สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster 111 ลิตตี้สู้อันเดด

ตอนที่ 111 ลิตตี้สู้อันเดด

อันเดด บางคนพูดว่ามันเป็นมอนสเตอร์หมวดหนึ่ง คนอื่นไม่สนใจและพูดถึงพวกมันเป็น “ผี” หรือ “ภูติผี”

ไม่สำคัญว่าอะไร ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดเห็นด้วยว่าไม่ควรคิดว่ามันง่าย

พวกเขาเชื่อว่าดีแล้วที่เรียกมัน “คนที่ไม่มีเหตุผลและกฎ” เพราะพวกมันยังคงอยู่แม้ว่าหลังตายแล้ว มากกว่านั้นอันเดดพร้อมจะปฏิเสธสามัญสำนึกที่มนุษย์มี

“ฉันคิดถูก เพราะเรือนี้ไม่ปรกติ…” (ลิตตี้)

ลิตตี้เดินอย่างระวัง เธอค้นหาในความมืดที่ไม่มีแสง

เธอพยายามใช้อุปกรณ์เพื่อส่องทาง แต่เพราะอะไรไม่รู้มันไม่ได้ช่วยเลยแม้แต่นิดเดียว แสงเวทมนตร์นี้ที่เป็นความหวังเดียวก็กินพลังเวทมนตร์ด้วย และลิตตี้ที่มีพลังเวทมมนตร์น้อยเธอชอบเก็บไว้มากกว่า

“โรม่าซัง! คูฟาซัง! อควาเรียซัง! มิไรจัง!” (ลิตตี้)

ลิตตี้ตะโกนชื่อเพื่อนเธอแต่ไม่มีคำตอบ

เดินผ่านทางเดินไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีอะไรเปลี่ยน ไม่มีการสั่น ไม่มีเสียง ไม่มีแม้แต่เรือโยกปรกติ ติดอยู่ในโลกของความมืดมิดนี้ ลิตตี้–

“นี่… บริเวณที่ยังไม่ได้สำรวจเหรอ?” (ลิตตี้)

แน่นอนเธออยู่ในระบบสำรวจ เพราะมันเป็นการผจญภัยใหม่สำหรับเธอ

เธอแอบมองห้องในความมืด สำรวจทุกซอกทุกมุม และจากนั้นเธอก้าวเข้าสู่ทางเดิน

“หลงทางเหรอ?” (???)

ลิตตี้รีบตอบสนองเสียงข้างหลังเธอทันที ชายหนุ่มที่นำเอ็กซ์พีชก่อนหน้านี้ปรากฏมาข้างหลังเธอโดยไม่มีเสียงอะไรเลย

แม้ว่ามันมืด ลิตตี้เห็นหน้าซีดชายหนุ่มพอได้

“ถ้าอย่างนั้น ฉันพาไปรอบๆได้…?” (???)

“ค่ะ ได้โปรด” (ลิตตี้)

แม้ว่าเธอสงสัย ลิตตี้ตัดสินใจตาม เธออยากรู้ว่าเขาเป็นใคร อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้ลดการระวัง

อายุชายหนุ่ม ท่าเขา ทุกอย่างบนเขาเป็นสิ่งที่ไว้ให้ลิตตี้ดู อย่างเดียวเกิดขึ้นเหมือนกันกับฝีเท้าไร้เสียงตอนพวกเธอเคลื่อนที่

ชายหนุ่มเดินกับลิตตี้เพื่อนำเธอขณะพวกเธอผ่านความมืดมิดไป

“…ฉันฝันเป็นกะลาสีตลอดตั้งแต่ฉันยังอยู่บ้านนอก ฉันฝันถึงการไปทะเล…ฉันตั้งใจสำรวจทะเล พ่อแม่ฉันในบ้านนอกดีใจที่เห็นฉันเมื่อฉันอยู่เอง… ดังนั้น ฉันอยากคืนบุญคุณพวกเธอทั้งสองเข้าสักวัน” (???)

ไม่รู้ว่าเขาไปไหน ชายหนุ่มลงทางเดินไปเรื่อยๆ ไม่เปลี่ยนฝีเท้า

“ฉันมาเมืองท่าใหญ่และในที่สุดก็ได้เป็นกะลาสี แต่ความเป็นจริงมันโหดร้าย…ฉันถูกโกรธใส่ทุกวัน เมื่อวันผ่านไป ฉันเริ่มสนใจฝันน้อยลงเรื่อยๆ ฉันเจ็บปวดมากทั้งหมดที่ฉันคิดได้คือหนี” (???)

คำว่า “ฝัน” และ “พ่อแม่” ทำลิตตี้สนใจ แต่เธอดูเขาใกล้ๆต่อไป

ไม่นาน ชายหนุ่มเริ่มเปลี่ยน

“ฉันคิด… ถ้าฉันตาย ฉันจะอยู่ง่ายกว่า… แต่ฉันคิดผิด ตกไปในทะเลมันเจ็บ… เจ็บ…” (???)

ผิวชายหนุ่มเปลี่ยนสี ผิวเริ่มบวม และร่างกายไม่ปรกติอืด

การเดินเริ่มแปลกและน้ำเริ่มไหลในตัวเขา ชายหนุ่มตอนนี้อ้วน มองกลับไปหาลิตตี้

“ถ้ามันยากขนาดนี้ ฉันควร…” (???)

ไม่มีสัญญาณชายหนุ่มผอม ทั้งหมดที่เหลือเป็นมนุษย์อืดๆที่น้ำออกมาจากปาก

ลิตตี้รู้อยู่แล้วว่าชายหนุ่มเป็นอันเดด แต่เธอยังตกใจกับการเปลี่ยน

แม้ว่าลิตตี้มีความรู้เรื่องอันเดดนิดเดียว อะไรที่เธอรู้คือแค่การโจมตีร่างกายอย่างเดียวไม่ได้ผลกับเขา

“เด็กน้อย ฉันอิจฉาเธอ…” (???)

ชายหนุ่มเข้าหาลิตตี้เร็วไม่สมตัวใหญ่ๆ

หลังหลบเขา ลิตตี้ใช้ดาบโจมตีสวน แต่ไม่ได้ทำความเสียหายมาก

ไม่มีทางที่เขาจะเจ็บและแผลจากการโจมตีหายแล้ว เหมือนไม่เคยมีอยู่

ลิตตี้มีสมาธิกับการกำจัดการเคลื่อนไหวไม่มีประโยชน์ และทางเดียวที่ลิตตี้สร้างความเสียหายกับเขาได้คือใช้เสริมพลังเวทมนตร์นักบุญอาวุธที่เธอเรียนจากอิลิซิส

พลังเวทมนตร์มีจำกัดของลิตตี้ทำให้มันไม่ทรงพลังเท่าโรม่า ดังนั้นเธอต้องระวังว่าใช้มันยังไง

พูดอีกอย่าง เธอต้องโจมตีเมื่อถูกเวลา

แม้ว่าเธอใช้มันที่นี่เพื่อกำจัดชายหนุ่ม เธอจำเป็นต้องตัดสินทีเดียว ไม่รู้ว่าภัยอะไรที่ซุ่มซอนอยู่ที่เธออาจเจอ เธอเพียงแค่ใช้พลังเวทมนตร์เสียเปล่าไม่ได้

ดังนั่นการตอบสนองของลิตตี้คือ…

“ได้โปรดดอย่ามาแทรกความฝันฉัน ฉันจะทำตามฝันฉัน” (ลิตตี้)

ลิตตี้ไล่ผีชายหนุ่มไปด้วยน้ำเสียงเข้มแข็ง จากนั้นเธอเมินเขาและเริ่มเดินหนี

ลิตตี้พยายามหาว่าเขา ผีจะตอบสนองการทำอย่างนี้อย่างไร

ผีหนุ่มยื่นมือมาเพื่อโจมตีลิตตี้ที่หันหลัง อย่างไรก็ตามแม้ว่ามืด ลิตตี้หลบการโจมตีได้ไม่มีปัญหา

ความมืดที่ในนี้ไม่มีจบสิ้น แต่ลิตตี้ไม่หวั่นไหว

“กกกกี๊…ทำไม ทำไม ทำไม…!” (???)

ร่างกายชายหนุ่มยิ่งบวมมากขึ้น ตาและจูมกเน่าๆฝังอยู่ในเนื้อ เขาไม่ใช่อะไรนอกจากก้อนเนื้อแล้วตอนนี้ ก้อนเนือที่เต็มโถงทางเดินเข้าใกล้ลิตตี้อีกครั้ง

“ไม่ยุติธรรม! ไม่ยุติธรรม! ไม่ยุติธรรม!” (???)

อย่างที่คิด ลิตตี้ไม่มีทางเลือกนอกจากหนี ลิตตี้ใช้สมาธิ แม้ว่าที่วางเท้าไม่มั่นคงในความมืด

ทันทีที่เขากำลังจะถึงลิตตี้ เธอเคลื่อนไหวไปที่วางเท้าถัดไป เธอใช้สมาธิเพื่อรวมพลังงานทั้งหมดและปล่อยพลังกายถึงสุดยอด

ในทางเดินมืด เธอวิ่งหนีต่อไปเรื่อยๆ และผีชายหนุ่มมาหลังเธอ

–ยอมแพ้!

ไม่สำคัญว่าเสียงใคร ลิตตี้ไม่หยุด

–เธอออกไปไม่ได้อยู่ดี

เธอจะไม่หยุด

–เธอจะตายที่นี่

ไม่มีทางที่เธอจะตาย เธอคิด

“เมียน! เราจะกินเนื้อเมื่อเราออกจากที่นี่!” (ลิตตี้)

“…เมียน!”

ลิตตี้ลูบหัวที่ขาดพลังงานของเมียนที่เหม่อๆ ตอบเธอ

เธอเอาหอกมือเดียวออกมาจากปากเมียนและกลับหลังหัน การโจมตีไม่ลังเลถูกปล่อยใส่ผีชายหนุ่มที่เข้าหา

“แทงพลังนักบุญ!” (ลิตตี้)

แสงวาบส่องความมืด ทันใดนั้น หน้าชายหนุ่มถูกแทงทะลุ

ไม่นาน แสงหุ้มทั้งร่างกายชายหนุ่ม

“อ๊าาาาาาาาาาา! อ๊าาาาาาา! อ๊าาาาา ด๊าาาาาา! ม่ายยยยยยยย!” (???)

แสงกลืนผีชายหนุ่มมทั้งตัว เหมือนกำลังกลืนกิน

ในเวลาเดียวกันความสว่างในภายในที่มืดของเรือเพิ่มเล็กน้อย ลิตตี้เดินทางในรอบข้าง

“มันได้ผล…” (ลิตตี้)

แผนเธอทำได้ดีกว่าที่คิด

ลิตตี้คิดอยู่นาน จะใช้พลังเวทมนตร์ที่จำกัดเธออย่างไร และคำตอบคือใช้อาวุธระยะไกลเพื่อให้ถึงศัตรูและจากนั้นใช้เสริมพลังเวทมนตร์นักบุญอาวุธที่มอบธาตุศักสิทธิ์ก่อนหน้านี้เพื่อโจมตีศัตรูด้วยพลังเวทมนตร์น้อยที่สุดเพื่อเน้นจุดการโจมตี

มันเป็นวิธีที่หัวลิตตี้คิดได้ ระหว่างพยายามเก็บพลังเวทมนตร์ แต่คนอื่นดูเธออยู่ ท่าเองล้ำหน้าจนไม่มีคนปรกติเลียนแบบมัน เธอมีความสามารถ เพราะมันจำเป็นต้องควบคุมเวทมนตร์

“ถ้าฉันลดพลังงานได้อีกนิด…” (ลิตตี้)

“เมียน…”

“เมียนอ่อนไหวกับธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต เธอสับสนเมื่อเจออันเดดใช่มั้ย?” (ลิตตี้)

“เมียนเมียน…”

เมียนพยักหน้า ลิตตี้ยืนยันและลูบหัวเมียนอย่างอ่อนโยน

“เมียน มอนสเตอร์บนเรือต่างจากมอนสเตอร์ปรกตินิดหน่อย แต่มันก็แค่นั้นแหละ อย่ากังวล” (ลิตตี้)

“เมียน…เมียน!”

สำหรับลิตตี้ อันเดดเป็นแค่มอนสเตอร์อีกตัวที่เธอกำจัดด้วยการเตรียมการที่พอ เรื่องนี้ทุกคนไม่ชอบ แต่นั่นไม่สำคัญ

“มาเร็ว ไปต่อเถอะ! ตอนนี้เราอยู่ในบริเวณไม่ได้สำรวจ!” (ลิตตี้)

“เมียนเมียน!”

ลิตตี้กลับไปค้นหาของเธอ หอกเธอเหวี่ยงอย่างแรง เธอไม่คิดเกี่ยวกับว่าเธอจะออกได้มั้ย

–ต้องการ…

คนบงการตอนนี้มองเธอเงียบๆสักพัก

***

“ทำไม ฉัน ไม่ถูกเลือก หน่ะก๊าาาา…?” (อันเดด)

มันเป็นโรม่าที่จัดการผีบารอค สุดท้าย คอบารอคยาวพอล้อมโรม่าและคนอื่นๆ

ที่เป็นอันเดด กำลังบารอคไม่ต่างจากชายหนุ่มมาก และด้วยความช่วยเหลือคูฟา โรมาได้ผลลัพธ์แบบเดียวกันกับกับลิตตี้ง่ายกว่า

“…แม้ว่าแกไม่ถูกเลือก กะลาสีที่ท่าหวังพึ่งแก ฉันรู้สึกเสียใจเล็กน้อยเพราะแกไม่เห็นว่าอะไรอยู่ตรงหน้าจริงๆ” (โรม่า)

ในฐานะบางคนที่เข้าหาแบบเดียว โรม่าได้เห็นช่วงเวลาสุดท้ายของบารอค เธออดไม่ได้ที่จะเห็นมันเป็นอนาคตของเธอที่เธอจะเป็น

แต่ละครั้งที่โรม่ารู้ เธอขอบคุณลิตตี้

“ทุกคน… อาา นา ก่ะ…” (อันเดด)

ก่อนเขาจบประโยค บารอคหายไปหมด มันไม่ได้คิดมาก มันเพียงแค่ไม่แค่โรม่าเท่านั้น แต่คูฟาก็ด้วย คิดเกี่ยวกับเขาแบบพวกเธอเอง

“ไปเถอะ…ลิตตี้ซังจะทำเหมือนกัน” (โรม่า)

โรม่าเห็นด้วยและนำ

เรื่อส่องแสงด้วยแสงกระพริบ แต่มันไม่เหมือนก่อนหน้า อันเดดไม่โจมตี

“…มันเงียบมาก” (โรม่า)

“ไม่เหมือนมอนสเตอร์ มันเข้าใจนิสัยอันเดดยาก… นั่นทำไมมันทำให้ฉันกลัว” (คูฟา)

“คูฟาจัง เธอเรียนมาเยอะ แต่รู้ว่าจะจบความแค้นยังไงมั้ย?” (โรม่า)

“ฉันคิดว่าความแค้นมันใหญ่ น่าจะมีต้นกำเนิด” (คูฟา)

“ต้นกำเนิดเหรอ?” (โรม่า)

“อันเดดที่แข็งแกร่งปรกติแล้วดึงดูดอันเดดตัวอื่น” (คูฟา)

“อ๋อ นั่นมีเหตุผล” (โรม่า)

แค่เมื่อพวกเธอเจอแสงแห่งความหวัง แสงหลังโรม่าและคนอื่นๆหายไปจากห้องข้างหลัง ความมืดกลืนบริเวณที่แสงหายไป

“วิ่งเถอะ!” (โรม่า)

พวกเธอเริ่มวิ่งเร็วที่สุดที่พวกเธอทำได้ แต่ความเร็วความมืดที่เข้าหามันเยอะกว่า ไม่กี่วินาที ความมืดปกคลุมโรม่าและคนอื่นๆ

การมองเห็นมืดลง เธอแม้แต่เข้าใจตำแหน่งแขนขาเธอยังไม่ได้

ตรงนี้ เป็นครั้งแรก โรม่าเกือบมีแต่ความกลัว โลกของความมืดที่เธอเห็นคืบข้างหน้าไม่ได้ กระตุ้นสัญชาตญาณเธอ

แค่ก่อนการร้องออกมาจากคอเธอ บางอย่างติดไฟในความมืด

“…อะไร?” (โรม่า)

พวกเธอถูกแสงล้อม กลางกลุ่มโรม่า มันเหมือนมีคนจุดกองไฟในความมืด สร้างแสงกลมระหว่างความมืดที่ล้อมพวกเธอมืดเท่าเดิม

พวกเธอมองต้นกำเนิดและเห็นว่ามิไรประสานมือภาวนา

“…หนูกลัว…” (มิไร)

ท่าเหมือนเธอภาวนา แต่เธอแค่ทำเพราะเธอกลัว แต่บางทีมันดูเหมือนโรม่าขอบคุณมิไรที่มันเกิดขึ้น

“มิไร…” (คูฟา)

“ไม่… ไม่…” (มิไร)

คูฟาไม่พูดอะไร แต่โอบแขนรอบมิไร จากนั้น เมื่อคูฟาเริ่มเดิน มิไรก้าวเดินไปข้างหน้าด้วย

เดินช้าๆ แสงก็เคลื่อนไหวรอบมิไร ไม่มีอะไรเกิดขึ้นในความลึกที่มืดมิดที่มาหาพวกเธอ

“มิไร… จริงๆแล้วเธอคืออะไร…” (คูฟา)

คูฟาพอรู้ว่ามิไรเป็นมากกว่าเด็กผู้หญิงปรกติ แต่เหตุการณ์นี้ยืนยันแล้ว เธอรู้สึกว่าภาระที่เธอแบกมันหนักขึ้น

เธอรู้สึกถึงพลังเวทมนตร์อ่อนๆ แต่ไม่ใช่พลังเวทมนตร์แบบเดียวกันที่เธอรู้จักจากนักเวทย์ คูฟาไม่เคยรู้สึกถึงพลังเวทมนตร์แบบนี้มาก่อน เธอเลยตัดสินที่จะพนันว่ามิไรมีศักยภาพที่จะโต

“มิไร… ฉันไม่รู้ว่าพลังนี้คืออะไร แต่แค่ตอนนี้ ได้โปรดให้ยืมพลัง” (คูฟา)

“ท่านหญิง…” (มิไร)

“เมื่อวันที่เธอจะไม่เรียกฉันท่านหญิงมาถึง.. แม้แต่ตอนนั้น ฉันจะไม่มีวันปล่อยมือเธอไป” (คูฟา)

คูฟาวางมือบนมือที่ภาวนาทั้งสองของมิไร ไม่นานพวกเธอเคลื่อนไหวอย่างคล่องตัวผ่านภายในเรือที่มืดมิด แต่อันเดดไม่ได้โจมตีพวกเธอ

พวกเธอขึ้นบันไดและค้นหาต่อไป พยายามสืบว่าต้นกำเนิดที่คูฟาพูดถึงอยู่ที่ไหน แต่แม้ว่ามีแสง การค้นหามันยากเพราะถูกความมืดล้อม

“คูฟาจัง หาตำแหน่งต้นกำเนิดโดยรับรู้พลังเวทมนตร์ได้มั้ย?” (โรม่า)

“อืมมม พลังวิญญาณมันมีพลังเวทมนตร์ต่างกัน… มีแค่นักไล่ผีที่ค้นหามันได้…” (คูฟา)

“ใคร เธอเป็นไร?!” (???)

ขณะเธอเข้าหาห้องหนึ่งมีชายอยู่ข้างหน้าที่ตะโกนตกใจ เขาแต่งตัวเกราะและเสื้อธรรมดา และแม้ว่าขอบมันขรุขระแล้ว โรม่าคิดว่าเขาเป็นพวกเดียวกัน

ผู้ชายพูด “ขอบคุณเทพเจ้า! คนมีชีวิตใช่มั้ย? ฉันเพิ่งขึ้นเรือ… อย่างไรก็ตามหลังเข้าห้อง ฉันเห็นว่าไม่มีใครใกล้เลย และอยู่ดีๆ มันกลายเป็นมืด เกิดอะไรกับเรือนี้?”

โรม่าตอบ “พื้นควรลั่นเยอะ ฉันไม่รู้ว่านายเดินโดยไม่มีเสียงได้ยังไง”

“อะไร?” (???)

“ทำไมไม่มากับเรา? มาสำรวจเรือกับเรา” (โรม่า)

โรม่ากวักมือเรียก แต่ชายไม่เข้าหา เพื่อพูดให้ถูก เขายังอยู่ในความมืดนอกแสงมิไร

มันพอแล้วที่โรม่าเข้าใจสถานการณ์

“มีอะไร? มาเร็ว” (โรม่า)

“ฉันกลัว… เธอหยุดแสงได้มั้ย?…” (???)

“ฉันกำลังจะเปิดประตูเมื่อฉันเห็นนาย ขอบคุณที่พูดถึง” (โรม่า)

“อ๊าาาาาาาาาาา! ฉันเกลียดมัน!!! ฉันไม่เอา ฉันไม่เอา ฉันไม่เอา ฉันไม่เอา ฉันไม่เอา กัปตัน! กัปตัน! ฉันไม่เอา ฉันไม่เอา ฉันไม่เอา…” (อันเดด)

ตอนชายร้องไห้ ทุกข้อต่อในตัวเขาบิดหมุน คางหลุดออกมาและลิ้นติดพื้น แยกเป็นสองในเลือดที่ฉีด

ชายที่เปลี่ยนไป ผู้ดูเหมือนตุ๊กตาที่โดนบางคนทำเสีย หยุดรองไห้ไม่ได้

“กัปตัน… ตลอดเวลา… ทำไม…นี่…” (อันเดด)

“กัปตัน…?” (โรม่า)

โรม่าคิ้วขมวดกับประโยค

เรือใหญ่ กัปตัน และชายที่ดูเหมือนนักผจญภัยแม้ว่ามีแค่ข้อมูลสามชิ้น โรม่าเข้าใจบางอย่างในใจ ทำให้เธอสั่น

“กัปตัน…ไม่มีทางน่า…” (โรม่า)

นักผจญภัยที่คนอย่างน้อยเคยได้ยินชื่อนั้นหนึ่งครั้ง

ถ้าคนที่ชายอันเดดพูดถึงและกัปตันเขาเป็นชายคนนั้น “กัปตันบังตอ” ชายที่กลายเป็นตำนานแห่งท้องทะเล โรม่ารู้สึกว่าหมดความหวัง เพราะเขาเป็นแค่ไม่กี่คนที่ถูกรับรู้ในหลายประเทศว่าเป็นระดับพิเศษ

เพราะการเปิดเผยนี้ โรม่าเกือบปล่อยอาวุธ

แปลโดย: wayuwayu

tipme : tipme.in.th/wayuwayutl

patreon (Ebook): patreon.com/wayuwayu

ได้โปรดโดเนทเพื่อสนับสนุนผู้แปล ด้วยการช่วยเหลือของท่านจะทำให้แปลต่อไปได้เรื่อยๆ ขอบคุณครับ

ติดตามข้อมูลข่าวสาร, ติดต่อ: ​http://linktr.ee/wayuwayu

สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster

สาวคนหนึ่งที่ถูกบอกว่า “เธอไม่มีพรสวรรค์” กลับลายเป็นสัตว์ประหลาดที่เต็มไปด้วยพรสววรค์ — A Girl Who Was Told “You Have No Talent” Turned Out To Be A Talented Monster

Score 10
Status: Completed
สาวคนหนึ่งได้ทะเยอทะยานที่จะเป็นนักผจญภัย ได้ถูกชวนไปเข้าปาร์ตี้ของฮีโร่โดยบังเอิญ และเป็นเด็กฝึกหัด อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้ถูกปฏิบัติอย่างเด็กฝึกหัดจริงๆ และเป็นที่ระบายทั้งกายและใจทุกวัน ในท้ายที่สุดเธอได้ถูกบอกว่าเธอไม่มีพรสวรรค์และกำลังจะถูกไล่ออกจากปาร์ตี้ อย่างไรก็ตาม ฮีโร่สัญญากับเธอว่าถ้าเธออยู่ในป่าปีศาจได้หนึ่งอาทิตย์ การถูกไล่ออกของเธอจะถูกถอน โดยไม่รู้ความจริงว่าเธอได้ถูกหลอก สาวถูกทิ้งไว้ในป่าโดยไม่มีแม้แต่อาวุธไว้ป้องกันตัวเธอเอง แต่ปาร์ตี้ของฮีโร่ไม่มีความคิดใดๆเลยว่าสาวได้เฝ้าดูทุกการต่อสู้ที่พวกเขาเผชิญ ไม่มีใครรู้ถึงพรสวรรค์ของสาว พรสวรรค์ ที่แม้แต่คำว่า "อัจฉริยะ" จะอธิบายมันได้ถ่อมตัวเกินไป ที่จะอนุญาตให้เธอไปถึงขอบเขตของความยอดเยี่ยม สาวสามารถจะหนีออกจากป่าได้ในไม่ช้า สมัครตัวเธอเองเป็นนักผจญภัย และในไม่นาน เธอแซงนักสู้ที่ร้ายกาจทั้งหลายทีละคนทีละคน นี่เป็นเรื่องราวของการโตที่รวดเร็วขงสาวที่มีพลังกายภาพที่แ

Options

not work with dark mode
Reset