หงส์สยายปีก ตอนที่ 23 อย่าสะเออะกลับมาบ้านอีก!
ตอนที่ 23 อย่าสะเออะกลับมาบ้านอีก!
เฉียวเหวยหมิงผู้ก่อปัญหาได้เกิดความกระวนกระวายใจครั้งใหญ่ ตอนนี้จึงหยุนเฉาได้พิสูจน์แล้วว่าเธอกับอันธพาลเหล่านั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันเล่า?
เมื่อเขาได้ยินเรื่องชายหนึ่งในกลุ่มอันธพาลได้หลบหนีไปเขาก็เริ่มเอะอะโวยวายอีกครั้ง
เมื่อจิ้งหยุนเฉาได้ยินประโยคแดกดันที่ออกมาจากปากเขาแล้ว แทนที่เธอจะโกรธเธอกลับยิ้มออกมา
ตอนที่ทุกคนมุ่งหน้าไปยังสถานีตํารวจ เธอคิดเอาไว้แล้วว่าเหวยหมิงต้องถามเธอเรื่องนี้ ดังนั้นเธอจึงได้ใช้โทรศัพท์ในห้องพักครูเพื่อติดต่อไปหาหมอทั้งก่อนแล้ว
นี่เป็นโชคดีของเธอแล้วที่หมอกังได้ให้เบอร์ติดต่อกับเธอไว้ถ้าไม่อย่างนั้นเธอคงไม่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง
” ผู้อํานวยการคะ คุณครูจินคะ รอสักครู่นะคะ คนที่หนูไปหาในวันนี้กําลังเดินทางมาแล้ว” จึงหยุนเฉาพูด
ก่อนที่จิ้งหยุนเฉาจะพูดจบประโยค จู่ๆ ก็มีชายชราคนหนึ่งเดินตรงมาหาเธอ
“นั่นก็คือหมอกัง!” ครูจินถอนหายใจอย่างโล่งอก
จิ้งหยุนเฉาเริ่มแนะนําเขาอย่างเป็นทางการว่า “นี่คือหมอกังหมออาวุโสที่ทํางานและประจําอยู่ที่โรงพยาบาลชื่อดังในมณฑลฮัวหมิง เขาคงจะไม่โกหกแน่นอนหลังจากที่ฉันเดินทางมาถึงมณฑลฮัวหมิงฉันไปพบกับหมอทั้งโดยบังเอิญเนื่องจากฉันสนใจที่จะเรียนรู้วิชาแพทย์แผนจีนมากฉันจึงตัดสินใจไปเดินตลาดสมุนไพรกับเขา แต่ดูเฉียวเหวยหมิงพูดสิหมอลังกลายเป็นอันธพาลไปสะแล้ว!”
เฉียวเหวยหมิงโกรธจนหน้าแดง
เขาไม่คิดว่าคนที่จะมาปรากฏตัวจะกลายเป็นหมอคัง!
“โอ้ คุณเฉียว…นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้พบกัน ผมขอพูดตรงๆ ตอนที่ผมเห็นใบสั่งยาของจิ้งหยุนเฉา ใบสั่งยาของเด็กคนนี้สามารถช่วยชีวิตภรรยาของคุณได้จริงๆทว่าคุนก็เลือกปฏิเสธที่จะใช้มัน ตอนนั้นผมรู้สึกว่าคุณเป็นคนไม่มีเหตุผลเอาซะเลยไม่เพียงเท่านั้นผมรู้สึกว่าคุณไม่มีน้ําใจและความเมตตาต่อภรรยาของตนเอง แต่คุณยังใจร้า นต่อเด็กน้อยคนนี้อีกด้วย!”หมอกังถอนหายใจ
ชีวิตของเยว่ฉันต้องสิ้นสุดลงก็เพราะความตั้งใจของเฉียวเหวยหมิง!
ตอนนี้หมอกังมาถึงที่สถานีตํารวจแล้ว ต่อให้เหวยหมิงมีปากอยู่พันอันเขาก็คงไม่สามารถพูดเรื่องไร้สาระต่อได้อีกแล้ว
ถึงจะมีคนยืนยันเช่นนี้แล้วเขาก็ยังคิดว่าจิ้งหยุนเฉาโกหกอยู่ดี ทว่าเขาไม่มีหลักฐานอะไรมาโต้แย้งได้เขาเก็บความโกรธทั้งหมดเอาไว้กับตัวเองและยอมแพ้ในที่สุด ก่อนที่เขาจะก้าวเท้าออกไปจากสถานีตํารวจ
ถึงอย่างนั้น ก่อนที่เขาจะทันได้ออกไป ผู้อํานวยการได้เดินออกไปก่อนเขาแล้ว
ในวันนั้นผู้อํานวยการได้ปรึกษากับทางการหรือมูลนิติคุ้มครองเด็กเป็นที่เรียบร้อยแล้วถึงสิทธิในการเลี้ยงดูจิ้งหยุนเฉา
เมืองหนิงเฉียงเป็นเมืองเล็กๆ ในมณฑลฮัวหมิง ดังนั้นเรื่องเช่นนี้จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะจัดการ แต่สิ่งที่สําคัญที่สุดคือโรงเรียนจะต้องเป็นคนอธิบายเหตุผลที่เฉียวเหวยหมิงไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้ปกครองของจิ้งหยุนเฉาเท่านั้น
จิ้งหยุนเฉามีอายุเพียงสิบห้าปี เนื่องจากเธอไม่มีญาติพี่น้องคนใด ดังนั้นเธอจําเป็นจะต้องได้รับการดูแลจากคณะกรรมการของมูลนิติคุ้มครองเด็กไปก่อน
ในขณะเดียวกันเหวยหมิงไม่มีสิทธิแม้แต่จะคิดถึงการใช้สิทธิเลี้ยงดูเธอในฐานะพ่อเลี้ยงอีกต่อไปนับจากนี้
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้วก่อนที่เหวยหมิงจะรู้สึกตัวเสียด้วยซ้ํา เอกสารเป็นทางการทุกอย่างถูกจัดเรียงเอาไว้หมดแล้ว ทุกขั้นตอนดําเนินการเอาไว้เรียบร้อนแล้ว เขาไม่สามารถทักท้วงอะไรได้แม้ว่าเขาอาจต้องการทักท้วงก็ตาม
” แกไม่รับฉันเป็นพ่ออย่างนั้นหรือ?! ดี! ได้! ถ้าอย่างนั้นแกก็ไม่ต้องสะเออะกลับมาบ้านอีก!” เฉียวเหวยหมิงตะโกนและพ่นคําพูดหยาบคายออกมา
จิ้งหยุนเฉารู้สึกโล่งใจในที่สุด
การเกิดใหม่ของเธอครั้งนี้มันทําให้เธอไม่ต้องถูกตระกูลเฉียวเลี้ยงดูอีกต่อไป จากนี้ไปเฉียวเหวยหมิงจะรังแกเธอแบบที่เขาเคยทําเมื่อชาติที่แล้วไม่ได้
เธอไม่ต้องการอาศัยอยู่ในตระกูลเฉียวอีกแล้ว…ดังนั้นเธอจึงเตรียมข้าวของเครื่องใช้รวมถึงเอกสารสําคัญใส่ไว้ในจี้หยก เรียบร้อยแล้ว เธอนําเสื้อผ้าและเงินมาด้วย สิ่งที่เหลืออยู่ที่ห้องของเธอ ณ. บ้านตระกูลเฉียวคือ เสื้อผ้าของหงเยู่ที่ไม่ใส่แล้ว แน่นอน.. เธอไม่เอาเสื้อผ้ามือสองของหงเย่มาด้วยหรอก
เธอจะใช้เวลากลางคืนในช่วงวันธรรมดาที่หอพักของโรงเรียน ซึ่งเธอวางแผนไปถึงช่วงวันหยุดแล้วว่าจะใช้เวลาทั้งหมดในจี้หยก เธอสามารถซ่อนจี้หยกนี้ไว้ที่ไหนสักแห่งในโลกปัจจุบันแล้วเข้าไปอยู่ยังพื้นที่หยกวิเศษ!