หงส์สยายปีก ตอนที่ 30 การป้องตัวโดยชอบธรรม
ตอนที่ 30 การป้องตัวโดยชอบธรรม
สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นนี้ทําให้ครูจินไม่สบายใจและแสดงสีหน้าออกมาอย่างเห็นได้ชัด เธอรู้ดีว่าจิงจิงจะต้องมีเหตุผลแน่นอนที่ทําเช่นนั้น หรือไม่ก็เธออาจเครียดสะสมจากเหตุการณ์เมื่อวานเลยทําให้เธอสติแตก!
| “จิ้งหยุนเฉาเกิดอะไรขั้น?” ครูจินถามเธอด้วยน้ำเสียงที่เข้มงวด
จิงจิงรู้ดีว่าครูจินเป็นคนที่มีเหตุผลและเป็นคนที่ยุติธรรม…การที่ครูจินไม่ได้ว่าเธอตั้งแต่แรกที่รู้เรื่อง นั่นเป็นสัญญาณว่าครูจินไว้วางในตัวเธอมาก
“ครูจินคะ หนูรู้ว่าหนูทําผิดที่ใช้ความรุนแรงซึ่งหนูก็ต้องขอโทษที่กระทําเช่นนั้น” จึงหยุนเฉาขมวดคิ้ว เธอหันหน้าไปยังลู่เจียและพูดว่า “ฉันขอโทษนะ”
และก่อนที่ใครจะทันได้พูดอะไร จิงจิงก็กล่าวต่ออีกว่า “ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่ได้เสียใจกับการกระทํานี้นะ เพราะมันคือการป้องกันตัวก็เท่านั้น”
ครูจินตกตะลึงทันที!
”เธอหมายความว่าอย่างไร? หรือว่าลู่เจียเป็นคนทําร้ายเธอก่อน!” ครูอีกฝ่ายพูดขึ้นมาอย่างสงสัยทันที
ตอนนี้ลู่เจียผู้หน้าบวมได้แต่ร้องไห้และกระอักกระอ่วนเพราะการกระทําของตนเอง หล่อนไม่สามารถตอบโต้จิงจิงได้แม้แต่คําเดียว
“เมื่อตอนที่หนูมาถึงโรงเรียน ลู่เจียเอาแต่พูดถึงหนูเสียๆ หายๆ ซึ่งหนูเองก็ไม่ได้ใส่ใจและเมินเฉยต่อคําพูดของเธอเสมอมา จากนั้นเธอก็เริ่มคุกคามหนู ใช้คําพูดหยาบคายแล้วใช้นิ้วของเธอชี้มาที่หน้าของหนูพร้อมพูดว่า อีลูกนอกคอก! คุณครูคะการที่หนูไม่รู้จักพ่อแม่ที่ให้กําเนิดและถูกทอกทิ้งมันก็ไม่ใช่ความผิดของหนูไม่ใช่เหรอคะ? ถ้าหากพวกคุณครูต้องเจอกับการพูดจาและคุกคามเช่นนี้ คุณครูจะอดทนไหวเหรอคะ?” จิงจิงอธิบายอย่างช้าๆ
“แล้วเธอตีลู่เจียทําไม?” ครูจินถาม
ถ้าหากเหตุผลที่จิงจิงพูดมาเป็นเหตุผลเพื่อทุบตีลู่เจียล่ะก็ มันไม่สมเหตุสมผล
“ไม่ค่ะ” สีหน้าของจิงจิงแสดงออกถึงความจริงจัง “คําพูดดูหมิ่นของเธอทําให้หนูโกรธและตอบโต้ด้วยคําพูดเช่นกัน ทว่าคําพูดของหนูทําให้เธอโกรธค่ะ เธอจ้างมือเพื่อหวังจะทําร้ายหนูก่อน ครูเห็นเล็บยาวๆ ของเธอไหมคะ? เธอพยายามจะใช้มันจิกหน้าของหนู ซึ่งถ้าหนูปล่อยให้เรื่องนั้นเกิดขึ้นมันคงทําให้หนูบาดเจ็บอย่างแน่นอน! หนูไม่สามารถปล่อยให้เธอทําร้าย…หนูจึงใช้มือคว้ามือของเธอเอาไว้ และตอบโต้กันไปมา ซึ่งหนูไม่รู้มาก่อนว่าเธอจะอ่อนแอทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนเริ่มทําร้ายร่างกายหนูก่อนเสียด้วยซ้ำ!”
หลังจากที่จิงจิงพูดจบครูสองสามคนที่อยู่ในห้องนั้นก็ถึงกับพูดไม่ออก
พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเล็บของลู่เจีย ใช่…มันยาวจนน่ากลัว
“ลู่เจีย มันจริงอย่างที่จึงหยุนเฉาพูดเหรอ?” คุณครูประจําชั้นของเธอถาม
จากนั้นลู่เจียก็ส่ายหัวทั้งน้ำตาและพูดว่า “ไม่ค่ะ….หนูไม่ได้ทําแบบนั้น!”
เธอไม่ได้ทําร้ายจิงจิงแม้แต่ปลายเล็บเสียด้วยซ้ำ เธอหลงกลจิงจิงและก็เป็นฝ่ายถูกทําร้ายอย่างยับเยินเสียด้วยซ้ำ! ท้ายที่สุดแล้ว จิงจิงไม่มีแผลตามร่างกายแม้แต่แผลเดียว!
“เธอไม่ได้ตีฉันก็เพราะว่าฉันหลบทันหนะสิ! แต่ทุกคนก็น่าจะรู้นะคะว่าถ้าหนูหลบการโจมตีของเธอไม่ทัน หนูคงจะเป็นฝ่ายนได้รับบาดแผลสะเอง!” จิงจิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและนิ่งสงบ
ขณะที่เธอพูดครูทุกคนต่างคิดว่าจิงจิงยังเป็นจิงจิงคนเดิม จิงจิงผู้ไม่เคยสู้ใคร!
เมื่อชาติที่แล้วเธอมันจะเป็นเด็กสาวที่อยู่เงียบๆ และไม่ยุ่งกับใคร เธอปฏิบัติตามกฎและคําแนะนําของคุณครูเสมอ เธอไม่เคยเถียงหรือพูดอะไรแม้จะถูกใส่ร้ายว่าเป็นคนผิดก็ตาม ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเป็นเด็กที่เรียนเก่ง…คุณครูก็คงจําเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ!
แต่ในตอนนี้เธอมีบุคลิคที่เป็นตัวของตัวเองมากกว่าเก่า
ขณะนั้นเจียก็นึกขึ้นได้และหันไปหาคุณครูคนหนึ่ง ”ครูคะ…หนูสู้เธอไม่ได้อยู่แล้ว และเธอก็ไม่ควรตบหนูจนหน้าบวมเช่นนี้”
“หนูขอให้ลู่เจียขอโทษหนูที่พูดจาไม่ดีต่อหน้าคนอื่นๆ ทว่าเธอไม่ทํา! เธอยังคงดูถูกและพูดจาหยาบคายใส่หนูอย่างไม่หยุดหย่อน…เพราะฉะนั้นเหตุการณ์และคําพูดของเธอทําให้หนูขาดสติ! ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้มักจะทําให้การสูญเสียความสามารถในการคิดอย่างมีเหตุผลไป.ลู่เจียยั่วโมโหหนูด้วยคําพูดร้ายกาจเรื่องกลุ่มอันธพาลพวกนั้น หนูไม่รู้อะไรทําให้ลู่เจียกุเรื่องราวปลอมๆ มาเผยแพร่เช่นนี้ได้! ตํารวจก็พิสูจน์แล้วว่าหนูไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับอันธพาลพวกนั้นเลย แต่เธอก็ยังพูดอยู่ได้! หนูมักจะถูกพูดถึงในทางเสียหายและเป็นเหยื่อของการถูกนินทาเสมอ! หนูเบื่อ! เพียงเพราะว่าตอนนี้เธอยังเด็กอยู่หนูเลยไม่สามารถเอาผิดเธอได้ แต่ถ้าหากเธอเป็นผู้ใหญ่หนูคงฟ้องร้องเธอเพราะคําพูดโกหกเหล่านี้ไปนานแล้ว! เธอควรรับผิดชอบคําพูดและการกระทําของตัวเองไม่ใช่เหรอคะ?!”