวเทียนมาหาผมแล้วคืนนี้"
"อะไรนะ" ถังปิงหยู่อุทานทันที ถังหลงได้ยินเสียงโทรศัพท์หล่นลงที่พื้น
"จางเซี่ยวเทียนไปหานาย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมนายไม่คุยกับเราล่วงหน้า นายรอเดี๋ยว ฉันจะพาคนไปช่วยทันที" ถังปิงหยู่พูดอย่างรีบร้อน
ตามข้อมูลที่เธอมี จางเซี่ยวเทียนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงและตอนนี้เป็นนักรบที่ทรงพลัง ถังหลงคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอีกต่อไป
ถังหลงยิ้มส่ายหัวและกล่าวว่า "ไม่ต้องแล้วพี่ ผมจัดการเรื่องนี้แล้ว"
ถังปิงหยู่ไม่เชื่อและพูดด้วยความโกรธ "พูดบ้าอะไร คิดว่าฉันไม่รู้ฝีมือนายรึไง ถ้านายจัดการเรื่องนี้ได้หมูก็คงปีนขึ้นต้นไม้ได้น่ะสิ"
"… " ถังหลงพูดไม่ออกชั่วขณะ
"โอเค หยุดพูดเรื่องไร้สาระ ฉันจะพาคนไปเดี๋ยวนี้แหละ นายอยู่ที่ไหน" ถังปิงหยู่ถาม
ถังหลงถอนหายใจแล้วกล่าวว่า "พี่ ไม่ต้องการมันจริงๆ จางเซี่ยวเทียนตายแล้ว เขาถูกพี่เขยฆ่า"
เมื่อถังปิงหยู่ได้ยินสิ่งนี้ คิดว่าถังหลงกำลังพูดเรื่องไร้สาระเพียงเพื่อปรามเธอ
ไม่มีเวลาคุยเรื่องไร้สาระกับเขาต่อ เธอจึงวางสายและเตรียมโทรหาใครบางคน
ถังหลงเข้าใจอารมณ์ของพี่สาวเขา จึงรีบถ่ายภาพจางเซี่ยวเทียนที่จมกองเลือดและส่งให้ถังปิงหยู่ดู
ไม่ช้าถังปิงหยู่ก็โทรกลับมา
เสียงของถังปิงหยู่เต็มไปด้วยความตกใจและไม่เชื่อ “พระเจ้า จางเซี่ยวเทียนตายแล้วจริงๆด้วย นายไปหาคนมาจากไหน”
ถังหลงพูดติดตลก "ผมบอกแล้วไงว่าพี่เขยจัดการเรื่องนี้ให้"
พูดตามตรงถังหลงเป็นคนที่ตรงไปตรงมา ตั้งแต่วินาทีที่เขาเชื่อมั่นต่อลู่เสี้ยงหยาง เขาก็มีความคิดที่จะจับคู่ลู่เสี้ยงหยางกับพี่สาวของเขา
พี่สาวของเขาไม่สามารถหาผู้ชายที่ว่านอนสอนง่ายได้ในช่วงหลายปีนี้ และลู่เสี้ยงหยางเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
"พูดภาษาคนสิ" น้ำเสียงของถังปิงหยู่ค่อนข้างเย็นชา
ทันใดนั้นถังหลงก็เหี่ยวแห้งและพูดอย่างอ่อนแรง “พี่ อย่าโกรธเลย ผมแค่ล้อเล่น พี่ควรรู้จักคนนี้ เขาชื่อลู่เสี้ยงหยาง เขาช่วยผมจัดการเรื่องนี้”
อะไรนะ? ลู่เสี้ยงหยาง?
สิ่งนี้ทำให้ถังปิงหยู่ประหลาดใจจริงๆ ในความทรงจำของเธอลู่เสี้ยงหยางเป็นเด็กที่มีผมสีเหลืองและมีทักษะทางการแพทย์อยู่บ้าง ไม่คาดคิดผู้ชายคนนี้ยังจะเป็นนักรบที่ทรงพลังด้วย
แต่เมื่อกล่าวถึงลู่เสี้ยงหยางเธอก็โกรธ ผู้ชายคนนี้มักไม่มองการณ์ไกล เห็นได้ชัดว่ามีทักษะทางการแพทย์ที่ไม่อาจคาดเดาได้แต่เขายินดีที่จะอยู่ในคลินิกที่โทรมๆ พอเขาเชิญเขาไปที่โรงพยาบาลแต่เขากลับไม่แยแส เปลืองเวลาจริงๆ
เมื่อเห็นถังปิงหยู่ไม่พูด ถังหลงก็หัวเราะเบาๆและกล่าวว่า "พี่ ผมคิดว่าเขาเหมาะที่จะเป็นพี่เขยผมจริงๆ ลองคิดดูนะ แล้วผมจะช่วยให้แนะนำ… "
ตู๊ดๆๆ
เขาพูดไม่ทันจบ ถังปิงหยู่ก็วางสายไปก่อน
"…เอ่อ!" เส้นสีดำหลายเส้นปรากฏบนหน้าผากของถังหลง ดูพี่สาวเขาสิ วางแผนไม่แต่งงานไปตลอดชีวิตหรือไงนะ?
…
เช้าวันรุ่งขึ้น เย่สวนกำลังรีบไปชิงสุยกรุ๊ป
เธอเข้าชิงสุยกรุ๊ปด้วยความประหลาดใจ ไม่คาดคิดว่าผู้หญิงที่แผนกต้อนรับจะเห็นเธอแล้วไม่แม้แต่จะทักทายสักคำและเอาแต่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือ
เย่สวนโกรธเล็กน้อย คนเหล่านี้ไม่เห็นเธอเป็นท่านประธานในสายตาเลยหรือไงนะ?
“ตอนนี้เป็นเวลาทำงาน บริษัทกำหนดไว้ชัดเจนแล้ว คุณไม่ทราบว่าการเล่นโทรศัพท์มือถือระหว่างทำงานมีโทษอะไรบ้างงั้นเหรอ?” เย่สวนถามด้วยใบหน้าเย็นชา
ผู้หญิงที่แผนกต้อนรับหัวเราะเยาะ "คุณเย่ คุณคิดว่าคุณยังเป็นประธานของเราอยู่หรือ ตอนนี้คุณไม่ได้อยู่ในเป็นเจ้าของแล้วนะคะ"
เย่สวนค่อยๆกำหมัดแน่น เป็นไปได้ไหมว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นในบริษัท?
ไม่ได้รู้เรื่องเท่าพนักงานต้อนรับ เธอจึงสาวเท้าบนรองเท้าส้นสูงไปที่ทำงาน
พนักงานของบริษัทที่เธอพบระหว่างทางก็ไม่ได้ทักทายเธอ แถมยังพูดถึงเรื่องนี้ลับหลัง
"โอ้ พระเจ้า ในที่สุดยัยคนโหดร้ายคนนี้กำลังจะออกไปจากบริษัทของเราแล้ว"
“ฮ่าฮ่า ฟ้ามีตาจริงๆ ถ้าเธอยังทำงานในบริษัทนี้ต่อไป เราไม่รู้ว่าวันที่ยากลำบากของเราจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่เนอะ”
"จริงๆ อะไรกันก็ไม่รู้ บริษัทเล็กๆแบบนี้ต่อให้ทำงานหนักจะสามารถไปถึงระดับหยูเม่ยหยินกรุ๊ปหรือไง"
เมื่อฟังความคิดเห็นของผู้คนเหล่านี้ เย่สวนก็โกรธมาก แต่งานทั้งหมดของเธอตอนนี้คือการค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นในบริษัท
อย่างไรก็ตามเธอรู้สึกถึงลางไม่ดีในใจ
เมื่อวานคุณย่าของเธอขอให้เธอเซ็นสัญญาและปัญหาน่าจะอยู่ที่สัญญานี้
ในไม่ช้าเย่สวนก็เข้ามาในห้องทำงานของเธอและเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเย่หยุนเทานั่งยกขาขึ้นอยู่บนเก้าอี้ตำแหน่งประธาน