บทที่ 1030 สกุลหลี่ถูกลดขั้น
บทที่ 1030 สกุลหลี่ถูกลดขั้น
สกุลหลี่ถูกทรมานจนบรรยากาศพังครืนลงมาเพราะหยางเซียงจวิน เมฆดำทะมึนปกคลุมทั่วทั้งจวนหลี่ ราวกับจะบอกว่าสกุลหลี่ได้ถูกเคราะห์ร้ายครอบงำแล้ว
ในยามนี้หยางเซียงจวินยังไม่รู้ว่านางมีปัญหาที่ศีรษะและจะไม่มีผมอีกต่อไปในอนาคต นางจึงอารมณ์เสียเพียงเพราะถูกโกนผมเท่านั้น
หมอยาย่อมไม่ยอมทนต่อปัญหาของนาง
ตราบใดที่หยางเซียงจวินยังอารมณ์เสีย หมอยาย่อมไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เพียงสั่งให้บ่าวรับใช้ของจวนหลี่ทำเรื่องต่าง ๆ ให้เท่านั้น ส่วนพวกเขาจะอยู่ให้ห่างไกลที่สุด
หลังจากผ่านไปสองสามวัน หยางเซียงจวินก็กลับจวนได้ในที่สุด หมอยาก็กลับไปที่จวนลู่เช่นกัน
ในยามนี้ หยางเซียงจวินไม่เพียงแปลกไปเพราะผมของนางเท่านั้น แต่การบำรุงร่างกายที่นางได้รับในระยะนี้ ยังทำให้นางน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นถึงสิบจิน ตัวกลมประหนึ่งลูกบอล
ใต้เท้าหลี่เองก็ถูกลดขั้นแล้ว
ระหว่างประชุมเช้าวันหนึ่ง ใต้เท้าหลี่ถูกลดขั้นจากขั้นสองกลายไปเป็นขั้นสี่ ถูกลดขั้นหลายขั้นในคราวเดียว
ครั้นเขาออกมาจากในวัง แข้งขาของเขาอ่อนแรง ลำคอของเขาเย็นเฉียบ เขามักจะรู้สึกราวกับศีรษะของตนกำลังตกอยู่ในอันตราย
เมื่อกลับไปถึงจวนหลี่ ใต้เท้าหลี่ก็เรียกฮูหยินหลี่ไปทันที หลังจากต่อว่าฮูหยินหลี่อย่างรุนแรง ก็ให้ฮูหยินหลี่แต่งหลี่เยียนหรานออกไปโดยด่วน
“นางเป็นดาวไม้กวาด หากไม่มีนาง ข้าคงไม่ถูกลดขั้นลงหลายขั้นในคราวเดียวเช่นนี้ สกุลนี้มีนางไม่มีข้า มีข้าไม่มีนาง” ใต้เท้าหลี่เอ่ยด้วยความโกรธจัด “เจ้าไปจัดการเถอะ! หากให้เจ้าเลือกยังพอเลือกทางที่ให้พวกเจ้าสองแม่ลูกพอใจได้ หากให้ข้าเลือก เช่นนั้นก็อย่าได้โทษข้าที่ไม่รู้จักคนก็แล้วกัน”
“ข้าเข้าใจแล้ว” ฮูหยินหลี่เอ่ย “ท่านใจเย็น ๆ เถิด ไม่ว่าอย่างไรนางก็เป็นลูกสาวคนเดียวของเรา บัดนี้จะแต่งนางออกไป แน่นอนว่าต้องเลือกคนดี ๆ มิเช่นนั้น ภายหน้านอกจากนางจะช่วยสกุลเราไม่ได้ ยังจะเป็นอุปสรรคต่อสกุลเราด้วย ตอนนี้ท่านถูกลดขั้นแล้วก็เหมือนอยู่ในกองเพลิง อยากหาสกุลสูงส่งนั้นเป็นไปไม่ได้ ทำได้เพียงหาคนที่เหมาะสมกันแล้ว”
“เช่นนั้นเจ้าก็ไปหาเถอะ”
“เจ้าค่ะ”
ฮูหยินหลี่กลับไปยังเรือนหลัง
หลี่เยียนหรานอารมณ์ไม่ดีมาหลายวันแล้วจึงไม่ได้ออกไปที่ใด
ฮูหยินหลี่ถูกใต้เท้าหลี่อบรมเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วยาม ภายในใจรู้สึกโมโห ทว่าพอคิดว่าหลี่เยียนหรานจะต้องแต่งงาน อีกทั้งยังไม่ได้เหมือนแต่ก่อนที่เลือกได้ดั่งใจต้องการ แต่เกรงว่าจะต้องถูกผู้อื่นเลือกแทน ภายในใจจึงรู้สึกสงสารลูกสาวแท้ ๆ ของตนอยู่บ้าง
“ท่านแม่ ท่านมาได้อย่างไร?” หลี่เยียนหรานหลายวันมานี้ไม่ได้กินข้าว แก้มนางจึงเล็กลง น้ำหนักก็ลดลงไปมาก
หยางเซียงจวินได้รับอาหารบำรุงมากมาย ทว่าหลี่เยียนหรานกลับทานอะไรไม่ลงเลย
“แม่อยากคุยกับเจ้า” ฮูหยินหลี่นั่งลงตรงข้ามนาง
“ท่านจะด่าข้าหรือ?” หลี่เยียนหรานกล่าว “ข้าไม่ชอบลู่จื่อชิงเพราะในสายตาของข้า นางด้อยกว่าข้าทุกอย่าง ทว่ากลับมีชีวิตที่ดีกว่าข้า ทุกคนจะทำอะไรล้วนต้องดูสีหน้านาง ตอนที่เรียนอยู่ในสำนักศึกษาหลวง นางทำทุกอย่างตามใจต้องการ ถึงแม้อาจารย์ที่นั่นจะตำหนินางอย่างเปิดเผย แต่กลับไม่เคยตีมือนาง ทุกครั้งล้วนเป็นฟ้าร้องดัง ทว่าฝนตกนิดเดียว*[1] ข้าจึงยิ่งไม่พอใจ”
ฮูหยินหลี่ไม่ขัดจังหวะ ได้แต่ฟังหลี่เยียนหรานบ่นไปเรื่อย ๆ
ถึงแม้จะไม่ได้ขัดจังหวะ ทว่าก็ไม่ได้เก็บไปคิดจริงจัง
คนเรานับตั้งแต่เกิดมาก็มีสถานะชนชั้นต่างกัน โลกนี้ไม่เคยมีความยุติธรรมเป็นทุนเดิม
ทารกหนึ่งชีวิตเช่นเดียวกัน บางคนสูงศักดิ์กว่า บางคนถ่อมตนกว่า
หากต้องการเปลี่ยนการถูกปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็สร้างความสำเร็จขึ้นมา เปลี่ยนชะตากรรมของตนเองเสียสิ
“เจ้ากำลังอิจฉานาง”
“ท่านแม่…”
“เจ้ามีฐานะเป็นคุณหนูใหญ่จวนหลี่ รู้หรือไม่ว่าข้างนอกมีคนมากน้อยเพียงใดอิจฉาเจ้า ถึงกระนั้นเจ้ากลับเอาแต่มองลู่รอง ไม่เห็นสิ่งอื่นใดอยู่ในสายตา รู้เพียงว่านางมีของบางอย่างที่แม้เจ้าจินตนาการก็ไม่อาจนึกฝันได้”
“ข้ารู้ว่าข้าทำผิดไป”
“สายไปแล้ว”
“ท่านแม่” หลี่เยียนหรานมองฮูหยินหลี่ “เหตุใดจึงเอ่ยเช่นนั้น?”
“พ่อเจ้าถูกลดขั้นหลายขั้นรวดเดียว เขาเอาความโกรธมาลงที่เจ้า ต้องการแต่งเจ้าออกไป” ฮูหยินหลี่กล่าว “อีกสองสามวันข้าจะหารือเรื่องการแต่งงานของเจ้า แต่เจ้าต้องรู้ว่า พ่อเจ้าไม่ได้เป็นขุนนางขั้นสองอย่างก่อนหน้านี้แล้ว เพราะเขาล่วงเกินท่านอ๋องลู่ในราชสำนัก ฝ่าบาทจึงไม่พอใจ หากเจ้าคิดอยากจะแต่งกับผู้สูงศักดิ์กว่านั้นเป็นไปไม่ได้ ทำได้เพียงหาคนที่เท่าเทียมกันเท่านั้น เกรงว่า…”
ที่เท่าเทียมกันก็หาได้ยากแล้ว
สำหรับผู้ที่เท่าเทียมกัน พวกเขาก็อยากหาภรรยาจากสกุลสูงศักดิ์เช่นกัน
หลี่เยียนหรานครานี้จัดการงานได้ไม่ดี ผู้ใดจะอยากแต่งนายหญิงของบ้านที่สร้างปัญหาเก่งเช่นนี้ไปเล่า?
“ท่านแม่ ข้าไม่อยากแต่ง ข้ายังไม่อยากแต่งตอนนี้” หลี่เยียนหรานตระหนักได้ในที่สุด นางรู้สึกกลัวขึ้นมาแล้ว
หากนางต้องแต่งออกไปในตอนนี้ นางจะได้แต่งกับสกุลที่ดีได้อย่างไรกัน?
“เจ้าค่อย ๆ คิด สงบใจลงเสียหน่อย” ฮูหยินหลี่ลุกขึ้นยืน “เยียนหราน เจ้าเป็นลูกสาวสกุลหลี่ ไม่อาจเห็นแก่ตัว”
หลี่เยียนหรานฟุบลงกับพื้น
นางไม่ต้องคาดเดาก็รู้ว่าต่อไปตนเองจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเพียงใด
หลายปีที่ผ่านมา มีลูกหลานสกุลชนชั้นสูงจำนวนนับไม่ถ้วนที่ต้องการมาสู่ขอสกุลหลี่ แต่หลี่เยียนหรานกลับเป็นคนหยิ่งยโส ไม่เห็นลูกหลานสกุลขุนนางเหล่านั้นอยู่ในสายตา มักจู้จี้จุกจิกเรื่องการแต่งงานอยู่ร่ำไป
ก่อนหน้านี้สกุลหลี่ตามใจนาง ประการแรกเป็นเพราะรูปร่างหน้าตาของนางค่อนข้างดี ประการที่สองเป็นเพราะนางมีความสามารถอยู่บ้าง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นางยังสั่งสมชื่อเสียงที่ดีในสำนักศึกษาหลวง สกุลชนชั้นสูงหลายสกุลยินดีแต่งนางไปรับผิดชอบจัดการเรื่องภายในบ้าน
นางเย่อหยิ่งถึงเพียงนี้ แน่นอนว่าสกุลชนชั้นสูงที่ถูกปฏิเสธย่อมไม่พอใจนางในหลาย ๆ ทาง ก่อนหน้าไม่เป็นไรเพราะใต้เท้าหลี่พอมีอำนาจอยู่บ้าง สกุลชนชั้นสูงเหล่านั้นล้วนสืบทอดต่อกันมาจากบรรพบุรุษ แต่อันที่จริงแล้วกลับแข็งนอกอ่อนใน พวกเขายังไม่สู้สกุลสูงศักดิ์สกุลใหม่ ๆ
มาตอนนี้….
สกุลชนชั้นสูงที่สวยงามเพียงเปลือกนอกเหล่านั้นกลับดูถูกนางแล้ว
นางทำได้เพียงหาคู่ครองเป็นลูกหลานขุนนางขั้นสี่เท่านั้น
ยังมีความเป็นไปได้มากว่านางอาจไม่คู่ควรกับสกุลขุนนางขั้นสี่เสียด้วยซ้ำ อาจต้องแต่งลงต่ำกว่า
ภายในห้อง สาวใช้หลายคนมองหน้ากันไปมา
ก่อนที่หลี่เยียนหรานจะสังเกตเห็น พวกนางก็ออกจากห้องไปอย่างเงียบเชียบและปิดประตูก่อนแล้ว
“ครานี้คุณหนูไปกันใหญ่ ฉุดทั้งสกุลลงแล้ว”
“ก่อนหน้าข้าก็คิดแล้วว่านางไม่ควรล่วงเกินคุณหนูรองลู่ เพียงแต่คุณหนูกลับไม่ฟัง คุณหนูรองลู่เป็นคนใจกว้าง คุณหนูต่อต้านนางมาหลายปีเพียงนี้ นางก็ไม่เคยใช้อำนาจของครอบครัวตนเองเลยจริง ๆ”
“คราวนี้ปัญหาใหญ่ยิ่งนัก ถึงแม้คุณหนูรองลู่จะไม่สร้างปัญหาให้ สกุลลู่ก็ไม่มีทางปล่อยนางเอาไว้”
“สกุลลู่ย่อมไม่โจมตีแม่นางน้อยผู้หนึ่งจึงโจมตีทั้งสกุลหลี่แทนแล้ว สกุลหลี่ถูกคุณหนูหลี่ดึงเข้าไปเกี่ยวข้อง นางจึงกลายเป็นดาวหายนะของทั้งสกุลหลี่ จำต้องรู้ว่าสมาชิกสกุลหลี่มีหลายคนเพียงใด เกรงว่าคงล้วนเกลียดชังนางแทบตายแล้ว”
“พวกเราเป็นสาวใช้ของนาง ภายหน้าเกรงว่าชีวิตของเราจะไม่ง่ายดาย พี่หญิงอวิ๋นอิง พวกเรามาคิดหาวิธีไปปรนนิบัตินายคนอื่น ๆ กันเถิด! หากติดตามคุณหนูต่อไปเกรงว่าจะไม่มีผลดีให้ได้กิน”
[1] ฟ้าร้องดัง ทว่าฝนตกนิดเดียว อุปมาถึง พูดแต่ไม่ทำ