หงส์สยายปีก ตอนที่ 32 ข่าวปลอม?
ตอนที่ 32 ข่าวปลอม?
ผู้อํานวยการพูดเพียงไม่กี่ประโยคนักเรียนทั้งหมดก็เริ่มกระซิบกันแล้ว
” หรือนี่จะเป็นเรื่องของจิ้งหยุนเฉาว”
“ฉันว่าใช่! จะเป็นใครไปได้อีกล่ะ หล่อนทําเรื่องวุ่นวายมาก ตั้งแต่เมื่อวานพ่อเธอก็มาโวยวายที่โรงเรียน…. เขาแค้นใจมากที่เธอไปข้องเกี่ยวกับพวกอันธพาล..ตอนแรกมันก็คงเป็นข่าวลือแต่ตอนนี้มันคงเป็นเรื่องจริงแล้วล่ะ!”
แม้แต่เด็กที่ยืนอยู่รอบข้างจิงจิงก็เอาแต่กระซิบกันไม่หยุด!
“นักเรียน! เงียบ!” ผู้อํานวยการขึ้นเสียงและกล่าวต่อว่า “เรื่องที่ผมจะชี้แจงคือเรื่องราวของนักเรียน จิ้งหยุนเฉา! กับพวกอันธพาล..ทางโรงเรียนได้แจ้งความดําเนินคดีกับคนพวกนั้นเรียบร้อย แล้ว! หลังจากสิ้นสุดการสอบสวนของทางตํารวจพบว่า…จึงหยุน เฉานักเรียนโรงเรียนของเราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนเหล่านั้นเธอเป็นเพียงเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายซึ่งเธอไม่ได้มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวใดๆกับคนเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย! ที่คุณครูและผู้ใหญ่ในโรงเรียนนี้ทุกคนหวังว่าเด็กนักเรียนโรงเรียนของเราจะไม่พูดเรื่อง นี้ของจิ้งหยุนเฉากันอีกแล้ว และอย่ากล่าวหาเธออย่าพูดลอยๆ พวกเธอทุกคนจะถูกจับตามองโดยคุณครูทุกคนซึ่งถ้าใครทําให้งหยุนเฉาต้องเสียหายหรือสร้างปัญหาอีกล่ะก็พวกเธอจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงทันที!”
ผู้อํานวยการยังคงเตือนนักเรียนถึงการนินทาว่าร้ายในช่วงเวลาที่เหลือของการประชุม และในตอนท้ายเขากล่าวเสริมว่า “ในเช้าวันนี้นักเรียนจากห้องสองชื่อลู่เจียได้ก่อความวุ่นวายขึ้น ดังนั้นผมจะต้องขอเตือนพวกคุณอีกครั้งว่าอย่าสร้างปัญหาเช่นนี้กับอีกถ้าไม่อย่างนั้นผมจะลงโทษพวกคุณโดยการพักการเรียน!”
หลังจากที่เขาพูดเสร็จนักเรียนคนอื่นๆ ต่างก็พูดคุยกันอย่างโกลาหล
จิงจิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก..อารมณ์ที่กระอักกระอ่วนทําให้เธอกระพริบตาถี่
ในที่สุด…เธอสลัดความวุ่นวายและเงาของผู้แพ้ในชาติที่แล้วได้สําเร็จแล้ว! เธอตื้นตันจนพูดไม่ออก!
หงเที่ยืนอยู่แถวถัดไปจากเธอได้ตัวสั่นด้วยความโกรธ เธอไม่อยากจะเชื่อว่าจิงจิงจะบริสุทธิ์! เธอเกลียดที่ทุกคนต่างพูดถึงจิงจิงว่าเธอสามารถเอาชนะความอยุติธรรมได้ และเธอเก่งแค่ไหน!
ความอยุติธรรมอะไรไม่ทราบ? ตระกูลของเธอเลี้ยงดูจิ้งหยุนเฉามาตลอดหลายปี! หล่อนก็เป็นเพียงสุนัขรับใช้!อย่างน้อยๆ หล่อนก็ควรตอบแทนตระกูลเฉียวบ้าง!
เฉียยวหงเย่จ้องมองไปที่จิ้งหยุนเฉาอย่างโกรธแค้น
ทันใดนั้นจิงจิงรู้สึกแปลกๆ จึงหันไป…และเธอก็พบว่าหงเย่กําลังจ้องมองเธออยู่ เสี้ยววินาทีต่อมา ริมฝีปากของจิงจิงก็แสยะยิ้มแบบเยาะเย้ยถึงชัยชนะ ซึ่งรอยยิ้มนี้มันเยือกเย็นจนทําให้คนที่มองมาถึงกับเหงื่อแตกได้ง่ายๆ
หัวใจของกงเย่เต้นระรัว ออร่าแค้นของเธอจางหายไปทันที่จากนั้นเธอจึงรีบกรอกตาไปทางอื่นพร้อมกับหันหน้าหนี
” หงเย่! เป็นอะไร?” เมื่อเด็กนักเรียนที่ยืนอยู่ข้างๆถามเมื่อได้เห็นใบหน้าอันซีดเผือดของหงเย่
“ไม่มีอะไร…แดดมันแรงหนะ หน้ามืดนิดหน่อย” ในหัวของหงเย่ได้แต่บ่นพึมพําจนทําให้เธอรู้สึกกระสับกระส่ายอย่างประหลาดใจ…
นักเรียนคนดังกล่าวได้แต่ขมวดคิ้วและไม่พูดอะไรอีก
นี่มันยังเช้าอยู่ แดดแรงเหรอ? แดดอะไร? ไม่เห็นจะมีแดดสักนิดซึ่งต่อให้ตอนนี้เป็นตอนเที่ยง ก็คงยังไม่มีแดดอยู่ดี เพราะนี่ ไม่ใช่น่าร้อนมันเป็นไปไม่ได้เลยที่แดดจะแรง! แล้วตอนนี้เธอบอกเธอหน้ามืดเพราะแดดแรง จะบ้าเหรอ?! และอีกทั้งในตอนนี้การแสดงออกของหงเยก็แสนน่ากลัว เหมือนกับว่าเธอโกรธแค้นใครสักคน และพยายามจะฆ่าคนๆ นั้นอย่างไงอย่างงั้นมีคนทําให้เธอโกรธอย่างนั้นเหรอ?
จึงหยุนเฉาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ดวงตาของจิงจิงแข็งกล้าและเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“จิ้งหยุนเฉาฉันขอโทษ…ฉันขอโทษที่พูดไม่ดีกับเธอเมื่องสองสามวันก่อน…ฉันไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น ที่ฉันพูดออกไปอย่างนั้นเพราะฉันคิดว่า…” ระหว่างทางที่เดินกลับไปยังห้องเรียนมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาขอโทษเธอ
– ไม่เป็นไร ทุกอย่างกระจ่างเรียบร้อยแล้ว!” จิงจิงตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
ที่จริงแล้วเธอไม่จําเป็นต้องให้อภัยคนที่คิดร้าย ว่าร้ายกับเธอก็ได้ทว่าตอนนี้จิงจิงไม่มีเหตุผลที่จะโกรธผู้หญิงคนนี้อีกแล้วและอีกอย่างเธอเดินมาขอโทษจิงจิงด้วยตัวเอง ซึ่งนั่นก็พิสูจน์ได้แล้วว่าชื่อเสียงของเธอได้บริสุทธิและถูกรบล้างแล้วเรียบร้อย
“นี่คงเป็นครั้งแรกเลยที่ฉันคุยกับคุณจริงๆ เพราะทุกคนเอาแต่บอกว่าเธอนิสัยไม่ดี! แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเธอไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาพูด…นอกจากนี้เธอยังเรียนเก่งมากอีกด้วย ถ้าหากว่าในอนาคตฉันจะขอยืมสมุดบันทึกของเธอจะได้ไหม?” หญิงสาวคน ดังกล่าวรู้สึกผ่อนคล้ายขึ้นและพูดจาอย่างตื่นเต้น
“ได้สิ” เนื่องจากจิงจิงเป็นคนพูดน้อยและเข้าสังคมไม่เก่งดังนั้นเธอจึงพูดน้อยมากจนน่าสงสาร
อย่างไรก็ตาม การถูกจ้องมองจากผู้คนทําให้เธอเขินอายและสายตาจากเด็กผู้ชายที่มองเธอยังทําให้เธอหน้าแดงอย่างช่วยไม่ได้