บทที่ 875 อาชิ่งผู้ยิ่งใหญ่!
ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหัน แม้แต่กงซุนอวี่เองก็ตั้งรับไม่ทัน
เพราะเขาเองก็คาดไม่ถึงว่าซ่างกวานชิ่งจะมาไม้นี้ ก็เห็นอยู่ทนโท่ว่าสองแม่ลูกคู่นี้ไม่ได้วรยุทธ์กันเลย ซ่างกวานเยี่ยนเมื่อก่อนอาจมีบ้าง แต่หลังจากถูกถอดตำแหน่งออกก็ไม่มีอีกเลย ให้เซี่ยสิงโจวช่วยดูพวกเขาก็ไม่น่าลำบากอะไร
กงซุนอวี่ก็เลยวางใจ
หารู้ไม่ว่าจะต้องมาเห็นภาพลูกน้องของเขาถูกยิงจนตัวลอยแบบนี้
แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกกดดันจากพลังอันน่าสะพรึงกลัวนั้น
ถ้ำแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนผ่านระหว่างทางเดินหลัก และมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ร่างของเซี่ยสิงโจวชนเข้าหลังคาถ้ำด้านบนอย่างแรงจนพื้นผิวเกิดสะเทือน
เกิดฝุ่นคลุ้งจำนวนมหาศาลในถ้ำ
กงซุนอวี่รีบเอามือป้องเพื่อไม่ให้ฝุ่นเข้าตา
ส่วนคนอื่นๆ ก็ไม่ต่างกัน เอามือป้องหน้าป้องหัวกันยกใหญ่
มีเพียงผู้อาวุโสลู่ที่ดูจะคุ้นเคยกับเสียงนี้แล้ว
ตอนที่เขากับผู้อาวุโสจางเข้าไปในภูเขาผีเพื่อช่วยเหลือหมิ่นหงอี ซ่างกวานชิ่งซึ่งอ้างว่าตัวเองเป็นราชาผีก็สังหารผู้อาวุโสจางในลักษณะเดียวกัน
อาวุธประเภทนี้มีพลังมากเกินไป ก็เลยไม่ได้คิดจะโต้กลับ และรีบหลบหนีไปพร้อมกับหมิ่นหงอีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
น่าเสียดายที่หมิ่นหงอีถูกเด็กอีกคนทำร้ายจนเสียชีวิต ผู้อาวุโสลู่จึงทำได้แค่พาศพของหมิ่นหงอีกลับไป
แค่รอบก่อนเขาก็รู้สึกผวากับอาวุธประหลาดนี้มากพอแล้ว พอวันนี้ได้เห็นในระยะใกล้อีกครั้งก็ยิ่งรู้สึกสยองกว่าเดิม
เพราะเขารู้ว่าอาวุธนั้นทรงพลังมาก ต่อให้มีปรมาจารย์ฝีมือดีแค่ไหนก็ไม่อาจรับมือได้
ร่างของเซี่ยสิงโจวร่วงลงกับพื้น ร่างกายของเขาช้ำเลือดช้ำหนองไปหมด แม้จะไม่ได้ตายในทันที แต่ทุกคนก็เห็นว่าไม่สามารถช่วยชีวิตเขาไว้ได้แล้ว
จากนั้นประตูหินก็ถูกปิดลง กงซุนอวี่พยายามหาร่องรอยที่กำแพงตรงที่ซ่างกวานชิ่งเคยสัมผัส ทว่าไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
แม้กงซุนอวี่จะเตะเข้าไปที่ประตูจนมันเปิดออก แต่ซ่างกวานชิ่งกับซ่างกวานเยี่ยนก็ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว
เขากระโดดลงไปและพยายามหาพวกเขา แต่รอบๆ ล้วนเป็นกำแพง ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทางเดินถูกปิดไปแล้ว
กงซุนอวี่ขมวดคิ้วพร้อมกับพึมพำ “ใครกันนะที่สร้างกลไกเหล่านี้ขึ้นมา”
ช่างน่าพิศวงอะไรปานนี้!
แม้แต่ระดับเย่ว์หลิ่วอียังเทียบไม่ได้ด้วยซ้ำ
“ท่านแม่ทัพ จะทำอย่างไรต่อดี” ผู้อาวุโสลู่ถาม
“เราก็ต้องตามหาพวกมันให้เจอ ต่อให้ต้องขุดลงไปอีกสามฉื่อก็ตาม!” กงซุนอวี่เอ่ยเสียงแข็ง
“เกรงว่าจะไม่ง่ายขนาดนั้น” ผู้อาวุโสลู่เอ่ย
กงซุนอวี่เอ่ยอย่างเลือดเย็น “ถ้าอย่างนั้นก็ใช้วิธีวางเพลิงไปเลย! ดูซิว่าพวกมันจะหนีรอดได้ไกลแค่ไหนกันเชียว!”
…
ในอุโมงค์อีกตอนหนึ่ง หลังจากที่ซ่างกวานชิ่งและซ่างกวานเยี่ยนมั่นใจแล้วว่าพวกเขาปลอดภัยแล้ว จึงหยุดพักเพื่อหายใจหายคอ
ซ่างกวานเยี่ยนเอนตัวพิงกำแพงด้านหลัง วางมือบนสะโพก ปาดเหงื่อจากหน้าผากพร้อมกับหายใจหอบ “ลูกเอ๋ย ทำไมเจ้าถึงมาที่ชายแดน ถ้าเจียวเจียวไม่รายงานข่าว แม่ก็คงไม่รู้ว่าลูกติดอยู่ที่นี่”
“เจียวเจียวคือใครรึ” ซ่างกวานชิ่งทำหน้างุนงง
แต่ดูเหมือนซ่างกวานเยี่ยนจะงุนงงกว่าลูกชายเสียอีก “อ่าว ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าเคยเจอกันรึ คนที่มากับถังเย่ว์ซานอย่างไรเล่า แถมนางยังพาเด็กทารกออกมาด้วย อ้อ จริงสิ เด็กคนนั้นถูกพาเข้าไปในเมือง มีตระกูลร่ำรวยอาสาช่วยเหลือเขาไว้ชั่วคราว มีแม่นมคอยดูแลด้วยล่ะ”
พอได้ยินเช่นนี้ ซ่างกวานชิ่งก็เริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้าง
“เขา…”
ชื่อเจียวเจียวรึ
ซ่างกวานเยี่ยนเอ่ยต่อ “ไว้แม่จะอธิบายเรื่องของเจียวเจียวให้ฟังอย่างละเอียดภายหลัง เจ้าบอกแม่ก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น”
“คือว่า…” ซ่างกวานชิ่งส่งสายตาประกายวาว จากนั้นก็ก้มหัวลงมาซบที่ไหล่ของผู้เป็นแม่ “ข้าก็คิดถึงเสด็จแม่น่ะสิ ก็เลยออกตามหาท่าน ไม่เห็นจะชมข้าบ้างเลย เอาแต่ติอยู่ได้… นี่ข้ายังเป็นเด็กน้อยของท่านแม่อยู่หรือไม่”
“นี่ น้อยๆ หน่อย” ซ่างกวานเยี่ยนเอ็ดลูกชาย
เอ่ยจาเป็นบทละครไปได้!
เด็กนงเด็กน้อยอะไรกัน!
เจ้าอายุยี่สิบแล้วนะ!
เป็นผู้ใหญ่แล้ว!
เมื่อเห็นว่าไม่สำเร็จ ซ่างกวานชิ่งรีบยืดตัวตรงแล้วเอามือเกาจมูก “ก็แค่ ออกมาเที่ยวเล่นน่ะ”
ซ่างกวานเยี่ยนดึงหน้าใสลูกชาย “มาเที่ยวเล่นถึงชายแดนเลยรึ”
“ก็ข้าไม่เคยมาที่นี่นี่นา”
ซ่างกวานเยี่ยน “…”
“เอาละ ไว้ข้าจะถามเจ้าเรื่องนี้ทีหลัง ไหนว่ามาซิว่าเจ้าไปทำอิท่าไหนถึงถูกกงซุนอวี่จับตัวได้ล่ะ”
พอเอ่ยถึงเรื่องนี้ ซ่างกวานชิ่งก็เบะปากด้วยความไม่พอใจ “เพราะเจ้าเซี่ยสิงโจวนั่นคนเดียวแท้ๆ …”
หลังจากที่เซี่ยสิงโจวได้ยินเสียงที่ดังมาจากใต้ดิน เขาก็สั่งให้กองทัพช่วยกันขุดอุโมงค์ด้วยกำลังทั้งหมดที่มี ในตอนแรก พวกเขาขุดเฉพาะอุโมงค์ในหมู่บ้าน ต่อมาก็ลามไปขุดในป่าและตรงหลังเขาด้วย
ขุดไปขุดมาจนพวกมันเจอกับอุโมงค์ลับหลายทาง
ตอนแรกซ่างกวานชิ่งก็ใช้วิธีให้คนของเขาไปอุดทางที่พวกทหารแคว้นจิ้นขุด แต่ด้วยความที่อีกฝ่ายมีกองกำลังตั้งสองหมื่นนาย หากเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ พวกเขาจะต้องออกไปจากอุโมงค์ไม่ได้อีกตลอดไปอย่างแน่นอน
ซ่างกวานชิ่งก็เลยใช้ตัวตนพระราชนัดดาของตัวเอง แล้วยอมมอบตัวกับอีกฝ่าย
เซี่ยสิงโจวมองว่าแค่พระราชนัดดาของแคว้นเยี่ยนคนเดียวก็มีค่ามากกว่าราษฎรธรรมดาพันกว่าคนแล้ว จึงล้มเลิกการขุดไปโดยปริยาย
ตอนแรกพวกมันคิดจะทำลายอุโมงค์ทิ้ง แต่ซ่างกวานชิ่งหลอกพวกมันโดยบอกว่ามีสมบัติอยู่ในอุโมงค์ แล้วจะมอบสมบัติทั้งหมดให้
“แล้วเซี่ยสิงโจวก็เชื่อรึ” ซ่างกวานเยี่ยนกระตุกมุมปากเบาๆ
เซี่ยสิงโจวเป็นคนหรือลากันแน่ เรื่องแบบนี้ก็เชื่อด้วย
ซ่างกวานชิ่งชี้นิ้วมาที่ตัวเองพร้อมกับเอ่ย “ท่านแม่ต้องบอกสิว่าลูกน่ะ…เก่งแค่ไหน!”
ซ่างกวานเยี่ยนมองหางตาใส่ลูกชาย
เอาความมั่นใจนี้มาจากไหนกันนะ
ซ่างกวานชิ่งเลิกคิ้วแล้วเล่าต่อ “ตอนแรกข้ากะจะล่อพวกมันไปติดกับดักสักที่แล้วฆ่าพวกมันทิ้งซะ ปรากฏว่าพวกมันดันพากงซุนอวี่เข้ามา ข้าเห็นว่าเขาเป็นคนฉลาดมีไหวพริบ ก็เลยไม่อยากรีบกำจัดเขา”
ซ่างกวานเยี่ยน “…”
ไม่อยากกำจัดหรือกำจัดไม่ไหวกันแน่
กงซุนอวี่มีทักษะศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งและมีสมองที่ฉลาดเฉลียวกว่าเซี่ยสิงโจวหลายขุม
และในตอนที่ซ่างกวานชิ่งกำลังหาโอกาสเล่นงานอีกฝ่าย ซึ่งก็คือเมื่อครู่นี้ เขาก็ดันเจอกับท่านแม่เสียก่อน
ซ่างกวานเยี่ยนถอนหายใจเฮือกใหญ่
ในหัวของนางเต็มไปด้วยความสับสน
ลูกชายคนนี้ แม้ภายนอกดูไม่เอาไหน แต่เขาก็มีจิตใจที่บริสุทธิ์
ถึงไม่เก่งบุ๋นบู๊สักด้าน แต่เขาก็สามารถทำสิ่งที่หลายคนไม่สามารถทำได้
ถ้าไม่มีเงื่อนไขทางร่างกาย ป่านนี้ชิ่งเอ๋อร์ก็คง…
“ท่านแม่! ข้าได้ยินอะไรบางอย่าง!”
เสียงของเขาทำให้ความคิดของนางชะงักลงทันที
ซ่างกวานเยี่ยนเงยหน้าขึ้น และฟังการเคลื่อนไหวด้านบนอย่างระมัดระวัง “เป็นเสียงฝีเท้า…”
“พวกเขาคิดจะทำอะไรข้างบนนั้นนะ” ซ่างกวานชิ่งถาม
“เร็วเข้า! เร็วอีกๆ ๆ ! ทางนี้! ทางนี้ด้วย!”
เป็นเสียงของทหารแคว้นจิ้น
ซ่างกวานเยี่ยนย่นคิ้วลง “มีเสียงสาดน้ำด้วย”
“สาดน้ำรึ…” ซ่างกวานชิ่งมองไปด้านบน พยายามคิดอย่างหนัก ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ “แย่ละ! พวกมันกำลังจะวางเพลิง!”
ซ่างกวานเยี่ยนกำหมัดแน่น “กะจะเผาพวกเราให้ราบเป็นหน้ากลองเลยหรืออย่างไร”
“พวกมันทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด…” ซ่างกวานชิ่งเอ่ยขณะใช้ความคิด
ถึงแม้จุดที่ชาวบ้านกับทหารคนอื่นๆ ซ่อนตัวอยู่จะอยู่ลึกก็จริง อีกทั้งตรงนั้นมีลำธารไหลผ่าน แต่ว่า พวกอุปกรณ์ต่างๆ ในทางอุโมงค์รวมถึงกับดักดินปืนต่างๆ อาจเกิดการระเบิดขึ้นได้
เมื่อมันระเบิด ผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นไม่อาจคาดเดาได้เลย
ชีวิตคนนับพันกำลังตกอยู่ในอันตราย!
“ข้าจะออกไปล่อพวกมัน!” ซ่างกวานชิ่งโพล่งขึ้นทันที
“ชิ่งเอ๋อร์ กลับมาเดี๋ยวนี้นะ!” “ให้แม่ไปยังจะดีกว่า แม่เป็นองค์หญิง ตำแหน่งสูงกว่าเจ้า คำเอ่ยของข้ามีน้ำหนักกว่า”
“ก็ได้ ก็ได้ ก็ได้ ข้าไม่แย่งท่านแม่ก็ได้”
แม้จะเอ่ยอย่างนั้น แต่ทันใดนั้น เขาก็กดกลไกบนผนังและผลักซ่างกวนหยานเข้าไปในทางเดินที่เปิดอยู่ข้างหลังเขาโดยฉับพลัน
“เดินตรงไปเรื่อย ๆ จะไปเชื่อมกับตรงหลังเขานะท่านแม่!” ช่างกวานชิ่งตะโกนทิ้งท้าย
ซ่างกวานเยี่ยนหน้าเปลี่ยนสี “ชิ่งเอ๋อร์!”
และแล้ว ประตูหินก็ถูกปิดลง
“ชิ่งเอ๋อร์! ชิ่งเอ๋อร์!” ซ่างกวานเยี่ยนพยายามคลำหากลไกที่จะทำให้ประตูเปิดอีกครั้ง
ซ่างกวานชิ่งที่อยู่อีกฝั่ง ลังกลับและเดินไปข้างหน้าด้วยย่างก้าวที่มั่นคง ดวงตาของเขาเฉียบคม
“แค่ต้องทำข้อตกลงกับพวกมันเพื่อล่อพวกมันออกไปด้วยความเฉลียวฉลาดของข้า ต้องยื้อเวลาไว้ให้นานที่สุดจนกว่ากองทัพจักรวรรดิจะมาถึงทัน…”
ยาพิษกำเริบอีกแล้ว…ไยต้องมาเป็นเอาตอนนี้ด้วย
เขาพยายามควานหายาถอนพิษในกระเป๋า แต่ก็ไม่พบ
ยาถอนพิษของเขาหายไปแล้ว!
อย่าเพิ่งเป็นอะไรเด็ดขาด อดทนเอาไว้ก่อนนะร่างกายของข้า…
นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เป็นแบบนี้มิใช่หรือ
ข้ายังเดินได้
ชายหนุ่มเอามือข้างหนึ่งกุมที่หน้าอก ส่วนอีกข้างก็ค่อยๆ ยันกำแพงแล้วพยายามลุกขึ้นมา
“ข้าต้องไปทำข้อตกลงกับกงซุนอวี่…”
“ข้าคือพระราชนัดดา…”
“หากได้ตัวข้าไป…ก็จะมีอำนาจต่อรองกับทหารแคว้นเยี่ยน…”
“แล้วข้าจะพาพวกเจ้าไปหาสมบัติที่ซ่อน…”
“โอ๊ย…”
อาการเจ็บที่ปะทุขึ้นทำให้ร่างกายของเขาเร่มต้านไม่ไหว
ทันใดนั้น เขาทรุดลงกับพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัวจนเกิดแผลที่หัวเข่า และมีเลือดไหลกบปาก
ฤทธิ์ของยาพิษค่อยๆ กัดกินอวัยวะภายในของเขา
ไม่เคยรู้สึกทรมานแบบนี้มาก่อน นี่เขากำลังจะตายแล้วใช่ไหม
ไม่ได้…
ยังตายไม่ได้นะ…
ไม่ใช่ตอนนี้
ซ่างกวานชิ่งอดทนต่อความเจ็บปวดแสนสาหัสและใช้กำลังทั้งหมดที่มีคลานไปข้างหน้าทีละนิด
ใกล้ถึงแล้ว
แต่ ไม่ไหวแล้ว
มือของเขาผลักกลไกของทางเดินให้เปิด แต่เขากลับไม่มีแรงที่จะปีนออกไป
เขาหมดสติและฟุบลงกับพื้นไปในที่สุด